ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชวงศ์แสนซ้าย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
พีรวงค์ (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{เพิ่มอ้างอิง}}
{{Royal house
{{Royal house
|surname = ราชวงศ์เทพวงศ์
|surname = ราชวงศ์เทพวงศ์
|country = [[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
|country = [[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
|coat of arms =
|coat of arms =
|titles = เจ้านครประเทศราช
|titles = เจ้าประเทศราช
|founder = [[เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง]]
|founder = [[พระยาเทพวงศ์]]ลิ้นตอง
|final ruler = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
|final ruler = [[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
|current head =
|current head =
บรรทัด 12: บรรทัด 13:
| cadet branches = 31 ราชสกุล
| cadet branches = 31 ราชสกุล
}}
}}
'''ราชวงศ์เทพวงศ์''' หรือ '''ราชวงศ์แพร่''' เป็นราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจาก[[เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง]] <ref>ภูเดช แสนสา เจ้าผู้ครองนครแพร่ยุคประเทศราชของสยาม http://www.phraeobserver.com/2013/05/blog-post_7203.html</ref> ที่ปกครองนครแพร่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2361 มาจนถึง พ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมือง[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่ จากเหตุการณ์ครั้งนี้[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] เจ้าผู้ครองนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว ท่านจึงหลีภัยไปเมือง[[หลวงพระบาง]] [[ประเทศลาว]] และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 หลังจากนั้นทางราชสำนัก[[สยาม]]ก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่อีกจึงถือเป็นการสิ้นสุดตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครนับแต่นั้นมา
'''ราชวงศ์เทพวงศ์''' หรือ '''ราชวงศ์แพร่''' เป็นราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจาก[[พระยาเทพวงศ์]] (ลิ้นตอง)<ref>ภูเดช แสนสา เจ้าผู้ครองนครแพร่ยุคประเทศราชของสยาม http://www.phraeobserver.com/2013/05/blog-post_7203.html</ref> ที่ปกครองนครแพร่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2361 มาจนถึง พ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมือง[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่ จากเหตุการณ์ครั้งนี้[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] เจ้าผู้ครองนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว ท่านจึงหลีภัยไปเมือง[[หลวงพระบาง]] [[ประเทศลาว]] และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 หลังจากนั้นทางราชสำนัก[[สยาม]]ก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่อีกจึงถือเป็นการสิ้นสุดตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครนับแต่นั้นมา


