ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรุง ศรีวิไล"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ThaiTVguide (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 55: | บรรทัด 55: | ||
</ref> |
</ref> |
||
นอกจากนั้น กรุง ศรีวิไล ยังมีโอกาสได้เล่นกับดาราต่างประเทศอย่างเช่นเรื่องทองที่แสดงร่วมกับ[[เกริก มอริส]] และ[[คริส มิตชั่น]] พระเอกจาก[[ฮอลลีวู้ด]] ในเรื่องตัดเหลี่ยมเพชร เป็นต้น หลังจากนั้นก็ได้ห่างหายจากวงการบันเทิงไประยะหนึ่ง แต่ต่อมาไม่นานก็มีผู้ตามตัวเพื่อให้เล่นภาพยนตร์เรื่อง “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง” ร่วมแสดงกับนักแสดงตลกชื่อดัง [[ล้อต๊อก]] จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้กรุงได้รับฉายาว่า “พระเอกซุปเปอร์ลูกทุ่ง” และได้เริ่มมีการออกโชว์ตัวตามจังหวัด เมื่อเห็นว่าไปได้ดีจึงฟอร์มวงดนตรี ใช้ชื่อเดียวกับหนัง คือ “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง-กรุง ศรีวิไล” ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เดินสายเล่นดนตรีอยู่ได้ 5 ปี 8 เดือน เขาก็ตัดสินใจยุบวง และหยุดจากวงการบันเทิงไป 5 ปี จึงเริ่มหวนสู่จอแก้วอีกครั้ง ในช่วงแรกรับเล่นละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ และเริ่มพลิกบทบาทจากพระเอกมาเล่นเป็น บทตัวร้าย จนถึงปัจจุบัน กรุง ศรีวิไล ก็ยังคงมีงานแสดงอยู่ตลอดเช่นเรื่อง อังกอร์ ภาค 2, เหล็กไหล, ดวง, สุภาพบุรุษตีนควาย, บอดี้การ์ดแดดเดียว ฯลฯ |
นอกจากนั้น กรุง ศรีวิไล ยังมีโอกาสได้เล่นกับดาราต่างประเทศอย่างเช่นเรื่องทองที่แสดงร่วมกับ[[เกริก มอริส]] [[:w:en:Greg Moris|Greg Moris]] และ[[คริส มิตชั่น]] พระเอกจาก[[ฮอลลีวู้ด]] ในเรื่องตัดเหลี่ยมเพชร เป็นต้น หลังจากนั้นก็ได้ห่างหายจากวงการบันเทิงไประยะหนึ่ง แต่ต่อมาไม่นานก็มีผู้ตามตัวเพื่อให้เล่นภาพยนตร์เรื่อง “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง” ร่วมแสดงกับนักแสดงตลกชื่อดัง [[ล้อต๊อก]] จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้กรุงได้รับฉายาว่า “พระเอกซุปเปอร์ลูกทุ่ง” และได้เริ่มมีการออกโชว์ตัวตามจังหวัด เมื่อเห็นว่าไปได้ดีจึงฟอร์มวงดนตรี ใช้ชื่อเดียวกับหนัง คือ “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง-กรุง ศรีวิไล” ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เดินสายเล่นดนตรีอยู่ได้ 5 ปี 8 เดือน เขาก็ตัดสินใจยุบวง และหยุดจากวงการบันเทิงไป 5 ปี จึงเริ่มหวนสู่จอแก้วอีกครั้ง ในช่วงแรกรับเล่นละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ และเริ่มพลิกบทบาทจากพระเอกมาเล่นเป็น บทตัวร้าย จนถึงปัจจุบัน กรุง ศรีวิไล ก็ยังคงมีงานแสดงอยู่ตลอดเช่นเรื่อง อังกอร์ ภาค 2, เหล็กไหล, ดวง, สุภาพบุรุษตีนควาย, บอดี้การ์ดแดดเดียว ฯลฯ |
||
[[ไฟล์:1905.jpg|thumb|200px|right|กรุง ศรีวิไล ในปี พ.ศ. 2548]] |
[[ไฟล์:1905.jpg|thumb|200px|right|กรุง ศรีวิไล ในปี พ.ศ. 2548]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:06, 5 กรกฎาคม 2559
