ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลในประเทศไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 168: บรรทัด 168:


== รายชื่อผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ==
== รายชื่อผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ==
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ลงมติในการประชุมครั้งที่ 23/2556 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 กำหนดให้เจ้าของโครงข่าย โทรทัศน์ระบบแอนะล็อกเดิม ซึ่งประกอบด้วย[[กรมประชาสัมพันธ์]] โดย[[สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย]], [[บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)]] โดย[[ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี]], [[องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย]] โดย[[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]] และ[[สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก]] (2 โครงข่าย) เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายในระบบดิจิทัลไปพร้อมกันด้วย<ref>[http://broadcast.nbtc.go.th/news/preview.php?news=NTYwNjAwMDAwMDE1 บอร์ดกระจายเสียง/กสทช. มีมติอนุญาตให้ กองทัพบก บมจ. อสมท. กรมประชาสัมพันธ์ และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล], 25 มิถุนายน 2556, กสทช.</ref> กล่าวคือผู้ประกอบการทุกรายที่ กสทช.รับรองใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ตามที่กำหนด จะต้องเลือกใช้โครงข่ายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จากผู้ให้บริการทั้ง 4 รายดังกล่าว ดังรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้<ref name="channels">[http://broadcast.nbtc.go.th/TVDigital/TVDigitalChannels ช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล] จาก[[เว็บไซต์]] [http://broadcast.nbtc.go.th ภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช.]</ref>
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ลงมติในการประชุมครั้งที่ 23/2556 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 กำหนดให้เจ้าของโครงข่าย โทรทัศน์ระบบแอนะล็อกเดิม ซึ่งประกอบด้วย[[กรมประชาสัมพันธ์]] โดย[[สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย]], [[บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)]] โดย[[ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี]], [[องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย]] โดย[[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]] และ[[สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก]] (2 โครงข่าย) เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายในระบบดิจิทัลไปพร้อมกันด้วย<ref>[http://broadcast.nbtc.go.th/news/preview.php?news=NTYwNjAwMDAwMDE1 บอร์ดกระจายเสียง/กสทช. มีมติอนุญาตให้ กองทัพบก กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล], 25 มิถุนายน 2556, กสทช.</ref> กล่าวคือผู้ประกอบการทุกรายที่ กสทช.รับรองใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ตามที่กำหนด จะต้องเลือกใช้โครงข่ายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จากผู้ให้บริการทั้ง 4 รายดังกล่าว ดังรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้<ref name="channels">[http://broadcast.nbtc.go.th/TVDigital/TVDigitalChannels ช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล] จาก[[เว็บไซต์]] [http://broadcast.nbtc.go.th ภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช.]</ref>


{| class="wikitable"
{| class="wikitable"

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:42, 24 เมษายน 2559

ไฟล์:Thai-digitaltv-mascot.png
ภาพสัญลักษณ์ "ดิจิทัลทีวี" และตุ๊กตาสัญลักษณ์ "น้องดูดี" เพื่อประชาสัมพันธ์

โทรทัศน์ระบบดิจิทัลในประเทศไทย (อังกฤษ: Digital television in Thailand) เป็นระบบรับส่งสัญญาณวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ภายในอาณาเขตประเทศไทย ด้วยระบบดิจิทัล โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง กำหนดระยะของการทดลองออกอากาศไว้ ระหว่างวันอังคารที่ 1 ถึงวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557[1] ก่อนจะกำหนดเวลาให้ผู้ประกอบการทุกราย เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย เพื่อเริ่มออกอากาศในส่วนกลาง ระหว่างวันศุกร์ที่ 25 เมษายน ถึงวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557


