ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 9: | ||
|ฐานันดร = พระองค์เจ้าชั้นเอก |
|ฐานันดร = พระองค์เจ้าชั้นเอก |
||
|ประสูติ = [[11 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2333]] |
|ประสูติ = [[11 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2333]] |
||
|สิ้นพระชนม์ = [[9 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2396]] ( |
|สิ้นพระชนม์ = [[9 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2396]] (62 พรรษา 364 วัน) |
||
|พระอิสริยยศ = สมเด็จพระมหาสมณเจ้า |
|พระอิสริยยศ = สมเด็จพระมหาสมณเจ้า |
||
|พระราชบิดา = |
|พระราชบิดา = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:57, 13 กุมภาพันธ์ 2560
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส | |
---|---|
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า | |
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 7 | |
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2394 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396 |
สมณุตตมาภิเษก | พ.ศ. 2394 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) |
ถัดไป | สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ |
สถิต | วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์จักรี |
ประสูติ | 11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี |
สิ้นพระชนม์ | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396 (62 พรรษา 364 วัน) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
พระมารดา | ท้าวทรงกันดาล (จุ้ย) |
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส[1] เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 7 แห่งอาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราช) และเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่ทรงได้รับสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช นอกจากนี้ยังทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์แรกที่ประสูติกาลในสมัยรัตนโกสินทร์อีกด้วย ทรงสถิต ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงสมณศักดิ์เมื่อปี พ.ศ. 2394 ถึงปี พ.ศ. 2396 รวม 2 พรรษา สิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุได้ 64 พรรษา
พระราชประวัติ
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ประสูติกาลแต่เจ้าจอมมารดาจุ้ย (ต่อมาได้เลื่อนยศเป็นท้าวทรงกันดาล) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 มีพระนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี ผนวชเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุได้ 12พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2345ผนวชเป็นพระภิกษุ แล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงศึกษาหนังสือไทยและภาษาบาลีตลอดทั้งวิชาอื่น ๆ จากสมเด็จพระพนรัตน์ จนมีพระปรีชาสามารถ ทั้งทางคดีโลก และคดีธรรม มีผลงานอันเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงให้รวมวัดในแขวงกรุงเทพมหานคร ขึ้นเป็นคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกลาง แล้วได้สถาปนากรมหมื่นนุชิตชิโนรสให้ดำรงสมณศักดิ์เสมอเจ้าคณะรอง และทรงตั้งเป็นเจ้าคณะกลาง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นนุชิตชิโนรส ขึ้นเป็น กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส (ปัจจุบันกรมสมเด็จพระคือกรมพระยา) ทรงสมณศักดิ์เป็นพระมหาสังฆปริณายก ทั่วพระราชอาณาเขต ให้จัดตั้ง พระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเษก ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามมีทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ คล้ายกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของคณะสงฆ์ไทย
เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชก็ว่างตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อาจจะเนื่องจากไม่มีพระเถระรูปใดมีคุณสมบัติอยู่ในฐานะที่จะทรงสถาปนาตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ ตามพระราชประเพณีนิยมที่มีมาแต่โบราณ พระเถระที่จะทรงตั้งเป็น สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชาคณะ นั้น ก็เฉพาะผู้ทรงคุณสมบัติพิเศษ คือเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นอาจารย์เป็นที่ทรงนับถือเหมือนอย่างพระอุปัชฌาย์ หรือพระอาจารย์ หรือเป็นผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า มีอายุแก่กว่าพระชนมพรรษา