== การสถาปนา ==
== การสถาปนา ==
'''ราชวงศ์เทพวงศ์''' หรือ '''ราชวงศ์แพร่''' ได้สถาปนาขึ้นโดยเจ้าหลวงเทพวงศ์ หรือ[[เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง]] (ลิ้นทอง) ปฐมราชวงศ์แห่งเจ้าผู้ครองนครแพร่เชื้อสายเจ้าหลวง 4 องค์สุดท้าย เป็นตระกูลใหญ่สืบเชื้อสายมาจากเชื้อเจ้าเจ็ดตน ที่ปกครองหัวเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือ หรือล้านนา เจ้าหลวงเทพวงศ์ ทรงเป็นโอรสเจ้าฟ้าชายสามแห่งนครเชียงตุง (ไทยเขิน) เจ้ากาวิละ เจ้าหลวงนครลำปาง (ภายหลังได้ไปปกครองเมืองเชียงใหม่) ได้ไปรับมาไว้ที่ลำปางเนื่องจากเป็นญาติกันแล้วส่งมาปกครองที่เมืองแพร่เมื่อ พ.ศ. 2361 เจ้าหลวงเทพวงศ์ นี้เป็นเจ้าเมืองที่พูดจาไพเราะน่าฟัง พูดเก่ง พูดจาสิ่งใดใคร ๆ ก็เชื่อฟังหมดจนชาวบ้านให้การเคารพนับถือ จึงตั้งสมญานามว่า "เจ้าหลวงลิ้นตอง (ลิ้นทอง)" จนถึงรัชสมัย[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] ปีพ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองนครแพร่ โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองนครแพร่ และทำมาหากินในการขุดพลอย ประเภทพลอยไพลินที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ในปัจจุบัน ได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหลวงนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ถอดจากยศตำแหน่ง ริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดคืน พระองค์จึงไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมือง[[หลวงพระบาง]] [[ประเทศลาว]] และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 แม้จนสุดท้ายแล้ว[[พระพุทธเจ้าหลวง]]ถึงจะทรงพิโรธการเรียกร้องความไม่เป็นธรรมของเจ้าหลวงเมืองแพร่อย่างไรพระองค์ก็ทรงออกมาปกป้องว่า เจ้าหลวงพิริยะเทพวงษ์นั้น แม้จะกลับมาชิงบ้านเมืองคืนจริง ก็ไม่ใช่ความคิดของเจ้าหลวงแต่เป็นนโยบายของฝรั่งเศส พระองค์ทรงให้เจ้านายทายาทเจ้าหลวงอยู่อย่างสงบสุขด้วยเจ้านายราชวงศ์จักรีที่ทรงวางใจคือ[[สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] มือขวาของพระองค์นั่นเอง ส่วนเจ้านายที่ถูกคาดโทษพระองค์ก็ให้ทำหน้าที่ปราบโจรผู้ร้ายชดใช้
'''ราชวงศ์เทพวงศ์''' หรือ '''ราชวงศ์แพร่''' ได้สถาปนาขึ้นโดยพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง (ลิ้นทอง) ปฐมราชวงศ์แห่งเจ้าผู้ครองนครแพร่เชื้อสายเจ้าผู้ครองนคร 4 องค์สุดท้าย เป็นตระกูลใหญ่สืบเชื้อสายมาจากเชื้อเจ้าเจ็ดตน{{อ้างอิง}} ที่ปกครองหัวเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือ หรือล้านนา พระยาเทพวงศ์เป็นโอรสเจ้าฟ้าชายสามแห่งนครเชียงตุง (ไทยเขิน) พระยานครลำปางกาวิละ (ภายหลังได้ไปปกครองเมืองเชียงใหม่) ได้ไปรับมาไว้ที่ลำปางเนื่องจากเป็นญาติกันแล้วส่งมาปกครองที่เมืองแพร่เมื่อ พ.ศ. 2361 พระยาเทพวงศ์ นี้เป็นเจ้าเมืองที่พูดจาไพเราะน่าฟัง พูดเก่ง พูดจาสิ่งใดใคร ๆ ก็เชื่อฟังหมดจนชาวบ้านให้การเคารพนับถือ จึงตั้งสมญานามว่า "เจ้าหลวงลิ้นตอง (ลิ้นทอง)" จนถึงรัชสมัย[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] ปีพ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองนครแพร่ โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองนครแพร่ และทำมาหากินในการขุดพลอย ประเภทพลอยไพลินที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ในปัจจุบัน ได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหลวงนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ถอดจากยศตำแหน่ง ริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดคืน พระองค์จึงไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมือง[[หลวงพระบาง]] [[ประเทศลาว]] และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 แม้จนสุดท้ายแล้วถึงจะทรงพิโรธการเรียกร้องความไม่เป็นธรรมของเจ้าหลวงเมืองแพร่อย่างไรพระองค์ก็ทรงออกมาปกป้องว่า เจ้าหลวงพิริยะเทพวงษ์นั้น แม้จะกลับมาชิงบ้านเมืองคืนจริง ก็ไม่ใช่ความคิดของเจ้าหลวงแต่เป็นนโยบายของฝรั่งเศส{{อ้างอิง}} พระองค์ทรงให้เจ้านายทายาทเจ้าหลวงอยู่อย่างสงบสุขด้วยเจ้านายราชวงศ์จักรีที่ทรงวางใจคือ[[สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ]] มือขวาของพระองค์นั่นเอง ส่วนเจ้านายที่ถูกคาดโทษพระองค์ก็ให้ทำหน้าที่ปราบโจรผู้ร้ายชดใช้


