ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tinuviel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 7: บรรทัด 7:


ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1955 หลังจากที่ภาคแรกและภาคสองออกสู่บรรณพิภพด้วยความสำเร็จอย่างล้นหลาม ส่วนนิยายฉบับแปลภาษาไทย แปลโดย คุณ[[วัลลี ชื่นยง]] ตีพิมพ์โดย[[สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน]] เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545
ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1955 หลังจากที่ภาคแรกและภาคสองออกสู่บรรณพิภพด้วยความสำเร็จอย่างล้นหลาม ส่วนนิยายฉบับแปลภาษาไทย แปลโดย คุณ[[วัลลี ชื่นยง]] ตีพิมพ์โดย[[สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน]] เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545


==เนื้อหาโดยย่อ==


{{spoiler}}


ใน ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ประกอบด้วยเล่ม 5 และ 6 ของนิยายชุดนี้ เล่ม 5 มี 10 บท ส่วนเล่ม 6 มี 9 บท ตอนท้ายมีภาคผนวกซึ่งบรรจุเกร็ดตำนานต่างๆ มากมาย รวมทั้งรายละเอียดของอักขระ[[เทงกวาร์]] และวิธีการเขียนเทงกวาร์ในโหมดต่างๆ


===เล่ม 5===

[[แกนดัล์ฟ]]กับ[[ปิ๊ปปิ้น]]เดินทางมาถึงนคร[[มินัสทิริธ]] เพื่อเจรจาให้[[เดเนธอร์]]ร่วมมือในการศึกต่อต้าน[[เซารอน]] ปิ๊ปปิ้นได้เข้าเป็นมหาดเล็กแห่ง[[กอนดอร์]] เพื่อรับใช้เดเนธอร์เป็นการตอบแทนที่[[โบโรเมียร์]]ปกป้องตนจนต้องเสียชีวิต

ด้าน[[โรฮัน]] กองกำลังชาว[[ดูเนไดน์]]เดินทางมาสมทบกับ[[อารากอร์น]]ที่[[เฮล์มสดีพ]] [[เมอร์รี่]]ปฏิญาณตัวเป็นทหารของโรฮัน อารากอร์นมองเข้าไปใน[[พาลันเทียร์]]แห่ง[[ออร์ธังก์]] เป็นการเผยตัวต่อเซารอน แล้วอารากอร์นตัดสินใจนำกองกำลังของตนแยกจากทัพใหญ่ของโรฮัน เดินทางผ่านเส้นทางมรณะทะลุภูเขาลงไปยังศิลาแห่งเอเร็ค

ทัพโรฮันได้รับ 'ลูกศรแดง' จากกอนดอร์ อันเป็นสัญลักษณ์เก่าแก่แสดงการขอความช่วยเหลือ โรฮันจึงยกทัพเร่งรุดไปยังนครมินัสทิริธ

แกนดัล์ฟกับปิ๊ปปิ้นได้พบกับ[[ฟาราเมียร์]] และได้ทราบถึงการเดินทางผ่าน[[อิธิลิเอน]]ของ[[โฟรโด แบ๊กกิ้นส์|โฟรโด]] ฟาราเมียร์ออกรบที่ออสกิเลียธได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เดเนธอร์เศร้าโศกจนเสียสติและพยายามจะเผาตัวเองพร้อมกับลูกชาย มินัสทิริธจึงไร้ผู้นำศึก กองทัพออร์คปิดล้อมนครไว้จนกระทั่งทัพของโรฮันมาถึง เกิดเป็นศึกใหญ่ที่ทุ่งกว้างหน้านครเรียกว่า [[สมรภูมิทุ่งเพเลนนอร์]] [[เธโอเดน]]ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ชีวิต แต่[[เอโอวีน]] ซึ่งปลอมตัวลอบติดตามมาในกองทัพ สามารถสังหาร วิชคิง หัวหน้าของ[[นาซกูล]]ลงได้ ด้วยความช่วยเหลือของเมอร์รี่ โดยที่ตัวนางเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้านอารากอร์นที่ตัดผ่านภูเขาลงไปทางใต้ ยึดกองเรือที่จะโจมตีมินัสทิริธไว้ได้ แล้วยกทัพมากระหนาบทัพออร์คที่ทุ่งเพเลนนอร์อีกด้านหนึ่ง

