ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กีฬาแห่งชาติ"
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 6435765 โดย 171.7.247.26ด้วยสจห. |
|||
บรรทัด 58: | บรรทัด 58: | ||
== กีฬาที่แข่งขัน == |
== กีฬาที่แข่งขัน == |
||
ใครลบออกวะ จะทำรายงาน ไอห่า |
|||
== การแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภาค == |
== การแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภาค == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:26, 27 เมษายน 2559
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ก่อตั้ง |
|
---|---|
จัดขึ้นทุก | 1 ปี |
ครั้งล่าสุด | ครั้งที่ 17 พิษณุโลกเกมส์ พิษณุโลก |
วัตถุประสงค์ | สร้างความแข็งแกร่งให้แก่วงการกีฬาของชาติ |
สำนักงานใหญ่ | การกีฬาแห่งประเทศไทย |
ผู้ว่าการ | กนกพันธุ์ จุลเกษม |
หมายเหตุ | แบ่งเป็นกีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย, กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และ กีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งประเทศไทย |
ก่อตั้ง | |
---|---|
จัดขึ้นทุก | 1 ปี |
ครั้งล่าสุด | ครั้งที่ 44 นครสวรรค์เกมส์ นครสวรรค์ |
วัตถุประสงค์ | สร้างความแข็งแกร่งให้แก่วงการกีฬาของชาติ |
สำนักงานใหญ่ | การกีฬาแห่งประเทศไทย |
ผู้ว่าการ | กนกพันธุ์ จุลเกษม |
หมายเหตุ | แบ่งเป็นกีฬาแห่งชาติ, กีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย, กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย และ กีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งประเทศไทย |
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ (อังกฤษ: Thailand National Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายประเภท ระหว่างภูมิภาคในประเทศไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการจัดแข่งขัน และมีกลุ่มนักกีฬาจาก 77 จังหวัดในประเทศไทยเข้าร่วม ปัจจุบันจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี จากนั้นตั้งแต่การแข่งขันครั้งที่ 46 ประจำปี พ.ศ. 2561 จะปรับลดกำหนดแข่งขันลงเป็น 2 ปีต่อครั้ง
ประวัติ
กีฬาแห่งชาติ เดิมเรียกว่า "กีฬาเขตแห่งประเทศไทย" จัดโดยองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (อสกท.; ปัจจุบันคือ การกีฬาแห่งประเทศไทย; กกท.) เพื่อคัดเลือกผู้แทนนักกีฬาจากประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 กีฬาเขตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 จัดการแข่งขันที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย. พ.ศ. 2510 แบ่งการแข่งขันเป็นเขต จึงใช้ชื่อการแข่งขันว่า กีฬาเขตแห่งประเทศไทย โดยการแข่งขันครั้งแรก แบ่งกลุ่มนักกีฬาออกเป็น 5 เขตจากภูมิภาคต่างๆ
หลังจากนั้น เมื่อจัดแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทยครั้งต่อๆ มา จึงมีการปรับเพิ่มกลุ่มนักกีฬาตามเขตภูมิภาค ขึ้นเป็นลำดับตามความเหมาะสม โดยเฉพาะในการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 5 ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 10 เขต โดยแยกกรุงเทพมหานคร ออกมาจากเขต 1 เป็นเขต 10
ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 คณะกรรมการ อสกท.มีมติให้เปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่ว่า กีฬาแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ประจำปี พ.ศ. 2528 พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการแข่งขันเพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่วงการกีฬาของชาติ
ต่อมาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ การกีฬาแห่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติ โดยปรับลดกำหนดแข่งขันลงจากปีละ 1 ครั้งเป็น 2 ปีต่อครั้ง และปรับปรุงการแบ่งกลุ่มนักกีฬา จากเดิมที่แบ่งตามภูมิภาคจำนวน 10 เขต มาเป็นแบ่งตามจังหวัดทั้ง 76 และแข่งขันแบบ 2 ปีครั้งมาอีก 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 33 เชียงใหม่, ครั้งที่ 34 ราชบุรี, ครั้งที่ 35 สุพรรณบุรี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2549 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ กกท.ปรับเพิ่มกำหนดแข่งขันขึ้นจาก 2 ปีต่อครั้ง กลับไปเป็นปีละ 1 ครั้งตามเดิม ในครั้งที่ 36 นครศรีธรรมราช โดยให้เหตุผลเพื่อความต่อเนื่องในการพัฒนาวงการกีฬา แต่ยังแข่งขันในนามจังหวัดเหมือนเดิม
จากนั้นในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ประจำปี พ.ศ. 2555 มีการเพิ่มกลุ่มนักกีฬา ขึ้นจาก 76 เป็น 77 จังหวัด เนื่องจากมีการก่อตั้งจังหวัดบึงกาฬขึ้นใหม่