ราชสกุลผู้สืบเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครแพร่ มีทั้งหมด 31 ราชสกุล ถึงไม่มีราชสกุล ณ แพร่ แต่รวมกันเรียกว่า '''วงศ์วรญาติ''' เทียบเท่าราชสกุล ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ ลำปาง และ ณ น่าน ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ
ราชสกุลผู้สืบเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครแพร่ มีทั้งหมด 31 ราชสกุล ถึงไม่มีราชสกุล ณ แพร่ แต่รวมกันเรียกว่า '''วงศ์วรญาติ''' เทียบเท่าราชสกุล ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ ลำปาง และ ณ น่าน ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ
บรรทัด 38: บรรทัด 39:
*แพร่พันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าอินทรเดช เทพวงศ์ หรือ [[โชติ แพร่พันธุ์]] ราชนัดดา[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
*แพร่พันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าอินทรเดช เทพวงศ์ หรือ [[โชติ แพร่พันธุ์]] ราชนัดดา[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
*วังซ้าย ต้นสกุล คือ เจ้าพระวังซ้าย (มหาจักร) พระวังซ้าย[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
*วังซ้าย ต้นสกุล คือ เจ้าพระวังซ้าย (มหาจักร) พระวังซ้าย[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
*ผาทอง ต้นสกุล คือ เจ้าเทพวงศ์ บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติ[[เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง]]
*ผาทอง ต้นสกุล คือ เจ้าเทพวงศ์ บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติ[[พระยาเทพวงศ์]]ลิ้นตอง
*วงศ์บุรี ต้นสกุล คือ [[แม่เจ้าบัวถา มหายศปัญญา]] ชายาองค์แรกใน[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
*วงศ์บุรี ต้นสกุล คือ [[แม่เจ้าบัวถา มหายศปัญญา]] ชายาองค์แรกใน[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]]
*วงศ์พระถาง ต้นสกุล คือ เจ้าพระถาง พระถาง[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
*วงศ์พระถาง ต้นสกุล คือ เจ้าพระถาง พระถางนครแพร่
*ขัติยวรา
*ขัติยวรา
*รสเข้ม
*รสเข้ม
*แสนศิริพันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าพระวิไชยราชา (หนานขัติ) พระวิไชยราชา[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]] บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติ[[เจ้าหลวงเทพวงศ์ลิ้นตอง]]
*แสนศิริพันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าพระวิไชยราชา (หนานขัติ) พระวิไชยราชานครแพร่ บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง
*วงศ์เมืองแก่น ต้นสกุล คือ เจ้าพระเมืองแก่น พระเมืองแก่น[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
*วงศ์เมืองแก่น ต้นสกุล คือ เจ้าพระเมืองแก่น พระเมืองแก่นนครแพร่
*ไชยประวัติ
*ไชยประวัติ
*วงศ์วรรณ ต้นสกุล คือ เจ้าแสน บุตรเจ้าเทพวงศ์ แยกมาจากสกุล "ผาทอง"
*วงศ์วรรณ ต้นสกุล คือ เจ้าแสน บุตรเจ้าเทพวงศ์ แยกมาจากสกุล "ผาทอง"
*วิจผัน
*วิจผัน
*บุตรรัตน์
*บุตรรัตน์
*นามวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าน้อยนามวงศ์ นัดดาเจ้าราชวงศ์[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]]
*นามวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าน้อยนามวงศ์ นัดดาเจ้าราชวงศ์นครแพร่
*แก่นหอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานตั๋น ราชบุตรใน[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] กับหม่อมไม่ทราบนาม
*แก่นหอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานตั๋น ราชบุตรในเจ้าพิริยเทพวงษ์ กับหม่อมไม่ทราบนาม
*แก่นจันทร์หอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานสม ราชบุตรใน[[เจ้าพิริยเทพวงษ์]] กับหม่อมบัวคำ
*แก่นจันทร์หอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานสม ราชบุตรในเจ้าพิริยเทพวงษ์ กับหม่อมบัวคำ
*ศรีจันทร์แดง
*ศรีจันทร์แดง
*อิ่นคำลือ
*อิ่นคำลือ
*อุตรพงศ์
*อุตรพงศ์
*มหายศปัญญา ต้นสกุล คือ เจ้าบุรีรัตน์ (หนานมหายศ) เจ้าบุรีรัตน์[[นครรัฐแพร่|นครแพร่]] ผู้ได้รับพระราชนามสกุลคือ รองอำมาตย์เอก [[พระยาบุรีรัตน์ (หนู มหายศปัญญา)]]นัดดา บุตรเจ้าบุรีรัตน์ (หนานปัญญา)
*มหายศปัญญา ต้นสกุล คือ พระยาบุรีรัตน์ (หนานมหายศ) พระยาบุรีรัตน์นครแพร่ ผู้ได้รับพระราชนามสกุลคือ รองอำมาตย์เอก [[พระยาบุรีรัตน์ (หนู มหายศปัญญา)]] นัดดา บุตรพระยาบุรีรัตน์ (หนานปัญญา)
*วราราช
*วราราช
*ใยญาณ
*ใยญาณ
*เมืองพระ
*เมืองพระ
*ดอกไม้
*ดอกไม้
*สารศิริวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าสุริยะจางวาง โอรส[[เจ้าหลวงพิมพิสาร]]
*สารศิริวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าสุริยะจางวาง โอรส[[พระยาพิมพิสารราชา]]
*หัวเมืองแก้ว
*หัวเมืองแก้ว
*รัตนวงศ์
*รัตนวงศ์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:07, 12 พฤษภาคม 2559