ปิ๊ปปิ้นกับแกนดัล์ฟไปช่วยเหลือฟาราเมียร์ไว้ได้ทัน แต่ช่วยเดเนธอร์ไว้ไม่ได้ เมื่อนั้นพวกเขาจึงพบสาเหตุการเสียสติของเดเนธอร์ เนื่องจากเขามองเข้าไปในพาลันเทียร์แห่งมินัสทิริธ และได้พยายามต่อสู้กับเซารอน แต่เสียรู้เล่ห์กลของจอมมารจนกระทั่งหมดสิ้นความหวัง

ผู้บาดเจ็บทั้งหลายถูกพาในรักษาในหออภิบาล อารากอร์นใช้[[ว่านราชัน]] หรือ [[อะธีลาส]] รักษาฟาราเมียร์ เอโอวีน เมอร์รี่ และผู้บาดเจ็บทั้งหลาย ด้วยว่า 'หัตถ์แห่งราชันคือหัตถ์แห่งการเยียวยา' ดังนั้นประชาชนจึงพากันร่ำลือว่า กษัตริย์ของตนกลับมาแล้ว

แกนดัล์ฟ อารากอร์น [[เลโกลัส]] [[กิมลี]] และปิ๊ปปิ้น นำทัพไปยังประตูดำแห่ง[[มอร์ดอร์]] โอษฐ์แห่งเซารอนออกมาเจรจา โดยให้พวกเขาดูสิ่งของที่ยึดมาจากโฟรโด แล้วเรียกร้องให้ยกดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำทั้งหมดให้กับเซารอน แกนดัล์ฟขอพบตัวประกัน แต่โอษฐ์แห่งเซารอนลังเล แกนดัล์ฟจึงไม่ตกลง จึงเกิดเป็นการรบที่หน้าประตูดำ เมอร์รี่และเบเรกอนด์ถูก[[โทรลล์]]โจมตี ทันใดนั้นเมอร์รี่ก็ได้ยินเสียงเจ้าแห่งวิหค เหล่า[[นกอินทรี (มิดเดิลเอิร์ธ)|นกอินทรี]]บินมาช่วยแล้ว

===เล่ม 6===

[[แซมไวส์ แกมจี|แซม]]เข้าไปตามหา[[โฟรโด แบ๊กกิ้นส์|โฟรโด]]ในหอคอยของพวกออร์ค พบพวกออร์คทะเลาะวิวาทกันเพื่อแย่งชิงข้าวของของโฟรโด โดยเฉพาะเสื้อเกราะ[[มิธริล]] แซมพบโฟรโดถูกขังอยู่ที่ยอดบนสุดของหอคอย จึงคืน[[แหวนแห่งอำนาจ|แหวน]]ให้ แล้วพากันหนีออกมา

ทั้งสองเดินทางต่อจนไปถึง[[เมาท์ดูม]] [[กอลลัม]]จึงปรากฏตัวออกมาอีกครั้งและพยายามโจมตีพวกเขา โฟรโดต้องยอมจำนนต่ออำนาจแหวนในที่สุด เมื่อเขาหยิบแหวนขึ้นมาสวมขณะอยู่ในเมาท์ดูม ทำให้เซารอนล่วงรู้การมาถึงของพวกเขา กอลลัมกระโดดเข้ากัดนิ้วของโฟรโดและแย่งแหวนมาได้ แต่ตัวเองกลับลื่นไถลตกลงไปในเปลวอัคคีของภูมรณะพร้อมกับแหวน ทำให้แหวนถูกทำลายไป โฟรโดและแซมได้เห็นการล่มสลายของหอคอยทมิฬด้วยตาของตน

ด้านการรบที่ทุ่งคอร์มัลเลน เหล่านกอินทรีและกองทัพมนุษย์แห่งตะวันตกมองเห็นการพินาศของอาณาจักรมอร์ดอร์ แกนดัล์ฟประกาศถึงความสำเร็จของผู้ถือแหวน แล้วขอให้นกอินทรีบินไปยังเมาท์ดูมเพื่อช่วยเหลือผู้ถือแหวนออกมา โฟรโดและแซมได้รับเกียรติอย่างสูง เขาได้พบกับเพื่อนพ้องคณะพันธมิตรแห่งแหวน

ฝ่ายในนครมินัสทิริธ ฟาราเมียร์ได้พบกับเอโอวีนในหออภิบาล โดยมีเมอร์รี่คอยเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเอโอวีนให้ฟาราเมียร์ฟัง ทั้งสองค่อยๆ ตกหลุมรักกันและกัน

