ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลาพระเกี้ยว"
ใส่แหล่งอ้างอิง และจะใส่ข้อมูลเพื่อพัฒนาต่อไป ป้ายระบุ: ผู้ใช้แก้หน้าเปลี่ยนทาง |
เพิ่มหัวข้อระดับสองและใส่เนื้อหา เพิ่มแหล่งอ้างอิง |
||
บรรทัด 30: | บรรทัด 30: | ||
'''ศาลาพระเกี้ยว''' เป็นอาคารเอนกประสงค์ของ[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] สร้างในปี [[พ.ศ. 2508]]<ref>หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 7 พฤศจิกายน 2552. http://www.memohall.chula.ac.th/article/ศาลาพระเกี้ยว/ (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหลายอย่าง เช่น [[จุฬาฯวิชาการ]] ชั้นใต้ดินเป็น[[ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] ลักษณะภายนอกของศาลาพระเกี้ยวเป็น[[สถาปัตยกรรมสมัยใหม่]] รูปทรงคล้าย[[พระเกี้ยว]] ในปี [[พ.ศ. 2559]] ศาลาพระเกี้ยวได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจาก[[สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์]]<ref>สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์. ประกาศผลการคัดเลือก รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2559. 5 พฤษภาคม 2559. http://www.asa.or.th/en/node/140800 (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> |
'''ศาลาพระเกี้ยว''' เป็นอาคารเอนกประสงค์ของ[[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] สร้างในปี [[พ.ศ. 2508]]<ref>หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 7 พฤศจิกายน 2552. http://www.memohall.chula.ac.th/article/ศาลาพระเกี้ยว/ (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหลายอย่าง เช่น [[จุฬาฯวิชาการ]] ชั้นใต้ดินเป็น[[ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]] ลักษณะภายนอกของศาลาพระเกี้ยวเป็น[[สถาปัตยกรรมสมัยใหม่]] รูปทรงคล้าย[[พระเกี้ยว]] ในปี [[พ.ศ. 2559]] ศาลาพระเกี้ยวได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจาก[[สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์]]<ref>สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์. ประกาศผลการคัดเลือก รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2559. 5 พฤษภาคม 2559. http://www.asa.or.th/en/node/140800 (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> |
||
== ประวัติ == |
|||
นับตั้งแต่ [[พ.ศ. 2500]] จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี[[นิสิต]]เป็นจำนวนมาก มีการสนับสนุนให้นิสิตทำกิจกรรมในระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัย ทำให้สโมสรนิสิตจำเป็นต้องมีการขยายพื้นที่ปฏิบัติงานจากอาคารจักรพงษ์ที่ใช้อยู่เดิม ในขณะนั้น[[จอมพล]] [[ประภาส จารุเสถียร]] [[อธิการบดี]]จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยในขณะนั้นมีแนวคิดที่จะสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของนิสิต สภามหาวิทยาลัยจึงอนุมัติให้สร้างอาคารหลังหนึ่งโดยใช้ชื่อว่า ศาลาพระเกี้ยว ขึ้นบริเวณด้านหลังอาคารจุลจักรพงษ์ในปัจจุบัน ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 12 ล้านบาท<ref>จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.</ref> |
|||
ศาลาพระเกี้ยวเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ [[พ.ศ. 2508]] สร้างเสร็จลงใน [[พ.ศ. 2509]] มี[[หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ]] เป็น[[สถาปนิก]]ออกแบบ เลิศ อุรัสยนันทน์เป็นสถาปนิกผู้ช่วยและมีรชฏ กาญจนะวณิชย์เป็น[[วิศวกร]]ควบคุมการก่อสร้าง หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้มีพิธีเปิดในวันที่ [[26 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2510]] ซึ่งตรงกับวันครบรอบการประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครบ 50 ปี<ref>สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/cen31.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> |
|||
ในปี [[พ.ศ. 2522]] จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการปิดศาลาพระเกี้ยวเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่ เนื่องจากความทรุดโทรมที่เกิดจากการใช้งานมายาวนานและปัญหาฐานรากทรุด ใช้งบประมาณในการซ่อมแซมในครั้งนี้เป็นเงิน 19 ล้านบาท ใช้เวลา 2 ปีครึ่งจึงแล้วเสร็จ<ref>จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.</ref> หลังจากนั้น 35 ปี ในปี พ.ศ. 2557 ศาลาพระเกี้ยวปิดทำการอีกครั้งเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ประกอบไปด้วยการปรับปรุงชั้นล่าง(ชั้นใต้ดิน) ใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท<ref>สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. โครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยวชั้นล่าง. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/projects.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> และการปรับปรุงตัวอาคารศาลาพระเกี้ยว ใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ในครั้งนี้ใช้เวลาปรับปรุง 1 ปีจึงสามารถเปิดทำการได้ในปีการศึกษา 2558<ref>ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. แจ้งโครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยว . 14 มีนาคม 2557. http://www.civil.eng.chula.ac.th/news/2014/03/14/225 (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).</ref> |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:41, 9 พฤษภาคม 2559
ศาลาพระเกี้ยว | |
---|---|
Sala Prakeaw | |
ทางเข้าด้านหน้าของศาลาพระเกี้ยว | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | อาคารเอนกประสงค์ |
สถาปัตยกรรม | สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ |
เมือง | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 |
ประเทศ | ประเทศไทย |
พิกัด | 13°44′08″N 100°31′53″E / 13.735487°N 100.531432°E |
เริ่มสร้าง | พ.ศ. 2508 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2509 |
ปรับปรุง | ครั้งแรก พ.ศ. 2522 ครั้งที่สอง พ.ศ. 2557 |
ผู้สร้าง | จอมพล ประภาส จารุเสถียร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
โครงสร้าง | คอนกรีตเสริมเหล็กและไม้ |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | หม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ เลิศ อุรัสยะนันท์ |
วิศวกร | รชฎ กาญจนะวณิชย์ |
รางวัล | รางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2559 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ |
ศาลาพระเกี้ยว เป็นอาคารเอนกประสงค์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างในปี พ.ศ. 2508[1] ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมของมหาวิทยาลัยหลายอย่าง เช่น จุฬาฯวิชาการ ชั้นใต้ดินเป็นศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลักษณะภายนอกของศาลาพระเกี้ยวเป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ รูปทรงคล้ายพระเกี้ยว ในปี พ.ศ. 2559 ศาลาพระเกี้ยวได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์[2]
ประวัติ
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2500 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีนิสิตเป็นจำนวนมาก มีการสนับสนุนให้นิสิตทำกิจกรรมในระหว่างศึกษาในมหาวิทยาลัย ทำให้สโมสรนิสิตจำเป็นต้องมีการขยายพื้นที่ปฏิบัติงานจากอาคารจักรพงษ์ที่ใช้อยู่เดิม ในขณะนั้นจอมพล ประภาส จารุเสถียร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยในขณะนั้นมีแนวคิดที่จะสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นศูนย์รวมกิจกรรมของนิสิต สภามหาวิทยาลัยจึงอนุมัติให้สร้างอาคารหลังหนึ่งโดยใช้ชื่อว่า ศาลาพระเกี้ยว ขึ้นบริเวณด้านหลังอาคารจุลจักรพงษ์ในปัจจุบัน ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 12 ล้านบาท[3]
ศาลาพระเกี้ยวเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2508 สร้างเสร็จลงใน พ.ศ. 2509 มีหม่อมเจ้าโวฒยากร วรวรรณ เป็นสถาปนิกออกแบบ เลิศ อุรัสยนันทน์เป็นสถาปนิกผู้ช่วยและมีรชฏ กาญจนะวณิชย์เป็นวิศวกรควบคุมการก่อสร้าง หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้มีพิธีเปิดในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2510 ซึ่งตรงกับวันครบรอบการประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครบ 50 ปี[4]
ในปี พ.ศ. 2522 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการปิดศาลาพระเกี้ยวเพื่อทำการปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่ เนื่องจากความทรุดโทรมที่เกิดจากการใช้งานมายาวนานและปัญหาฐานรากทรุด ใช้งบประมาณในการซ่อมแซมในครั้งนี้เป็นเงิน 19 ล้านบาท ใช้เวลา 2 ปีครึ่งจึงแล้วเสร็จ[5] หลังจากนั้น 35 ปี ในปี พ.ศ. 2557 ศาลาพระเกี้ยวปิดทำการอีกครั้งเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 2 ประกอบไปด้วยการปรับปรุงชั้นล่าง(ชั้นใต้ดิน) ใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท[6] และการปรับปรุงตัวอาคารศาลาพระเกี้ยว ใช้งบประมาณ 60 ล้านบาท ในครั้งนี้ใช้เวลาปรับปรุง 1 ปีจึงสามารถเปิดทำการได้ในปีการศึกษา 2558[7]
อ้างอิง
- ↑ หอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 7 พฤศจิกายน 2552. http://www.memohall.chula.ac.th/article/ศาลาพระเกี้ยว/ (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์. ประกาศผลการคัดเลือก รางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม ประจำปี 2559. 5 พฤษภาคม 2559. http://www.asa.or.th/en/node/140800 (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.
- ↑ สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศาลาพระเกี้ยว. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/cen31.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ๙ ทศวรรษ พัฒนาการทางกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพ, กรุงเทพ: บริษัท แปลนพริ้นติ้ง จำกัด, 2552.
- ↑ สำนักบริหารระบบกายภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. โครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยวชั้นล่าง. 27 พฤศจิกายน 2557. http://www.prm.chula.ac.th/projects.html (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).
- ↑ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. แจ้งโครงการปรับปรุงศาลาพระเกี้ยว . 14 มีนาคม 2557. http://www.civil.eng.chula.ac.th/news/2014/03/14/225 (9 พฤษภาคม 2559 ที่เข้าถึง).