ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศเนปาล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 33: บรรทัด 33:
| population_density_sq_mi = 518<!-- Do not remove per [[WP:MOSNUM]] -->
| population_density_sq_mi = 518<!-- Do not remove per [[WP:MOSNUM]] -->
| population_density_rank = 62
| population_density_rank = 62
| GDP_PPP_year = 2556
| GDP_PPP_year = 2560
| GDP_PPP = 62.384 พันล้าน[[ดอลลาร์สหรัฐ]]<!-- cia.gov -->
| GDP_PPP = $ 77.147 พันล้าน
| GDP_PPP_rank =
| GDP_PPP_rank =
| GDP_PPP_per_capita = 2,310 ดอลลาร์สหรัฐ
| GDP_PPP_per_capita = $ 2,642
| GDP_PPP_per_capita_rank =
| GDP_PPP_per_capita_rank =
| GDP_nominal_year = 2560
| GDP_nominal = $ 23.316 พันล้าน
| GDP_nominal_rank =
| GDP_nominal_per_capita = $ 798
| GDP_nominal_per_capita_rank =
| HDI_year = 2558
| HDI_year = 2558
| HDI = {{increase}} 0.558
| HDI = {{increase}} 0.558

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:03, 5 พฤษภาคม 2560

สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล

सङ्घीय लोकतान्त्रिक गणतन्त्र नेपाल (เนปาล)
คำขวัญ
जननी जन्मभूमिष्च स्वर्गादपि गरीयसी (สันสกฤต)
"แผ่นดินแม่มีค่ายิ่งกว่าสวรรค์"
เพลงชาติसयौं थुँगा फूलका हामी
"เราคือบุปผานับร้อย"
ที่ตั้งของเนปาล
เมืองหลวง
และเมืองใหญ่สุด
กาฐมาณฑุ
ภาษาราชการภาษาเนปาล
การปกครองสาธารณรัฐประชาธิปไตย
พิทยา เทวี ภัณทารี
• นายกรัฐมนตรี
Pushpa Kamal Dahal
การรวมชาติ
• สถาปนาราชอาณาจักร
21 ธันวาคม พ.ศ. 2311
• สถาปนารัฐชั่วคราว
15 มกราคม พ.ศ. 2550
• สถาปนาสาธารณรัฐ
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
พื้นที่
• รวม
147,181 ตารางกิโลเมตร (56,827 ตารางไมล์) (94)
2.8
ประชากร
• สำมะโนประชากร 2554
26,494,504[1]
180 ต่อตารางกิโลเมตร (466.2 ต่อตารางไมล์) (62)
จีดีพี (อำนาจซื้อ) 2560 (ประมาณ)
• รวม
$ 77.147 พันล้าน
$ 2,642
จีดีพี (ราคาตลาด) 2560 (ประมาณ)
• รวม
$ 23.316 พันล้าน
$ 798
เอชดีไอ (2558)เพิ่มขึ้น 0.558
ข้อผิดพลาด: ค่า HDI ไม่ถูกต้อง · 144th
สกุลเงินรูปี (NPR)
เขตเวลาUTC+5:45 (NPT)
ขับรถด้านซ้ายมือ
รหัสโทรศัพท์977
โดเมนบนสุด.np

ประเทศเนปาล (เนปาล: नेपाल) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล (อังกฤษ: Federal Democratic Republic of Nepal; เนปาล: सङ्घीय लोकतान्त्रिक गणतन्त्र नेपाल "สงฺฆีย โลกตานฺตฺริก คณตนฺตฺร เนปาล") เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียใต้ มีพื้นที่ 147,181 ตารางกิโลเมตร และประชากรประมาณ 27 ล้านคน ประเทศเนปาลเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 93 ของโลก และมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับที่ 41 ของโลก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย มีพรมแดนทิศเหนือติดสาธารณรัฐประชาชนจีน ทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตกติดสาธารณรัฐอินเดีย ประเทศเนปาลแยกจากประเทศบังกลาเทศด้วยฉนวนศิลิกูริ (Siliguri Corridor) แคบ ๆ ในประเทศอินเดีย และแยกจากประเทศภูฏานด้วยรัฐสิกขิมของอินเดีย กรุงกาฐมาณฑุเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของประเทศ

ภาคเหนือของประเทศเนปาลซึ่งเป็นแถบภูเขามีแปดจากสิบภูเขาสูงสุดในโลก ซึ่งรวมยอดเขาเอเวอร์เรสต์ จุดสูงสุดบนโลก ยอดเขากว่า 240 แห่งซึ่งสูงเกิน 6,096 เมตร (20,000 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเลอยู่ในประเทศเนปาล ส่วนภาคใต้อุดมสมบูรณ์และชื้น

ชาวเนปาลประมาณ 81.3% นับถือศาสนาฮินดู เป็นสัดส่วนสูงสุดในโลก ศาสนาพุทธมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์กับประเทศเนปาล และมีประชากรนับถือ 9% ตามด้วยศาสนาอิสลาม 4.4% Kiratism 3.1% ศาสนาคริสต์ 1.4% และวิญญาณนิยม 0.4% ประชากรสัดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคภูเขา อาจระบุตัวว่าเป็นทั้งฮินดูและพุทธ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของธรรมชาติกลมเกลียวของทั้งสองความเชื่อในประเทศเนปาลก็เป็นได้

ประเทศเนปาลปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยตลอดประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ ราชวงศ์ศาหะปกครองตั้งแต่ปี 2311 เมื่อพระเจ้าปฤถวีนารายัณ ศาหะทรงรวมราชอาณาจักรเล็ก ๆ จำนวนมาก จนปี 2551 สงครามกลางเมืองนานหนึ่งทศวรรษซึ่งเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเนปาล (ลัทธิเหมา) ตามด้วยการประท้วงใหญ่โดยพรรคการเมืองหลักทุกพรรค นำสู่ความตกลง 12 ข้อ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548 การเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเนปาลที่ 1 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2551 ซึ่งตามมาสนับสนุนการเลิกราชาธิปไตยและการสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบมีผู้แทนหลายพรรคการเมืองอย่างท่วมท้น แม้ความท้าทายทางการเมืองยังดำเนินไป แต่กรอบนี้ยังอยู่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญเนปาลที่ 2 ซึ่งได้รับเลือกตั้งในปี 2556 ในความพยายามเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่

ประเทศเนปาลเป็นประเทศกำลังพัฒนาโดยมีเศรษฐกิจรายได้ต่ำ อยู่ในอันดับที่ 145 จาก 187 ประเทศในดัชนีการพัฒนามนุษย์ในปี 2557 ประเทศเนปาลยังเผชิญกับความหิวและความยากจนระดับสูง แม้ความท้าทายเหล่านี้ ประเทศเนปาลยังคงมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลผูกมัดยกระดับประเทศจากสถานภาพประเทศด้อยพัฒนาภายในปี 2565

ประวัติศาสตร์

ยุคโบราณ

เสาพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ ลุมพินีวัน

ยุคกลาง

ราชอาณาจักร

ก่อนปีพ.ศ. 2311 หุบเขากาฐมาณฑุแบ่งออกเป็นสามอาณาจักร จนกระทั่งผู้นำเผ่ากุรข่า ปฤฐวี นารายัณ ศาห์ สามารถรวบรวมอาณาจักรในหุบเขาเข้าด้วยกัน และหลังจากนั้นได้ทำสงครามขยายอาณาเขตออกไป จนในปีพ.ศ. 2357-พ.ศ. 2359 เกิดสงครามอังกฤษ-เนปาล กองทัพกุรข่าพ่ายแพ้ ต้องทำสนธิสัญญาและจำกัดอาณาเขตเนปาลเหลือเท่าปัจจุบัน[2]