แกนดัล์ฟแต่งตั้งให้อารากอร์นขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกอนดอร์ แล้วอารากอร์นจึงตั้งให้ฟาราเมียร์เป็นเจ้าชายแห่งอิธิลิเอน พร้อมทั้งสืบตำแหน่งสจ๊วตแห่งกอนดอร์ด้วย โดยมีเบเรกอนด์เป็นนายทหารเอก จากนั้นแกนดัล์ฟจึงพาอารากอร์นขึ้นไปบนยอดเขามินโดลลูอิน เพื่อค้นหาหน่ออ่อนของ[[พฤกษาขาว]] แล้วนำกลับมาปลูกในนคร

เมื่อถึงวันกลางฤดูร้อน [[เอลรอนด์]] [[กาลาเดรียล]] นำ[[อาร์เวน]] และเอล์ฟจำนวนมากมาเยือนมินัสทิริธ หลังจากนั้นอารากอร์นจึงได้อภิเษกกับอาร์เวน

ชาวคณะทั้งหมดเดินทางขึ้นเหนือไปยังโรฮัน อารากอร์นยึดกุญแจ[[ไอเซนการ์ด]]กลับคืนสู่อาณาจักรกอนดอร์ พวกเขาพบกับ[[ซารูมาน]]และ[[กริม่า เวิร์มทัง|กริม่า]]ที่ยังไม่ยอมกลับใจ ซารูมานยังถึงกับขโมยห่อยาสูบไปจากเมอร์รี่แล้วหนีไป กาลาเดรียลนำเอล์ฟของตนเดินทางข้ามช่องเขาคาราธราสกลับไปยัง[[ลอธลอริเอน]] ส่วนที่เหลือเดินทางกลับไปยัง[[ริเวนเดลล์]] และได้พบกับ[[บิลโบ แบ๊กกิ้นส์|บิลโบ]]อีกครั้ง บัดนี้เขาแก่ลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด

ฮอบบิททั้งสี่เดินทางกลับบ้านพร้อมกับแกนดัล์ฟ เมื่อมาถึง[[เมืองบรี]] ก็ได้ทราบข่าวจากเจ้าของโรงเตี๊ยม[[แพรนซิ่งโพนี่]]ว่าเกิดเหตุวุ่นวายไปทั่วแว่นแคว้น แกนดัล์ฟปลอบใจว่า อารากอร์นกษัตริย์องค์ใหม่ (ซึ่งเจ้าของโรงเตี๊ยมรู้จักในชื่อ 'สไตรเดอร์') จะจัดการนำความสงบมาสู่แผ่นดินโดยเร็ว ทั้งหมดเดินทางต่อมุ่งหน้าสู่ไชร์ แต่แกนดัล์ฟแยกกับพวกเขาที่[[เขาสุสาน]] เพื่อแวะเยี่ยม [[ทอม บอมบาดิล]] แล้วว่าต่อจากนั้นไปฮอบบิททั้งสี่สามารถจัดการกับเรื่องราวในแผ่นดินของตัวเองได้แน่

ฮอบบิททั้งสี่กลับมาถึงไชร์แล้วพบว่า ไชร์ตกอยู่ใต้การปกครองของ โลโธ แซกวิลล์-แบ๊กกิ้นส์ ญาติห่างๆ คนหนึ่งของโฟรโด ที่เป็นหุ่นเชิดของ 'ชาร์กี้' (นั่นคือซารูมาน) พวกเขาไปยังดินแดนของตระกูลตุ๊กซึ่งยังไม่ได้ถูกยึดครองไปทั้งหมด แล้วเมอร์รี่กับปิ๊ปปิ้นจึงเป็นผู้นำกองกำลังกอบกู้ไชร์ เกิด[[การรบที่บายวอเตอร์]] แล้วพวกที่ยอมอยู่ใต้อำนาจมืดก็ถูกขับไล่ออกไป พวกเขาพบซารูมานกับกริม่าที่[[ไชร์|แบ๊กเอนด์]] ซารูมานพยายามฆ่าโฟรโดแต่ไม่สำเร็จเพราะโฟรโดสวมเกราะมิธริล ภายหลังกริม่าจึงสังหารซารูมาน แล้วฆ่าตัวตายด้วยลูกธนูของพวกฮอบบิท เป็นอันสิ้นสุดยุคของสงครามแหวน ที่หน้าประตูแบ๊กเอนด์นั่นเอง

