ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 68: | บรรทัด 68: | ||
|- |
|- |
||
!rowspan="1"|2017–18 |
!rowspan="1"|2017–18 |
||
| || || {{flagcountry|Ethiopia}} || || {{flagcountry|Kazakhstan}} || || {{flagcountry|Bolivia}} || |
| || || {{flagcountry|Ethiopia}} || || {{flagcountry|Kazakhstan}} || || {{flagcountry|Bolivia}} || {{flagcountry|Italy}} {{small|(2017)}}<br>{{flagcountry|Netherlands}} {{small|(2018)}} || {{flagcountry|Sweden}} || |
||
|- |
|- |
||
!rowspan="1"|2016–17 |
!rowspan="1"|2016–17 |
||
บรรทัด 76: | บรรทัด 76: | ||
| || || {{flagcountry|Angola}} || || {{flagcountry|Malaysia}} || || {{flagcountry|Venezuela}} || {{flagcountry|New Zealand}} || {{flagcountry|Spain}} || |
| || || {{flagcountry|Angola}} || || {{flagcountry|Malaysia}} || || {{flagcountry|Venezuela}} || {{flagcountry|New Zealand}} || {{flagcountry|Spain}} || |
||
|} |
|} |
||
<!-- THE REGIONS IN BRACKETS ARE THE U.N. REGIONS - PLEASE DON'T CHANGE "WESTERN EUROPE AND OTHER" TO "EUROPE" ETC. --> |
|||
== ประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกถาวร == |
== ประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกถาวร == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:07, 2 กันยายน 2559
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ | |
---|---|
ห้องประชุมคณะมนตรีความมั่นคงในนครนิวยอร์ก | |
ประเภท | เสาหลัก |
หัวหน้า | ประธานคณะมนตรี ฟร็องซัว เดอลาตร์ จาก ฝรั่งเศส |
จัดตั้ง | พ.ศ. 2488 |
เว็บไซต์ | un |
ต้นสังกัด | สหประชาชาติ |
โครงสร้าง | กลุ่มแอฟริกัน กลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก กลุ่มยุโรปตะวันออก กลุ่มละตินอเมริกาและแคริบเบียน ยุโรปตะวันตกและกลุ่มอื่นๆ |
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (อังกฤษ: United Nations Security Council; UNSC) เป็นหนึ่งใน 6 เสาหลักของสหประชาชาติ และเป็นองค์กรในสหประชาชาติที่มีอิทธิพลรองลงมาจากสมัชชาใหญ่ เป็นองค์กรที่มีอำนาจในการเรียกระดมพลจากรัฐสมาชิกในสหประชาชาติเพื่อจัดตั้งเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพในประเทศและสงครามต่างๆ และยังมีอำนาจในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศต่างๆ
สมาชิก
คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) 10 ประเทศ ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี และไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งซ้ำได้ในทันทีเมื่อหมดวาระ
สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใน พ.ศ. 2558 ได้แก่ ชาด ไนจีเรีย แองโกลา จอร์แดน มาเลเซีย ชิลี เวเนซุเอล่า นิวซีแลนด์ สเปน และลิทัวเนีย[1] ในส่วนของประเทศไทยนั้นเคยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อ พ.ศ. 2528 - 2529[2]
สมาชิกถาวร
ชนชาติ | รัฐผู้แทนในปัจจุบัน | รัฐผู้แทนในอดีต |
---|---|---|
จีน | สาธารณรัฐประชาชนจีน (1971–ปัจจุบัน) | สาธารณรัฐจีน (1946–1971) |
ฝรั่งเศส | สาธารณรัฐฝรั่งเศส (1958–ปัจจุบัน) | สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 4 (1946–1958) |
รัสเซีย | สหพันธรัฐรัสเซีย (1992–ปัจจุบัน) | สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (1946–1991) |
บริติช | สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ (1946–ปัจจุบัน) | — |
อเมริกัน | สหรัฐอเมริกา (1946–ปัจจุบัน) | — |
สมาชิกไม่ถาวร
การเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรของ UNSC จะแบ่งตามกลุ่มภูมิภาค 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก กลุ่มแอฟริกา กลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (GRULAC) กลุ่มยุโรปตะวันออก (EES) และ กลุ่มยุโรปตะวันตกและประเทศอื่น (WEOG) โดยกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกได้รับการจัดสรรที่นั่ง 2 ที่ กลุ่มแอฟริกา 3 ที่ กลุ่ม GRULAC 2 ที่ กลุ่มยุโรปตะวันออก 1 ที่ และกลุ่ม WEOG 2 ที่
โดยการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวร UNSC จะมีขึ้นในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly – UNGA) ซึ่งมีการประชุมหลักๆ ในช่วงเดือนกันยายน ถึงธันวาคมของทุกปี โดยประเทศที่จะได้รับการเลือกตั้งจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของสมาชิกที่เข้าร่วมการประชุม UNGA โดยเป็น การลงคะแนนลับ ทั้งนี้ สมาชิก UNSC ที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคม ของปีถัดไป
วาระ | แอฟริกา | เอเชีย-แปซิฟิก | ละตินอเมริกา และแคริบเบียน |
ยุโรปตะวันตก และอื่นๆ |
ยุโรปตะวันออก | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2017–18 | เอธิโอเปีย | คาซัคสถาน | โบลิเวีย | อิตาลี (2017) เนเธอร์แลนด์ (2018) |
สวีเดน | |||||
2016–17 | อียิปต์ | เซเนกัล | ญี่ปุ่น | อุรุกวัย | ยูเครน | |||||
2015–16 | แองโกลา | มาเลเซีย | เวเนซุเอลา | นิวซีแลนด์ | สเปน |
ประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกถาวร
กลุ่มจี4 ได้เสนอให้มีการเพิ่มจำนวนสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจากปัจจุบัน 15 ประเทศ เป็น 25 ประเทศ โดยให้เพิ่มสมาชิกถาวรหกประเทศ และสมาชิกไม่ถาวรสี่ประเทศ รวมทั้งจากเอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกา ซึ่งทางด้านสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสได้ให้การสนับสนุนข้อเสนอของกลุ่มจี4 ส่วนด้านสหรัฐอเมริกาก็เห็นด้วยกับการเพิ่มจำนวนสมาชิกทั้งประเภทถาวรและไม่ถาวรในปริมาณจำกัด และต้องการให้มีการคัดเลือกสมาชิกถาวรใหม่โดยพิจารณาจากการเข้ามีส่วนร่วมในการรักษา สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และทางด้านรัสเซียและจีนก็ได้แสดงการสนับสนุนการเพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคง แต่ต้องการให้เพิ่มจำนวนเพียงจำกัดและอย่างค่อยเป็นค่อยไป และขึ้นอยู่กับความเห็นชอบในวงกว้างที่สุดในหมู่บรรดาสมาชิกสหประชาชาติ
การลงคะแนนเสียง
ข้อ 27 ของกฎบัตรสหประชาชาติกำหนดวิธีการลงคะแนนเสียงข้อมติ คือ แต่ละประเทศสมาชิกฯ มีคะแนนเสียงหนึ่งคะแนนเท่ากัน โดยคำวินิจฉัยของ UNSC ในทุกเรื่องจะต้องกระทำด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบของสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ โดยต้องรวมคะแนนเสียงเห็นพ้องของประเทศสมาชิกถาวรทั้ง 5 ประเทศ ด้วย (เป็นที่มาของคำว่า “สิทธิยับยั้ง” (veto) อย่างไรก็ดี ไม่มีคำว่า veto ปรากฏในกฎบัตรฯ) ยกเว้นในกรณีคำวินิจฉัยเรื่องวิธีการดำเนินการ (procedural matters) ต้องการเสียงเห็นชอบจากสมาชิกประเภทใดก็ได้จำนวนอย่างน้อย 9 ประเทศ
บทบาทและหน้าที่
- ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ
- สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ
- เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน
- วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ
- ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร
- เรียกร้องให้สมาชิกประเทศทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน
- ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน
- เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
- ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
- เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก
- ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