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ที่ประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยมีมติให้ปรับลดกำหนดการจัดแข่งขันกีฬาแห่งชาติลงจากปีละ 1 ครั้ง เป็น 2 ปีต่อครั้ง และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามนั้น เพื่อให้นักกีฬาได้มีเวลาในการเตรียมตัว ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ เนื่องจากปัจจุบันมีการแข่งขันกีฬาทั้งในและต่างประเทศหลายรายการ ทำให้การเตรียมตัวของนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันซ้ำซ้อนกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการฝึกซ้อมและงบประมาณในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อความสอดคล้องกับการแข่งขันกีฬาหลายรายการทั้งในและต่างประเทศเหล่านั้น โดยจะเริ่มในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 ประจำปี พ.ศ. 2561 เพื่อให้สลับกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์
ประวัติไฟพระฤกษ์
ไฟพระฤกษ์ เป็นไฟที่อัญเชิญมาเพื่อประกอบพิธีเปิดกีฬาแห่งชาติและจุดในกระถางคบเพลิงตลอดการแข่งขัน ไฟพระฤกษ์สำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ เริ่มมีครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาเขตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันจะต้องขอพระราชทานไฟพระฤกษ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อนำมา ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะต้องทำหนังสือติดต่อไปยังสำนักราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูลถึงกำหนดนัดหมาย วัน เวลา สถานที่ ให้คณะกรรมการเข้าเฝ้ารับพระราชทานไฟพระฤกษ์นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงจุดจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วพระราชทานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติในปีนั้นๆ ที่กรุงเทพมหานคร
โดยวิธีการจุดไฟพระฤกษ์นั้น สำนักพระราชวังจะนำพระแว่น “สุรยกานต์” ไปทอดไว้ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ก่อนวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่ละปี สำหรับพระราชพิธีจัดไฟขึ้นอยู่กับสถาวะอากาศ และเมื่อทรงประกอบพระราชพิธีจัดไฟเรียบร้อยแล้ว สำนักพระราชวังจะนำไฟพระฤกษ์ไปเก็บรักษาไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และจะเลี้ยงไว้สำหรับใช้ในปีนั้น จนกระทั่งถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ของปีนั้น ไฟพระฤกษ์ที่เลี้ยงไว้นี้จะใช้ในพระราชพิธีต่างๆ รวมทั้งเชิญไปใช้ในการพระราชทานเพลิงศพบุคคลที่สมควรด้วย[1]
กีฬาที่แข่งขัน
การแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภาค
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติในปัจจุบันกำหนดให้มีการจัดการแข่งขันในรอบคัดเลือก เพื่อเลือกตัวแทนนักกีฬาของแต่ละจังหวัดให้เข้ามาแข่งขันในรอบสุดท้ายในระดับประเทศในปีนั้นๆ โดยรอบคัดเลือกในระดับภาคนี้จะจัดแยกกันออกไปในแต่ละภาคแบ่งออกเป็น 5 ภาค คือ
ชื่อภาค | จำนวนจังหวัด | รายชื่อจังหวัด |
---|---|---|
ภาค 1 | 8 จังหวัด | จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด
นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว |
ภาค 2 | 18 จังหวัด | กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์
พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง |
ภาค 3 | 20 จังหวัด | กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์
มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี และอุบลราชธานี |
ภาค 4 | 14 จังหวัด | กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา
พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี |
ภาค 5 | 17 จังหวัด | กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก
เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี |
จังหวัดที่เข้าร่วมแข่งขัน
แบ่งตามภูมิภาค
แบ่งตามเขต
ชื่อเขต | จำนวนจังหวัด | รายชื่อจังหวัด |
---|---|---|
เขต 1 | 9 จังหวัด | ชัยนาท นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง |
เขต 2 | 8 จังหวัด | จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว |
เขต 3 | 8 จังหวัด | ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี |
เขต 4 | 12 จังหวัด | กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี |
เขต 5 | 8 จังหวัด | เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน |
เขต 6 | 9 จังหวัด | กำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี |
เขต 7 | 8 จังหวัด | กาญจนบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี |
เขต 8 | 7 จังหวัด | กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต ระนอง สุราษฎร์ธานี |
เขต 9 | 7 จังหวัด | ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล |
เขต 10 | 1 จังหวัด | กรุงเทพมหานคร |
แบ่งตามจังหวัด
ชนิดกีฬาที่จัดแข่งขัน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เจ้าภาพจัดการแข่งขัน
ครั้งที่ | ชื่อการแข่งขัน | ระยะเวลา | จังหวัด | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
1 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 1 - 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 | พระนคร | แบ่งกลุ่มนักกีฬาออกเป็น 5 เขต จากภูมิภาคต่างๆ |
2 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 3 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2511 | เชียงใหม่ | |
3 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 24 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2512 | สงขลา | |
4 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 1 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 | นครราชสีมา | |
5 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 2 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514 | นครสวรรค์ | เพิ่มกลุ่มนักกีฬาจากเดิม 9 เขต โดยแยกกรุงเทพมหานคร ออกจากเขต 1 มาเป็นเขต 10 |
6 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 2 - 8 ธันวาคม พ.ศ. 2515 | ราชบุรี | |
7 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 23 - 29 สิงหาคม พ.ศ. 2516 | นครศรีธรรมราช | |
8 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 3 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2517 | ชลบุรี | |
9 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 - 4 ธันวาคม พ.ศ. 2518 | ลพบุรี | |
10 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 4 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2519 | อุดรธานี | |
11 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 11 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2520 | กรุงเทพมหานคร | |
12 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 14 - 30 มกราคม พ.ศ. 2522 | อุบลราชธานี | เดิมกำหนดจัดในปี พ.ศ. 2521 แต่เกิดอุทกภัย ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขัน |
13 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 23 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2522 | ลำปาง | |
14 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 22 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2524 | ปัตตานี | |
15 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 22 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 | อุดรธานี | |
16 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 19 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2525 | ภูเก็ต | |
17 | กีฬาเขตแห่งประเทศไทย | 22 - 28 มกราคม พ.ศ. 2527 | พิษณุโลก | คณะกรรมการ อสกท.เปลี่ยนชื่อการแข่งขัน เป็นกีฬาแห่งชาติ โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ การแข่งขันครั้งที่ 18 เป็นต้นไป |
ครั้งที่ | ชื่อการแข่งขัน | ระยะเวลา | จังหวัด | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
18 | กีฬาแห่งชาติ | 20 - 26 มกราคม พ.ศ. 2528 | เชียงราย | |
19 | กีฬาแห่งชาติ | 14 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 | จันทบุรี | |
20 | กีฬาแห่งชาติ | 23 - 29 มกราคม พ.ศ. 2530 | ร้อยเอ็ด | |
21 | กีฬาแห่งชาติ | 18 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2530 | ลพบุรี | สัญลักษณ์ หนุมานถือคบเพลิง ออกแบบโดย อาทิตย์ ทวีคูณ |
22 | กีฬาแห่งชาติ | 22 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2532 | สงขลา | |
23 | กีฬาแห่งชาติ | 4 - 10 มีนาคม พ.ศ. 2533 | เชียงใหม่ | |
24 | กีฬาแห่งชาติ อยุธยาเกมส์ | 17 - 23 มีนาคม พ.ศ. 2534 | พระนครศรีอยุธยา | |
25 | กีฬาแห่งชาติ ขอนแก่นเกมส์ | 12 - 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 | ขอนแก่น | |
26 | กีฬาแห่งชาติ สุราษฎร์ธานีเกมส์ | 24 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 | สุราษฎร์ธานี | |
27 | กีฬาแห่งชาติ สุพรรณบุรีเกมส์ | 19 - 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 | สุพรรณบุรี | |
28 | กีฬาแห่งชาติ นครสวรรค์เกมส์ | 16 - 23 มิถุนายน พ.ศ. 2539 | นครสวรรค์ | |
29 | กีฬาแห่งชาติ ตรังเกมส์ | 19 - 26 ธันวาคม พ.ศ. 2539 | ตรัง | |