โดยตามแผนของ กสทช.จะเริ่มทำการยุติการส่งสัญญาณโทรทัศน์ ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อก ภายในปี พ.ศ. 2558[2] แต่ในแผนดำเนินการจริง ของสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อก เมื่อถึงปี พ.ศ. 2558 ไทยพีบีเอส จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 2 พื้นที่ พ.ศ. 2559 ไทยพีบีเอส จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 26 พื้นที่ พ.ศ. 2560 ไทยพีบีเอส จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 21 พื้นที่ ททบ.5 จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 4 พื้นที่ สทท.จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกในทั่วประเทศ พ.ศ. 2561 ไทยพีบีเอส จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 3 พื้นที่ที่เหลือ ททบ.5 จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกใน 37 พื้นที่ที่เหลือ โมเดิร์นไนน์ทีวี จะยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อกในทั่วประเทศ ส่วนช่อง3และช่อง7 จะหมดสัมปทานในปี พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2566 ตามลำดับ

ตามแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ พ.ศ. 2555 กำหนดให้เริ่มต้นรับส่งสัญญาณ วิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ด้วยระบบดิจิทัลภายในเวลา 4 ปี นับแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555 ซึ่งประกาศแผนแม่บทฉบับดังกล่าว และสืบเนื่องด้วย แผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ 1 (กรอบการดำเนินงานอยู่ในช่วงระหว่างปี 2555-2559) มีการกำหนดยุทธศาสตร์ และระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่าน จากการส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ด้วยระบบแอนะล็อก ไปสู่การใช้ระบบดิจิทัล โดยให้เริ่มรับส่ง สัญญาณวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ด้วยระบบดิจิทัล ภายใน 4 ปี, ให้มีมาตรการสนับสนุนการวิจัย และพัฒนาการผลิตอุปกรณ์รับสัญญาณ วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ภายใน 3 ปี, ให้มีมาตรการสนับสนุน อุปกรณ์รับสัญญาณวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล สำหรับผู้มีรายได้น้อย ภายใน 3 ปี และให้มีจำนวนครัวเรือนในเมืองใหญ่ ที่สามารถรับสัญญาณวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัลได้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ภายใน 5 ปี[3]

จำนวนและประเภทช่องโทรทัศน์

กสทช. กำหนดจำนวนและรูปแบบ ช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล เบื้องต้นไว้ทั้งสิ้น 48 ช่อง[3] ได้แก่

  • กลุ่มช่องประเภทบริการสาธารณะและชุมชน จำนวน 24 ช่อง โดยใช้วิธีการคัดเลือกคุณสมบัติ (Beauty Contest) เพื่อรับรองใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ได้แก่
  1. ประเภทรายการบริการสาธารณะ จำนวน 12 ช่อง (ระดับชาติ)
  2. ประเภทรายการบริการชุมชน จำนวน 12 ช่อง (จำแนกเป็นแต่ละเขตบริการ)
  • กลุ่มช่องประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ จำนวน 24 ช่อง โดยใช้วิธีการประมูลคลื่นความถี่ (Auction) เพื่อรับรองใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ได้แก่
  1. ประเภทรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว จำนวน 3 ช่อง โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำไว้ที่ 140 ล้านบาท
  2. ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ จำนวน 7 ช่อง โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำไว้ที่ 220 ล้านบาท
  3. ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดปกติ (Standard Definition : SD) จำนวน 7 ช่อง โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำไว้ที่ 380 ล้านบาท
  4. ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง (High Definition : HD) จำนวน 7 ช่อง โดยกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำไว้ที่ 1,510 ล้านบาท
  • ผู้ชมช่องดิจิทัล 6 ช่องเดิม 3.42 ล้านคน
  • ช่องช่องดิจิทัล 21 ช่องใหม่ 1.37 ล้านคน

การประมูลใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่

ภายหลังที่ กสทช. ได้มีการกำหนดนโยบาย แนวทาง และแผนแม่บทการดำเนินการด้านกิจการโทรทัศน์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ก็ได้มีการประชุมภายในหลายครั้งจนได้หลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการจัดการบริหารช่องและคลื่นความถี่อย่างชัดเจน โดยมติที่ประชุมของ กสท. ณ วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555 มีรายละเอียดและข้อกำหนดดังนี้

