ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระสุธรรมยานเถร (อินถา อินฺทจกฺโก)"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) หน้าใหม่: '''พระสุธรรมยานเถร''' หรือ '''ครูบาอินทจักรรักษา''' เป็นพระราชาคณ... |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{กล่องข้อมูล พระสงฆ์ไทย |
|||
|ชื่อ = อินถา |
|||
|ชื่อภาพ = |
|||
|ฉายา = อินฺทจกฺโก |
|||
|ชื่อทั่วไป = ครูบาอินทจักร |
|||
|สมณศักดิ์ =พระสุธรรมยานเถร |
|||
|วันเกิด = 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 |
|||
|วันบวชเณร =มีนาคม พ.ศ. 2445 |
|||
|วันบวช = 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2457 |
|||
|วันตาย = 17 มกราคม พ.ศ. 2521 |
|||
|พรรษา = 62 |
|||
|อายุ = {{อายุปีและวัน|2439|11|2|2521|1|17}} |
|||
|วัด = วัดน้ำบ่อหลวง |
|||
|จังหวัด = เชียงใหม่ |
|||
|สังกัด = [[มหานิกาย]] |
|||
|วุฒิ = [[นักธรรมชั้นตรี]] |
|||
|ตำแหน่ง = |
|||
|รางวัล = |
|||
|ลิขิต = |
|||
}} |
|||
'''พระสุธรรมยานเถร''' หรือ '''ครูบาอินทจักรรักษา''' เป็น[[พระราชาคณะ]]ฝ่าย[[วิปัสสนาธุระ]] อดีต[[เจ้าอาวาส]]วัดน้ำบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่ |
'''พระสุธรรมยานเถร''' หรือ '''ครูบาอินทจักรรักษา''' เป็น[[พระราชาคณะ]]ฝ่าย[[วิปัสสนาธุระ]] อดีต[[เจ้าอาวาส]]วัดน้ำบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่ |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
=== วัยเยาว์ === |
=== วัยเยาว์ === |
||
พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักร มีนามเดิมว่า อินถา พิมสาร เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าแพ่ง ตำบลแม่แรง [[อำเภอป่าซาง]] [[จังหวัดลำพูน]] เป็นบุตรของนายเป็งและนางสาร พิมสาร มีพี่น้องรวมทั้งหมด 13 คน ท่านเป็นคนที่ 6 [[พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)]] เป็นคนที่ 7 และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) เป็นคนที่ 8 โยมบิดามารดาของท่านเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ทำวัตร ทำสมาธิ เดินจงกรม เป็นประจำและได้ปลูกฝังบุตรธิดาทุกคนให้ปฏิบัติตาม<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 69</ref> |
พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักร มีนามเดิมว่า '''อินถา พิมสาร''' เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าแพ่ง ตำบลแม่แรง [[อำเภอป่าซาง]] [[จังหวัดลำพูน]] เป็นบุตรของนายเป็งและนางสาร พิมสาร มีพี่น้องรวมทั้งหมด 13 คน ท่านเป็นคนที่ 6 [[พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)]] เป็นคนที่ 7 และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) เป็นคนที่ 8 โยมบิดามารดาของท่านเป็น[[พุทธศาสนิกชน]]ที่เคร่งครัด ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ทำวัตร ทำสมาธิ เดินจงกรม เป็นประจำและได้ปลูกฝังบุตรธิดาทุกคนให้ปฏิบัติตาม<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 69</ref> |
||
=== อุปสมบท === |
=== อุปสมบท === |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 31: | ||
=== ธุดงค์ === |
=== ธุดงค์ === |
||
ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่ว[[จังหวัดเชียงใหม่]]และ[[แม่ฮ่องสอน]] เข้า[[ประเทศพม่า]] แล้วกลับเข้าประเทศไทยทาง[[จังหวัดเชียงราย]] แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง 16 ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 81</ref> |
ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่ว[[จังหวัดเชียงใหม่]]และ[[จังหวัดแม่ฮ่องสอน]] เข้า[[ประเทศพม่า]] แล้วกลับเข้าประเทศไทยทาง[[จังหวัดเชียงราย]] แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง 16 ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 81</ref> |
||
=== ศาสนกิจ === |
=== ศาสนกิจ === |
||
ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 81</ref> |
ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 81</ref> |
||
เมื่อ[[วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร]]เปิดสอน[[วิปัสสนา]][[กรรมฐาน]]แบบ[[สติปัฏฐาน 4]] (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมี[[พระธรรม |
เมื่อ[[วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร]]เปิดสอน[[วิปัสสนา]][[กรรมฐาน]]แบบ[[สติปัฏฐาน 4]] (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมี[[พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)]] เป็นผู้สอน เมื่อกลับมาวัดน้ำบ่อหลวง ท่านก็ได้นำวิธีการเจริญวิปัสสนานั้นมาเผยแผ่แก่ประชาชน วัดน้ำบ่อหลวงจึงเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานมานับแต่นั้น<ref>''วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด'', หน้า 82-83</ref> |
||
== สมณศักดิ์ == |
== สมณศักดิ์ == |
||
บรรทัด 48: | บรรทัด 68: | ||
{{อายุขัย|2439|2521}} |
{{อายุขัย|2439|2521}} |
||
[[หมวดหมู่:ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย]] |
[[หมวดหมู่:ภิกษุในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย]] |
||
[[หมวดหมู่:พระราชาคณะชั้นสามัญ]] |
|||
[[หมวดหมู่:เจ้าอาวาส]] |
[[หมวดหมู่:เจ้าอาวาส]] |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดลำพูน]] |
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดลำพูน]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:19, 10 ธันวาคม 2559
พระสุธรรมยานเถร (อินถา อินฺทจกฺโก) | |
---|---|
ชื่ออื่น | ครูบาอินทจักร |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 (81 ปี 76 วัน ปี) |
