ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทใหญ่"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Armedfarmer (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 17: บรรทัด 17:
}}
}}


'''ไทใหญ่''' หรือ '''ฉาน''' ({{lang-shn|{{my|တႆး}}}} ''ไต๊''; {{lang-my|ရှမ်းလူမျိုး}}, {{IPA-all|ʃán lùmjóʊ|pron}}; {{zh-all|s=掸族|p=Shàn zú}}) หรือ '''เงี้ยว''' (ซึ่งเป็นคำเรียกที่ไม่สุภาพ)<ref>{{cite web | title = ยวน ในยวนพ่าย ก็เป็น ลาว (คักๆ) | publisher = สุจิตต์ วงษ์เทศ | url = http://www.sujitwongthes.com/2012/09/weekly21092555/ | date = 21 กันยายน 2555 | accessdate = 14 กุมภาพันธ์ 2558}}</ref> คือกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลภาษาไท-กะได ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อันดับสองของพม่า ส่วนมากอาศัยใน[[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]] และบางส่วนอาศัยอยู่บริเวณ[[ดอยไตแลง]] ชายแดนระหว่าง[[ประเทศไทย]]กับประเทศพม่า<ref>Sao Sāimöng, The Shan States and the British Annexation. Cornell University, Cornell, 1969 (2nd ed.)</ref>คนไทใหญ่ในประเทศพม่ามีประมาณ 3 หรือ 4 ล้านคน แต่มีไทใหญ่หลายแสนคนที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อหนีปัญหาทางการเมืองและการหางาน ตามภาษาของเขาเองจะเรียกตัวเอง ไต มีหลายกลุ่มเช่น [[ไตขืน]] [[ไตแหลง]] [[คำตี่|ไตคัมตี]] [[ไทลื้อ|ไตลื้อ]] และ[[ไตมาว]] แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ไตโหลง (ไต = ไท และ โหลง (หลวง) = ใหญ่) หรือที่คนไทยเรียกว่า ไทใหญ่ จะเห็นได้ว่าภาษาไตและภาษาไทยคล้ายกันบ้างแต่ไม่เหมือนกัน ชาวไทใหญ่ถือวันที่ [[7 กุมภาพันธ์]] เป็นวันชาติ เมืองหลวงของรัฐฉานคือ [[ตองยี]] มีประชากรประมาณ 150,000 คน ส่วนเมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ [[สีป้อ]] [[ล่าเสี้ยว]] [[เชียงตุง]] และ[[ท่าขี้เหล็ก]]
'''ไทใหญ่''' หรือ '''ฉาน''' ({{lang-shn|{{my|တႆး}}}} ''ไต๊''; {{lang-my|ရှမ်းလူမျိုး}}, {{IPA-all|ʃán lùmjóʊ|pron}}; {{zh-all|s=掸族|p=Shàn zú}}) หรือ '''เงี้ยว''' (越:Yue)<ref>[[กลุ่มภาษากัม-ไท]] จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี </ref> คือกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลภาษาไท-กะได ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อันดับสองของพม่า ส่วนมากอาศัยใน[[รัฐฉาน]] [[ประเทศพม่า]] และบางส่วนอาศัยอยู่บริเวณ[[ดอยไตแลง]] ชายแดนระหว่าง[[ประเทศไทย]]กับประเทศพม่า<ref>Sao Sāimöng, The Shan States and the British Annexation. Cornell University, Cornell, 1969 (2nd ed.)</ref>คนไทใหญ่ในประเทศพม่ามีประมาณ 3 หรือ 4 ล้านคน แต่มีไทใหญ่หลายแสนคนที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อหนีปัญหาทางการเมืองและการหางาน ตามภาษาของเขาเองจะเรียกตัวเอง ไต มีหลายกลุ่มเช่น [[ไตขืน]] [[ไตแหลง]] [[คำตี่|ไตคัมตี]] [[ไทลื้อ|ไตลื้อ]] และ[[ไตมาว]] แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ไตโหลง (ไต = ไท และ โหลง (หลวง) = ใหญ่) หรือที่คนไทยเรียกว่า ไทใหญ่ จะเห็นได้ว่าภาษาไตและภาษาไทยคล้ายกันบ้างแต่ไม่เหมือนกัน ชาวไทใหญ่ถือวันที่ [[7 กุมภาพันธ์]] เป็นวันชาติ เมืองหลวงของรัฐฉานคือ [[ตองยี]] มีประชากรประมาณ 150,000 คน ส่วนเมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ [[สีป้อ]] [[ล่าเสี้ยว]] [[เชียงตุง]] และ[[ท่าขี้เหล็ก]]