ราชวงศ์แสนซ้าย
พระราชอิสริยยศเจ้าประเทศราช
ปกครองนครแพร่
สาขา31 ราชสกุล
ประมุขพระองค์แรกพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง
ประมุขพระองค์สุดท้ายเจ้าพิริยเทพวงษ์
สถาปนาพ.ศ. 2361
ล่มสลายพ.ศ. 2445

ราชวงศ์เทพวงศ์ หรือ ราชวงศ์แพร่ เป็นราชวงศ์ที่สืบเชื้อสายมาจากพระยาเทพวงศ์ (ลิ้นตอง)[1] ที่ปกครองนครแพร่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2361 มาจนถึง พ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองนครแพร่โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่ จากเหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว ท่านจึงหลีภัยไปเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 หลังจากนั้นทางราชสำนักสยามก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่อีกจึงถือเป็นการสิ้นสุดตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครนับแต่นั้นมา

การสถาปนา

ราชวงศ์เทพวงศ์ หรือ ราชวงศ์แพร่ ได้สถาปนาขึ้นโดยพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง (ลิ้นทอง) ปฐมราชวงศ์แห่งเจ้าผู้ครองนครแพร่เชื้อสายเจ้าผู้ครองนคร 4 องค์สุดท้าย เป็นตระกูลใหญ่สืบเชื้อสายมาจากเชื้อเจ้าเจ็ดตน[ต้องการอ้างอิง] ที่ปกครองหัวเมืองต่าง ๆ ในภาคเหนือ หรือล้านนา พระยาเทพวงศ์เป็นโอรสเจ้าฟ้าชายสามแห่งนครเชียงตุง (ไทยเขิน) พระยานครลำปางกาวิละ (ภายหลังได้ไปปกครองเมืองเชียงใหม่) ได้ไปรับมาไว้ที่ลำปางเนื่องจากเป็นญาติกันแล้วส่งมาปกครองที่เมืองแพร่เมื่อ พ.ศ. 2361 พระยาเทพวงศ์ นี้เป็นเจ้าเมืองที่พูดจาไพเราะน่าฟัง พูดเก่ง พูดจาสิ่งใดใคร ๆ ก็เชื่อฟังหมดจนชาวบ้านให้การเคารพนับถือ จึงตั้งสมญานามว่า "เจ้าหลวงลิ้นตอง (ลิ้นทอง)" จนถึงรัชสมัยเจ้าพิริยเทพวงษ์ ปีพ.ศ. 2445 ได้เกิดความไม่สงบขึ้นในเมืองนครแพร่ โดยพวกไทใหญ่หรือเงี้ยวที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในเมืองนครแพร่ และทำมาหากินในการขุดพลอย ประเภทพลอยไพลินที่ตำบลบ่อแก้ว อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ในปัจจุบัน ได้ทำการก่อจลาจลในเมืองนครแพร่เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2445 จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหลวงนครแพร่ถูกกล่าวหาว่าคบกับพวกเงี้ยว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ถอดจากยศตำแหน่ง ริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมดคืน พระองค์จึงไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว และได้พำนักอยู่ที่นั่นจนกระทั่งพิราลัยในปี พ.ศ. 2455 แม้จนสุดท้ายแล้วถึงจะทรงพิโรธการเรียกร้องความไม่เป็นธรรมของเจ้าหลวงเมืองแพร่อย่างไรพระองค์ก็ทรงออกมาปกป้องว่า เจ้าหลวงพิริยะเทพวงษ์นั้น แม้จะกลับมาชิงบ้านเมืองคืนจริง ก็ไม่ใช่ความคิดของเจ้าหลวงแต่เป็นนโยบายของฝรั่งเศส[ต้องการอ้างอิง] พระองค์ทรงให้เจ้านายทายาทเจ้าหลวงอยู่อย่างสงบสุขด้วยเจ้านายราชวงศ์จักรีที่ทรงวางใจคือสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มือขวาของพระองค์นั่นเอง ส่วนเจ้านายที่ถูกคาดโทษพระองค์ก็ให้ทำหน้าที่ปราบโจรผู้ร้ายชดใช้

