ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คทาแอสคลีเพียส"
หน้าใหม่: ไฟล์:Esclapius stick.jpg|thumb|left|250px|คทา หรือไม้เท้าของอัสคลิปิอุสที่มีงูพัน... |
(ไม่แตกต่าง)
|
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:36, 1 พฤษภาคม 2560
คทาอัสคลิปิอุส หรือไม้เท้าอัสคลิปิอุส เป็นคทาของเทพอัสคลิปิอุส ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์และการรักษาในตำนานเทพปกรณัมกรีก คทาอัสคลิปิอุสถูกใช้เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงถึงการแพทย์และการรักษามาจนปัจจุบัน แต่ยังมีการใช้สับสนกันระหว่างคทาของอัสคาปิอุสและคทาของเฮอร์มีส ที่ชื่อว่า คาดูเซียส [1]
ตามตำนานเทพปกรณัมกรีก อัสคลิปิอุส ซึ่งมีสถานะครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการแพทย์และการรักษา จะมีคทาประจำตัวอันหนึ่ง มีลักษณะเป็นแท่งและมักจะมีงูหนึ่งตัวพันเกลียวรอบคทา เป็นสัญญลักษณ์ แต่ในบางครั้งอาจจะพบว่างูไม่ได้พันเกลียวรอบ แต่มักจะอยู่ในบริเวณไกล้เคียง
อัสคลิปิอุส ร่ำเรียนวิชาการรักษามาจากไครอน ซึ่งเป็นเซนทอร์ที่ชุบเลี้ยงอัสคลิปิอุสมาตั้งแต่ยังเป็นทารก จนได้กลายมาเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงของกรีก อัสคลิปิอุส และได้ใช้สัญญลักษณ์ คทาที่มีงูพันเกลียวรอบแทนการแพทย์และการรักษา
สมัยกรีกโบราณมีสถานที่ที่เป็นศาสนสถานสำหรับรักษาโรค มีชื่อเรียกตามเทพอัสคลิปิอุสว่า อัสคลิเปียน (Asclepioen) ในตำนานกรีกโบราณมีเหตุการณ์ที่กล่าวถึงคทาของอัสคลิปิอุสที่สำคัญ คือเมื่อฮิปพอคราทีส บิดาแห่งการแพทย์แผนตะวันตกจะกล่าวคำสัตย์สาบาน (Hippocrates oath) ได้มีการสาบานตนด้วยประโยคว่า
’’ข้าขอสาบานด้วยอะพอลโลผู้เป็นแพทย์ ด้วยอัสคลิปิอุส ด้วยไฮเจียและพานาเซีย และด้วยเหล่าเทพทั้งมวล…’’ ซึ่งคำสัตย์สาบานของฮิปพอคราตีส ได้เป็นต้นแบบของปฏิญญาอันเป็นจริยธรรมของวิชาชีพแพทย์มาจนถึงปัจจุบันนี้ [2]
งูที่พันรอบคทาของอัสคลิปิอุส ได้ถูกตีความว่าอย่างหลากหลาย มาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณที่มีการใช้สัญญลักษณ์งูพันรอบคทาของอัสคลิปิอุส การลอกคราบของงู เป็นสัญญลักษณ์ของการฟื้นฟูหรือการกำเนิดใหม่ หรือถูกตีความว่าเป็นเหมือนการรักษาของแพทย์ที่ต้องทำงานที่คาบเกี่ยวกันระหว่างความเป็นและความตาย ความคลุมเครือของงูยังแสดงถึงความขัดแย้งในปัจจุบันของการใช้ยา ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยถ้าใช้เหมาะสมและอาจจะให้โทษเมื่อใช้ไม่เหมาะสม ซึ่งไกล้เคียงกับคำในภาษากรีกว่า Pharmakon ที่หมายถึง ยา (medicine) หรือ ยาพิษ (poison) [3] ยังมีข้อถกเถียงกันอย่างแพร่หลายว่า สัญญลักษณ์ที่แสดงถึงการแพทย์ที่เชื่อว่าเป็นคทาอัสคลิปิอุสนั้น ความจริงแล้วเป็นพยาธิที่ชื่อว่า Dracunculus medinensis ซึ่งมักจะชอนไชตามผิวหนังของผู้ป่วยในสมัยโบราณ แพทย์จะรักษาโดยการกรีดผิวหนัง เมื่อพยาธิออกมานอกผิวหนังแพทย์จะใช้อุปกรณ์ที่เป็นแท่งเพื่อพันตัวพยาธิออกมาจนหมด โดยลักษณะที่พยาธิพันบนแท่งนั้น เหมือนกันกับสัญญลักษณ์งูพันเกลียวบนคทาของอัสคลิปิอุส [4]