แม้ว่าจะว่างสมเด็จพระสังฆราช แต่การปกครองคณะสงฆ์ก็สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี เนื่องจากแต่โบราณมา พระมหากษัตริย์ทรงถือเป็นพระราชภาระในการปกครองดูแลคณะสงฆ์ โดยมีเจ้านาย หรือขุนนางผู้ใหญ่ในตำแหน่ง เจ้ากรมสังฆการี เป็นผู้กำกับดูแลแทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชมิได้ทรงบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรง ทรงดำรงฐานะปูชนียบุคคล การปกครองในลักษณะนี้ ได้มาเปลี่ยนแปลงไปในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า การเรียกพระนามพระบรมราชวงศ์ซึ่งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลแต่เดิมนั้นเรียกตามพระอิสริยยศแห่งพระบรมราชวงศ์ ไม่ได้เรียกตามสมณศักดิ์ของพระประมุขแห่งสังฆมณฑล คือ "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" หรือที่เรียกอย่างย่อว่า "สมเด็จพระสังฆราช" พระองค์จึงเปลี่ยนคำนำพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลว่า "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า" เพื่อให้ปรากฏพระนามในส่วนสมณศักดิ์ด้วย ดังนั้น จึงเปลี่ยนคำนำพระนามเป็น "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส"[2]
พระอัจฉริยภาพ
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน ในทางอักษรศาสตร์ ก็ได้นิพนธ์เรื่องฉันท์มาตราพฤติ และวรรณพฤติ ตำราโคลงกลบท คำกฤษฎี เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้นิพนธ์บทกวีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ล้วนมีคุณค่าเป็นเพชรน้ำเอกทางวรรณกรรมของไทยตลอดมา
สำหรับวรรณกรรมศาสนา ได้ทรงพระนิพนธ์เรื่องพระปฐมสมโพธิกถา ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก หรือร่ายยาวมหาชาติ ซึ่งนับเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกทางพระพุทธศาสนาในสมัยรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ได้ทรงพระนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ ไว้มากเช่น ลิลิตตะเลงพ่าย พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส เทศนาพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ลิลิตกระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารค และชลมารค เป็นต้น
ในทางพระพุทธศิลป์ ได้ทรงคิดแบบพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงเลือกพระอิริยาบถต่าง ๆ จากพุทธประวัติเป็นจำนวน 37 ปาง เริ่มตั้งแต่ปางบำเพ็ญทุกขกิริยา จนถึงปางห้ามมาร พระพุทธรูปปางต่าง ๆ เหล่านี้
ในปี พ.ศ. 2533 องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสเป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมระดับโลก ประจำปี พ.ศ. 2533 นับเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ได้รับการถวายเกียรตินี้
พระราชนิพนธ์
- สรรพสิทธิคำฉันท์
- สมุทรโฆษคำฉันท์ตอนปลาย
- กฤษณาสอนน้องคำฉันท์
- ฉันท์ดุษฏีสังเวยกล่อมช้างพัง
- กาพย์ขับไม้กล่อมช้างพัง
- ฉันท์มาตราพฤติ
- ฉันท์วรรณพฤติ
- ลิลิตตะเลงพ่าย
- ลิลิตกระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารคและชลมารค
- โคลงยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปฏิสังขรวัดพระเชตุพน
- ร่ายทำขวัญนาค
- เทศน์มหาชาติ ๑๑ กัณฑ์
- ตำราพระพุทธรูปต่างๆ
- ปฐมสมโพธิกถา
- พระธรรมเทศนาพงศาวดากรุงศรีอยุธยา
- ลิลิตจักรทีปนี (เป็นตำราโหราศาสตร์)
- กลอนเพลงยาวเจ้าพระ
- คำฤษฏี (หนังสือรวบรวมศัพท์)
- โคลงเบ็ดเตล็ดต่างๆ เช่น โคลงฤษีดัดตน โคลงภาพต่างภาษา
- ฉันท์สังเวยกลองวินิจฉัยเภรี
- กุรุธรรมชาฏก ฯลฯ
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเศก สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส, เล่ม ๒๗, ตอน ๐ ง , ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๓, หน้า ๒๕๖๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า, เล่ม ๓๘, ตอน ๐ ก ,๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔, หน้า ๑๐
ก่อนหน้า | สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระอริยวงษญาณ สมเด็จพระสังฆราช (นาค) |
ไฟล์:ฉัตรสามชั้น.jpg สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2396) |
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ |