ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เซลตาเดบิโก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3: บรรทัด 3:
| image = [[ไฟล์:RC Celta de Vigo logo.svg|155px|ตราสัญลักษณ์สโมสร]]
| image = [[ไฟล์:RC Celta de Vigo logo.svg|155px|ตราสัญลักษณ์สโมสร]]
| caption =
| caption =
| fullname = {{nowrap|บริษัทกีฬา ราชสโมสรเคลต์แห่งบีโก จำกัด (มหาชน)}}
| fullname = บริษัทกีฬา ราชสโมสรเคลต์แห่งบีโก จำกัด (มหาชน)
| nickname = ''โอสเซลตีโกส'' (เหล่าชาวเคลต์)<br />''โอสเซเลสเตส'' (เหล่าชุดฟ้า)<br />''โอเซลตีญา'' (เจ้าเซลตาน้อย)
| nickname = ''โอสเซลตีโกส'' (เหล่าชาวเคลต์)<br />''โอสเซเลสเตส'' (เหล่าชุดฟ้า)<br />''โอเซลตีญา'' (เจ้าเซลตาน้อย)
| motto =
| motto =

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:21, 7 พฤษภาคม 2559

เซลตาเดบีโก
ตราสัญลักษณ์สโมสร
ชื่อเต็มบริษัทกีฬา ราชสโมสรเคลต์แห่งบีโก จำกัด (มหาชน)
ฉายาโอสเซลตีโกส (เหล่าชาวเคลต์)
โอสเซเลสเตส (เหล่าชุดฟ้า)
โอเซลตีญา (เจ้าเซลตาน้อย)
ก่อตั้ง23 สิงหาคม 1923; 100 ปีก่อน (1923-08-23)
สนามบาลาอีโดส
บีโก ประเทศสเปน
Ground ความจุ29,000 คน[1]
ประธานสโมสรการ์โลส โมว์รีโญ1
หัวหน้าผู้ฝึกสอนเอดัวร์โด เบริซโซ
ลีกลาลีกา
2014–15ลาลีกา, อันดับที่ 8
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน
ฤดูกาลปัจจุบัน

ราชสโมสรเคลต์แห่งบีโก (สเปน: Real Club Celta de Vigo) หรือเรียกว่า เซลตาบีโก หรือ เซลตา เป็นสโมสรฟุตบอลสเปน ตั้งอยู่ในเมืองบีโก แคว้นกาลิเซีย ประเทศสเปน ปัจจุบันลงแข่งขันในลาลีกา โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2466 จากการรวมตัวกันของเรอัลบีโกสปอร์ติงกับเรอัลฟอร์ตูนาฟุตบอลกลุบ โดยมีฉายาว่า "โอสเซเลเตส" (เหล่าชุดฟ้า) ซึ่งมีชุดเหย้าเป็นเสื้อสีฟ้าและกางเกงสีขาว มีสนามเหย้าชื่อบาลาอีโดส สามารถจุผู้ชมได้ 29,000 คน ชื่อสโมสรมีที่มาจากชาวเคลต์ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในแถบพื้นที่นี้ เซลตาเดบีโกมีเดปอร์ตีโบเดลาโกรูญาเป็นทีมคู่แข่งในการแข่งขันกาลิเซียนดาร์บี

อย่างไรก็ตามในการลงเล่นในลาลีกาหลายฤดูกาล เซลตาไม่เคยได้แชมป์โกปาเดลเรย์ แต่สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้ง หนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดคือ 1970–1971 พวกเขาจบฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใครในบ้านและเป็นที่รู้จักในชื่อ "ผู้ฆ่ายักษ์" (giant-killers) เซลตาจบด้วยอันดับที่ 6 ในฤดูกาลนั้นและได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันในยูฟ่าคัพเป็นครั้งแรก เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ในฤดูกาล 2002–2003 ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และตกรอบด้วยการแพ้อาร์เซนอลในรอบ 16 ทีม

ประวัติ

มูลนิธิ

เรอัลกลุบเซลตาเดบีโกได้ก่อตั้งขึ้นจากความมุ่งมั่นของบีโกที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับประเทศซึ่งในขณะนั้นมีชาวบาสก์เป็นคู่แข่งในการแข่งขันฟุตบอลสเปนมาโดยตลอด ทำให้เกิดแนวคิดที่จะรวมทั้งสองทีมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสโมสรที่มีขุมพลังมากพอที่จะแข่งขันในระดับประเทศ โดยผู้นำในการเคลื่อนไหวคือ มานูเอล เด กัสโตร นักเขียนหนังสือพิมพ์กีฬา ฟาโรเดบีโก ในปี พ.ศ. 2458 เขาได้เริ่มเขียนบทความว่าด้วยความจำเป็นนี้โดยมีคำขวัญว่า "โตโดปอร์อีปาราบีโก" (ทุกอย่างเพื่อบีโกและสำหรับบีโก) ซึ่งในที่สุดก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้จัดการทีมของเรอัลบีโกสปอร์ติงและเรอัลกลุบฟอร์ตูนาเดบีโก และได้รับการสนับสนุนโดยเอกฉันท์เมื่อเด กัสโตร นำเสนอแนวคิดดังกล่าวด้วยตนเองในที่ประชุมราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปนกรุงมาดริด เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2466

ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ในการประชุมสามัญประจำปีของบีโกและฟอร์ตูนาซึ่งจัดขึ้นที่โรงละครโอเดออนและโรงแรมโมเดร์โนตามลำดับ มีการประกาศว่าจะยุบรวมสโมสรทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้ "สโมสรแห่งกาลิเซีย" ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยในการประชุมนั้นมีการยืนยันที่จะจัดตั้งสโมสรใหม่ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2466 สมาชิกได้เสนอชื่อทีมเข้ามามากมายเช่น "เรอัลอูนีออนเดบีโก", "กลุบกาลิเซีย", "เรอัลอัตลันติก", "เบรโอกัน" และ "เรอัลกลุบโอลิมปีโก" โดยชื่อสุดท้ายเป็นชื่อที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด แต่ในที่สุดแล้วก็ได้ตัดสินใจใช้ชื่อ "เรอัลกลุบเซลตา" ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มชาติพันธุ์มีความเชื่อมโยงกับแคว้นกาลิเซีย (ดูเพิ่มที่ ชาวเคลต์) โดยมีประธานสโมสรคนแรกคือ มานูเอล บาร์เซนา เด อันเดรส และในการประชุมได้ตัดสินใจส่งรายชื่อผู้เล่นจำนวน 64 คน รวมไปถึงผู้เล่นของฟอร์ตูนาและบีโกด้วย

ยูโรเซลตา

ในช่วงปี พ.ศ. 2540 จนถึง พ.ศ. 2546 เป็นช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมในลาลีกา ฤดูกาล 2002–2003 ด้วยการจบด้วยอันดับที่ 4 และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยได้รับการขนานนามจากสื่อสเปนว่า "เอวโรเซลตา" ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 สหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ ได้ประกาศว่าเซลตาเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลกประจำเดือน ในยุคที่ผู้เล่นสเปนสามารถทำผลงานได้ดี รวมไปถึงผู้เล่นต่างประเทศก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน

อ้างอิง