ปัจจุบันคทาอัสคลิปิอุสถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งสัญญลักษณ์ ขององค์กรนานาชาติเกี่ยวกับการแพทย์ เช่น องค์การอนามัยโลก สมาคมแพทย์อเมริกัน สมาคมแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร สมาคมแพทย์ออสเตรเลีย [5]
ความสับสนระหว่างคทาของอัสคลิปิอุส และคทาคาดูเซียส
คทาคาดูเซียส เป็นสัญญลักษณ์ที่ผิดและมักใช้สับสนกับคทาของอัสคลิปิอุสซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ที่ถูกต้อง [6] เพื่อใช้แทนสัญญลักษณ์ของการแพทย์ โดยถูกใช้อย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา และในหลายๆประเทศ คทาคาดูเซียส เป็นคทาของเฮอร์มีส เทพผู้แจ้งข่าวของเหล่าเทพเจ้ากรีก ซึ่งมีลักษณะเป็นคทามีปีก 2 ข้างและมีงูพันไขว้กัน คทาคาดูเซียส ถูกใช้เป็นสัญญลักษณ์ของการค้า และความมั่งคั่ง การลักขโมย และบางครั้งทางการแพทย์ แทนคทาของอัสคลิปิอุสที่เป็นคทาที่ไม่มีปีกและมีงูพันเกลียวเพียงตัวเดียว
การใช้สับสนนี้พบตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 3 เมื่อนักจักษุวิทยาใช้ตรารูปคทาคาดูเซียสบนฉลากยาที่ใช้กับตา เหตุผลที่นำคทาคาดูเซียสมาใช้แทนการแพทย์เนื่องจากเห็นว่า เฮอร์มีสมีความเชื่อมโยงกับการเล่นแร่แปรธาตุ รวมถึงวิชาเคมีและการปรุงยา ซึ่งในภายหลังมีผู้ให้เหตุผลว่า การเล่นแร่แปรธาตุไม่มีความเกี่ยวพันกับการแพทย์
หลักฐานที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งสัณนิษฐานว่ามาจากการที่หน่วยแพทย์ของกองทัพสหรัฐ ใช้สัญญลักษณ์คทาคาดูเซียส และได้ถูกถกเถียงอย่างแพร่หลายถึงความถูกต้อง แต่กองทัพได้ออกมากล่าวว่าสัญญลักษณ์คทาคาดูเซียสที่ใช้ในหน่วยแพทย์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัญญลักษณ์ทางการแพทย์ แต่คทาแสดงถึงอำนาจ งูสองตัวแสดงถึงความรู้ ปีกแสดงถึงความขยัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหน่วยแพทย์ของกองทัพ [7]
อย่างไรก็ตาม มีการใช้สัญญลักษณ์คทาคาดูเซียส เป็นสัญญลักษณ์ทางการแพทย์ และบางแห่งปรับเปลี่ยนจากคทาเป็นคบเพลิง แต่ยังคงความหมายเดิม เช่น สมาคมแพทย์แห่งอินเดีย สมาคมแพทย์แห่งอินเดีย และกระทรวงสาธารณสุขของไทย
อ้างอิง
- ↑ Medical Symbols in Practice: Myths vs Reality
- ↑ Farnell, Chapter 10, "The Cult of Asklepios" (pp. 234–279)
- ↑ Albert R. Jonsen, The New Medicine and the Old Ethics, Harvard University Press, 1990, p122-123
- ↑ https://www.doctor.or.th/clinic/detail/6957 สัญลักษณ์ทางการแพทย์
- ↑ https://stanglibrary.wordpress.com/2014/08/27/คทาคาดูซัส-สัญลักษณ์แห/ คทาคาดูซัส : สัญลักษณ์แห่งวิชาแพทย์
- ↑ Bohigian GM. The staff and serpent of Asclepius. Mo Med. 1997;94:210–11.
- ↑ Emerson, William K (1996). Encyclopedia of United States Army Insignia and Uniforms. University of Oklahoma Press. pp. 181–182. ISBN 0-585-19489-0.