  • อนุมัติช่องรายการดิจิทัลทีวีทั้งหมด 60 ช่อง แบ่งเป็น
    • บริการสาธารณะ 20% หรือ 12 ช่อง
    • บริการชุมชน 20% หรือ 12 ช่อง
    • บริการธุรกิจ 60% หรือ 36 ช่อง แบ่งเป็น
      • รายการเด็กและเยาวชน (ความละเอียดปกติ) 5 ช่อง
      • รายการข่าวสารและสารประโยชน์ (ความละเอียดปกติ) 5 ช่อง
      • รายการทั่วไป ความละเอียดปกติ 10 ช่อง
      • รายการทั่วไป ความคมชัดสูง 4 ช่อง

แต่ภายหลังได้มีการปรับลดจำนวนช่องลงเพื่อความเหมาะสม และมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขอยู่ตลอด จนในที่สุดข้อกำหนดทั้งหมดได้ถูกบันทึกเอาไว้ใน ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยมีรายละเอียดโดยย่อดังนี้

  • อนุมัติช่องรายการดิจิทัลทีวีทั้งหมด 48 ช่อง แบ่งเป็น
    • บริการสาธารณะ 25% หรือ 12 ช่อง โดยที่ กองทัพบก ไทยพีบีเอส และ กรมประชาสัมพันธ์ ได้รับช่องในการออกอากาศไปแล้ว 4 ช่อง
    • บริการชุมชน 25% หรือ 12 ช่อง จะเริ่มจัดสรรใบอนุญาตในการดำเนินการ พ.ศ. 2558
    • บริการธุรกิจ 50% หรือ 24 ช่อง แบ่งเป็น
      • รายการเด็กและเยาวชน (ความละเอียดปกติ) 3 ช่อง ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 140 ล้านบาท เคาะเพิ่มครั้งละ 2 ล้านบาท
      • รายการข่าวสารและสารประโยชน์ (ความละเอียดปกติ) 7 ช่อง ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 220 ล้านบาท เคาะเพิ่มครั้งละ 2 ล้านบาท
      • รายการทั่วไป ความละเอียดปกติ 7 ช่อง ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 380 ล้านบาท เคาะเพิ่มครั้งละ 5 ล้านบาท
      • รายการทั่วไป ความคมชัดสูง 7 ช่อง ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 1,510 ล้านบาท เคาะเพิ่มครั้งละ 10 ล้านบาท

โดยที่ กสทช. ได้เริ่มจำหน่ายซองเอกสารเงื่อนไขการประมูลช่องในวันที่ 10 - 12 กันยายน พ.ศ. 2556 เพื่อเตรียมความพร้อมในการประมูลที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556 โดย ณ เวลา 16.00 น. ของวันที่ 12 กันยายน กล่าวโดยสรุปคือ กสทช. ได้ขายซองประมูลให้กับภาคเอกชนไป 49 ซอง 49 ช่อง 33 บริษัท และนัดส่งเอกสารเพื่อเตรียมความพร้อมในการประมูลในเดือนตุลาคม จนกระทั่งในที่สุด กสทช. ก็ได้กำหนดวันประมูลดิจิทัลทีวีอย่างเป็นทางการ คือวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 จะเปิดประมูล 2 ประเภท คือช่องรายการทั่วไป ความคมชัดสูง และช่องรายการทั่วไป ความคมชัดปกติ และในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 จะเปิดประมูลอีกสองประเภท คือช่องข่าวสารและสารประโยชน์ และช่องเด็กและเยาวชน

