ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชุมพร เทพพิทักษ์"
บรรทัด 91: | บรรทัด 91: | ||
|align="center"| ''[[ภูตแม่น้ำโขง]]'' ||align="center"| [[ช่อง 7]] ||align="center"| ||align="center"| |
|align="center"| ''[[ภูตแม่น้ำโขง]]'' ||align="center"| [[ช่อง 7]] ||align="center"| ||align="center"| |
||
|- |
|- |
||
|rowspan="2" align="center"| 2536 ||align="center"| ''ลิขิตชีวิต'' ||align="center"| [[ช่อง 7]] ||align="center"| ||align="center"| |
|rowspan="2" align="center"| 2536 ||align="center"| ''[[ลิขิตชีวิต]]'' ||align="center"| [[ช่อง 7]] ||align="center"| ||align="center"| |
||
|- |
|- |
||
|align="center"| ''[[พรหมพยศ]]'' ||align="center"| [[ช่อง 9]]||align="center"| ||align="center"| |
|align="center"| ''[[พรหมพยศ]]'' ||align="center"| [[ช่อง 9]]||align="center"| ||align="center"| |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:14, 6 กันยายน 2559
ชุมพร เทพพิทักษ์ | |
---|---|
ไฟล์:Chumphorn Thepphithak.jpg | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | พ.ศ. 2482 (อายุ 85 ปี) คมสัน เทพพิทักษ์ |
เสียชีวิต | กรุงเทพมหานคร |
อาชีพ | นักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ |
ปีที่แสดง | 2507–ปัจจุบัน |
พระสุรัสวดี | ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม พ.ศ. 2520 - แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู |
เมขลา | ผู้แสดงประกอบชายดีเด่น พ.ศ. 2554 - เงาพราย |
ฐานข้อมูล | |
IMDb | |
ThaiFilmDb |
ชุมพร เทพพิทักษ์ ชื่อเล่น เดียร์ นักแสดงชาวไทยและอดีตผู้กำกับภาพยนตร์ มีชื่อจริงว่า คมสัน เทพพิทักษ์
เกิดที่จังหวัดชุมพรเมื่อปี พ.ศ. 2482 จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดขันเงินและโรงเรียนศรียาภัย เดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย โดยพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ (อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2544) แต่ขณะที่เรียนเมื่ออายุได้ 17 ปี ต้องโทษจำคุกในคดีฆาตกรรมด้วยอาวุธปืน และรับสารภาพ จึงถูกลดโทษเหลือ 25 ปี จากนั้นได้รับการลดหย่อนโทษเรื่อยมา จนได้รับอิสรภาพในที่สุด ในระหว่างต้องโทษ อยู่ห้องขังเดียวกับ แคล้ว ธนิกุล [1]
เข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกด้วยการเป็นนักแสดงบทร้ายแทน ประจวบ ฤกษ์ยามดี นักแสดงบทตัวร้ายที่ไม่สบาย ด้วยความที่หน้าตาตล้ายกัน จากการชักชวนของ ปริญญา ทัศนียกุล และ ลือชัย นฤนาท ในเรื่อง คมแสนคม ในปี พ.ศ. 2507 ตามด้วยบทตัวร้ายมาโดยตลอด
ในปี พ.ศ. 2511 มีผลงานละครโทรทัศน์ทางช่อง 4 บางขุนพรหม, ช่อง 5 และช่อง 7 ในยุคแพร่ภาพระบบขาวดำ ด้วยการพลิกบทบาทมารับบทเป็นพระเอกบ้าง ซึ่งก็ได้รับการวิจารณ์ในตอนต้นว่า คนดูจะรับได้หรือไม่กับการที่ผู้ร้ายในแบบภาพยนตร์ใหญ่ มารับบทพระเอกในแบบละครโทรทัศน์ ซึ่งก็ได้รับบทพระเอกแนวลูกทุ่งหรือแอ็คชั่น และถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร
ต่อมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ มีผลงานมากมาย อาทิ ถุยชีวิต (พ.ศ. 2521), นักสู้ภูธร ในปีเดียวกัน, ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก (พ.ศ. 2522) และที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู ในปี พ.ศ. 2520 ซึ่งได้รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และได้รับรางวัลอื่น ๆ รวมทั้งหมด 5 รางวัล
ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ มยุรี เทพพิทักษ์ (นามสกุลเดิม-ศรีสินธุ์อุไร) มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง คือ ศรราม เทพพิทักษ์
ปัจจุบัน ยังคงมีผลงานออกมาเป็นระยะๆ เช่น บางระจัน (พ.ศ. 2543), ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ (พ.ศ. 2550), รักสยามเท่าฟ้า (พ.ศ. 2551), 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร (พ.ศ. 2552) ผลงานละครโทรทัศน์ได้แก่ สุสานคนเป็น (พ.ศ. 2545) ธิดาวานร 2 (พ.ศ. 2552) และ เงาพราย (พ.ศ. 2554) เป็นต้น
ผลงานการแสดง
ภาพยนตร์
ปี | เรื่อง | บทบาท |
---|---|---|
2509 | ดาวพระศุกร์ | |
2537 | 1+5 ฟ้าก็ห้ามไม่ได้ | |
2543 | บางระจัน | |
2550 | ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๒ ประกาศอิสรภาพ | |
2551 | รักสยามเท่าฟ้า | |
2552 | 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร |
ละครโทรทัศน์
รางวัล
- รางวัลตุ๊กตาทอง สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู
- รางวัลเมขลา สาขาผู้แสดงประกอบชายดีเด่น จากละครเรื่อง เงาพราย[2]