ทั้งหมดช่วยกันฟื้นฟูแคว้นไชร์ แซมพบว่าของขวัญที่เลดี้กาลาเดรียลเคยมอบให้ตนสามารถนำมาช่วยฟื้นฟูผืนดินได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งสามารถปลูกต้น''มัลลอร์น'' ขึ้นที่ไชร์ได้ในที่สุด หลายปีผ่านไป โฟรโดรู้สึกอ่อนล้าและเจ็บปวดกับบาดแผลที่เคยได้รับจากพวก[[ภูตแหวน]] โฟรโดกับแซมไปหากาลาเดรียล เหล่าเอล์ฟ และบิลโบ ที่เดินทางผ่านมาทางไชร์ พวกเขาเดินทางต่อไปจนถึง[[เกรย์เฮเวนส์]]เพื่อพบกับแกนดัล์ฟ เมอร์รี่กับปิ๊ปปิ้นเดินทางตามมาสมทบที่นี่ หลังจากนั้น โฟรโด บิลโบ แกนดัล์ฟ และเหล่าเอล์ฟทั้งหมดก็ออกเดินทางไปยังแดนประจิม ส่วนแซมและเพื่อนก็เดินทางกลับไปยังบ้านของตน


{{LOTR}}

[[หมวดหมู่:นิยายที่แต่งโดยโทลคีน]]
[[หมวดหมู่:นิยายแฟนตาซี]]
[[หมวดหมู่:ลอร์ดออฟเดอะริงส์]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมภาษาอังกฤษ]]
[[หมวดหมู่:วรรณกรรมแปล]]

[[da:Ringenes Herre - Kongen Vender Tilbage]]
[[en:The Return of the King]]
[[it:Il Ritorno del Re (libro)]]
[[la:Regressus Regis]]
[[ja:王の帰還]]
[[no:Atter en konge]]
[[pl:Powrót króla]]
[[sl:Gospodar prstanov: Kraljeva vrnitev]]
[[fi:Taru sormusten herrasta: Kuninkaan paluu]]
[[sv:Sagan om konungens återkomst]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:45, 20 สิงหาคม 2550

ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอนกษัตริย์คืนบัลลังก์ (The Lord of the Rings: The Return of the King) เป็นภาคที่สามของนิยายชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งประพันธ์โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน โดยภาคที่หนึ่งคือตอน มหันตภัยแห่งแหวน ส่วนภาคที่สองคือ หอคอยคู่พิฆาต


ความเป็นมา และข้อมูลการตีพิมพ์

เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งจากบทประพันธ์เรื่อง เดอะฮอบบิท ซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1937 จนทางสำนักพิมพ์ต้องขอให้โทลคีนเขียนนิยายใหม่ส่งมาอีก ในตอนแรกโทลคีนพยายามส่งเรื่อง ซิลมาริลลิออน ที่เป็นผลงานที่เขารักและทุ่มเทประพันธ์มาโดยตลอด ให้สำนักพิมพ์พิจารณา แต่สำนักพิมพ์ไม่ชอบ สำนักพิมพ์บอกว่าผู้อ่านต้องการเรื่อง 'การผจญภัย' และขอให้โทลคีนแต่งภาคต่อของเดอะฮอบบิท แต่โทลคีนไม่ต้องการเขียนเรื่องผจญภัยแบบเด็กๆ แบบนั้นอีก ในที่สุดโทลคีนก็วางโครงเรื่องใหม่ โดยใช้แหวนที่บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ ตัวเอกในเรื่องเดอะฮอบบิท ได้มาด้วยความบังเอิญในระหว่างการเดินทาง มาใช้เป็นแกนของเรื่องใหม่ และนำเอาเรื่องราวตำนานในซิลมาริลลิออน มาเป็นฉากหลังของเรื่อง เขาวางพล็อตให้นิยายเรื่องใหม่มีความจริงจังมากขึ้น จนเมื่อผ่านไป 17 ปี นิยายเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ จึงได้ปรากฏโฉมสู่บรรณพิภพ

ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์ ตีพิมพ์ครั้งแรกในประเทศอังกฤษเมื่อปี ค.ศ. 1955 หลังจากที่ภาคแรกและภาคสองออกสู่บรรณพิภพด้วยความสำเร็จอย่างล้นหลาม ส่วนนิยายฉบับแปลภาษาไทย แปลโดย คุณวัลลี ชื่นยง ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แพรวเยาวชน เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2545