ซึ่งกระประมูลในวันนั้น ทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศกว่า 50,862 ล้านบาท โดยแต่เดิมเงินก้อนนี้จะถูกส่งเข้า กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. เพื่อนำไปใช้ในการวิจัยเทคโนโลยีด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แต่ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 กลับเกิดเหตุความไม่โปร่งใสในการนำเงินไปใช้งาน หลังมีปัญหาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เป็นคณะรัฐประหารในช่วงนั้น จึงมีประกาศฉบับที่ 80/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยกำหนดให้ กสทช. ทำการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดจากเงินที่ได้จากการประมูลดิจิทัลทีวีจำนวน 50,862 ล้านบาทออก แล้วส่งเงินที่เหลือเข้ากระทรวงการคลังเพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินต่อไป

ช่องประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง

กสทช.จัดการประมูลช่องโทรทัศน์ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีบริษัทยื่นซองประมูลทั้งสิ้น 9 ราย ประมูลได้ 7 ราย มีรายได้รวม 23,700 ล้านบาท

อันดับ รหัสประมูล ชื่อผู้ประมูล มูลค่าประมูล
(ล้านบาท)
1 H04 (ช่อง 3) บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด 3,530
2 H06 (น.พ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ) บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด 3,460
3 H05 (ช่อง 7) บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด 3,370
4 H08 (ไทยรัฐ) บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด 3,360
5 H03 (โมเดิร์นไนน์ทีวี) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 3,340
6 H01 (อมรินทร์ พรินติง) บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด 3,320
6 (ร่วม) H07 (แกรมมี่) บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด 3,320
8 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท พีเอ็ม กรุ๊ป จำกัด 3,310
9 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด 3,000

ช่องประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดปกติ

กสทช.จัดการประมูลช่องโทรทัศน์ ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดปกติ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีบริษัทยื่นซองประมูล 16 ราย ประมูลได้ 7 ราย มีรายได้รวม 15,950 ล้านบาท

อันดับ รหัสประมูล ชื่อผู้ประมูล มูลค่าประมูล
(ล้านบาท)
1 S15 (เวิร์คพอยท์ทีวี) บริษัท ไทย บรอดคาสติง จำกัด 2,355
2 S03 (กลุ่มทรู) บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด 2,315
3 S10 (แกรมมี่) บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด 2,290
4 S02 (ช่อง 3) บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด 2,275
5 S09 (ช่อง 8) บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชัน จำกัด 2,265
6 S13 (เอ็มไทยดอตคอม) บริษัท โมโน บรอดคาสต์ จำกัด 2,250
7 S12 (เครือเนชั่น) บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติง จำกัด 2,200
8 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท บีบีทีวี แซทเทลวิชัน จำกัด
9 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
10 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชัน จำกัด
11 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
12 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติง จำกัด
13 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสต์ จำกัด
14 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ไทยทีวี จำกัด
15 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด
16 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ทัช ทีวี จำกัด

ช่องประเภทรายการข่าวสาร และสาระ

กสทช.จัดการประมูลช่องโทรทัศน์ ประเภทรายการข่าวสารและสาระ (ภาพคมชัดปกติ) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีบริษัทยื่นซองประมูล 10 ราย ประมูลได้ 7 ราย มีรายได้รวม 9,238 ล้านบาท

อันดับ รหัสประมูล ชื่อผู้ประมูล มูลค่าประมูล
(ล้านบาท)
1 N09 (เครือเนชั่น) บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชัน จำกัด 1,338
2 N06 บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด 1,330
3 N08 (ทีวีพูล) บริษัท ไทยทีวี จำกัด 1,328
4 N01 บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชัน จำกัด 1,318
5 N05 (เครือทรู, ทีเอ็นเอ็น24) บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ก จำกัด 1,316
6 N10 (เดลินิวส์) บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสต์ จำกัด 1,310
7 N04 บริษัท 3 เอ. มาร์เก็ตติง จำกัด 1,298
8 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท โมโน เจเนอเรชัน จำกัด
9 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ไอ-สปอร์ต มีเดีย จำกัด
10 ไม่ผ่านการประมูล บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด

ช่องประเภทรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว

กสทช.จัดการประมูลช่องโทรทัศน์ ประเภทรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว (ภาพคมชัดปกติ) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีบริษัทยื่นซองประมูล 6 ราย ประมูลได้ 3 ราย มีรายได้รวม 1,974 ล้านบาท

อันดับ รหัสประมูล ชื่อผู้ประมูล มูลค่าประมูล
(ล้านบาท)
1 K01 (ช่อง 3) บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด 666
2 K03 (โมเดิร์นไนน์ทีวี) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) 660
3 K06 (ทีวีพูล) บริษัท ไทยทีวี จำกัด 648
ไม่ผ่านการประมูล บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด
ไม่ผ่านการประมูล บริษัท เนชัน คิดส์ จำกัด
ไม่ผ่านการประมูล บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด

รายชื่อผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล

ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ลงมติในการประชุมครั้งที่ 23/2556 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 กำหนดให้เจ้าของโครงข่าย โทรทัศน์ระบบแอนะล็อกเดิม ซึ่งประกอบด้วยกรมประชาสัมพันธ์ โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย, บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี, องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (2 โครงข่าย) เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายในระบบดิจิทัลไปพร้อมกันด้วย[4] กล่าวคือผู้ประกอบการทุกรายที่ กสทช.รับรองใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ตามที่กำหนด จะต้องเลือกใช้โครงข่ายกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จากผู้ให้บริการทั้ง 4 รายดังกล่าว ดังรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้[5]

อุปกรณ์รวมส่งสัญญาณ เลขช่องสัญญาณ
(เฉพาะสถานีกรุงเทพฯ)
ชื่อผู้ให้บริการโครงข่าย ชื่อผู้รับบริการโครงข่าย
MUX#1 26 กรมประชาสัมพันธ์ โดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
(รหัส: PRD)
MUX#2 36 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
(รหัส: TV5 MUX2)
MUX#3 40 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี
(รหัส: MCOT)
MUX#4 44 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส(รหัส: TPBS)
MUX#5 52 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
(รหัส: TV5 MUX5)

เริ่มส่งสัญญาณ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 0.00 น.
สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา เริ่มส่งสัญญาณ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 8:00 น.

รายชื่อช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล และหมายเลขที่ใช้ออกอากาศ

หลังจากผ่านการประมูลช่องรายการแล้ว เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557 กสทช.เชิญบริษัทซึ่งผ่านการประมูลทั้งหมด มาประชุมเพื่อตกลงร่วมกัน ในการเลือกหมายเลขช่องที่ใช้ออกอากาศ ส่วนช่องที่ประมูลได้ใบอนุญาต ให้ผู้ที่ประมูลชนะด้วยมูลค่าเงินสูงสุดได้เลือกหมายเลขก่อนตามลำดับ และวันที่ 27 มกราคม ปีเดียวกัน กสทช.จึงประกาศหมายเลขช่องของแต่ละบริษัท ดังมีรายละเอียดตามตารางต่อไปนี้[5] (รายชื่อช่องที่ กสทช.ยังไม่อนุมัติให้ออกอากาศในปัจจุบัน แสดงด้วยตัวเอน) ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป เปลี่ยนเป็นช่องเกี่ยวกับหมายเลข1-36 จานดาวเทียมและทีวีดิจิตอล เหมือนกัน ทุกระบบ ทุกแพลทฟอร์ม

