ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลิลิธ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
→‎เรื่องราวของลิลิธในตำนานต่างๆ: ไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิง
บรรทัด 16: บรรทัด 16:


ส่วนในตำนานอื่นๆของซูมาเรียน เธอมีชื่อหลายอย่าง อาร์ดัท ลิลิ่ (Ardat Lili) หรือ ลีลีตู (Lilitu) เทพยดาผู้เป็นคู่ครองของจอมปิศาจ ลีลู (Lilu) สำหรับตำนานบทนี้เธอถูกวาดภาพเป็นหญิงปราศจากศีลธรรม เต็มไปด้วย ตัณหาราคะ คือหญิงสวยยั่วใจในเรื่องเพศ เธอจะใช้มารยาล่อลวง ชายขณะหลับใหล ทั้งยังชอบสังหารเด็กๆ
ส่วนในตำนานอื่นๆของซูมาเรียน เธอมีชื่อหลายอย่าง อาร์ดัท ลิลิ่ (Ardat Lili) หรือ ลีลีตู (Lilitu) เทพยดาผู้เป็นคู่ครองของจอมปิศาจ ลีลู (Lilu) สำหรับตำนานบทนี้เธอถูกวาดภาพเป็นหญิงปราศจากศีลธรรม เต็มไปด้วย ตัณหาราคะ คือหญิงสวยยั่วใจในเรื่องเพศ เธอจะใช้มารยาล่อลวง ชายขณะหลับใหล ทั้งยังชอบสังหารเด็กๆ

ลิลิธมักถูกสร้างภาพให้เป็นปิศาจ บางครั้งได้รับการ บรรยายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง รูปร่างเหมือนงูใหญ่มีปีกแต่มีศีรษะเป็นผู้หญิง
ทุกๆคราวที่ลิลิธเกิดใหม่ เธอคือเครื่องหมายแห่งพลังของ เพศหญิง มักจะถูกขัดขวางทำลายจากกฎเกณฑ์ของสังคม (ที่ตั้งขึ้นโดยผู้ชาย) ผลสุดท้ายมักต้องไปหลบเร้นตนเงียบเชียบในเงามืด กระนั้น เธอยังคง อันตรายพอที่จะสั่นคลอนสังคมได้บางส่วนณ ยุคปัจจุบัน ลิลิธกลายเป็นคำเรียก และเครื่องหมายของกลุ่มเฟมินิสต์ ผู้หญิงที่เชื่อว่าเธอเทียบเท่าชายในทุกกรณี


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:28, 5 กรกฎาคม 2559

ลิลิธ (Lilith) (ฮีบรู: לילית; lilit, or lilith) เป็นชื่อในภาษาฮิบรูสำหรับรูปลักษณ์ในเทพปกรณัมยิว มีการกล่าวถึงในหลายตำนาน โดยมีการบันทึกกล่าวถึงแรกสุดใน ทัลมุดบาบิโลเนียน ซึ่งกล่าวในลักษณะของปีศาจสาว Līlīṯu ในข้อความของชาวเมโสโปเตเมีย

หลักฐานอื่นที่ปรากฏในเอกสารของชาวยิว ซึ่งเกี่ยวโยงกับปีศาจสาวลิลิธแห่งอาณาจักรอัคกาด ในขณะเดียวกันนักวิชาการได้ตั้งมีการแย้งว่าลิลิธที่ปรากฏในบาบิโลเนียน และลิลิธที่ปราฏในอัคกาเดียนเป็นคนละตนกัน[1]

เรื่องราวของลิลิธในตำนานต่างๆ

รูปปั้นยุคบาบิโลเนียน ซึ่งหลายคนระบุว่าเป็นลิลิธ แต่ในขณะเดียวกันมีการระบุว่าเป็นอิชตาร
ลิลิธ (1892)ปรากฏในภาพวาดของ จอห์น คอลลีเออร์

ลิลิธ เป็นผู้หญิงที่พระเจ้าสร้างขึ้นก่อนหน้า'อีฟ' (EVE) ซึ่งไม่ปรากฏเนื้อหาเกี่ยวกับเธอในพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับ พันธสัญญาเดิมของชาวยิวมากนัก พบว่ามีชื่อเธอปรากฏอยู่แค่ครั้งเดียวใน พระธรรมอิสยาห์ บทที่ 34 ข้อที่ 14 แต่กลับพบชื่อและเรื่องราวของเธออยู่มากมายในคัมภีร์อรรถกถาทัลมุดแทน ทั้งจากในบท Erubin 18b และ Erubin 100b และ Nidda 24b และ Shab. 151b และ Baba Bathra 73a–b ซึ่งกล่าวในทำนองปกรณัมว่า ลิลิธ คือผู้หญิงคนแรกจากการทรงสร้างของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นภรรยาคนแรกของอาดัม ผู้ชายคนแรกก่อนหน้าที่ พระเจ้าจะสร้างอีฟ ลิลิธถูกพระเจ้าตัดสินให้ขับออกจากสวนสวรรค์แห่งอีเดนเป็นคนแรก เพราะการกระทำอันชั่วร้ายของเธอเอง จากนั้นก็ถูกเนรเทศไปอยู่ภายใต้เงามืด ณ ก้นบึ้ง ของโลกแห่งจิตใต้สำนึก

บรรดารับไบในศาสนายิวและพระในศาสนาคริสต์ต่างคัดค้านโดยการอ้างว่า คำเรียกลิลิธไม่ได้มีความหมายบ่งชี้ถึงหญิงคนหนึ่งคนใด แต่อุปมา เป็นคนซึ่งไม่เป็นที่ปรารถนาและพวกนอกรีต เช่นเดียวกับที่พวกคริสเตียนเชื่อว่า ลิลิธมิใช่คนหากแต่เป็นเครื่องล่อลวงใจมนุษย์ของจอมปิศาจ

ลิลิธคงจะเป็นตำนานอันเก่าแก่เกินไปของบรรดาชาวยิว และคริสเตียน ในขณะที่เรื่องราวของเธอปรากฏมากมายและโดดเด่น ตลอดระยะเวลาในตำนานโบราณหลากหลายฉบับ เช่น ในความเชื่อของอารยธรรมซูมาเรียน และบาบิโลเนียน ราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล เธอปรากฏในตำนานฐานะจอมปิศาจ ลามาซตู (Lamashtu) ผู้ถูกเนรเทศออกจากสรวงสวรรค์ เนื่องจากเพราะความร้ายกาจของตนเอง

ส่วนในตำนานอื่นๆของซูมาเรียน เธอมีชื่อหลายอย่าง อาร์ดัท ลิลิ่ (Ardat Lili) หรือ ลีลีตู (Lilitu) เทพยดาผู้เป็นคู่ครองของจอมปิศาจ ลีลู (Lilu) สำหรับตำนานบทนี้เธอถูกวาดภาพเป็นหญิงปราศจากศีลธรรม เต็มไปด้วย ตัณหาราคะ คือหญิงสวยยั่วใจในเรื่องเพศ เธอจะใช้มารยาล่อลวง ชายขณะหลับใหล ทั้งยังชอบสังหารเด็กๆ

อ้างอิง

  1. Freedman, David Noel, ed., Anchor Bible Dictionary, (New York: Doubleday) 1997, 1992. "Very little information has been found relating to the Akkadian and Babylonian view of these demons. Two sources of information previously used to define Lilith are both suspect."

แหล่งข้อมูลอื่น