ในปีพ.ศ. 2491 ชัง พหาทุระ รานา ซึ่งเป็นขุนนางในประเทศ ยึดอำนาจจากราชวงศ์ศาห์ โดยยังคงราชวงศ์ศาห์ไว้เป็นประมุขแต่ในนาม ตระกูลรานาได้รับการสนับสนุนจากสหราชอาณาจักร เนปาลได้ส่งกองทัพเข้าร่วมกับกองทัพบริเตนในหลายสงคราม ทำให้สหราชอาณาจักรทำสนธิสัญญามิตรภาพกับเนปาลในปีพ.ศ. 2466 ซึ่งในสนธิสัญญานี้ สหราชอาณาจักรได้ยอมรับเอกราชของเนปาลอย่างชัดเจน[3]

ในปีพ.ศ. 2494 เกิดการต่อต้านการปกครองของตระกูลรานา นำโดยพรรคเนปาลีคองเกรสและกษัตริย์ตริภุวัน ทำให้โมหัน สัมเสระ ชัง พหาทุระ รานา ผู้นำคนสุดท้ายของตระกูลรานาคืนอำนาจให้แก่กษัตริย์ศาห์ และจัดการเลือกตั้ง

หลังจากเนปาลได้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยในช่วงสั้นๆ โดยจัดการเลือกตั้งครั้งแรกในปีพ.ศ. 2502 แต่กษัตริย์มเหนทระได้ยุบสภา ยึดอ'ำนาจในปีพ.ศ. 2503 และใช้ระบอบปัญจายัตแทน จนมาถึงการปฏิรูปการปกครองในปีพ.ศ. 2533 ทำให้เปลี่ยนจากระบอบปัญจายัต ที่ห้ามมีพรรคการเมือง มาเป็นระบอบรัฐสภาแบบพหุพรรค[4]

ในปีพ.ศ. 2539 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งเนปาล (ลัทธิเหมา) ได้เปิดฉากสงครามประชาชน มีเป้าหมายที่จะสถาปนาสาธารณรัฐสังคมนิยมขึ้นแทนระบอบราชาธิปไตย นำมาซึ่งสงครามกลางเมืองซึ่งกินเวลายาวนานถึงสิบปี ในปีพ.ศ. 2544 เกิดเหตุสังหารหมู่ในพระราชวัง โดยเจ้าชายทิเปนทระ มกุฎราชกุมารในสมัยนั้น และกษัตริย์ชญาเนนทระได้ขึ้นครองราชสมบัติแทน ในปีพ.ศ. 2548 กษัตริย์ชญาเนนทระได้ยึดอำนาจจากรัฐบาล นำมาซึ่งการประท้วงจากประชาชนและพรรคการเมืองในเวลาต่อมา จนต้องคืนอำนาจให้กับรัฐสภา รัฐสภาเนปาลได้จำกัดพระราชอำนาจของกษัตริย์ และให้เนปาลเป็นรัฐโลกวิสัย (secular state)

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 รัฐสภาเนปาลได้ผ่านกฎหมายที่จะเปลี่ยนเนปาลเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย โดยมีผลหลังการเลือกตั้งในปีพ.ศ. 2551[5]

ในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 รัฐบาลเนปาลประกาศยกเลิกระบอบกษัตริย์ สถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยขึ้น โดยกำหนดให้ชญาเนนทระและอดีตพระบรมวงศานุวงศ์ต้องออกจากพระราชวังภายใน 15 วัน และกำหนดให้วันที่ 28 - 30 พฤษภาคม เป็นวันหยุดราชการ[6]

การเมืองการปกครอง

บริหาร

ราม บารัน ยาดัฟ ผู้เป็นประธานาธิบดี

ในปัจจุบัน เนปาลเข้าสู่ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ มีนายราม บารัน ยาดัฟ เป็นประธานาธิบดีคนแรก จากการลงคะแนนเสียงของสภาร่างรัฐธรรมนูญ 308 เสียง และนายคีรีชา ปราสาท โกอีราละ อดีตรักษาการณ์ประมุขแห่งรัฐทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป จนมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อันนำโดยพรรคคอมมิวนิสต์ลัทธิเหมา หรืออดีตกลุ่มกบฏลัทธิเหมา ซึ่งมีนายประจันดา เป็นนายกรัฐมนตรี [7] แต่หลังจากที่นายประจันดา ต้องการให้อดีตกลุ่มกบฏของเขาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ จึงมีกระแสกดดันมาจากผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเนปาล และรวมทั้งประธานาธิบดียาดัฟ นายประจันดาจึงประกาศลาออก และสภาได้เลือกนายมาดัฟ คูมาร์ เนปาล อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ลัทธิมาร์ก-เลนิน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ก่อนครบรอบ 1 ปีของการสถาปนาระบอบสาธารณรัฐในเนปาล