เลขช่อง องค์กร ชื่อช่อง ลักษณะ
ประเภทบริการสาธารณะ
1 กองทัพบกไทย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
(ททบ.)
ภาครัฐ
2 กรมประชาสัมพันธ์ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
(เอ็นบีที / NBT)
3 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ไทยพีบีเอส
(Thai PBS)
10 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา[7]
(Thai Parliament TV)
ประเภทรายการเด็ก เยาวชน และครอบครัว
13 บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 3 แฟมิลี
(Channel 3 Family)
ใบอนุญาต
14 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เอ็มคอตแฟมิลี
(MCOT Family)
15 (ช่องสัญญาณว่าง)[8]
ประเภทรายการข่าวสาร และสาระ
16 บริษัท ไทยนิวส์เน็ตเวิร์ก จำกัด ทีเอ็นเอ็น24
(TNN24)
ใบอนุญาต
17 (ช่องสัญญาณว่าง)[8]
18 บริษัท ดีเอ็นบรอดคาสต์ จำกัด นิวทีวี[9]
(New TV)
19 บริษัท สปริงนิวส์เทเลวิชัน จำกัด สปริงนิวส์
(Spring News)
20 บริษัท ไบรท์ทีวี จำกัด ไบรต์ทีวี
(Bright TV)
21 บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด วอยซ์ทีวี
(Voice TV)
22 บริษัท เอ็นบีซีเน็กซ์วิชัน จำกัด ช่องเนชั่น[10]
(Nation)
ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดปกติ
23 บริษัท ไทยบรอดคาสติง จำกัด ช่องเวิร์คพอยท์
(Workpoint TV)
ใบอนุญาต
24 บริษัท ทรูโฟร์ยู จำกัด ทรูโฟร์ยู[11]
(True4U)
25 บริษัท จีเอ็มเอ็มแชนแนล จำกัด จีเอ็มเอ็ม 25
(GMM 25)
26 บริษัท แบงคอกบิสสิเนสบรอดแคสติง จำกัด ช่องนาว[12]
(Now 26)
27 บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชัน จำกัด ช่อง 8
(Channel 8)
28 บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 3 เอสดี
(Channel 3 SD)
29 บริษัท โมโนบรอดคาซท์ จำกัด โมโน 29[13]
(Mono 29)
ประเภทรายการทั่วไป ภาพคมชัดสูง
30 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี[14]
(MCOT HD)
ใบอนุญาต
31 บริษัท จีเอ็มเอ็มวัน ทีวี เทรดดิ้ง จำกัด ช่องวัน
(One HD)
32 บริษัท ทริปเปิลวีบรอดคาสต์ จำกัด ไทยรัฐทีวี
(Thairath TV)
33 บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 3 เอชดี
(Channel 3 HD)
34 บริษัท อมรินทร์เทเลวิชัน จำกัด อมรินทร์ทีวี เอชดี[15]
(AmarinTV HD)
35 บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ช่อง 7 เอชดี
(Channel 7 HD)
36 บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติง จำกัด พีพีทีวี
(PPTV)
ประเภทบริการชุมชน
37-48 ยังไม่ให้ใบอนุญาตบริการ ยังไม่ออกอากาศ

