ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 13: | บรรทัด 13: | ||
| succession = [[สมเด็จพระสังฆราช]] พระองค์ที่ 11 |
| succession = [[สมเด็จพระสังฆราช]] พระองค์ที่ 11 |
||
| ดำรงพระยศ = [[20 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2464]] - [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2480]] ({{อายุปีและวัน|2464|8|20|2480|8|25}}) |
| ดำรงพระยศ = [[20 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2464]] - [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2480]] ({{อายุปีและวัน|2464|8|20|2480|8|25}}) |
||
| |
|สถาปนา = [[20 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2464]] |
||
|สถานที่สถาปนา = |
|||
|สถานที่ = [[วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] |
|||
| สถานที่สิ้นพระชนม์ = [[วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] |
| สถานที่สิ้นพระชนม์ = [[วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] |
||
| ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส]] |
| ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส]] |
||
|ถัดไป = [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)]] |
| ถัดไป = [[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว)]] |
||
| พระราชสวามี = |
| พระราชสวามี = |
||
| พระสวามี = |
| พระสวามี = |
||
บรรทัด 24: | บรรทัด 24: | ||
|ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์จักรี]] |
|ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์จักรี]] |
||
}} |
}} |
||
'''พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า''' ([[16 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2402]] - [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2480]] <ref>{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร|ชื่อหนังสือ=พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี|URL=|จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์บรรณกิจ|ปี= พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549|ISBN=974-221-818-8|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=360}} |
'''พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า''' ([[16 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2402]] - [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2480]] <ref>{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร|ชื่อหนังสือ=พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี|URL=|จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์บรรณกิจ|ปี= พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549|ISBN=974-221-818-8|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=360}} |
||
</ref>) เป็นพระราชวงศ์ในราชสกุล ชมพูนุท ดำรงสมณศักดิ์[[สมเด็จพระสังฆราช]]เป็นพระองค์ที่ 11 แห่ง[[กรุงรัตนโกสินทร์]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2465]] ตรงกับรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และเป็น[[เจ้าอาวาส]][[วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] ดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกอยู่ 16 ปี |
</ref>) เป็นพระราชวงศ์ในราชสกุล ชมพูนุท ดำรงสมณศักดิ์[[สมเด็จพระสังฆราช]]เป็นพระองค์ที่ 11 แห่ง[[กรุงรัตนโกสินทร์]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2465]] ตรงกับรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และเป็น[[เจ้าอาวาส]][[วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร]] ดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกอยู่ 16 ปี |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:28, 16 มีนาคม 2560
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า | |
---|---|
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า | |
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 11 | |
ดำรงพระยศ | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2464 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 (16 ปี 5 วัน) |
สถาปนา | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2464 |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส |
ถัดไป | สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) |
สถิต | วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์จักรี |
ประสูติ | 16 ธันวาคม พ.ศ. 2402 |
สิ้นพระชนม์ | 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 (77 ปี 253 วัน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ |
พระมารดา | หม่อมปุ่น |
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (16 ธันวาคม พ.ศ. 2402 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480 [1]) เป็นพระราชวงศ์ในราชสกุล ชมพูนุท ดำรงสมณศักดิ์สมเด็จพระสังฆราชเป็นพระองค์ที่ 11 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2465 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกอยู่ 16 ปี
พระประวัติ
ประสูติกาล