30 | กีฬาแห่งชาติ ศรีสะเกษเกมส์ | 8 - 15 ธันวาคม พ.ศ. 2540 | ศรีสะเกษ | |
31 | กีฬาแห่งชาติ ระยองเกมส์ | 24 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | ระยอง | มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ กกท.รับเป็นเจ้าภาพ มีกำหนดจัด 2 ปีต่อครั้ง และปรับการแบ่งกลุ่มนักกีฬา ตามภูมิภาคจำนวน 10 เขต เป็นแบ่งตามจังหวัดทั้ง 76 |
32 | กีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานครเกมส์ | 9 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2543 | กรุงเทพมหานคร | |
33 | กีฬาแห่งชาติ เชียงใหม่เกมส์ | 13 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2545 | เชียงใหม่ | |
34 | กีฬาแห่งชาติ ราชบุรีเกมส์ | 18 - 28 ธันวาคม พ.ศ. 2547 | ราชบุรี | |
35 | กีฬาแห่งชาติ สุพรรณบุรีเกมส์ | 9 - 19 กันยายน พ.ศ. 2549 | สุพรรณบุรี | มีมติคณะรัฐมนตรี เปลี่ยนแปลงการแข่งขันจาก 2 ปีต่อครั้ง เป็นปีละ 1 ครั้ง เพื่อความต่อเนื่องในการพัฒนาของวงการกีฬา โดยรูปแบบการแข่งขันยังเป็นเช่นเดิม |
36 | กีฬาแห่งชาติ นครศรีธรรมราชเกมส์ | 15 - 25 กันยายน พ.ศ. 2550 | นครศรีธรรมราช | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
37 | กีฬาแห่งชาติ พิษณุโลกเกมส์ | 14 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551 | พิษณุโลก | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
38 | กีฬาแห่งชาติ ตรังเกมส์ | 9 - 19 กันยายน พ.ศ. 2552 | ตรัง | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
39 | กีฬาแห่งชาติ ชลบุรีเกมส์ | 9 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2553 | ชลบุรี | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
40 | กีฬาแห่งชาติ ขอนแก่นเกมส์ | 3 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2555 | ขอนแก่น | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ 1 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ 2 เดิมกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน- 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 แต่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขัน ไปเป็นวันที่ 3 มีนาคม - 13 มีนาคม พ.ศ. 2555 |
41 | กีฬาแห่งชาติ เชียงใหม่เกมส์ | 9 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555 | เชียงใหม่ | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
42 | กีฬาแห่งชาติ สุพรรณบุรีเกมส์ | 5 - 15 มกราคม พ.ศ. 2557 | สุพรรณบุรี | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ใช้ชื่อการแข่งขัน ตราสัญลักษณ์และตุ๊กตาสัญลักษณ์ ซ้ำกับกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 35 เนื่องจากจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเจ้าภาพครั้งที่ 3 |
43 | กีฬาแห่งชาติ นครราชสีมาเกมส์ | 9 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557 | นครราชสีมา | เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ |
44 | กีฬาแห่งชาติ นครสวรรค์เกมส์ | 12 - 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 | นครสวรรค์ | ถูกยกเลิกพิธีเปิดในวันที่ 11 ธันวาคมจึงมีกิจกรรม Bike for dad ปั่นเพื่อพ่อให้พิธีเปิดจัดในวันที่ 12 ธันวาคม |
45 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2559 | สงขลา | คณะรัฐมนตรียืนยันในการจัดกรฬาแห่งชาติเป็น 2 ปีต่อครั้งดังเดิม โดยให้จังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 45 เหมือนเดิม แต่ขยับไปจัดในปี 2560 แทน โดยไม่ต้องคัดเลือกเจ้าภาพใหม่ [1] |
46 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2561 | เชียงราย | มีการเปลี่ยนแปลงการจัดการแข่งขันเป็น 2 ปีต่อครั้ง ตามมติคณะรัฐมนตรี [2] |
47 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2563 | ศรีสะเกษ | |
48 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2565 | ศรีสะเกษ | |
49 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2567 | ศรีสะเกษ | |
50 | กีฬาแห่งชาติ | พ.ศ. 2569 | เชียงใหม่ |
สรุปจังหวัดที่เป็นเจ้าภาพ
จังหวัด | จำนวนครั้ง | ปีที่เป็นเจ้าภาพ |
---|---|---|
เชียงใหม่ | 4 | |
สุพรรณบุรี | 3 | |
นครสวรรค์ | 3 | |
กรุงเทพมหานคร | 3 | |
สงขลา | 2 | |
นครราชสีมา | 2 | |
สระบุรี | 2 | |
ราชบุรี | 2 | |
นราธิวาส | 2 | |
ชลบุรี | 2 | |
ลพบุรี | 2 | |
อุดรธานี | 2 | |
พิษณุโลก | 2 | |
ขอนแก่น | 2 | |
ตรัง | 2 | |
ศรีสะเกษ | 2 | |
อุบลราชธานี | 1 | |
ลำปาง | 1 | |
ปัตตานี | 1 | |
ภูเก็ต | 1 | |
เชียงราย | 1 | |
จันทบุรี | 1 | |
ร้อยเอ็ด | 1 | |
พระนครศรีอยุธยา | 1 | |
สุราษฎร์ธานี | 1 | |
ระยอง | 1 |