มรณภาพ | 17 มกราคม พ.ศ. 2521 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นตรี |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่ |
บรรพชา | มีนาคม พ.ศ. 2445 |
อุปสมบท | 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2457 |
พรรษา | 62 |
พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักรรักษา เป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระ อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำบ่อหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติ
วัยเยาว์
พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักร มีนามเดิมว่า อินถา พิมสาร เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าแพ่ง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของนายเป็งและนางสาร พิมสาร มีพี่น้องรวมทั้งหมด 13 คน ท่านเป็นคนที่ 6 พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) เป็นคนที่ 7 และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) เป็นคนที่ 8 โยมบิดามารดาของท่านเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ทำวัตร ทำสมาธิ เดินจงกรม เป็นประจำและได้ปลูกฝังบุตรธิดาทุกคนให้ปฏิบัติตาม[1]
อุปสมบท
ครูบาอินทจักรได้ขออนุญาตมารดาบิดาบวชเป็นเณร บิดาจึงพาท่านมาฝากเป็นศิษย์พระอธิการแก้ว ขตฺติโย เจ้าอาวาสวัดป่าเหียง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน และได้บรรพชาเป็นสามเณรในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2445 เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมทั้งฝ่ายปริยัติและปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเรียนสายสามัญจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2457 ณ วัดป่าเหียง โดยพระอุปัชฌาย์รูปเดิม พระฮอม โพธาโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสม สุรินฺโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า อินฺทจกฺโก หลังบวชท่านยังคงช่วยสอนพระธรรมในวัด จนกระทั่งเห็นว่าควรปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งความหลุดพ้น จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์โดยมีครูบาพรหมา น้องชาย ติดตามไปด้วย[3]
ธุดงค์
ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่วจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าประเทศพม่า แล้วกลับเข้าประเทศไทยทางจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง 16 ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร[4]
ศาสนกิจ
ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด[5]
เมื่อวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานแบบสติปัฏฐาน 4 (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) เป็นผู้สอน เมื่อกลับมาวัดน้ำบ่อหลวง ท่านก็ได้นำวิธีการเจริญวิปัสสนานั้นมาเผยแผ่แก่ประชาชน วัดน้ำบ่อหลวงจึงเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานมานับแต่นั้น[6]
สมณศักดิ์
- พ.ศ. 2493 เป็นพระครูประทวนสมณศักดิ์
- พ.ศ. 2498 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทที่ พระครูวนาภิราม
- พ.ศ. 2512 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอกที่ พระครูภาวนาภิรัต
- พ.ศ. 2516 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษในราชทินนามเดิม
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2520 เป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระที่ พระสุธรรมยานเถร[7]
การอาพาธและมรณภาพ
วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2513 ครูบาอินทจักรถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแมคคอร์มิคกระทันหันเพราะอาการกระดูกสันหลังอักเสบ ถึงวันที่ 23 มกราคม ปีถัดมาอาการทรุดหนักลงอีก จนแพทย์วินิจฉัยว่าท่านจะมรณภาพราวตี 2 แต่พอถึงรุ่งเช้าของวันที่ 24 มกราคมท่านกลับทุเลาลงจนหายอาพาธในเดือนกุมภาพันธ์ จึงกลับวัดและปฏิบัติศาสนกิจดังเดิม[8]
หลังจากได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ท่านกลับอาพาธอีก และถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2521 เวลา 22.20 น. สิริอายุได้ 81 ปี 76 วัน พรรษา 62 ได้รับพระราชทานเพลิงเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2524 โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม จนฺทสิริ) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลอากาศเอกหะริน หงสกุล เป็นประธานฝ่ายฆราวาสผู้อัญเชิญเพลิงพระราชทาน[9]
ศิษย์ที่มีชื่อเสียง
- พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)
- พระธรรมมังคลาจารย์ (ทอง สิริมงฺคโล)
- พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 69
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 71
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 75
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 81
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 81
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 82-83
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์, เล่ม 95, ตอนที่ 34 ง ฉบับพิเศษ, 27 มีนาคม 2521, หน้า 5
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 85
- ↑ วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด, หน้า 86-87
- บรรณานุกรม
- พระมหาศรัญญู ปญฺญาธโร, พระสุธรรมยานเถร (ครูบาอินทจักรรักษา): สงฆ์ผู้นำในการบูรณะวัดน้ำบ่อหลวง. วัดน้ำบ่อหลวง (วนาราม) : สมบัติวัด ศรัทธาวัด. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2556. 270 หน้า. หน้า 67-108. ISBN 978-974-672-821-8