ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมชาย แสวงการ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 27: บรรทัด 27:


== การทำงาน ==
== การทำงาน ==
สมชาย ทำงานเป็นบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สายการเมือง และสายทหาร ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนกระทั่งเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ไอ.เอ็น.เอ็น.กรุ๊ป ร่วมกับนายสนธิญาณ หนูแก้ว (สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม) ที่ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกลุ่มบริษัทยูคอม (1) เป็นผู้ผลิตรายการร่วมด้วยช่วยกัน ได้รับสิทธิจากหน่วยบัญชาการกำลังสำรองในการเข้ามาบริหารและผลิตรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ธันวาคม 2540 เป็นต้นมา ปัจจุบันวิทยุร่วมด้วยช่วยกันยังคงออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมรักษาดินแดน เอฟเอ็ม 96 เมกกะเฮิร์ซ (2) เป็นเจ้าของสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ทำธุรกิจสำนักข่าว ผลิตข่าวและรายการวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้สมชายยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 2 สมัยติดต่อกัน
สมชาย ทำงานเป็นบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สายการเมือง และสายทหาร ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนกระทั่งเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ไอ.เอ็น.เอ็น.กรุ๊ป ร่วมกับนายสนธิญาณ หนูแก้ว (สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม) ที่ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกลุ่มบริษัทยูคอม (1) เป็นผู้ผลิตรายการร่วมด้วยช่วยกัน ได้รับสิทธิจากหน่วยบัญชาการกำลังสำรองในการเข้ามาบริหารและผลิตรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ธันวาคม 2540 เป็นต้นมา ปัจจุบันวิทยุร่วมด้วยช่วยกันยังคงออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมรักษาดินแดน เอฟเอ็ม 96 เมกกะเฮิร์ซ (2) เป็นเจ้าของสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ทำธุรกิจสำนักข่าว ผลิตข่าวและรายการวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้สมชายยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 2 สมัยติดต่อกัน พ.ศ.2546-2548,2548-2549


หลังเกิดการปฎิวัติรัฐประหาร ในปี 2549 สมชายได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากสายวิชาชีพสื่อมวลชนในปี พ.ศ. 2549 หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. สมชายจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างระหว่างการทำหน้าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและการทำงานของสมาคมฯ ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อวิทยุโทรทัศน์ที่จะต้องติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายต่างๆ ในสังคม ในปีพ.ศ. 2551 สมชายได้รับการสรรหาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสรรหา ภาควิชาชีพ โดยมีมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดเป็นผู้ส่งเข้ารับการสรรหา และได้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา ในปีพ.ศ. 2554 ได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นสมัยที่ 2 โดยมีมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์เป็นผู้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหา และปัจจุบันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัตแห่งชาติ เป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
หลังเกิดการปฎิวัติรัฐประหาร ในปี 2549 สมชายได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากสายวิชาชีพสื่อมวลชนในปี พ.ศ. 2549 หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. สมชายจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างระหว่างการทำหน้าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและการทำงานของสมาคมฯ ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อวิทยุโทรทัศน์ที่จะต้องติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายต่างๆ ในสังคม ในปีพ.ศ. 2551 สมชายได้รับการสรรหาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสรรหา ภาควิชาชีพ โดยมีมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดเป็นผู้ส่งเข้ารับการสรรหา โดยได้ผลักดันการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นที่มาของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ "ไทยพีบีเอส" ในปัจจุบัน,พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ,พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551, พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553,พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง กรณีการเสียชีวิต พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) และผู้ชุมนุมทางการเมือง 10 เม.ย. 2553

ในปีพ.ศ. 2554 ได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นสมัยที่ 2 โดยมีมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์เป็นผู้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหา

ประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิทางการเมือง ๒๕๕๕-๒๕๕๗

และปัจจุบันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัตแห่งชาติ เป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


== การอบรมและสัมมนา ==
== การอบรมและสัมมนา ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:53, 29 พฤศจิกายน 2559

สมชาย แสวงการ
ไฟล์:สมชายแสวง.JPG
สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด12 เมษายน พ.ศ. 2505 (62 ปี)

สมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ประวัติ

นายสมชาย แสวงการ เกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2505 จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร สำเร็จการศึกษาหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท สาขาพัฒนาสังคม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี,ปริญญาบัตร วปอ.รุ่นที่ 58 ประจำปีการศึกษา 2558-2559

การทำงาน

สมชาย ทำงานเป็นบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สายการเมือง และสายทหาร ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนกระทั่งเป็นผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ไอ.เอ็น.เอ็น.กรุ๊ป ร่วมกับนายสนธิญาณ หนูแก้ว (สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม) ที่ถือหุ้นใหญ่โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และกลุ่มบริษัทยูคอม (1) เป็นผู้ผลิตรายการร่วมด้วยช่วยกัน ได้รับสิทธิจากหน่วยบัญชาการกำลังสำรองในการเข้ามาบริหารและผลิตรายการ “ร่วมด้วยช่วยกัน” เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่ธันวาคม 2540 เป็นต้นมา ปัจจุบันวิทยุร่วมด้วยช่วยกันยังคงออกอากาศทางสถานีวิทยุกรมรักษาดินแดน เอฟเอ็ม 96 เมกกะเฮิร์ซ (2) เป็นเจ้าของสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ทำธุรกิจสำนักข่าว ผลิตข่าวและรายการวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้สมชายยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 2 สมัยติดต่อกัน พ.ศ.2546-2548,2548-2549

หลังเกิดการปฎิวัติรัฐประหาร ในปี 2549 สมชายได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากสายวิชาชีพสื่อมวลชนในปี พ.ศ. 2549 หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. สมชายจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างระหว่างการทำหน้าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและการทำงานของสมาคมฯ ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อวิทยุโทรทัศน์ที่จะต้องติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและฝ่ายต่างๆ ในสังคม ในปีพ.ศ. 2551 สมชายได้รับการสรรหาให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสรรหา ภาควิชาชีพ โดยมีมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดเป็นผู้ส่งเข้ารับการสรรหา โดยได้ผลักดันการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสื่อสารมวลชนหลายฉบับ อาทิ พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นที่มาของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ "ไทยพีบีเอส" ในปัจจุบัน,พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ,พ.ร.บ. การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551, พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553,พ.ร.บ. วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง กรณีการเสียชีวิต พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) และผู้ชุมนุมทางการเมือง 10 เม.ย. 2553

ในปีพ.ศ. 2554 ได้รับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นสมัยที่ 2 โดยมีมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์เป็นผู้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหา

ประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิทางการเมือง ๒๕๕๕-๒๕๕๗

และปัจจุบันได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัตแห่งชาติ เป็นสมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 ดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

การอบรมและสัมมนา

  • หลักสูตร ประกาศนียบัตรชั้นสูงการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ 5 จาก สถาบันพระปกเกล้า
  • หลักสูตร วุฒิบัตรการบริหารจัดการภาครัฐและกฎหมายมหาชน รุ่นที่ 7 จาก สถาบันพระปกเกล้า
  • หลักสูตร ประกาศนียบัตรและเข็มวิทยฐานะ ผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ (บ.ย.ส.14) จาก วิทยาลัยการยุติธรรม
  • หลักสูตร หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นธป.) รุนที่ 3 วิทยาลัยรัฐธรรมนูญ

ประสบการณ์การทำงาน

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 31 กรกฎาคม 2557[สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ประเทศไทย) พ.ศ. 2557|สภานิติบัญญัติแห่งชาติ]][1] โดยได้ทำหน้าที่สำคัญๆ หลายตำแหน่ง อาทิ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาขับเครื่องการปฏิรูปประเทศ, กรรมการคณะกรรมการประสานงานรวม 3 ฝ่าย (คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ,รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คนที่สาม และกรรมาธิการคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสารมวลชน เป็นต้น

สมาชิกวุฒิสภา 2554-2557 โดยได้ทำหน้าที่สำคัญๆ ในตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา, โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับพิทักษ์สถาบันพระมหากษตริย์ เป็นต้น

สมาชิกวุฒิสภา 2551-2554 เป็นประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา

นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย 2 สมัย

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเอ็นเอ็นเรดิโอ จำกัด และผู้อำนวยการวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน

บรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อสมท.

กรรมการมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกัน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง