ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โสดาบัน"
Spacialitar (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
Spacialitar (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 4: | บรรทัด 4: | ||
== การละสังโยชน์ == |
== การละสังโยชน์ == |
||
'''โสดาบัน''' เป็นชื่อเรียก[[อริยบุคคล]] |
'''โสดาบัน''' เป็นชื่อเรียก[[อริยบุคคล]] ระดับแรกใน ๔ ระดับ คือ โสดาบัน [[สกทาคามี]] [[อนาคามี]] [[อรหันต์]] ผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้วด้วยการละ [[สังโยชน์]] เบื้องต่ำ ๓ ประการคือ |
||
1. สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นของตัวเป็นของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน |
1. สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นของตัวเป็นของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน |
||
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
การบรรลุความเป็น[[โสดาบัน]] สกทาคามี [[อนาคามี]] และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต(นักบวช) เท่านั้น แม้ [[คฤหัสถ์]] คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน [[สกทาคามี]] อนาคามี [[อรหันต์]] ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น |
การบรรลุความเป็น[[โสดาบัน]] สกทาคามี [[อนาคามี]] และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต(นักบวช) เท่านั้น แม้ [[คฤหัสถ์]] คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน [[สกทาคามี]] อนาคามี [[อรหันต์]] ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ [[นางวิสาขา]]มหาอุบาสิกา [[อนาถบิณฑิกเศรษฐี]] [[พระเจ้าพิมพิสาร]] เป็นต้น |
||
การเข้าถึงกระแสพระธรรมของโสดาบันนั้น เป็นการยกระดับจิตใจของท่านอย่างถาวร ทำให้ท่านไม่สามารถกลับไปสู่ปุถุชนได้อีก เป็นผู้ที่จะไม่ไปเกิดในอบายภูมิ (เช่น นรก หรือ เดียรฉาน) ทั้งยังเป็นผู้ที่จะบรรลุพระนิพพานในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน |
การเข้าถึงกระแสพระธรรมของโสดาบันนั้น เป็นการยกระดับจิตใจของท่านอย่างถาวร ทำให้ท่านไม่สามารถกลับไปสู่ปุถุชนได้อีก เป็นผู้ที่จะไม่ไปเกิดในอบายภูมิ (เช่น นรก หรือ เดียรฉาน) ทั้งยังเป็นผู้ที่จะบรรลุพระนิพพานในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน การบรรลุโสดาบันทั้ง ๔ ระดับ มี[[เอกพีชี]] เท่านั้นที่สามารถบรรลุอรหันต์ได้ในภพชาติเดียว เนื่องจากการมาจากวิมุตติสุข ส่วน |
||
== ประเภท == |
== ประเภท == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:13, 8 ตุลาคม 2558
ส่วนหนึ่งของชุดบทความ |
ศาสนาพุทธ |
---|
โสดาบัน แปลว่า ผู้เข้าถึงกระแสพระธรรม ผู้แรกบรรลุถึงกระแสพระธรรม คือการบรรลุโสดาบัน
การละสังโยชน์
โสดาบัน เป็นชื่อเรียกอริยบุคคล ระดับแรกใน ๔ ระดับ คือ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ผู้ได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้วด้วยการละ สังโยชน์ เบื้องต่ำ ๓ ประการคือ
1. สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นของตัวเป็นของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตนเป็นอัตตาทิฎฐิ เช่น เห็นรูปเป็นตน เห็นเวทนาเป็นตน
2. วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย
3. สีลัพพตปรามาส คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์หลุดพ้น เป็นมิจฉาทิฏฐิ เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น
การบรรลุความเป็นโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี และอรหันต์ นี้คือความเป็นอริยบุคคลที่มิได้จำกัดอยู่เฉพาะเพศบรรพชิต(นักบวช) เท่านั้น แม้ คฤหัสถ์ คือชายหรือหญิงผู้ครองเรือน ก็สามารถบรรลุเป็นอริยบุคคลได้ เช่น ในสมัยพุทธกาลคฤหัสถ์ที่เป็นอริยบุคคล บรรลุโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ที่มีชื่อเสียงก็มีจำนวนมากได้แก่ นางวิสาขามหาอุบาสิกา อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระเจ้าพิมพิสาร เป็นต้น
การเข้าถึงกระแสพระธรรมของโสดาบันนั้น เป็นการยกระดับจิตใจของท่านอย่างถาวร ทำให้ท่านไม่สามารถกลับไปสู่ปุถุชนได้อีก เป็นผู้ที่จะไม่ไปเกิดในอบายภูมิ (เช่น นรก หรือ เดียรฉาน) ทั้งยังเป็นผู้ที่จะบรรลุพระนิพพานในเบื้องหน้าอย่างแน่นอน การบรรลุโสดาบันทั้ง ๔ ระดับ มีเอกพีชี เท่านั้นที่สามารถบรรลุอรหันต์ได้ในภพชาติเดียว เนื่องจากการมาจากวิมุตติสุข ส่วน
ประเภท
ดังที่กล่าวมาแล้วโสดาบันสามารถละสังโยชน์ 3 ประการ ตัดขาดออกจากใจได้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ การตัดสังโยชน์ 3 ประการ คือการตัดเส้นทางในการเวียนว่ายตายเกิดให้สั้นลงไดั ผู้สำเร็จเป็นโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 เอกพีชีโสดาบัน เอ-กะ-พี-ชี จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอายตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา
ประเภทที่ 2 โกลังโกลโสดาบัน โก-ลัง-โก-ละ เป็นอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ จะมาเกิดอีกเพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นอรหันต์
ประเภทที่ 3 สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน สัด-ตะ-ตัก-กะ-ขัด-ตะ-ตุ-ปอ-ระ-มะ คืออริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป
การที่โสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่กล่าวมา เพราะว่าการสั่งสมบุญบารมี อีกทั้งอินทรีย์ 5 ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา ที่อบรมมาแตกต่างกัน เช่น ผู้ที่สร้างบารมีมาอย่างแก่กล้า เกิดในภพชาตินี้ เมื่ออินทรีย์ทั้ง 5 ประการ คือ ศรัทธา วิริยะ สมาธิ สติ และปัญญา ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว โสดาบันประเภทนี้ คือ สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน
ตัวอย่างบุคคลผู้บรรลุโสดาบันในพุทธกาล หรือบรรลุธรรมจักษุ
- 1.พระนางวิสาขามหาอุบาสิกาฝ่าย ทายิกา ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
- 2.ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีมหาอุบาสก ฝ่ายทายก ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นที่ 4 สวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่พักระหว่างทางของพระโพธิสัตว์
- 3.นางสิริมา หญิงโสเภณี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 5 สวรรค์ชั้นนิมมานรดี
- 4.พระนางสามาวดี มหาอุบาสิกาฝ่ายเมตตาวิหารี ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดา บนสวรรค์ชั้นที่ 2 สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- 5.พระเจ้าพิมพิสาร ที่ถูกพระเจ้าอชาติศัตรูพระโอรสปลงพระชนม์ ปัจจุบันได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรสายยักษ์ บนสวรรค์ชั้นที่ 1 สวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา (เนื่องจากคุ้นเคยในสวรรค์ชั้นนี้มาหลายชาติภพ แม้จะสามารถไปเกิดชั้นที่สูงกว่านี้ได้)
เป็นต้น ฯลฯ
อ้างอิง
- พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต พจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุดคำวัด วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ พ.ศ. 2548