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าภุชงค์ เป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมพูนุท กรมขุนเจริญผลพูลสวัสดิ์ กับหม่อมปุ่น ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2402 แรม 7 ค่ำ เดือนอ้าย ที่วังหน้าวัดราชบพิธฯ มุมถนนราชบพิธกับถนนเฟื่องนคร ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
การศึกษาขณะเป็นฆราวาส
เมื่อยังทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาอักขรสมัยไทย ในสำนักเจ้าจอมมารดาสัมฤทธิ์ผู้เป็นย่า เมื่อเข้าพิธีเกสากันต์แล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้า ฯ ให้ไปศึกษาที่โรงเรียน Raffles เมืองสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ. 2414 เป็นเวลา 9 เดือน แล้วจึงเสด็จกลับพระนคร ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ตั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษสำหรับเจ้านายขึ้นแล้ว ก็ทรงเข้าศึกษาต่อที่นี่โดยไม่กลับไปสิงคโปร์อีก นอกจากนี้ยังทรงศึกษาอักษรขอมจากพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) จนผนวชในปี พ.ศ. 2416[2]
ผนวช
พ.ศ. 2416 เมื่อพระชนมายุได้ 14 พรรษา ผนวชเป็นสามเณร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วประทับ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เมื่ออายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2422 ได้โปรดให้อุปสมบทที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระวันรัตน์ (ทับ พุทฺธสิริ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสาสนโสภณที่พระธรรมวโรดม (สา ปุสฺสเทโว) วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หม่อมเจ้าพระอรุณนิภาคุณากร เป็นพระบรรพชาจารย์[3] ได้รับพระนามฉายาว่า "สิริวฑฺฒโน" ผนวชแล้วกลับมาประทับที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามตามเดิม
การศึกษาขณะเป็นบรรพชิต
ขณะเป็นสามเณรได้ศึกษาภาษาบาลีกับพระครูบัณฑรธรรมสโมทาน (สด) ภาษาไทยกับพระยาโอวาทวรกิจ (แก่น) และภาษาสันสกฤตกับพราหมณ์ เมื่อผนวชเป็นพระภิกษุแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมกับสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว) ขณะทรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมวโรดม ทรงเข้าสอบเปรียญ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2425 ได้เป็นเปรียญธรรม 4 ประโยค
ต่อมาในปี พ.ศ. 2430 ทรงเข้าแปลได้เพิ่มอีก 1 ประโยค รวมเป็นเปรียญธรรม 5 ประโยค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานวัตถุจัตุปัจจัยมูลค่า 2 ชั่งเป็นรางวัล[4]
การสิ้นพระชนม์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประชวรด้วยพระโรคเส้นพระโลหิตในกระเพาะพระบังคนเบาพิการ ทำให้บังคนเบาเป็นโลหิต สิ้นพระชนม์เมื่อวันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2480[5] แรม 3 ค่ำ เดือน 9 สิริรวมพระชนมายุได้ 79 พรรษา ดำรงสมณเพศได้ 59 พรรษา[6] ได้รับพระราชทานเพลิงพระศพ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส[7]
สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2430 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่ หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต[8]
- พ.ศ. 2438 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่เสมอชั้นเทพ ในราชทินนามเดิม[9]
- พ.ศ. 2442 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมปาโมกข์ มีราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัตรว่า หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต อังคีรสธรรมปาโมกข์ ยุตโยคยตินายก ไตรปิฎกธารี ธรรมวาทีคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[10]
- พ.ศ. 2444 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ เป็นพระองค์ที่ 2 สืบต่อจากพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร
- พ.ศ. 2449 ได้เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองในคณะกลาง มีสมณศักดิ์เสมอพระพรหมมุนี และมีพระอิสริยยศเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า มีราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัตรว่า 'พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต อังคีรสสาสนธำรง ราชวรพงษ์ศักดิ์พิบุลย์ สุนทรอรรถปริยัติโกศล โสภณศีลสมาจารวัตร มัชฌิมคณานุนายก สาสนดิลกบพิตร"[11]
- พ.ศ. 2453 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะใหญ่คณะกลาง มีราชทินนามว่า "พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ ขัตติยพงศ์พรหมจารี ประสาทนียคุณากร สถาพรพิริยพรต อังคีรสศาสนธำรง ราชวรวงศ์วิสุต วชิราวุธมหาราชอภินิษกรมณาจารย์ สุขุมญาณวิบุล สุนทรอรรถปริยัติโกศล โศภนศีลสมาจารวัตร มัชฌิมคณิศรมหาสังฆนายก พุทธศาสนดิลกสถาวีรบพิตร"[12]
- พ.ศ. 2464 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก นับว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระองค์แรก มีพระนามว่า "พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นชินวรศิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า"[13]
- พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นกรมหลวง มีราชทินนามว่า "พระเจ้าวรวงศเธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน ขัติยมหาเจษฎานุพงศ อริยวงศาคตญาณวิมลสกลมหาสงฆปรินายก ตรีปิฎกกลาโกศล ภัทรผลพลูสวัสดิสัทธรรมทีปกร ไทวภราดรมหาราชาภินิษกรมณาจารย์ ภุชงคบุราภิธานครุฐานิยมมหาบัณฑิต สุขสิทธิหิตรรถเมตตาขันตยาศรัย ศรีรัตนตรัยศรณาภิรัต สยามาธิปัตยามหาสังฆปาโมกขประธานาธิบดี ศรีสมณุดมบรมบพิตร"[14]
