ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ขันธ์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ผู้รู้น้อย (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เพิ่มข้อความไม่เป็นวิกิขนาดใหญ่ ผู้ใช้ใหม่เพิ่มลิงก์ไปยังเว็บอื่น |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{พุทธศาสนา}} |
{{พุทธศาสนา}} |
||
'''ขันธ์''' แปลว่า ''กอง, หมวด, หมู่, ส่วน'' ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของมนุษย์ คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ 5 ส่วน หรือ 5 ขันธ์ คือ |
'''ขันธ์''' แปลว่า ''กอง, หมวด, หมู่, ส่วน'' ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของมนุษย์ คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ 5 ส่วน หรือ 5 ขันธ์ คือ |
||
# '''[[รูป ( |
# '''[[รูป (ศาสนาพุทธ)|รูป]]''' ได้แก่ ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เช่น ผม หนัง กระดูก โลหิต |
||
# '''[[เวทนา]]''' ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ |
# '''[[เวทนา]]''' ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ |
||
# '''[[สัญญา ( |
# '''[[สัญญา (ศาสนาพุทธ)|สัญญา]]''' ได้แก่ จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ |
||
# '''[[สังขาร]]''' ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ |
# '''[[สังขาร]]''' ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ |
||
# '''[[วิญญาณ (ศาสนาพุทธ)|วิญญาณ]]''' ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ |
# '''[[วิญญาณ (ศาสนาพุทธ)|วิญญาณ]]''' ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 15: | ||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
* [[พระธรรมกิตติวงศ์ |
* [[พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช)]] ป.ธ. ๙ [[ราชบัณฑิต]] ''พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด,'' [[วัดราชโอรสาราม]] กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548 |
||
[[หมวดหมู่:ขันธ์ ๕]] |
[[หมวดหมู่:ขันธ์ ๕]] |
||
[[หมวดหมู่:อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ]] |
[[หมวดหมู่:อภิธานศัพท์ศาสนาพุทธ]] |
||
[[หมวดหมู่:ธรรมหมวด 5]] |
|||
ขอน้อมสักการะพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ |
|||
ขันธ์ 5 ตามคำกล่าวของพุทธวจนะ |
|||
ขันธ์ 5 |
|||
1. รูป |
|||
2.เวทนา |
|||
3.สัญญา |
|||
4.สังขาร |
|||
5.วิญญาณ |
|||
ความหมายของคำว่า “รูป” |
|||
ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “รูป” เพราะอาศัยความหมาย อะไรเล่า ? |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่แตกสลายได้ มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น |
|||
สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า รูป. |
|||
สิ่งนั้น แตกสลายได้ เพราะอะไร ? |
|||
สิ่งนั้น แตกสลายได้เพราะความเย็นบ้าง, |
|||
แตกสลายได้ เพราะความร้อนบ้าง, |
|||
แตกสลายได้ เพราะความหิวบ้าง, |
|||
แตกสลายได้ เพราะความกระหายบ้าง, |
|||
แตกสลายได้ เพราะถูกต้องกับเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลานบ้าง, |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่แตกสลายได้ มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่ารูป. |
|||
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙. |
|||
ความหมายของคำว่า “เวทนา” |
|||
ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “เวทนา” เพราะอาศัยความหมาย อะไรเล่า ? |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้สึกได้ มีอยู่ในสิ่งนั้น ดังนั้น |
|||
สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า เวทนา. |
|||
สิ่งนั้น ย่อมรู้สึกได้ ซึ่งอะไร ? |
|||
สิ่งนั้น ย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความรู้สึกอันเป็นสุขบ้าง, |
|||
ย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความรู้สึกอันเป็นทุกข์บ้าง, |
|||
และย่อมรู้สึกได้ ซึ่งความรู้สึกอันไม่ทุกข์ไม่สุขบ้าง |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้สึกได้มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า เวทนา. |
|||
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙ |
|||
ความหมายของคำว่า “สัญญา” |
|||
ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “สัญญา” เพราะอาศัยความหมายอะไรเล่า ? |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่หมายรู้ได้พร้อม มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น |
|||
สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สัญญา. |
|||
สิ่งนั้น ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งอะไร ? |
|||
สิ่งนั้น ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีเขียวบ้าง, |
|||
ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีเหลืองบ้าง, |
|||
ย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีแดงบ้าง, |
|||
และย่อมหมายรู้ได้พร้อม ซึ่งสีขาวบ้าง. |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่หมายรู้ได้พร้อม มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สัญญา. |
|||
- ขนฺธฺ. สํ. ๑๗/๑๐๕/๑๕๙. |
|||
ความหมายของคำว่า “สังขาร” |
|||
ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “สังขารทั้งหลาย” เพราะอาศัยความหมายอะไรเล่า? |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ ในสิ่งนั้น ดังนั้น |
|||
สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า สังขาร. |
|||
สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่งอะไร ให้เป็นของสำเร็จรูป ? |
|||
สิ่งนั้นย่อมปรุงแต่งรูป ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นรูป, |
|||
ย่อมปรุงแต่งเวทนา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นเวทนา, |
|||
ย่อมปรุงแต่งสัญญา ให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นสัญญา, |
|||
ย่อมปรุงแต่งสังขารให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นสังขาร, |
|||
และย่อมปรุงแต่งวิญญาณให้สำเร็จรูป เพื่อความเป็นวิญญาณ. |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่ปรุงแต่งให้สำเร็จรูป มีอยู่ในสิ่งนั้น ดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่าสังขารทั้งหลาย. |
|||
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๖/๑๕๙. |
|||
ความหมายของคำว่า “วิญญาณ” |
|||
ภิกษุ ท. ! คนทั่วไป กล่าวกันว่า “วิญญาณ” เพราะอาศัยความหมายอะไรเล่า ? |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้แจ้งได้ มีอยู่ในสิ่งนั้น ดังนั้น |
|||
สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า วิญญาณ. |
|||
สิ่งนั้น ย่อมรู้แจ้งซึ่งอะไร ? |
|||
สิ่งนั้น ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเปรี้ยวบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความขมบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเผ็ดร้อนบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้งซึ่ง ความหวานบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้งซึ่งความขื่นบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความความไม่ขื่นบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความเค็มบ้าง, |
|||
ย่อมรู้แจ้ง ซึ่งความไม่เค็มบ้าง. |
|||
ภิกษุ ท. ! เพราะกิริยาที่รู้แจ้งได้ มีอยู่ในสิ่งนั้นดังนั้น สิ่งนั้น จึงถูกเรียกว่า วิญญาณ. |
|||
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๐๖/๑๕๙. |
|||
่ข้อมูลจาก(Reference) http://www.oknation.net/blog/buddha2600/2012/07/04/entry-2 |
|||
หากมีสิ่งใดผิดพลาดจากความประมาทพลาดพลั้ง ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ โปรดอโหสิกรรม ผู้รู้น้อยเพียงหวังให้มีการอ้างอิงพุทธวจนะ |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:50, 1 สิงหาคม 2559
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
ขันธ์ แปลว่า กอง, หมวด, หมู่, ส่วน ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของมนุษย์ คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ 5 ส่วน หรือ 5 ขันธ์ คือ
- รูป ได้แก่ ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เช่น ผม หนัง กระดูก โลหิต
- เวทนา ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ
- สัญญา ได้แก่ จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ
- สังขาร ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ
- วิญญาณ ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ขันธ์นี้ รูปจัดเป็นรูปธรรม เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณจัดเป็นนามธรรม เมื่อจัดขันธ์เข้าในปรมัตถธรรม
- วิญญาณขันธ์ จัดเข้าในจิต
- เวทนาขันธ์ ,สัญญาขันธ์ ,สังขารขันธ์ จัดเข้าในเจตสิก
- รูปขันธ์ จัดเข้าในรูป
- การหมดเหตุปัจจัยของนามรูป จัดเข้าในนิพพาน
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด, วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548