ราชสกุลผู้สืบเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครแพร่ มีทั้งหมด 31 ราชสกุล ถึงไม่มีราชสกุล ณ แพร่ แต่รวมกันเรียกว่า วงศ์วรญาติ เทียบเท่าราชสกุล ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ ลำปาง และ ณ น่าน ในหัวเมืองฝ่ายเหนือ

เจ้าผู้ครองนครแพร่ (2361-2445)

รายพระนามเจ้าผู้ครองนครแพร่ ยุคราชวงศ์เทพวงศ์

ลำดับ พระนาม ปีที่ครองราชย์
1 พระยาเทพวงศ์ พ.ศ.2361-พ.ศ.2373
2 พระยาอินทวิไชย พ.ศ.2373-พ.ศ.2415
3 พระยาพิมพิสารราชา พ.ศ.2415-พ.ศ.2431
4 เจ้าพิริยเทพวงษ์ พ.ศ.2432-พ.ศ.2445

ราชสกุลเจ้าผู้ครองนครแพร่

ราชสกุลสายเจ้าผู้ครองนครแพร่ มีทั้งหมด 31 ราชสกุล รวมกันเรียกว่าวงศ์วรญาติ คือ

  • เทพวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 22
  • แพร่พันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าอินทรเดช เทพวงศ์ หรือ โชติ แพร่พันธุ์ ราชนัดดาเจ้าพิริยเทพวงษ์
  • วังซ้าย ต้นสกุล คือ เจ้าพระวังซ้าย (มหาจักร) พระวังซ้ายนครแพร่
  • ผาทอง ต้นสกุล คือ เจ้าเทพวงศ์ บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง
  • วงศ์บุรี ต้นสกุล คือ แม่เจ้าบัวถา มหายศปัญญา ชายาองค์แรกในเจ้าพิริยเทพวงษ์
  • วงศ์พระถาง ต้นสกุล คือ เจ้าพระถาง พระถางนครแพร่
  • ขัติยวรา
  • รสเข้ม
  • แสนศิริพันธุ์ ต้นสกุล คือ เจ้าพระวิไชยราชา (หนานขัติ) พระวิไชยราชานครแพร่ บุตรเจ้าแสนเสมอใจเครือญาติพระยาเทพวงศ์ลิ้นตอง
  • วงศ์เมืองแก่น ต้นสกุล คือ เจ้าพระเมืองแก่น พระเมืองแก่นนครแพร่
  • ไชยประวัติ
  • วงศ์วรรณ ต้นสกุล คือ เจ้าแสน บุตรเจ้าเทพวงศ์ แยกมาจากสกุล "ผาทอง"
  • วิจผัน
  • บุตรรัตน์
  • นามวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าน้อยนามวงศ์ นัดดาเจ้าราชวงศ์นครแพร่
  • แก่นหอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานตั๋น ราชบุตรในเจ้าพิริยเทพวงษ์ กับหม่อมไม่ทราบนาม
  • แก่นจันทร์หอม ต้นสกุล คือ เจ้าหนานสม ราชบุตรในเจ้าพิริยเทพวงษ์ กับหม่อมบัวคำ
  • ศรีจันทร์แดง
  • อิ่นคำลือ
  • อุตรพงศ์
  • มหายศปัญญา ต้นสกุล คือ พระยาบุรีรัตน์ (หนานมหายศ) พระยาบุรีรัตน์นครแพร่ ผู้ได้รับพระราชนามสกุลคือ รองอำมาตย์เอก พระยาบุรีรัตน์ (หนู มหายศปัญญา) นัดดา บุตรพระยาบุรีรัตน์ (หนานปัญญา)
  • วราราช
  • ใยญาณ
  • เมืองพระ
  • ดอกไม้
  • สารศิริวงศ์ ต้นสกุล คือ เจ้าสุริยะจางวาง โอรสพระยาพิมพิสารราชา
  • หัวเมืองแก้ว
  • รัตนวงศ์
  • นันทิยา
  • กันจรรยา
  • วงศ์วรญาติ

อ้างอิง

  1. ภูเดช แสนสา เจ้าผู้ครองนครแพร่ยุคประเทศราชของสยาม http://www.phraeobserver.com/2013/05/blog-post_7203.html
  • ภูเดช แสนสา เจ้าผู้ครองนครแพร่ยุคประเทศราชของสยาม
  • ประวัติศาสตร์แพร่(เหตุเงี้ยวจราจล)
ก่อนหน้า ราชวงศ์แสนซ้าย ถัดไป
ราชวงศ์มังไชย ราชวงศ์ที่ปกครองนครแพร่
(พ.ศ. 2361 - พ.ศ. 2445)