เหตุการณ์สำคัญหลังออกอากาศจริง

  • 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ออกคำสั่งฉบับที่ 7/2557 ให้ระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี อันเนื่องมาจากเนื้อหาพาดพิงการเมืองที่มีนัยสำคัญ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการโทรทัศน์ ที่มีคำสั่งระงับการออกอากาศ โทรทัศน์ประเภทธุรกิจระดับชาติ นอกจากกรณีรัฐประหาร
    • เวลา 19.00 น. คสช. ออกประกาศฉบับที่ 4/2557 บังคับให้วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทั้งหมด ยุติการออกรายการตามปกติ โดยให้ถ่ายทอดสัญญาณ จากสถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพบก ในกรณีของวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ในกรณีวิทยุโทรทัศน์และผ่านดาวเทียม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
  • 23 พฤษภาคม - คสช. ประกาศเรียกผู้ให้บริการโทรทัศน์ระบบดิจิทัลทั้งหมด เข้าพบเพื่อปรึกษาหารือ และรับฟังคำชี้แจงแนวทาง ในการกลับมาออกอากาศ โทรทัศน์ระบบดิจิทัลตามปกติ ในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 09:00 น.[ต้องการอ้างอิง]
  • 24 พฤษภาคม - คสช. ยกเว้นประกาศฉบับที่ 14/2557 และ 18/2557 แก่ช่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัลทั้งหมดโดยอนุโลม จึงสามารถกลับมาออกอากาศตามปกติอีกครั้ง ยกเว้นวอยซ์ทีวี ที่ยังคงให้ระงับการออกอากาศ ตามประกาศฉบับที่ 15/2557 ต่อไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากมีรายการวิเคราะห์การเมือง ที่มีการเชิญนักวิชาการ อนึ่ง ทุกช่องจะแสดงภาพสัญลักษณ์ที่ คสช.กำหนด ไว้ที่หน้าจอมุมบนทางขวามือของผู้ชม เพื่อเป็นเครื่องยืนยันการอนุโลมให้ออกอากาศ หลังจากที่ คสช.กระทำรัฐประหาร
  • 8 มิถุนายน - เวลา 19:15 น. โทรทัศน์ทุกช่องเริ่มทยอยนำตราเครื่องหมาย คสช.ออกจากมุมขวาบนของหน้าจอ ตามการขอความร่วมมือ และประกาศจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (มีเพียงช่องพีพีทีวีที่แสดงอยู่มุมซ้ายบน) หลังจากได้รับอนุญาตแล้วอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง[16]
  • 14 มิถุนายน - คสช. ออกประกาศฉบับที่ 65/2557 อนุญาตให้วอยซ์ทีวี อันเป็นช่องหมายเลข 21 ของโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลซึ่ง กสทช.อนุญาตให้ประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ กลับมาออกอากาศรายการประจำได้ตามปกติ ทว่าต้องถือปฏิบัติ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 14/2557, ฉบับที่ 18/2557, ฉบับที่ 23/2557 และฉบับที่ 27/2557 รวมถึงตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเคร่งครัด ตลอดระยะเวลาการออกอากาศ[17] โดยทางวอยซ์ทีวีเตรียมความพร้อมไว้แล้วก่อนหน้านี้ และสามารถกลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง เมื่อเวลา 12:00 น. ของวันที่ 15 มิถุนายน เป็นต้นไป[18]

การเรียงลำดับช่องรายการ

เนื่องจากในระยะก่อนหน้า กสทช.ออกประกาศอนุญาต ผู้ให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สามารถนำหมายเลขช่องรายการ 1 ถึง 10 ไปทำประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ เมื่อระยะต่อมา กสทช.ดำเนินการให้แพร่ภาพโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ตามหมายเลขช่องรายการ 1 ถึง 36 ที่เรียงตามลำดับข้างต้น จึงส่งผลให้เกิดความลักลั่นในการเรียงลำดับช่องรายการ ของผู้รับชมโทรทัศน์ผ่านอุปกรณ์แปลงจากสัญญาณดาวเทียมเป็นสัญญาณโทรทัศน์ ซึ่งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รับสัญญาณจากดาวเทียม ซึ่งต้องนับเพิ่มหมายเลขช่องรายการไปอีก 10 ช่องจากลำดับช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินข้างต้น ขึ้นไปเป็นหมายเลขช่องรายการ 11 ถึง 46 ส่งผลให้เกิดความสับสนของผู้ชม และส่งผลต่อการประชาสัมพันธ์หมายเลขช่องที่ต้องแสดงซ้อนกัน ส่งผลให้ กสทช.ออกประกาศปรับหมายเลขช่องรายการ 1 ถึง 36 บนทีวีดาวเทียม กสทช.ออกประกาศอนุญาต ผู้ให้บริการโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สามารถนำหมายเลขช่องรายการ 37 ถึง 60 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป

คุณสมบัติของภาพและเสียงของช่องรายการในระบบดิจิทัล

ประเภทของความละเอียดภาพ ความละเอียดภาพ บิทเรตภาพ ระบบเสียง บิทเรตเสียง
HD 1080i (1920x1080) MPEG4/H.264 5Mbps
(2-8Mbps VBR)
  • Dolby Digital 5.1CH
    (ThairathTV HD)
  • HE-AAC V.2 2CH
  • 256Kbps
    (Dolby Digital)
  • 256Kbps
    (HE-AAC V.2)
SD 576i (720x576) MPEG4/H.264 2Mbps
(1-3Mbps VBR)
HE-AAC V.2 2CH 256Kbps