กรุง ศรีวิไล | |
---|---|
กรุง ศรีวิไล จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร กรุง ศรีวิไล จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 นที สุทินเผือก |
คู่สมรส | พรรณวิภา (ภรรยาปัจจุบัน) |
อาชีพ | นักแสดง, นักการเมือง |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2513 - ปัจจุบัน |
พระสุรัสวดี | นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม พ.ศ. 2517 - ชู้ |
ฐานข้อมูล | |
IMDb | |
ThaiFilmDb |
กรุง ศรีวิไล มีชื่อจริงว่า กรุงศรีวิไล สุทินเผือก[1] (ชื่อเดิม: นที สุทินเผือก; ชื่อเล่น: เอ๊ด) เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2489 ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นนักแสดงชาวไทย มีผลงานอย่างเช่นเรื่อง ลูกยอด ชู้ ทอง ตัดเหลี่ยมเพชร ซุปเปอร์ลูกทุ่ง คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ มีนัดไว้กับหัวใจ เสาร์ห้า เดียมห์ เพศสัมพันธ์อันตราย แมงดาปีกทอง สาวแรงสูง
ประวัติ
กรุง ศรีวิไล เข้าเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบางพลีน้อย หลังจากนั้นก็ต่อชั้นมัธยมปลายในตัวอำเภอ โดยอาศัยอยู่ในวัด จนเมื่อเรียนจบชั้น ม.6 ได้ย้ายไปต่อที่โรงเรียนในตัวจังหวัด เพื่อเรียนชั้น ม.7 ยังไม่จบชั้น ม.8 ดีจึงได้ตัดสินใจเข้าสู่กรุงเทพ สอบเข้าโรงเรียนช่างกลปทุมวัน เรียนได้อยู่ 2 ปีเศษก็ถูกสั่งให้ออก ได้เรียนภาษาอังกฤษ และพิมพ์ดีดเพิ่มเติมหลังจากถูกสั่งออก จนได้รู้จักกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งได้ฝากเข้าทำงานให้กับกรมศุลกากร เป็นฝ่ายติดต่อราชการ งานด้านชิปปิ้ง ทำได้ 4 ปีได้ตัดสินใจเปิดร้านขายผ้าไหมส่งออกที่โรงแรมแมนดาริน และต่อยอดทำธุรกิจเพิ่มโดยเปิดร้านจิวเวลรี่ แต่พอย่างเข้าปีที่4 กิจการเริ่มไปไม่ไหว เพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนก็หนีไปฮ่องกงพร้อมกับเงินสดในร้าน จนต้องปิดกิจการไปลงในทีสุด
กรุงเข้าสู่วงการโดยการชักนำของ ประมินทร์ จารุจารัต เล่นหนังเรื่อง"ลูกยอด" เป็นเรื่องแรกคู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ ซึ่งเป็นช่วงที่มิตร ชัยบัญชาเสียชีวิตแล้ว ทำให้บรรดาผู้สร้างหนังต่างก็พากันปั้นพระเอกใหม่กันอย่างคึกคัก และมาดังมากกับภาพยนตร์เรื่อง ทอง ภาค 1 กับเรื่อง ชู้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องชู้นี้ทำให้ได้ “รางวัลตุ๊กตาทอง” และได้ “รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมของเอเชีย” จากภาพยนตร์เรื่องทอง ภาค 1 ที่ส่งไปประกวดที่ไทเป หรือไต้หวันในปัจจุบัน และ กรุง ศรีวิไล ได้แสดงนำคู่กับนางเอกดังมากมาย เช่น เพชรา อรัญญา นามวงศ์ วันดี ศรีตรัง, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์, เนาวรัตน์ ยุกตะนันทน์, ธัญรัตน์ โลหะนันท์ มีผลงานอีกมากมายอย่าง ลูกยอด (2513), ตามรักตามล่า (2515), สะท้านกรุง (2515), ชู้ (2515), ทอง ภาค 1 (2516), สวรรค์เวียงพิงค์ (2516), อีหนู (2516), จ้าวทุ่ง (2516), ขัง 8 (2517), รสรักลมสวาท (2517), ผู้ชายขายตัว (2517), กราบที่ดวงใจ (2517), ตัดเหลี่ยมเพชร (2518), รักข้ามโลก (2519), ซุปเปอร์ลูกทุ่ง (2520) เป็นต้น
