ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ZenithZealotry (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บของมีค่าออกจากกองขยะ
บรรทัด 142: บรรทัด 142:
| 31 คน
| 31 คน
|-
|-
!
! [[ไฟล์:TCP Crest.png|30px]]
| [[พรรคประชากรไทย]]
| [[พรรคประชากรไทย]]
| [[สมัคร สุนทรเวช|นายสมัคร สุนทรเวช]]
| [[สมัคร สุนทรเวช|นายสมัคร สุนทรเวช]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:16, 23 มีนาคม 2559

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535

← พ.ศ. 2531 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 กันยายน พ.ศ. 2535 →

ทั้งหมด 360 ที่นั่งในรัฐสภาไทย
  First party Second party Third party
  ไฟล์:ณรงค์ วงศ์วรรณ.jpg ไฟล์:Chavalit.jpg
ผู้นำ นายณรงค์ วงศ์วรรณ พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
พรรค พรรคสามัคคีธรรม ชาติไทย ความหวังใหม่
เขตของผู้นำ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
เลือกตั้งล่าสุด ไม่ได้ลงรับเลือกตั้ง 87 ไม่ได้ลงรับเลือกตั้ง
ที่นั่งที่ชนะ 79 74 72
ที่นั่งเปลี่ยน เพิ่มขึ้น 79 ลดลง 13 เพิ่มขึ้น 72

  Fourth party Fifth party Sixth party
  ไฟล์:Chuan.jpg ไฟล์:10จำลอง.jpg ไฟล์:มนตรี พงษ์พานิช.jpg
ผู้นำ นายชวน หลีกภัย พลตรี จำลอง ศรีเมือง นายมนตรี พงษ์พานิช
พรรค ประชาธิปัตย์ พลังธรรม กิจสังคม
เขตของผู้นำ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
เลือกตั้งล่าสุด 48 15 53
ที่นั่งที่ชนะ 44 41 31
ที่นั่งเปลี่ยน ลดลง 4 เพิ่มขึ้น 26 ลดลง 22

  Seventh party Eighth party Ninth party
  ไฟล์:U-tai.gif ไฟล์:พล.อ.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์.jpg
ผู้นำ นายสมัคร สุนทรเวช นายอุทัย พิมพ์ใจชน พลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์
พรรค ประชากรไทย เอกภาพ พรรคราษฎร
เขตของผู้นำ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
เลือกตั้งล่าสุด 31 ไม่ได้ลงเลือกตั้ง 21
ที่นั่งที่ชนะ 7 6 4
ที่นั่งเปลี่ยน ลดลง 24 เพิ่มขึ้น 6 ลดลง 17

นายกรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้ง

อานันท์ ปันยารชุน

ว่าที่นายกรัฐมนตรี

พลเอกสุจินดา คราประยูร

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 หรือที่นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า 35/1 นับเป็น การเลือกตั้งครั้งที่ 18 ของประเทศไทย มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535[1] หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 โดยก่อนการเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น คือ พรรคสามัคคีธรรม

การตั้งพรรคสามัคคีธรรม

พรรคสามัคคีธรรม เป็นพรรคการเมืองที่รวบรวมนักการเมืองมาจากหลายพรรค และมีบุคคลใกล้ชิดกับคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ดำรงตำแหน่งสำคัญคือ นาวาอากาศตรีฐิติ นาครทรรพ ที่เป็นเลขาธิการพรรค

หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม คือ นายณรงค์ วงศ์วรรณ อดีตหัวหน้าพรรครวมไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเอกภาพ พรรคสามัคคีธรรมถูกตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนแกนนำของคณะ รสช. และอาจจะกล่าวได้ว่าแกนนำของ คณะ รสช. บางคน มีส่วนสนับสนุนพรรคนี้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจ หลังการเลือกตั้ง พรรคสามัคคีธรรม จึงเป็นพรรคที่มาคล้ายกับ พรรคเสรีมนังคศิลา ที่เคยสนับสนุน จอมพล ป.พิบูลสงคราม และ พรรคสหประชาไทย ที่เคยสนับสนุน จอมพลถนอม กิตติขจร ในการรักษาอำนาจหลังการรัฐประหาร นอกจากนี้นักการเมืองบางคนในสังกัด พรรคสามัคคีธรรม ยังเคยสังกัดใน พรรคเสรีนังคศิลา และพรรคสหประชาไทย อีกด้วย

ผลการเลือกตั้ง

สัญลักษณ์ ชื่อพรรค หัวหน้าพรรค จำนวน ส.ส.
พรรคสามัคคีธรรม นายณรงค์ วงศ์วรรณ 79 คน
ไฟล์:1chatthai.gif พรรคชาติไทย พลอากาศเอกสมบุญ ระหงษ์ 74 คน
ไฟล์:ตราพรรคความหวังใหม่ (เดิม)1.gif พรรคความหวังใหม่ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ 72 คน
ไฟล์:Democrat Party logo.png พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย 44 คน
ไฟล์:Plt-th.gif พรรคพลังธรรม พลตรีจำลอง ศรีเมือง 41 คน
ไฟล์:2social.gif พรรคกิจสังคม นายมนตรี พงษ์พานิช 31 คน
พรรคประชากรไทย นายสมัคร สุนทรเวช 7 คน
พรรคเอกภาพ นายอุทัย พิมพ์ใจชน 6 คน
พรรคราษฎร พลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์ 4 คน
ไฟล์:พรรคมวลชน.jpg พรรคมวลชน ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง 1 คน
พรรคปวงชนชาวไทย พันเอกพล เริงประเสริฐวิทย์ 1 คน