ระเบียงภาพ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "กสทช.ทดลองออกอากาศทีวีดิจิตอล 1-24 เม.ย." กรุงเทพธุรกิจ. 1 เมษายน 2557. สืบค้นเมื่อ 7 เมษายน 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. "การเปลี่ยนผ่านสู่ โทรทัศน์ระบบดิจิทัล (Digital TV)". บมจ.กสท โทรคมนาคม. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2556. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. 3.0 3.1 กสทช. "การเปลี่ยนผ่านสู่โทรทัศน์ระบบดิจิทัล." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://digital.nbtc.go.th/index.php/articles-en/18-future-digital 2556. สืบค้น 27 ธันวาคม 2556.
  4. บอร์ดกระจายเสียง/กสทช. มีมติอนุญาตให้ กองทัพบก กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล, 25 มิถุนายน 2556, กสทช.
  5. 5.0 5.1 ช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล จากเว็บไซต์ ภารกิจกระจายเสียงและโทรทัศน์ สำนักงาน กสทช.
  6. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ waitforpublics
  7. "กสทช.เตรียมมอบทีวีดิจิตอลช่อง 10 ให้รัฐสภาตุลาคมนี้ ส่วน"ช่อง5" ได้เลขช่อง1 "ไทยพีบีเอส"เลขช่อง3". มติชน. 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556. สืบค้นเมื่อ 14 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  8. 8.0 8.1 "ผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภททางธุรกิจ ระดับชาติ". กสทช. สืบค้นเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  9. เดลินิวส์ทีวี (1 มีนาคม 2557). "เดลินิวส์ ทีวี เปลี่ยนเป็น NEW TV". สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. เดลินิวส์ทีวี (11 มกราคม 2557). "ระดมผู้ผลิตอิสระร่วม 'เนชั่นทีวี-NOW'". คมชัดลึก. สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  11. ประชาชาติธุรกิจ (6 มีนาคม 2557). "กดปุ่มทีวีดิจิทัล "ทรู4ยู"ช่องวาไรตี้วางโพสิชั่นจับกลุ่มคนรุ่นใหม่". สืบค้นเมื่อ 7 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  12. "ระดมผู้ผลิตอิสระร่วม 'เนชั่นทีวี-NOW'". คมชัดลึก. 11 มกราคม 2557. สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  13. "กสท.อนุมัติ 3 ช่องทีวีดิจิทัลเปลี่ยนชื่อ "อมรินทร์ทีวีเอชดี-โมโน 29 และไทยทีวี"". ประชาชาติธุรกิจ. 2 มิถุนายน 2557. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  14. "ช่อง 9 ออกคู่ขนาน 'ฟรีทีวี' อนาล็อก-ดิจิทัล". กรุงเทพธุรกิจ. 10 กุมภาพันธ์ 2557. สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  15. "กสท.อนุมัติ 3 ช่องทีวีดิจิทัลเปลี่ยนชื่อ "อมรินทร์ทีวีเอชดี-โมโน 29 และไทยทีวี"". ประชาชาติธุรกิจ. 2 มิถุนายน 2557. สืบค้นเมื่อ 2 มิถุนายน 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  16. คสช.ให้ทีวีนำโลโก้ คสช.ออกจากจอแล้ว, ประชาไท, 8 มิถุนายน 2557.
  17. คสช. อนุญาตให้ 'วอยซ์ทีวี-ทีนิวส์' ออกอากาศแล้ว, วอยซ์ทีวี, 14 มิถุนายน 2557.
  18. วอยซ์ทีวี เตรียมกลับมาออกอากาศเต็มผัง เที่ยง 15 มิ.ย., วอยซ์ทีวี, 14 มิถุนายน 2557.

แหล่งข้อมูลอื่น