ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส"
ล Potapt ย้ายหน้า เฮเก คาเมอร์ลินจ์ ออเนส ไปยัง ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 41: | บรรทัด 41: | ||
'''ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส''' ({{lang-nl|Heike Kamerlingh Onnes}}; [[21 กันยายน]] [[ค.ศ. 1853]] – [[21 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1926]]) เป็น[[นักฟิสิกส์]][[ชาวดัตช์]] เกิดที่เมือง[[โครนิงเงิน (เมือง)|โครนิงเงิน]] เป็นบุตรของฮาร์ม กาเมอร์ลิง โอนเนิส และอันนา แกร์ดีนา กูร์ส<ref name="nobel">{{cite web|url=http://www.nobelprize.org/nobel_prizes/physics/laureates/1913/onnes-bio.html|title=The Nobel Prize in Physics 1913: Heike Kamerlingh Onnes|publisher=Nobel Media AB|accessdate=24 April 2012}}</ref> มีน้องชายและน้องสาวชื่อแม็นโซและแจ็นนีตามลำดับ ในปี ค.ศ. 1870 กาเมอร์ลิง โอนเนิสเข้าเรียนที่[[มหาวิทยาลัยโครนิงเงิน]]และเรียนกับ[[รอแบร์ต บุนเซิน]] และ[[กุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์]]ที่[[มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์ก]]ระหว่างปี ค.ศ. 1871–1873 ต่อมาเขาเรียนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโครนิงเงินและเป็นผู้ช่วย[[โยฮันเนิส โบสส์คา]] ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างแด็ลฟต์<ref>{{cite web|url=http://www.encyclopedia.com/people/science-and-technology/physics-biographies/heike-kamerlingh-onnes|title=Heike Kamerlingh Onnes - Biography|website=Encyclopedia.com|accessdate=December 17, 2016}}</ref> (ปัจจุบันคือ[[มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแด็ลฟต์]]) |
'''ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส''' ({{lang-nl|Heike Kamerlingh Onnes}}; [[21 กันยายน]] [[ค.ศ. 1853]] – [[21 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1926]]) เป็น[[นักฟิสิกส์]][[ชาวดัตช์]] เกิดที่เมือง[[โครนิงเงิน (เมือง)|โครนิงเงิน]] เป็นบุตรของฮาร์ม กาเมอร์ลิง โอนเนิส และอันนา แกร์ดีนา กูร์ส<ref name="nobel">{{cite web|url=http://www.nobelprize.org/nobel_prizes/physics/laureates/1913/onnes-bio.html|title=The Nobel Prize in Physics 1913: Heike Kamerlingh Onnes|publisher=Nobel Media AB|accessdate=24 April 2012}}</ref> มีน้องชายและน้องสาวชื่อแม็นโซและแจ็นนีตามลำดับ ในปี ค.ศ. 1870 กาเมอร์ลิง โอนเนิสเข้าเรียนที่[[มหาวิทยาลัยโครนิงเงิน]]และเรียนกับ[[รอแบร์ต บุนเซิน]] และ[[กุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์]]ที่[[มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์ก]]ระหว่างปี ค.ศ. 1871–1873 ต่อมาเขาเรียนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโครนิงเงินและเป็นผู้ช่วย[[โยฮันเนิส โบสส์คา]] ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างแด็ลฟต์<ref>{{cite web|url=http://www.encyclopedia.com/people/science-and-technology/physics-biographies/heike-kamerlingh-onnes|title=Heike Kamerlingh Onnes - Biography|website=Encyclopedia.com|accessdate=December 17, 2016}}</ref> (ปัจจุบันคือ[[มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแด็ลฟต์]]) |
||
ระหว่างปี ค.ศ. 1882–1923 กาเมอร์ลิง โอนเนิสดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ทดลองที่[[มหาวิทยาลัยไลเดิน]] ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 เขาก่อตั้งห้องปฏิบัติการด้านไครโอจีนิกส์และเชิญนักวิจัยหลายท่านมาร่วมงาน ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1908 กาเมอร์ลิง โอนเนิสประสบความสำเร็จในการสร้าง[[ฮีเลียมเหลว]]จากการศึกษา[[วัฏจักรแฮมป์สัน–ลินด์]]และ[[ปรากฏการณ์จูล–ทอมสัน]] เขาสามารถลดอุณหภูมิจนถึงจุดเดือดของฮีเลียม (−269 °ซ, 4.2 เคลวิน) และเมื่อลดความดันของฮีเลียมเหลว กาเมอร์ลิง โอนเนิสสามารถลดอุณหภูมิได้เกือบถึง 1.5 เคลวิน (-271.65 °ซ) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในโลกในขณะนั้น ปัจจุบัน |