== เชื้อชาติ ==
== เชื้อชาติ ==
บรรทัด 30: บรรทัด 30:


== ภาษา ==
== ภาษา ==
ภาษาไทใหญ่เป็น'''กลุ่มภาษากัม-ไท''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Kam–Tai languages) ใน[[ตระกูลภาษาไท-กะได]] ขอบเขตการแพร่กระจายของภาษาในกลุ่มนี้เริ่มจากทางตะวันตกของยูนนานไปจนถึงกวางตุ้งและเกาะไหหลำ ผู้พูดส่วนใหญ่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนท่ามกลางชาวจีนฮั่นหรือชนกลุ่มน้อยอื่นๆ มีความเชื่อที่คล้ายคลึงกันมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาด้วยภาษาของตนเองซึ่งน่าจะเริ่มต้นมาจากภาษากัม-ไทดั้งเดิม ชาวเยว่ที่เคยแพร่หลายทางตอนใต้ของจีนสมัยโบราณมีภาษาที่มีบรรพบุรุษเดียวกับภาษาในกลุ่มนี้
ภาษาไทใหญ่เป็นวิชาเลือกหนึ่งภายในรัฐ เจ้าขุนสามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมรัฐฉานในอดีต เคยออกสำรวจคนไทใหญ่ในพม่า พบว่ามีคนไทใหญ่พูดภาษาไทใหญ่มากมายหลายแห่ง แต่ไม่มีจำนวนที่แน่นอน เพราะคนไทใหญ่เหล่านั้นจะเรียกตนเองว่าเป็นพม่า พูดภาษาพม่า แต่งกายเป็นพม่า<ref>{{cite web |url=http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=shn |title=Shan: A language of Myanmar |accessdate=2006-12-02 |work=Ethnologue }}</ref>


เยว่เป็นชื่อทั่วไปที่ใช้เรียกกลุ่มชนที่มีความสัมพันธ์กับชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ที่อยู่ในจีนตอนใต้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากมีหลายสาขา เยว่จึงเคยมีชื่อเรียกว่าไป่เยว่ (เยว่ร้อยจำพวก) ในเอกสารประวัติศาสตร์สมัยโบราณของจีนซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่มาก ชนกลุ่มเยว่ในบริเวณต่างกันมีชื่อเรียกต่างกันตั้งแต่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศจีนไปจนถึงตะวันออกเฉียงเหนือในพม่ามีชาวเยว่หลายกลุ่ม เช่น หวู่เยว่ (Wuyue 吳越), ยูเยว่ (Yuyue 於越), โอวเยว่หรือเยว่ตะวันออก (Ouyue 甌越), หนานเยว่ (Nanyue 南越/南粵), ซีโอว (Xi'ou 西甌), หลัวเยว่ (Luoyue 雒越/駱越), หยางเยว่ (Yangyue 揚越), หมิ่นเยว่ (Minyue 閩越), ชานเยว่ (Shanyue 山越), กุยเยว่ และเตียนเยว่ (Dianyue 滇越)
== อ้างอิง ==

