ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดาวมรณะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 14: บรรทัด 14:
ต่อมา ดาวมรณะดวงแรกปรากฏในสภาพเสร็จสมบูรณ์ใน[[สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่]] โดยมีข้าหลวงทาร์คินเป็นผู้บัญชาการ ทางฝ่าย[[พันธมิตรฟื้นฟูสาธารณรัฐ|กบฏ]] ต้องการเอาแผนผังของดาวมรณะให้ได้จึงส่งหน่วยลับที่ชื่อว่าโร้ค วัน (Rogue one) ไปขโมยแผนผังมา หลังจากหนีการตามล่าของจักรวรรดิ ฝ่ายกบฏก็พบว่าดาวมรณะมีจุดอ่อนที่ช่องระบายความร้อนกึ่งกลางดาวมรณะ จึงมีการระเบิดสงครามอวกาศขึ้น โดยดาวมรณะดวงแรกถูกทำลายโดย[[ลุค สกายวอล์คเกอร์]] ก่อนที่ทาร์คินจะสั่งยิงดาวยาวิน 4 ที่ตั้งของกบฏ ทำให้ฝ่ายพันธมิตรกบฏได้รับชัยชนะไป
ต่อมา ดาวมรณะดวงแรกปรากฏในสภาพเสร็จสมบูรณ์ใน[[สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่]] โดยมีข้าหลวงทาร์คินเป็นผู้บัญชาการ ทางฝ่าย[[พันธมิตรฟื้นฟูสาธารณรัฐ|กบฏ]] ต้องการเอาแผนผังของดาวมรณะให้ได้จึงส่งหน่วยลับที่ชื่อว่าโร้ค วัน (Rogue one) ไปขโมยแผนผังมา หลังจากหนีการตามล่าของจักรวรรดิ ฝ่ายกบฏก็พบว่าดาวมรณะมีจุดอ่อนที่ช่องระบายความร้อนกึ่งกลางดาวมรณะ จึงมีการระเบิดสงครามอวกาศขึ้น โดยดาวมรณะดวงแรกถูกทำลายโดย[[ลุค สกายวอล์คเกอร์]] ก่อนที่ทาร์คินจะสั่งยิงดาวยาวิน 4 ที่ตั้งของกบฏ ทำให้ฝ่ายพันธมิตรกบฏได้รับชัยชนะไป


หลังจากดาวมรณะดวงแรกถูกทำลาย จักรพรรดิพัลพาทีนจึงสั่งให้สร้างดาวมรณะดวงที่สองขึ้น โดยสร้างใกล้ดวงจันทร์เอนดอร์และสร้างเครื่องสร้างสนามพลังบนดวงจันทร์เอนดอร์เพื่อป้องกันฝ่ายกบฏ แต่สุดท้ายใน[[สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได]] ดาวมรณะดวงที่สองก็ถูกทำลายโดย [[ซิทหลอด ตี๋|แลนโด้ คาลริสเซียน๋]] และ[[ดาททิพาพัน|เวดจ์ แอนทิลลิส]][[เจไดมาสเตอร์ คิว|ิของว]] พันธมิตรฝ่ายกบฏ นับว่าเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิเอมไพร์อย่างแท้จริง
หลังจากดาวมรณะดวงแรกถูกทำลาย จักรพรรดิพัลพาทีนจึงสั่งให้สร้างดาวมรณะดวงที่สองขึ้น โดยสร้างใกล้ดวงจันทร์เอนดอร์และสร้างเครื่องสร้างสนามพลังบนดวงจันทร์เอนดอร์เพื่อป้องกันฝ่ายกบฏ แต่สุดท้ายใน[[สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได]] ดาวมรณะดวงที่สองก็ถูกทำลายโดย [[ซิทหลอด ตี๋|แลนโด้ คาลริสเซียน]] และ [[ดาททิพาพัน|เวดจ์ แอนทิลลิส]] ของพันธมิตรฝ่ายกบฏ นับว่าเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิเอมไพร์อย่างแท้จริง


ดาวมรณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ถึง 265,675 คน ยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย ทหารปีนใหญ่ 52,276 คน, ทหาร 607,360 คน, กองพันพายุ 30,984 คน, เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยานรบ 42,782 คน, และนักบินและเจ้าหน้าที่เสริม 180,216 คน โรงเก็บยานของดาวมรณะมีตั้งแต่ยานรบ, ยานประจัญบาญ, ยานบก, ยานกองหนุน, และ ยาน TIE fighters 7,293 ลำ นอกจากนั้นยังมีระบบป้องกันโดยมีปืน turbolaser 10,000 กระบอก, ปืนใหญ่อิออน 2,600 กระบอก และลำแสง tractor อย่างน้อย 768 เครื่อง ดาวมรณะทั้งสองดวงจะมีซูเปอร์เลเซอร์ทำลายล้างสูงซึ่งสามารถทำลายดาวเคราะห์ได้ทั้งดวง ข้อมูลจาก Star Wars Databank กล่าวว่าดาวมรณะดวงแรกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตร ส่วนดาวมรณะดวงที่สองมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 160 กิโลเมตร
ดาวมรณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ถึง 265,675 คน ยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย ทหารปีนใหญ่ 52,276 คน, ทหาร 607,360 คน, กองพันพายุ 30,984 คน, เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยานรบ 42,782 คน, และนักบินและเจ้าหน้าที่เสริม 180,216 คน โรงเก็บยานของดาวมรณะมีตั้งแต่ยานรบ, ยานประจัญบาญ, ยานบก, ยานกองหนุน, และ ยาน TIE fighters 7,293 ลำ นอกจากนั้นยังมีระบบป้องกันโดยมีปืน turbolaser 10,000 กระบอก, ปืนใหญ่อิออน 2,600 กระบอก และลำแสง tractor อย่างน้อย 768 เครื่อง ดาวมรณะทั้งสองดวงจะมีซูเปอร์เลเซอร์ทำลายล้างสูงซึ่งสามารถทำลายดาวเคราะห์ได้ทั้งดวง ข้อมูลจาก Star Wars Databank กล่าวว่าดาวมรณะดวงแรกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตร ส่วนดาวมรณะดวงที่สองมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 160 กิโลเมตร

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:43, 21 มกราคม 2560

ดาวมรณะ (ดวงแรก) จากสตาร์ วอร์สภาคความหวังใหม่
ซ้าย:จักรพรรดิพัลพาทีน ขวา:ดาร์ธ เวเดอร์ ขณะชมดาวมรณะขณะกำลังก่อสร้าง ในสตาร์ วอร์สภาคซิธชำระแค้น
ไฟล์:DeathStar2.jpg
ดาวมรณะดวงที่สองขณะทำการก่อสร้าง จากสตาร์ วอร์สภาคการกลับมาของเจได

ดาวมรณะ หรือ เดธสตาร์ (อังกฤษ: Death Star) เป็นสถานีรบอวกาศขนาดยักษ์ในนิยายและภาพยนตร์ชุดสตาร์ วอร์ส ตลอดทั้งเรื่องชุดนี้มีการสร้างสถานีอวกาศนี้ออกมาทั้งหมดสองรุ่น ทั้งสองรุ่นมีขนาดใหญ่มาก มีรัศมีเป็นร้อย ๆ กิโลเมตร และมีอาวุธทรงพลังจำนวนมาก โดยดาวมรณะดวงแรกปรากฏในสตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ ส่วนดาวมรณะดวงที่สองซึ่งอยู่ในสถานะก่อสร้าง ปรากฏในสตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได โมเดลของจริงของดาวมรณะมีขนาดประมาณ 76 เซนติเมตรตอนนี้ถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑสถานนิยายวิทยาศาสตร์ในซีแอตเติล

ดาวมรณะถูกสร้างขึ้นจากคำสั่งตรงของจักรพรรดิ แต่แนวคิดหลักของสถานีรบอวกาศเช่นนี้มีตั้งแต่ก่อนเกิดสงครามโคลนเสียอีก จุดประสงค์หลักอันหนึ่งในการสร้างดาวมรณะนั้นก็เพื่อให้จักรพรรดิพัลพาทีนสามารถปกครองจักรวรรดิกาแลกติกได้โดยการสร้างความกลัวที่เป็นรูปธรรมขึ้น ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งบัญชาการดาวมรณะจะต้องเป็นขุนนางที่มียศไม่ต่ำกว่าระดับมอฟฟ์

นั่นไม่ใช่ดวงจันทร์ นั่นมันสถานีอวกาศ"
"มันใหญ่เกินไปที่จะเป็นสถานีอวกาศ

— โอบีวัน เคโนบี และ ฮัน โซโล, สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่

ประวัติดาวมรณะ

ดาวมรณะดวงแรกนั้น ปรากฏเป็นแผนผังครั้งแรกใน สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 2: กองทัพโคลนส์จู่โจม (ถ้าถือตามเนื้อเรื่อง) โดยแผนผังนั้นอยู่ในกำมือของ เคานท์ดูกู และภายหลังปรากฏในสตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3: ซิธชำระแค้น ในสถานะก่อสร้าง