โดยชื่อ "กรุง ศรีวิไล" ตั้งโดยเลียว ศรีเสวก (อรวรรณ) มาจากชื่อตัวละคร "กรุง ศรีวิลัย" ตัวเอกในเรื่อง "ลูกยอด" ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารบางกอก และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตการแสดงของกรุง [2]
นอกจากนั้น กรุง ศรีวิไล ยังมีโอกาสได้เล่นกับดาราต่างประเทศอย่างเช่นเรื่องทองที่แสดงร่วมกับเกริก มอริส Greg Moris และคริส มิตชั่น พระเอกจากฮอลลีวู้ด ในเรื่องตัดเหลี่ยมเพชร เป็นต้น หลังจากนั้นก็ได้ห่างหายจากวงการบันเทิงไประยะหนึ่ง แต่ต่อมาไม่นานก็มีผู้ตามตัวเพื่อให้เล่นภาพยนตร์เรื่อง “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง” ร่วมแสดงกับนักแสดงตลกชื่อดัง ล้อต๊อก จากภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้กรุงได้รับฉายาว่า “พระเอกซุปเปอร์ลูกทุ่ง” และได้เริ่มมีการออกโชว์ตัวตามจังหวัด เมื่อเห็นว่าไปได้ดีจึงฟอร์มวงดนตรี ใช้ชื่อเดียวกับหนัง คือ “ซุปเปอร์ลูกทุ่ง-กรุง ศรีวิไล” ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เดินสายเล่นดนตรีอยู่ได้ 5 ปี 8 เดือน เขาก็ตัดสินใจยุบวง และหยุดจากวงการบันเทิงไป 5 ปี จึงเริ่มหวนสู่จอแก้วอีกครั้ง ในช่วงแรกรับเล่นละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ และเริ่มพลิกบทบาทจากพระเอกมาเล่นเป็น บทตัวร้าย จนถึงปัจจุบัน กรุง ศรีวิไล ก็ยังคงมีงานแสดงอยู่ตลอดเช่นเรื่อง อังกอร์ ภาค 2, เหล็กไหล, ดวง, สุภาพบุรุษตีนควาย, บอดี้การ์ดแดดเดียว ฯลฯ
ทางด้านกิจการส่วนตัว เป็นผู้จัดการทั่วไป บริษัท A.G.Car และยังเป็นผู้จัดการหมู่บ้านจัดสรรที่บางใหญ่ หมู่บ้านเมืองเพชรวิลเลจ 5 และยังเป็นประธานกรรมการของสถานตากอากาศไทรโยก ริเวอร์วิว รีสอร์ทด้วย ส่วนทางด้านชีวิตครอบครัว กรุง ศรีวิไลมีบุตรทั้งหมด 5 คน จากภรรยา 3 คน โดยภรรยาคนปัจจุบันชื่อ พรรณวิภา (เหมียว) มีบุตรด้วยกัน 2 คน เป็นหญิง 1 ชาย 1 โดยบุตรสาว คือ กมลวรรณ ศรีวิไล (แอล) ปัจจุบันเป็นนางแบบและนักแสดงสังกัดช่อง 7
การเมือง
ในปี พ.ศ. 2550 ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวงของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ต่อมาลงรับสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ที่จังหวัดสมุทรปราการ บ้านเกิด ในนามพรรคพลังประชาชน และได้รับเลือกตั้ง แต่ต่อมา กรุง ศรีวิไล ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบเหลืองโดยอ้างว่า เจ้าตัวทุจริตการเลือกตั้งและสั่งเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้น แต่ศาลได้ยกคำร้อง ต่อมาหลังจากที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบ เจ้าตัวก็ได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย
ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 กรุง ศรีวิไล ได้ประกาศย้ายไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย โดยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พรรคเพื่อไทยได้ติดประกาศหน้าพรรคห้ามกรุง และ ส.ส. ของพรรคอีก 3 คน เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรค ส่วนกรุงและเพื่อน ส.ส. อีกหนึ่งคน และอดีต ส.ส. จากพรรคเพื่อแผ่นดินอีกหนึ่งคน ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยในวันเดียวกัน[3]
ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 กรุง ศรีวิไล ได้ลงสมัครเลือกตั้งใน จังหวัดสมุทรปราการ เขต 5 ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง โดยแพ้ให้กับ สลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยก่อนการเลือกตั้งครั้งนี้เจ้าตัวได้เปลี่ยนชื่อจริงตัวเองมาเป็น กรุงศรีวิไล สุทินเผือก อย่างในปัจจุบัน [1]
ผลงานภาพยนตร์
- พ.ศ. 2517 - ขัง 8
- พ.ศ. 2519 - นักเลงสามสลึง
- พ.ศ. 2519 - แมงดาปีกทอง
- พ.ศ. 2519 - เสือกเกิดมาจน
- พ.ศ. 2520 - ถล่มมาเฟีย
- พ.ศ. 2521 - ขุนดอน
- พ.ศ. 2524 - กามนิต วาสิฎฐี
- พ.ศ. 2526 - พิษรัก
- พ.ศ. 2526 - ขุนโจร 5 นัด
- พ.ศ. 2527 - ผ่าโลกบันเทิง
- พ.ศ. 2530 - ปล้นข้ามโลก
- พ.ศ. 2531 - เพชรพยัคฆราช
- พ.ศ. 2548 - มนต์รักลูกทุ่ง
ฯลฯ
ผลงานละครทีวี
- พ.ศ. 2531 - พยัคฆ์สองแผ่นดิน ช่อง 3
- พ.ศ. 2532 - หน้ากากทอง ช่อง 3
- พ.ศ. 2532 - คนเหนือดวง ช่อง 7
- พ.ศ. 2533 - มนต์นาคราช ช่อง 7
- พ.ศ. 2534 - ดิน น้ำ ลม ไฟ ช่อง 7
- พ.ศ. 2534 - สุดถนนบนทางเปลี่ยว ช่อง 3
- พ.ศ. 2535 - เมืองโพล้เพล้ ช่อง 7
- พ.ศ. 2535 - ยอพระกลิ่น ช่อง 7
- พ.ศ. 2535 - ภูตแม่น้ำโขง ช่อง 7
- พ.ศ. 2536 - วันนี้ที่รอคอย ช่อง 7
- พ.ศ. 2536 - บัลลังก์เมฆ ช่อง 5
- พ.ศ. 2536 - จันทโครพ ช่อง 7
- พ.ศ. 2537 - แม่นาคพระโขนง ช่อง 5
- พ.ศ. 2537 - มิติมหัศจรรย์ ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2537 - กระสือ ช่อง 7
- พ.ศ. 2538 - เกราะเพชรเจ็ดสี ช่อง 7
- พ.ศ. 2538 - ไกรทอง ช่อง 7
- พ.ศ. 2538 - สายโลหิต ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2539 - รัตนโกสินทร์ ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2540 - นางสาวไม่จำกัดนามสกุล ช่อง 5
- พ.ศ. 2540 - นางเอก ช่อง 7
- พ.ศ. 2540 - สิงหไกรภพ ช่อง 7
- พ.ศ. 2540 - บิ๊กเสี่ย ช่อง 7
- พ.ศ. 2540 - ชุมทางเขาชุมทอง ช่อง 5
- พ.ศ. 2541 - โรงแรมผี ช่อง 9
- พ.ศ. 2541 - ระย้า ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2541 - ชวนฝันพนันรัก ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2542 - เกิดแต่ชาติปางไหน ช่อง 3
- พ.ศ. 2542 - 18 มงกุฎสะดุดรัก ช่อง 5
- พ.ศ. 2542 - นางพญาไพร ช่อง 7
- พ.ศ. 2542 - มะปรางข้างรั้ว ช่อง 7
- พ.ศ. 2542 - โซดากับชาเย็น ช่อง 5
- พ.ศ. 2543 - อังกอร์ ช่อง 7
- พ.ศ. 2543 - แม่นากพระโขนง ช่อง 3
- พ.ศ. 2543 - คู่รักคู่รบ ช่อง 5
- พ.ศ. 2543 - หงส์เหนือมังกร ช่อง 5
- พ.ศ. 2543 - เพชรรุ้งไฟ ช่อง 7
- พ.ศ. 2543 - สาวใช้หัวใจชิคาโก้ ช่อง 5
- พ.ศ. 2543 - รักซึมลึก ช่อง 7
- พ.ศ. 2544 - เจ้าแม่จำเป็น ช่อง 5
- พ.ศ. 2544 - รักเกิดในตลาดสด ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2544 - หน้าต่างบานแรก ช่อง ITV
- พ.ศ. 2544 - พระสุธน-มโนราห์ ช่อง 3
- พ.ศ. 2544 - แม่โขง ช่อง 7
- พ.ศ. 2545 - หัวใจไกลปืนเที่ยง ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2545 - กระตุกหนวดเสือ ช่อง 7
- พ.ศ. 2545 - 5 คม ช่อง 3
- พ.ศ. 2545 - ศึกรบ ศึกรัก ช่อง 3
- พ.ศ. 2545 - จารชนยอดรัก ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2545 - ล่าสุดขอบฟ้า ช่อง 7
- พ.ศ. 2545 - นิราศสองภพ ช่อง 3 รับเชิญ
- พ.ศ. 2545 - หาดหรรษา ช่อง 7
- พ.ศ. 2545 - บัวกลางบึง ช่อง 7
- พ.ศ. 2546 - นายร้อยสอยดาว ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2546 - ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ช่อง ITV
- พ.ศ. 2546 - อลวนคนไร่ส้ม ช่อง 3
- พ.ศ. 2546 - ทับเทวา ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2547 - เขยมะริกัน ช่อง 3
- พ.ศ. 2548 - ทางหลวงทางรัก ช่อง 3
- พ.ศ. 2549 - คุณนายสายลับ ช่อง 5
- พ.ศ. 2549 - นรกตัวสุดท้าย ช่อง 3 รับเชิญ
- พ.ศ. 2549 - รักติดลบ ช่อง 7
- พ.ศ. 2549 - ต่างฟ้าตะวันเดียว ช่อง 3
- พ.ศ. 2549 - ทะเลใจ ช่อง 7 รับเชิญ
- พ.ศ. 2549 - เงินปากผี ช่อง ITV
- พ.ศ. 2549 - ดวง ช่อง 7
- พ.ศ. 2549 - รังนกบนปลายไม้ ช่อง 3
- พ.ศ. 2550 - ตากสินมหาราช ช่อง 3 รับเชิญ
- พ.ศ. 2550 - รักนี้หัวใจเราจอง ช่อง 3 รับเชิญ
- พ.ศ. 2551 - ผ่าโลกบันเทิง ช่อง 7
- พ.ศ. 2553 - นักฆ่าขนตางอน ช่อง 7
- พ.ศ. 2555 - พ่อตาปืนโต ช่อง 7
- พ.ศ. 2556 - เลือดเจ้าพระยา ช่อง 7
ฯลฯ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2554 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2552 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. 2551 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 "นที"เปลี่ยนชื่อเป็น"กรุงศรีวิไล"หวั่น ปชช.จำไม่ได้ จากมติชน
- ↑ ณรงค์ จันทร์เรือง. วิชิต โรจนประภา ราชา "บางกอก". กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2542. 104 หน้า. ISBN 974-7343-75-4
- ↑ เพื่อไทยประชุมขับ "กรุง ศรีวิไล"
- ชีวประวัติ กรุง ศรีวิไล ที่ ฐานข้อมูลภาพยนตร์ไทย
- กระทู้ใน thaifilm.com
- กรุง ศรีวิไล nangdee.com
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2489
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักแสดงชายชาวไทย
- นักร้องลูกทุ่งไทย
- นักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ
- พรรคพลังประชาชน (พ.ศ. 2541)
- พรรคเพื่อไทย
- พรรคภูมิใจไทย
- บุคคลจากจังหวัดสมุทรปราการ
- พุทธศาสนิกชนชาวไทย
- แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ
- บุคคลจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- นักแสดงภาพยนตร์ชายชาวไทย