ในช่วงสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในหมู่ชาวไป่เยว่ในจีนตอนใต้ซึ่งเกิดจากการสู้รบระหว่างชาวไป่เยว่กับรัฐบาลกลางทำให้มีการจัดการปกครองขึ้นใหม่ มีการอพยพของทหารจีนจากตอนเหนือเข้ามา ชาวเยว่เริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่มแยกต่างหากจากผู้อพยพเข้ามาใหม่ เกิดการใช้ชื่อเรียกชาวเยว่ในแต่ละที่เป็นการเฉพาะ คำว่าเยว่จึงหายไปจากประวัติศาสตร์จีน

หลังจากยุคราชวงศ์ฮั่นประมาณพุทธศตวรรษที่ 8 มีชื่อใหม่ เช่น วูฮู ลื้อ และลาวเกิดขึ้น เพื่อใช้เรียกกลุ่มชาวไป่เยว่ที่แตกต่างกัน มีความเห็นที่แตกต่างกันมากในหมู่นักประวัติศาสตร์จีนเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำว่าวูฮู คำว่าลื้อและลาวเริ่มใช้ในพุทธศตวรรษที่ 8-11 ใช้เรียกชาวเยว่ที่อยู่ทางตะวัตกเฉียงใต้ของจีน ในสมัยราชวงศ์ถังมีชื่อของกลุ่มชนลาวกว่า 20 ชื่อ เช่นลาวนานผิง ลาวเจียนนาน ลาววูฮู ลาวปาโจว ลาวอี้โจว ลาวกุ้ยโจว และลาวฉาน เจ้าขุนสามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมรัฐฉานในอดีต เคยออกสำรวจคนไทใหญ่ในพม่า พบว่ามีคนไทใหญ่พูดภาษาไทใหญ่มากมายหลายแห่ง แต่ไม่มีจำนวนที่แน่นอน เพราะคนไทใหญ่เหล่านั้นจะเรียกตนเองว่าเป็นพม่า พูดภาษาพม่า แต่งกายเป็นพม่า<ref>{{cite web |url=http://www.ethnologue.com/show_language.asp?code=shn |title=Shan: A language of Myanmar |accessdate=2006-12-02 |work=Ethnologue }}</ref>

== อ้างอิ[[กลุ่มภาษากัม-ไท|ง]] ==
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:06, 5 พฤษภาคม 2560

ไทใหญ่
ไต๊
ไฟล์:CosTribe Shan.gif
ประชากรทั้งหมด
ประมาณ 6 ล้านคน
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ
รัฐฉาน รัฐคะฉิ่น
รัฐกะเหรี่ยง เขตมัณฑะเลย์
 ไทยจีน ประเทศจีน
 กัมพูชา เวียดนาม
ภาษา
ภาษาไทใหญ่, คำเมือง, ภาษาพม่า และภาษาไทย
ศาสนา
ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนานิกายกึงจอง ส่วนน้อยนับถือนิกายกึงโยน[1]

ไทใหญ่ หรือ ฉาน (ไทใหญ่: တႆး ไต๊; พม่า: ရှမ်းလူမျိုး, ออกเสียง: [ʃán lùmjóʊ]; จีน: 掸族; พินอิน: Shàn zú) หรือ เงี้ยว (越:Yue)[2] คือกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลภาษาไท-กะได ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่อันดับสองของพม่า ส่วนมากอาศัยในรัฐฉาน ประเทศพม่า และบางส่วนอาศัยอยู่บริเวณดอยไตแลง ชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า[3]คนไทใหญ่ในประเทศพม่ามีประมาณ 3 หรือ 4 ล้านคน แต่มีไทใหญ่หลายแสนคนที่ได้อพยพเข้าสู่ประเทศไทย เพื่อหนีปัญหาทางการเมืองและการหางาน ตามภาษาของเขาเองจะเรียกตัวเอง ไต มีหลายกลุ่มเช่น ไตขืน ไตแหลง ไตคัมตี ไตลื้อ และไตมาว แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ ไตโหลง (ไต = ไท และ โหลง (หลวง) = ใหญ่) หรือที่คนไทยเรียกว่า ไทใหญ่ จะเห็นได้ว่าภาษาไตและภาษาไทยคล้ายกันบ้างแต่ไม่เหมือนกัน ชาวไทใหญ่ถือวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นวันชาติ เมืองหลวงของรัฐฉานคือ ตองยี มีประชากรประมาณ 150,000 คน ส่วนเมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ สีป้อ ล่าเสี้ยว เชียงตุง และท่าขี้เหล็ก