ระหว่างปี ค.ศ. 1882–1923 กาเมอร์ลิง โอนเนิสดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ทดลองที่[[มหาวิทยาลัยไลเดิน]] ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 เขาก่อตั้งห้องปฏิบัติการด้านไครโอจีนิกส์และเชิญนักวิจัยหลายท่านมาร่วมงาน ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1908 กาเมอร์ลิง โอนเนิสประสบความสำเร็จในการสร้าง[[ฮีเลียมเหลว]]จากการศึกษา[[วัฏจักรแฮมป์สัน–ลินด์]]และ[[ปรากฏการณ์จูล–ทอมสัน]] เขาสามารถลดอุณหภูมิจนถึงจุดเดือดของฮีเลียม (−269 °ซ, 4.2 เคลวิน) และเมื่อลดความดันของฮีเลียมเหลว กาเมอร์ลิง โอนเนิสสามารถลดอุณหภูมิได้เกือบถึง 1.5 เคลวิน (-271.65 °ซ) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในโลกในขณะนั้น ปัจจุบันอุปกรณ์ที่โอนเนิสใช้สร้างฮีเลียมเหลวเป็นครั้งแรกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บูร์ฮาเฟอที่เมือง[[ไลเดิน]]<ref name="nobel"/> |
||
ต่อมาในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1911 กาเมอร์ลิง โอนเนิสพบว่าที่อุณหภูมิ 4.2 เคลวิน (-268.95 °ซ) ความต้านทานไฟฟ้าในสายปรอทในฮีเลียมเหลวมีค่าเป็นศูนย์ เขาจึงตระหนักว่าความต้านทานไฟฟ้าจะลดลงเมื่ออุณหภูมิต่ำลง<ref>van Delft, Dirk (2007) [http://www.dwc.knaw.nl/wp-content/HSSN/2007-10-Van%20Delft-Freezing%20Physics.pdf ''Freezing physics, Heike Kamerlingh Onnes and the quest for cold''], Edita, Amsterdam, ISBN 9069845199.</ref> และตีพิมพ์งานวิจัยหลายชิ้นโดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "[[สภาพนำยวดยิ่ง]]" (superconductivity) ในปี ค.ศ. 1913 กาเมอร์ลิง โอนเนิสได้รับ[[รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์]]จากการศึกษาคุณสมบัติของสารที่อุณหภูมิต่ำและการสร้างฮีเลียมเหลว<ref>{{cite web|url=https://www.nobelprize.org/nobel_prizes/physics/laureates/1913/|title=The Nobel Prize in Physics 1913|website=Nobelprize.org|accessdate=December 17, 2016}}</ref> |
ต่อมาในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1911 กาเมอร์ลิง โอนเนิสพบว่าที่อุณหภูมิ 4.2 เคลวิน (-268.95 °ซ) ความต้านทานไฟฟ้าในสายปรอทในฮีเลียมเหลวมีค่าเป็นศูนย์ เขาจึงตระหนักว่าความต้านทานไฟฟ้าจะลดลงเมื่ออุณหภูมิต่ำลง<ref>van Delft, Dirk (2007) [http://www.dwc.knaw.nl/wp-content/HSSN/2007-10-Van%20Delft-Freezing%20Physics.pdf ''Freezing physics, Heike Kamerlingh Onnes and the quest for cold''], Edita, Amsterdam, ISBN 9069845199.</ref> และตีพิมพ์งานวิจัยหลายชิ้นโดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "[[สภาพนำยวดยิ่ง]]" (superconductivity) ในปี ค.ศ. 1913 กาเมอร์ลิง โอนเนิสได้รับ[[รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์]]จากการศึกษาคุณสมบัติของสารที่อุณหภูมิต่ำและการสร้างฮีเลียมเหลว<ref>{{cite web|url=https://www.nobelprize.org/nobel_prizes/physics/laureates/1913/|title=The Nobel Prize in Physics 1913|website=Nobelprize.org|accessdate=December 17, 2016}}</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:43, 20 ธันวาคม 2559
ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส | |
---|---|
เกิด | ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส 21 กันยายน ค.ศ. 1853 โครนิงเงิน เนเธอร์แลนด์ |
เสียชีวิต | 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1926 ไลเดิน เนเธอร์แลนด์ | (72 ปี)
สัญชาติ | ดัตช์ |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์ก มหาวิทยาลัยโครนิงเงิน |
มีชื่อเสียงจาก |
|
รางวัล |
|
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ฟิสิกส์ |
สถาบันที่ทำงาน | มหาวิทยาลัยไลเดิน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแด็ลฟต์ |
อาจารย์ที่ปรึกษา | รอแบร์ต บุนเซิน กุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์ โยฮันเนิส โบสส์คา |
