ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟังก์ชันเป็นคาบ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 14: บรรทัด 14:
จากนิยามข้างต้น หากค่า ''P'' เท่ากับ 1 จะได้
จากนิยามข้างต้น หากค่า ''P'' เท่ากับ 1 จะได้
::<math>f(x) = f(x+1) = f(x+2) = ...</math>
::<math>f(x) = f(x+1) = f(x+2) = ...</math>
และเนื่องจากคาบของฟังก์ชันไม่จำเป็นต้องเป็นค่าที่น้อยที่สุด ดังนั้นตามตัวอย่างที่กล่าวมา ค่า ''P'' สามารถเท่ากับ 2 ก็ได้
และเนื่องจากคาบของฟังก์ชันไม่จำเป็นต้องเป็นค่าที่น้อยที่สุด ดังนั้นค่า ''P'' สามารถเท่ากับ 2 ก็ได้


อีกตัวอย่างหนึ่งสามารถสังเกตได้จากฟังก์ชัน ''f'' ที่ให้ผลลัพธ์เป็น "เศษหลังจุดทศนิยม" ของตัวแปรต้น
อีกตัวอย่างหนึ่งสามารถสังเกตได้จากฟังก์ชัน ''f'' ที่ให้ผลลัพธ์เป็น "เศษหลังจุดทศนิยม" ของตัวแปรต้น

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:32, 28 สิงหาคม 2550

ฟังก์ชันเป็นคาบ (periodic function) ในทางคณิตศาสตร์หมายถึงฟังก์ชันที่ให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นค่าที่ซ้ำกัน บนช่วงจำกัดหนึ่งๆ เรียกว่า คาบ ซึ่งบวกเข้ากับตัวแปรต้น ตัวอย่างในชีวิตประจำวันจะสามารถเห็นได้จากตัวแปรต้นที่เป็นเวลา เช่นเข็มนาฬิกาหรือข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ จะแสดงพฤติกรรมที่ซ้ำกันเป็นช่วงๆ

นิยาม

สำหรับฟังก์ชันบนจำนวนจริงหรือจำนวนเต็มที่ให้ค่าซ้ำกันเป็นช่วงๆ นั่นหมายความว่ากราฟทั้งหมดของฟังก์ชันนั้นสามารถวาดได้จากการคัดลอกกราฟในช่วงที่ซ้ำกันต่อไปเรื่อยๆ หรือในทางที่เจาะจงกว่านี้ ฟังก์ชัน f จะเรียกว่าฟังก์ชันเป็นคาบ บนทุกๆ คาบ P ที่มากกว่าศูนย์ เมื่อ

สำหรับทุกค่าของ x ที่อยู่ในโดเมนของ f

และเมื่อ f เป็นฟังก์ชันเป็นคาบแล้ว จะได้

สำหรับทุกค่าของ n ที่เป็นจำนวนเต็ม

ตัวอย่าง

กราฟของฟังก์ชันไซน์และโคไซน์

จากนิยามข้างต้น หากค่า P เท่ากับ 1 จะได้

และเนื่องจากคาบของฟังก์ชันไม่จำเป็นต้องเป็นค่าที่น้อยที่สุด ดังนั้นค่า P สามารถเท่ากับ 2 ก็ได้

อีกตัวอย่างหนึ่งสามารถสังเกตได้จากฟังก์ชัน f ที่ให้ผลลัพธ์เป็น "เศษหลังจุดทศนิยม" ของตัวแปรต้น

ซึ่งจะมีช่วงที่ซ้ำกันบนคาบ P ที่เท่ากับ 1 และกราฟของฟังก์ชันนี้เป็นรูปคลื่นฟันเลื่อย (sawtooth wave)

ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ไซน์และโคไซน์เป็นฟังก์ชันเป็นคาบอย่างหนึ่ง ซึ่งมีคาบเท่ากับ 2π