ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาพิมพิสารราชา"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ยึดตามพงศาวดารที่อ้างอิง |
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 66: | บรรทัด 66: | ||
[[หมวดหมู่:เจ้าผู้ครองนครแพร่]] |
[[หมวดหมู่:เจ้าผู้ครองนครแพร่]] |
||
[[หมวดหมู่:เจ้านายฝ่ายเหนือ]] |
[[หมวดหมู่:เจ้านายฝ่ายเหนือ]] |
||
[[หมวดหมู่:วงศ์ |
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์เทพวงศ์]] |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดแพร่]] |
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดแพร่]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:33, 2 พฤษภาคม 2559
พระยาพิมพิสารราชา | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าพิมพิสาร | |||||
พระยาแพร่ | |||||
ครองราชย์ | พ.ศ. 2415 – พ.ศ. 2429[1] | ||||
รัชกาลก่อนหน้า | พระยาอินทวิไชย | ||||
รัชกาลถัดไป | เจ้าพิริยเทพวงษ์ | ||||
พระชายา | แม่เจ้าแก้วไหลมาราชเทวี | ||||
| |||||
พระบุตร | 5 พระองค์ | ||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์เทพวงศ์ | ||||
พระบิดา | พระยาวังขวา | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าปิ่นแก้ว |
พระยาพิมพิสารราชา หรือ พระยาพิมพิสาร (พิมสาร หรือ ขาเค) ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 21 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้สืบตำแหน่งพระยาแพร่ต่อจาก พระยาอินทวิไชยผู้เป็นปิตุลาของพระองค์
พระประวัติ
พระยาพิมสารราชา หรือเจ้าหลวงพิมพิสารขาเค (พ.ศ. 2415 – พ.ศ. 2429)[1] เป็นโอรสของพระยาวังขวา (เฒ่า) กับเจ้าปิ่นแก้ว น้องสาวพระยาแสนซ้าย (บิดาพระยาศรีสุริยวงศ์ (มังไชย)) ได้รับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นราชวงศ์ เมื่อพระยาอินทวิไชยผู้เป็นปิตุลาถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2414 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งเป็นพระยาแพร่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ พระยาพิมพิสารไม่ลงไปเข้าเฝ้า จึงไม่ได้รับพระราชทานนามใหม่ขึ้นเป็นเจ้าอย่างเจ้านครเชียงใหม่ เจ้านครลำพูน เจ้านครลำปาง และเจ้านครเมืองน่าน[2]
พระยาพิมพิสาร เป็นเจ้าเมืองที่ปลูกฝังนิสัยเรื่องการประหยัด และการรู้จักประมาณตนแก่ชาวเมืองแพร่เป็นอย่างดี ดังมีเรื่องเล่ากันว่า หม้อน้ำที่ท่านตั้งไว้ข้างถนนสำหรับผู้สัญจรนั้น จะมีกระบวยใหญ่และกระบวยเล็กอย่างละ 1 อัน หากใครใช้กระบวยใหญ่ตักดื่มน้ำแล้ว เทน้ำที่เหลือทิ้ง หรือใช้กระบวยเล็กตักดื่มซ้ำเมื่อไม่อิ่ม ต่างก็โดนก๋งยิง (เป็นอาวุธที่ใช้ลูกหินขนาดเล็กเป็นกระสุนสามารถทำให้เจ็บตัวหรือเป็นแผลได้) ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่รู้จักประมาณตนเอง หรือไม่ประหยัด นอกจากนี้เจ้าหลวงพิมพิสารยังมีกิจการค้าไม้สัก ทำรายได้เข้าเมืองแพร่นับหลายล้านบาทต่อปี ทำให้เศรษฐกิจในเมืองแพร่มีความต่อเนื่องและเป็นไปได้ดี[3]
ชายา โอรส และธิดา
พระยาพิมพิสารมีชายาและโอรสธิดา ดังนี้[3]
- เจ้าแก้วไหลมาราชเทวี (มีหลักฐานในแผ่นศิลา-จารึกที่วัดหลวง) แต่ไม่ปรากฏมีโอรส-ธิดา ด้วยกันหรือไม่
- แม่เจ้าธิดา มีโอรส-ธิดา 4 องค์ คือ
- แม่เจ้าไข สมรสกับ เจ้าชัยลังกา ไม่มีบุตร-ธิดา
- แม่เจ้าเบาะ สมรสกับ เจ้าหัวหน้า มีบุตรธิดา 2 คน
- 1.เจ้าฟองคำ สามีไม่ทราบนาม
- 2.เจ้าน้อยทวงศ์ สมรสกับแม่เจ้าขันคำ
รสเข้ม(ไม่มีบุตรธิดา)
- แม่เจ้าอินทร์ลงเหลา สมรสกับเจ้าหนานศรีทิ (เจ้านายเมืองน่าน) มีบุตรธิดา 3 คน
- 1.เจ้าศรีเมือง
- 2.แม่เจ้าฟอง บรรเลง สมรสกับนายหนานแสน บรรเลง
- 3.แม่เจ้าแก้ว เหลี่ยมเพชร
- เจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์สุดท้าย
- แม่เจ้าคำใย้ มีโอรส 1 องค์ คือ
- เจ้าสุริยะจางวาง สมรส 4 ครั้ง
- สมรสครั้งที่1 กับแม่เจ้าสุชาดา (ไม่มีบุตรธิดา)
- สมรสครั้งที่2 กับนางฟองแก้ว มีธิดา 1 คน คือ
- เจ้าบุญนำ วังซ้าย (สารศิริวงศ์)
- สมรสครั้งที่3 กับนางเป็ง มีบุตร 1 คน คือ
- เจ้าน้อย สารศิริวงศ์
- สมรสครั้งที่4 กับนางแก้ว มีบุตร 1 คน คือ
- เจ้านอยเป็ด สารศิริวงศ์
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 วรชาติ มีชูบท. เจ้านายฝ่ายเหนือและตำนานรักมะเมียะ. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2556. 428 หน้า. หน้า 20. ISBN 978-616-220-054-0
- ↑ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑-๔. กรุงเทพฯ : ศรีปัญญา, 2555. 2,136 หน้า. หน้า 1559. ISBN 978-616-7146-30-0
- ↑ 3.0 3.1 "เจ้าหลวงพิมพิสาร (พิมสาร หรือขาเค)". วังฟ่อนดอทคอม. 18 สิงหาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)