เชื้อชาติ

กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยในรัฐฉาน สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้

  1. ชาวไทใหญ่ หรือไทหลวง (ไตโหลง)
  2. ชาวไทลื้อ มีถิ่นฐานอยู่ในแคว้นสิบสองปันนาของประเทศจีน และทางตะวันออกของรัฐฉาน
  3. ชาวไทเขิน (ไตขึน) เป็นประชากรส่วนใหญ่ของเมืองเชียงตุง
  4. ชาวไทเหนือ (ไตเหลอ) อาศัยอยู่ในแค้วนใต้คง (เต้อหง) ของประเทศจีน

อิทธิพลของพม่า

ประวัติศาสตร์ไทใหญ่เต็มไปด้วยเรื่องราวของสงคราม จนการเรียนประวัติศาสตร์ของชาวไทใหญ่กลายเป็นวิชาต้องห้ามมาตั้งแต่สมัยอังกฤษปกครอง อิทธิพลทางวัฒนธรรมของพม่าในไทใหญ่จึงมีมาก ซึ่งเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์และการเมือง[4] กล่าวคือเมื่อพม่ามีอิทธิพลทางการปกครองก็จะเกณฑ์ให้เจ้าฟ้าไทใหญ่ส่งลูกชายและลูกสาวไปเมืองหลวงพม่า เจ้าหญิงเจ้าชายเหล่านี้จึงได้รับวัฒนธรรมพม่ามา และนำกลับมาเผยแพร่แก่ประชาชนไทใหญ่ในรูปแบบของภาษา ดนตรี นาฏศิลป์ และขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ[5] เช่น เกิดความนิยมว่า วรรณคดีที่ไพเราะซาบซึ้งควรมีคำพม่าผูกผสมผสานกับคำไท[6][7]

ภาษา

ภาษาไทใหญ่เป็นกลุ่มภาษากัม-ไท (อังกฤษ: Kam–Tai languages) ในตระกูลภาษาไท-กะได ขอบเขตการแพร่กระจายของภาษาในกลุ่มนี้เริ่มจากทางตะวันตกของยูนนานไปจนถึงกวางตุ้งและเกาะไหหลำ ผู้พูดส่วนใหญ่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อนท่ามกลางชาวจีนฮั่นหรือชนกลุ่มน้อยอื่นๆ มีความเชื่อที่คล้ายคลึงกันมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาด้วยภาษาของตนเองซึ่งน่าจะเริ่มต้นมาจากภาษากัม-ไทดั้งเดิม ชาวเยว่ที่เคยแพร่หลายทางตอนใต้ของจีนสมัยโบราณมีภาษาที่มีบรรพบุรุษเดียวกับภาษาในกลุ่มนี้