พระปรีชาสามารถ
พระองค์มีพระปรีชาสามารถทางพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญพระองค์หนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงนิพนธ์ตำรา และหนังสือสำคัญทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เช่น คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา หรือพจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย มหานิบาตชาดก นิทานต้นบัญญัติ สามเณรสิกขา เป็นต้น พระนิพนธ์เหล่านี้ ยังใช้เป็นคู่มือในการศึกษาภาษาบาลี และศึกษาพระพุทธศาสนาของภิกษุสามเณรมาจนถึงปัจจุบัน ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตสืบต่อจากสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อน และทรงเป็นกรรมการชุดแรกของมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2436 สุดท้ายได้เป็นนายกกรรมการมหามกุฏราชวิทยาลัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ตราบจนสิ้นพระชนม์
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนวัดราชบพิธ พระองค์ที่ 2 ประทานคาถาภาษาบาลีเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจบรรดาครูและนักเรียนว่า "วิริเยน ทุกขมจฺเจติ" แปลว่า "คนล่วงทุกข์เสียได้ด้วยความเพียร" และได้ประทานตรา "ชส" ซึ่งเป็นพระนามย่อของพระองค์ให้แก่โรงเรียน ซึ่งปัจจุบัน ได้เป็นสัญลักษณ์บนเข็ม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนแห่งนี้
ครบ 150 ปี วันประสูติ
16 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ครบ 150 ปี วันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระองค์จึงได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับงานนี้ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์[15]
อ้างอิง
- พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสฐมหาเจษฎาธิบดินทร ฯ พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชสกุล
- ร่มฉัตร หนังสือพิมพ์ ราชบพิธ ปีที่ 22 ฉบับที่ 71 ประจำเดือน กันยายน - มีนาคม 2548
- ↑ ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร. พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์บรรณกิจ, พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549. 360 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-221-818-8
- ↑ สมมติอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ, เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑, กรมศิลปากร, 2545,
- ↑ ประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : อัมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ, 2531, หน้า 149
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, การตั้งพระราชาคณะแลเปรียญที่แปลพระปริยัติธรรม, เล่ม 4 , ตอนที่ 22, 8 กันยายน 2430, หน้า 174-5
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก, เล่ม 54, ตอนที่ 0 ง, 30 สิงหาคม 2480, หน้า 1247
- ↑ ประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : อัมรินทร์ พริ้นติ้ง กรุ๊พ, 2531, หน้า 154
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, หมายกำหนดการพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า, เล่ม 55, ตอนที่ 0 ง, 20 กุมภาพันธ์ 2481, หน้า 3901-3910
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งพระองค์เจ้าอรุณนิภาคุณากร, เล่ม 4 ,หน้า 257
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรแลเลื่อนตำแหน่งยศ, เล่ม 13, หน้า 15
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 16, 19 พฤศจิกายน 2442, หน้า 486
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งพระองค์เจ้าพระสถาพรพิริยพรต และเลื่อนตำแหน่งสมณศักดิ์, เล่ม ๒๓, ๖ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๕, หน้า ๑๑๘-๑๒๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศเฉลิมพระนาม พระวรวงษ์เธอ กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์, เล่ม ๒๗, ตอน ๐ง, ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๓, หน้า ๒๖๒๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า, เล่ม ๓๘, ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔, หน้า ๒๐๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนากรมหมื่นชินวรสิริวัฒน ขึ้นเป็นกรมหลวง , เล่ม ๔๓, ตอน ๐ ก, ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๙, หน้า ๑๐๘
- ↑ http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000153161
ก่อนหน้า | พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส |
ไฟล์:ฉัตรสามชั้น.jpg สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2465 - พ.ศ. 2480) |
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) | ||
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส | ไฟล์:ธรรมยุตินิกาย.gif เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต (พ.ศ. 2465 - พ.ศ. 2471) |
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ | ||
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร | เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร (พ.ศ. 2444 - พ.ศ. 2480) |
พระศาสนโศภน (ภา ภาณโก) |