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก |
ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส (ดัตช์: Heike Kamerlingh Onnes; 21 กันยายน ค.ศ. 1853 – 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1926) เป็นนักฟิสิกส์ชาวดัตช์ เกิดที่เมืองโครนิงเงิน เป็นบุตรของฮาร์ม กาเมอร์ลิง โอนเนิส และอันนา แกร์ดีนา กูร์ส[2] มีน้องชายและน้องสาวชื่อแม็นโซและแจ็นนีตามลำดับ ในปี ค.ศ. 1870 กาเมอร์ลิง โอนเนิสเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโครนิงเงินและเรียนกับรอแบร์ต บุนเซิน และกุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์ที่มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์กระหว่างปี ค.ศ. 1871–1873 ต่อมาเขาเรียนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโครนิงเงินและเป็นผู้ช่วยโยฮันเนิส โบสส์คา ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างแด็ลฟต์[3] (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแด็ลฟต์)
ระหว่างปี ค.ศ. 1882–1923 กาเมอร์ลิง โอนเนิสดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ทดลองที่มหาวิทยาลัยไลเดิน ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 เขาก่อตั้งห้องปฏิบัติการด้านไครโอจีนิกส์และเชิญนักวิจัยหลายท่านมาร่วมงาน ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1908 กาเมอร์ลิง โอนเนิสประสบความสำเร็จในการสร้างฮีเลียมเหลวจากการศึกษาวัฏจักรแฮมป์สัน–ลินด์และปรากฏการณ์จูล–ทอมสัน เขาสามารถลดอุณหภูมิจนถึงจุดเดือดของฮีเลียม (−269 °ซ, 4.2 เคลวิน) และเมื่อลดความดันของฮีเลียมเหลว กาเมอร์ลิง โอนเนิสสามารถลดอุณหภูมิได้เกือบถึง 1.5 เคลวิน (-271.65 °ซ) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในโลกในขณะนั้น ปัจจุบันอุปกรณ์ที่โอนเนิสใช้สร้างฮีเลียมเหลวเป็นครั้งแรกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บูร์ฮาเฟอที่เมืองไลเดิน[2]
ต่อมาในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1911 กาเมอร์ลิง โอนเนิสพบว่าที่อุณหภูมิ 4.2 เคลวิน (-268.95 °ซ) ความต้านทานไฟฟ้าในสายปรอทในฮีเลียมเหลวมีค่าเป็นศูนย์ เขาจึงตระหนักว่าความต้านทานไฟฟ้าจะลดลงเมื่ออุณหภูมิต่ำลง[4] และตีพิมพ์งานวิจัยหลายชิ้นโดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "สภาพนำยวดยิ่ง" (superconductivity) ในปี ค.ศ. 1913 กาเมอร์ลิง โอนเนิสได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์จากการศึกษาคุณสมบัติของสารที่อุณหภูมิต่ำและการสร้างฮีเลียมเหลว[5]
ด้านชีวิตส่วนตัว กาเมอร์ลิง โอนเนิสแต่งงานกับมารียา อาดรียานา วิลเฮลมีนา เอลีซาเบต ไบเลอเฟลด์ในปี ค.ศ. 1887 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 1 คน[6] กาเมอร์ลิง โอนเนิสเสียชีวิตที่เมืองไลเดินในปี ค.ศ. 1926 ต่อมาชื่อเขาได้รับการนำไปตั้งเป็นชื่อแอ่งดวงจันทร์[7]
อ้างอิง
- ↑ Howard, Irmgard (2002). "H Is for Enthalpy, Thanks to Heike Kamerlingh Onnes and Alfred W. Porter". Journal of Chemical Education. ACS Publications. 79 (6): 697. Bibcode:2002JChEd..79..697H. doi:10.1021/ed079p697.
- ↑ 2.0 2.1 "The Nobel Prize in Physics 1913: Heike Kamerlingh Onnes". Nobel Media AB. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012.
- ↑ "Heike Kamerlingh Onnes - Biography". Encyclopedia.com. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
- ↑ van Delft, Dirk (2007) Freezing physics, Heike Kamerlingh Onnes and the quest for cold, Edita, Amsterdam, ISBN 9069845199.
- ↑ "The Nobel Prize in Physics 1913". Nobelprize.org. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
- ↑ "Heike Kamerlingh Onnes - Biography". NNDB. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
- ↑ "Kamerlingh Onnes - The-Moon Wiki". Wikispaces. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส
- "Heike Kamerlingh Onnes Facts - Biography". YourDictionary.