เยว่เป็นชื่อทั่วไปที่ใช้เรียกกลุ่มชนที่มีความสัมพันธ์กับชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ที่อยู่ในจีนตอนใต้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากมีหลายสาขา เยว่จึงเคยมีชื่อเรียกว่าไป่เยว่ (เยว่ร้อยจำพวก) ในเอกสารประวัติศาสตร์สมัยโบราณของจีนซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่มาก ชนกลุ่มเยว่ในบริเวณต่างกันมีชื่อเรียกต่างกันตั้งแต่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศจีนไปจนถึงตะวันออกเฉียงเหนือในพม่ามีชาวเยว่หลายกลุ่ม เช่น หวู่เยว่ (Wuyue 吳越), ยูเยว่ (Yuyue 於越), โอวเยว่หรือเยว่ตะวันออก (Ouyue 甌越), หนานเยว่ (Nanyue 南越/南粵), ซีโอว (Xi'ou 西甌), หลัวเยว่ (Luoyue 雒越/駱越), หยางเยว่ (Yangyue 揚越), หมิ่นเยว่ (Minyue 閩越), ชานเยว่ (Shanyue 山越), กุยเยว่ และเตียนเยว่ (Dianyue 滇越)

ในช่วงสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในหมู่ชาวไป่เยว่ในจีนตอนใต้ซึ่งเกิดจากการสู้รบระหว่างชาวไป่เยว่กับรัฐบาลกลางทำให้มีการจัดการปกครองขึ้นใหม่ มีการอพยพของทหารจีนจากตอนเหนือเข้ามา ชาวเยว่เริ่มรวมตัวกันเป็นกลุ่มแยกต่างหากจากผู้อพยพเข้ามาใหม่ เกิดการใช้ชื่อเรียกชาวเยว่ในแต่ละที่เป็นการเฉพาะ คำว่าเยว่จึงหายไปจากประวัติศาสตร์จีน

หลังจากยุคราชวงศ์ฮั่นประมาณพุทธศตวรรษที่ 8 มีชื่อใหม่ เช่น วูฮู ลื้อ และลาวเกิดขึ้น เพื่อใช้เรียกกลุ่มชาวไป่เยว่ที่แตกต่างกัน มีความเห็นที่แตกต่างกันมากในหมู่นักประวัติศาสตร์จีนเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคำว่าวูฮู คำว่าลื้อและลาวเริ่มใช้ในพุทธศตวรรษที่ 8-11 ใช้เรียกชาวเยว่ที่อยู่ทางตะวัตกเฉียงใต้ของจีน ในสมัยราชวงศ์ถังมีชื่อของกลุ่มชนลาวกว่า 20 ชื่อ เช่นลาวนานผิง ลาวเจียนนาน ลาววูฮู ลาวปาโจว ลาวอี้โจว ลาวกุ้ยโจว และลาวฉาน เจ้าขุนสามซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมรัฐฉานในอดีต เคยออกสำรวจคนไทใหญ่ในพม่า พบว่ามีคนไทใหญ่พูดภาษาไทใหญ่มากมายหลายแห่ง แต่ไม่มีจำนวนที่แน่นอน เพราะคนไทใหญ่เหล่านั้นจะเรียกตนเองว่าเป็นพม่า พูดภาษาพม่า แต่งกายเป็นพม่า[8]

อ้างอิ

  1. เสมอชัย พูลสุวรรณ. รัฐฉาน (เมืองไต):พลวัติของชาติพันธุ์ในบริบทประวัติศาสตร์และการเมืองร่วมสมัย. กรุงเทพฯ:ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน), 2552. หน้า 66
  2. กลุ่มภาษากัม-ไท จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
  3. Sao Sāimöng, The Shan States and the British Annexation. Cornell University, Cornell, 1969 (2nd ed.)
  4. Maung Htin Aung (1967). A History of Burma. New York and London: Cambridge University Press. p. 95.
  5. Lt. Gen. Sir Arthur P. Phayre (1967). History of Burma (2 ed.). London: Susil Gupta. pp. 108–109.
  6. ‘Mae Sai Evacuated as Shells Hit Town’, Bangkok Post, 12 May 2002
  7. ‘Mortar Rounds Hit Thai Outpost, 2 Injured’, Bangkok Post, 20 June 2002, p.1
  8. "Shan: A language of Myanmar". Ethnologue. สืบค้นเมื่อ 2006-12-02.

แหล่งข้อมูลอื่น