ต่อมา ดาวมรณะดวงแรกปรากฏในสภาพเสร็จสมบูรณ์ในสตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 4: ความหวังใหม่ โดยมีข้าหลวงทาร์คินเป็นผู้บัญชาการ ทางฝ่ายกบฏ ต้องการเอาแผนผังของดาวมรณะให้ได้จึงส่งหน่วยลับที่ชื่อว่าโร้ค วัน (Rogue one) ไปขโมยแผนผังมา หลังจากหนีการตามล่าของจักรวรรดิ ฝ่ายกบฏก็พบว่าดาวมรณะมีจุดอ่อนที่ช่องระบายความร้อนกึ่งกลางดาวมรณะ จึงมีการระเบิดสงครามอวกาศขึ้น โดยดาวมรณะดวงแรกถูกทำลายโดยลุค สกายวอล์คเกอร์ ก่อนที่ทาร์คินจะสั่งยิงดาวยาวิน 4 ที่ตั้งของกบฏ ทำให้ฝ่ายพันธมิตรกบฏได้รับชัยชนะไป

หลังจากดาวมรณะดวงแรกถูกทำลาย จักรพรรดิพัลพาทีนจึงสั่งให้สร้างดาวมรณะดวงที่สองขึ้น โดยสร้างใกล้ดวงจันทร์เอนดอร์และสร้างเครื่องสร้างสนามพลังบนดวงจันทร์เอนดอร์เพื่อป้องกันฝ่ายกบฏ แต่สุดท้ายในสตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 6: การกลับมาของเจได ดาวมรณะดวงที่สองก็ถูกทำลายโดย แลนโด้ คาลริสเซียน และ เวดจ์ แอนทิลลิส ของพันธมิตรฝ่ายกบฏ นับว่าเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิเอมไพร์อย่างแท้จริง

ดาวมรณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ถึง 265,675 คน ยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย ทหารปีนใหญ่ 52,276 คน, ทหาร 607,360 คน, กองพันพายุ 30,984 คน, เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยานรบ 42,782 คน, และนักบินและเจ้าหน้าที่เสริม 180,216 คน โรงเก็บยานของดาวมรณะมีตั้งแต่ยานรบ, ยานประจัญบาญ, ยานบก, ยานกองหนุน, และ ยาน TIE fighters 7,293 ลำ นอกจากนั้นยังมีระบบป้องกันโดยมีปืน turbolaser 10,000 กระบอก, ปืนใหญ่อิออน 2,600 กระบอก และลำแสง tractor อย่างน้อย 768 เครื่อง ดาวมรณะทั้งสองดวงจะมีซูเปอร์เลเซอร์ทำลายล้างสูงซึ่งสามารถทำลายดาวเคราะห์ได้ทั้งดวง ข้อมูลจาก Star Wars Databank กล่าวว่าดาวมรณะดวงแรกมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตร ส่วนดาวมรณะดวงที่สองมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 160 กิโลเมตร

ผลกระทบ

คำร้องถึงทำเนียบขาว

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ได้มีผู้เสนอคำร้องต่อทำเนียบขาวแบบออนไลน์ผ่านทาง https://petitions.whitehouse.gov เพื่อให้มีการเริ่มสร้างดาวมรณะใน พ.ศ. 2559 โดยอ้างว่าจะเป็นการสร้างโอกาสในการสำรวจจักรวาล พัฒนาความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ เสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพ และสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน ภายหลังจากการเสนอนี้มีผู้ร่วมลงชื่อมากกว่า 25,000 คน ซึ่งมากจนถึงเกณฑ์ที่ทางทำเนียบขาวจะต้องให้การตอบรับกับเรื่องที่เสนอดังกล่าว ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ทางทำเนียบขาวจึงได้ตอบรับกลับมาว่าไม่สามารถทำได้[1] เนื่องจากค่าใช้จ่ายประมาณในการสร้างดาวมรณะอาจสูงถึง 850,000,000,000,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ[2] และยังติดตลกด้วยการกล่าวเสริมว่า "ไม่สนับสนุนการทำลายดาวเคราะห์" และ "ไม่ต้องการสร้างดาวมรณะซึ่งสามารถถูกทำลายได้โดยนักบินอวกาศเพียงคนเดียว"[1][3][4]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 Shawcross, Paul (January 11, 2013). "This Isn't the Petition Response You're Looking For". Wired (magazine). สืบค้นเมื่อ January13, 2013. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. http://www4.lehigh.edu/business/about/deathstar.aspx
  3. "It's a trap! Petition to build Death Star will spark White House response".
  4. "US shoots down Death Star superlaser petition".

แหล่งข้อมูลอื่น