ในการเลือกตั้งครั้งนี้มี 4 พรรค ที่ส่งผู้สมัครแต่ไม่มีผู้ใดได้รับเลือกเลยคือ พรรคสหประชาธิปไตย, พรรครวมพลังใหม่, พรรคท้องถิ่นก้าวหน้า และ พรรคเกษตรเสรี

อนึ่ง การเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคพลังธรรม ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยสามารถได้ที่นั่งถึง 32 ที่นั่งจากทั้งหมด 35 ที่นั่ง ทำให้นักการเมืองที่มีชื่อเสียงหลายคนไม่ได้รับการเลือกตั้ง เช่น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าพรรคมวลชน, นายมารุต บุนนาค, นายปราโมทย์ สุขุม พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นถือเป็นการเข้ามามีบทบาททางการเมืองครั้งแรกด้วยของนักการเมืองหน้าใหม่ที่กลายมาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในทางการเมืองในเวลาต่อมา ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นผู้เดียวที่ได้รับการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์ และนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคพลังธรรม[2]

การจัดตั้งรัฐบาล

ในชั้นแรกพรรคเสรีธรรมประสบความสำเร็จ ในการหนุน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ส.ส.พรรคสามัคคีธรรม ขึ้นเป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญเพราะมีสถานะเป็น ประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง ซึ่งก็คือเป็นผู้นำรายชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ และเป็นผู้ลงนาม รับสนองพระบรมราชโองการฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี นั่นเอง

ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ มีสื่อมวลชนไปสัมภาษณ์ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการสูงสุดทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ผู้นำคณะ รสช. หลายครั้งว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.สุจินดา ได้ตอบปฏิเสธอย่างชัดเจนว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[3] ซึ่งทำให้นายณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรมที่ได้คะแนนเสียงสูงสุด มีโอกาสที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏข่าวว่าสหรัฐอเมริกาเคยปฏิเสธที่จะออกวีซ่า ให้กับนายณรงค์ เนื่องจากสงสัยมีการพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด[4]ซึ่งกรณีดังกล่าว นายณรงค์ วงศ์วรรณ ได้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง และว่าข่าวนี้เป็นการจงใจสร้างเรื่องขึ้นเพื่อกีดกันไม่ให้ตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี[5]

พรรคสามัคคีธรรมได้ที่นั่งมากที่สุด คือ 79 ที่นั่ง จากจำนวนที่นั่งทั้งหมด 360 ที่นั่ง ทำให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยได้รับการสนับสนุนจากอีก 4 พรรค รวมเป็น 5 พรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคสามัคคีธรรม (ส.ส. 79 คน) พรรคชาติไทย (ส.ส. 74 คน) พรรคกิจสังคม (ส.ส. 31 คน) พรรคประชากรไทย (ส.ส. 7 คน) และพรรคราษฎร (ส.ส. 4 คน) รวมเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 195 คน

ขณะที่พรรคฝ่ายค้านประกอบด้วย 6 พรรค คือ พรรคความหวังใหม่ (ส.ส. 72 คน) พรรคประชาธิปัตย์ (ส.ส. 44 คน) พรรคพลังธรรม (ส.ส. 41 คน) พรรคเอกภาพ (ส.ส. 6 คน) พรรคปวงชนชาวไทย (ส.ส. 1 คน) และพรรคมวลชน (ส.ส. 1 คน) รวม 165 คน

ต่อมามีการยืนยันจากนางมาร์กาเร็ต แท็ตไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นผู้หนึ่งที่ “ต้องห้าม” ไม่สามารถขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา เพราะมีความใกล้ชิดกับนักค้ายาเสพติด[6] ทำให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เลือกเสนอชื่อ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นทูลเกล้าฯ และมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535 ท่ามกลางกระแสเรียกร้อง "นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง" ที่เป็นกระแสหลักของสังคมในขณะนั้น ต่อเนื่องมาจากยุคของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 ถูกขนานนามจากสื่อมวลชนยุคนั้นว่า พรรคมาร

เมื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว พล.อ.สุจินดา ก็ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยมี พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี ได้เข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล เข้าดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด

หลังการขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.สุจินดา เกิดกระแสต่อต้านจากสังคมมากมาย ถึงขั้นมีประชาชนชุมนุมประท้วงจำนวนมาก และในที่สุดนำไปสู่ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งทำให้ในปีนี้ต้องจัดเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งคือ การเลือกตั้ง 13 กันยายน พ.ศ. 2535 (35/2)

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2535 (กำหนดวันเลือกตั้ง ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 และกำหนดระยะเวลารับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 - 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535)
  2. มาร์ค : เขาชื่อ...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ. กรุงเทพฯ : วิถีไทย, 2548. 186 หน้า. ISBN 9749335813
  3. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, 2535: หน้า 31
  4. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, 2535: หน้า 3
  5. ชนะคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ขอปรึกษาฟ้องแพ่งค่ะ
  6. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, 2535: หน้า 3

บรรณานุกรม

  • ศรีเมือง, พล.ต.จำลอง (2535). ร่วมกันสู้. ธีระการพิมพ์. ISBN 974-88799-9-2.