ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โสดาบัน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Specialitar (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 11: บรรทัด 11:
การบรรลุความเป็น[[โสดาบัน]] สกทาคามี [[อนาคามี]] และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้ [[คฤหัสถ์]] คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน [[สกทาคามี]] อนาคามี [[อรหันต์]] ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น
การบรรลุความเป็น[[โสดาบัน]] สกทาคามี [[อนาคามี]] และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้ [[คฤหัสถ์]] คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน [[สกทาคามี]] อนาคามี [[อรหันต์]] ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น


== ประเภท ==
== ประเภทการเสวยวิมุทติสุข ==
อริยบุคคลผู้ซึ่งมีความเพียรเพื่อบรรลุอรหันต์โสดาบันแบ่งเป็น 3 ชั้นของการเสวยวิมุทติสุข
โสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
[[การเสวยวิมุทติสุข]] คือ การประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นต่าง ๆ มีบุญบารมีสะสมแล้วมีความเพียรในการที่จะบรรลุอรหันต์โสดาบันเท่านั้น จึงมีการกำหนดการเกิดมาจาก [[(การเสวยวิมุทติสุข)]] มี 3 ชั้น
# เอกพีชีโสดาบัน (เอ-กะ-พี-ชี) จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
ดังนี้
# โกลังโกลโสดาบัน (โก-ลัง-โก-ละ) เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ จะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
# เอกพีชีอายตน (เอ-กะ-พี-ชี) เกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อ[[การเสวยวิมุตติสุข]]ใน[[อายตน ]] (อา-ยะ-ตะ-นะ) นิพพานง่ายและมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
# สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
# โกลังโกลอายตน (โก-ลัง-โก-ละ) เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ มาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
# สัตตักขัตตุปรมอายตน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป


การที่โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่เพราะว่าอินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา แก่กล้าแตกต่างกัน ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้เอกพีชีโสดาบัน
การที่โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่เพราะว่าอินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา แก่กล้าแตกต่างกัน ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้เอกพีชีโสดาบัน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:57, 12 เมษายน 2559

โสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลระดับแรกใน 4 ระดับ คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ โสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแส (พระธรรม)

การละสังโยชน์

โสดาบัน ละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการคือ

  1. สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นของตัวเป็นของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
  2. วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
  3. สีลัพพตปรามาส คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น

การบรรลุความเป็นโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต (นักบวช) เท่านั้น แม้ คฤหัสถ์ คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ นางวิสาขามหาอุบาสิกา อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น

ประเภทการเสวยวิมุทติสุข

อริยบุคคลผู้ซึ่งมีความเพียรเพื่อบรรลุอรหันต์โสดาบันแบ่งเป็น 3 ชั้นของการเสวยวิมุทติสุข การเสวยวิมุทติสุข คือ การประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นต่าง ๆ มีบุญบารมีสะสมแล้วมีความเพียรในการที่จะบรรลุอรหันต์โสดาบันเท่านั้น จึงมีการกำหนดการเกิดมาจาก (การเสวยวิมุทติสุข) มี 3 ชั้น ดังนี้

  1. เอกพีชีอายตน (เอ-กะ-พี-ชี) เกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตน (อา-ยะ-ตะ-นะ) นิพพานง่ายและมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
  2. โกลังโกลอายตน (โก-ลัง-โก-ละ) เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ มาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
  3. สัตตักขัตตุปรมอายตน (สัด-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปะ-ระ-มะ) คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

การที่โสดาบันแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่เพราะว่าอินทรีย์ 5 ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา แก่กล้าแตกต่างกัน ผู้ที่อินทรีย์ 5 ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้เอกพีชีโสดาบัน

ตัวอย่างบุคคลผู้บรรลุโสดาบันในพุทธกาล

  1. นางวิสาขามหาอุบาสิกาฝ่ายทายิกา ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
  2. ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีมหาอุบาสก ฝ่ายทายก ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นที่ 4 สวรรค์ชั้นดุสิต
  3. นางสิริมา หญิงโสเภณี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
  4. พระนางสามาวดี มหาอุบาสิกาฝ่ายเมตตาวิหารี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 2 สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
  5. พระเจ้าพิมพิสาร ที่ถูกพระเจ้าอชาติศัตรูพระโอรสปลงพระชนม์ ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรสายยักษ์ บนสวรรค์ชั้นที่ 1 สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา (เนื่องจากคุ้นเคยในสวรรค์ชั้นนี้มาหลายชาติภพ แม้จะสามารถไปเกิดชั้นที่สูงกว่านี้ได้)

เป็นต้น ฯลฯ

อ้างอิง