ปัจจุบัน นายซูชิล คอยราลา (Sushil Koirala) ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของเนปาล สาบานตนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557[8]

นิติบัญญัติ

ตุลาการ

การแบ่งเขตการปกครอง

เนปาลแบ่งเป็น 14 เขต (อันจัล) ดังนี้

  1. เขตบากมาติ
  2. เขตเภรี
  3. เขตธวัลคิรี
  4. เขตคันดากิ
  5. เขตชนกปุระ
  6. เขตการ์นาลี
  7. เขตโกษิ
  1. เขตลุมพินี
  2. เขตมหากาลี
  3. เขตเมจี
  4. เขตนรยานี
  5. เขตรัปติ
  6. เขตสกรมาธา
  7. เขตเสทิ

ต่างประเทศ

กองทัพ


เศรษฐกิจ

โครงสร้าง

การทำนาแบบขั้นบันได

พื้นที่เกษตรกรรมมีเพียงร้อยละ 17 พืชที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโพด ข้าวเจ้า พื้นที่ 2 ใน 3 ปกคลุมด้วยป่าไม้ มีการตัดไม้เพื่อเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมไม้อัด โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่แปรสภาพผลผลิตทางการเกษตร ได้แก่ โรงงานน้ำตาล โรงงานกระดาษ รายได้ส่วนใหญ่ของประเทศได้มาจากการค้าแรงงานของชาวเนปาลีที่อยู่ต่างประเทศ และส่งเงินกลับมาให้กับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเนปาล ธุรกิจการท่องเที่ยวมีจุดสนใจอยู่ที่การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยและวัฒนธรรม เช่นการเดินเขา ปีนเขา และล่องแก่ง ตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเนปาล อาทิเช่น ยอดเขาเอเวอร์เรสต์, วัดปศุปฏินาถ, วัดสวยมภูวนาถ, พระราชวังกาฐมัณฑุ, เมืองโพคารา และลุมพินีวัน เป็นต้น

การท่องเที่ยว

โครงสร้างพื้นฐาน

คมนาคม และ โทรคมนาคม

วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี

การศึกษา

สาธารณสุข

สวัสดิการสังคม

ประชากร

เชื้อชาติ

ภาษาที่พูดในเนปาล แบ่งตามจำนวนคนพูด

ภาษา

ศาสนา

วัดพุทธนานาชาติ ลุมพินีวัน

วัฒนธรรม

วิถีชีวิต

สถาปัตยกรรม

วรรณกรรม

อาหาร

ดนตรี และ นาฏศิลป์

สื่อสารมวลชน

วันหยุด

อ้างอิง

  1. "National Population and Housing Census 2011 (National Report)" (PDF). Central Bureau of Statistics (Nepal). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 April 2013. สืบค้นเมื่อ 26 November 2012. {{cite web}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |deadurl= ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=) (help)
  2. Andrea Matles Savada, ed. Nepal: A Country Study - The Enclosing of Nepal. Washington: GPO for the Library of Congress, 1991.
  3. Andrea Matles Savada, ed. Nepal: A Country Study - The Ranas. Washington: GPO for the Library of Congress, 1991.
  4. Country Profile: Nepal. 2005. Federal Research Division, Library of Congress.
  5. Vote to abolish Nepal's monarchy. BBC News. 2007-12-28.
  6. Republic Day celebrated in DC. Nepali Post. 2008-05-28
  7. Nepal declared secular, federal democratic republic. Sify. 2008-05-28. Retrieved 2008-05-28.
  8. http://sameaf.mfa.go.th/th/news/detail.php?ID=4977&SECTION=NEWS

แหล่งข้อมูลอื่น

ภาษาอังกฤษ