ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 37: บรรทัด 37:
| shorts2=7acbe5
| shorts2=7acbe5
| socks2=7acbe5
| socks2=7acbe5
| pattern_la3= _bluelowerthin
| pattern_b3=
| pattern_ra3= _bluelowerthin
| pattern_sh3=
| pattern_so3= _band_claret
| leftarm3=00002E
| body3=00002E
| rightarm3=00002E
| shorts3=00002E
| socks3=00002E
}}
}}
'''สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด''' ({{lang-en|West Ham United Football Club}}) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ในอัปตันพาร์ก,ลอนดอนตะวันออก [[ประเทศอังกฤษ]] ปัจจุบันเล่นอยู่ใน[[พรีเมียร์ลีก]] ลีกสูงสุดของอังกฤษ
'''สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด''' ({{lang-en|West Ham United Football Club}}) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ในอัปตันพาร์ก,ลอนดอนตะวันออก [[ประเทศอังกฤษ]] ปัจจุบันเล่นอยู่ใน[[พรีเมียร์ลีก]] ลีกสูงสุดของอังกฤษ

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:11, 20 กันยายน 2558

เวสต์แฮมยูไนเต็ด
ตราสัญลักษณ์สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด
ฉายาโรงงานถลุงเหล็ก
ขุนค้อน
สถาบันฟุตบอล
ชื่อย่อWHU
ก่อตั้ง1895; 129 ปีที่แล้ว (1895), ในชื่อ Thames Ironworks
สนามบุลินกราวนด์ (1904–2016)
สนามกีฬาโอลิมปิก (2016– )
Ground ความจุ35,016[1]
เจ้าของเดวิด ซัลลิแวน (55.6%)
เดวิด โกลด์ (30.6%)
ซีบี โฮลดิง จำกัด (10%)
ไมนอริตี อินเวสเตอร์ (3.8%)[2]
ผู้จัดการสลาเวน บีลิช
ลีกพรีเมียร์ลีก
2014–15อันดับที่ 12
เว็บไซต์เว็บไซต์สโมสร
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด (อังกฤษ: West Ham United Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ ซึ่งตั้งอยู่ในอัปตันพาร์ก,ลอนดอนตะวันออก ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันเล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของอังกฤษ

ประวัติ

เวสต์แฮมยูไนเต็ด จัดเป็นสโมสรฟุตบอลขนาดเล็ก ตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยคนงานในโรงงานถลุงเหล็ก จึงเป็นที่มาของฉายา The Irons หรือ The Hammers (ขุนค้อน-ในภาษาไทย) มีสีประจำคือ สีฟ้า-แดงเลือดหมู ได้รับการยกย่องว่าเป็น สถาบันฟุตบอล (The Academy of Football) เพราะเป็นทีมขนาดเล็กที่ปั้นนักฟุตบอลที่ต่อมามีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จกับสโมสรใหญ่ ๆ หลายคน ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เช่น บ๊อบบี้ มัวร์, จอฟฟ์ เฮิร์สต์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิล คาร์ริก, โจ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, เจอร์เมน เดโฟ เป็นต้นและยังมีนักเตะชื่อดังเข้ามาเล่นให้ทีมเช่น จิแลร์โม่ ฟรังโก้ ,ดิเอโก้ ตริสตัน,เปาโล ดิ คานิโอ,การ์โลส เตเบซ, คาเบียร์ มาเชราโน,อเลาโญ่ อิลาน,ดาวอร์ ซูเคอร์ เป็นต้น ในประวัติศาสตร์ผู้จัดการทีมจะเป็นชาวสหราชอาณาจักรยกเว้นมีเพียงคนเดียวที่เป็นต่างชาติคือ จันฟรังโก โซลา ที่เป็นอิตาลี เวสต์แฮมเคยเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2005-2006 แต่ก็ได้เพียงรองแชมป์

ฤดูกาล 2006-2007

เวสแฮมต์ฟอร์มตกอย่างหนักทำให้ อลัน พาร์ดิว ถูกไล่ออกและเป็น อลัน เคอร์บิชลี่ย์ เข้ามาคุมแทนทำให้เวสแฮมต์ชนะ7จาก9นัดหลังสุด ซึ่งเป็นการชนะอาร์เซนอล 1-0 และชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้าย1-0จากประตูชัยของ คาร์ลอส เตเบซ ทำให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ 15

ฤดูกาล 2007-2008

ในฤดูกาล 2007-2008 เวสต์แฮมมีสถานการณ์ที่เริ่มปลอดภัยมากขึ้นเพราะสามารถไต่อันดับอยู่ครึ่งบนในตารางคะแนนของลีกได้ แม้นักเตะที่เซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง เคร็ก เบลลามี และ คีรอน ดายเออร์ ได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง และเกมส์สุดท้ายของฤดูกาลนี้ที่ บุลินกราวนด์ คือในนัดที่เวสต์แฮมเสมอไป 2-2 กับ แอสตันวิลลา พร้อมกับจนอับดับที่ 10 ซึ่งสามารถแซงหน้า สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ สโมสรร่วมเมืองไปหนึ่งอันดับโดยมีแต้มมากกว่าสเปอร์อยู่สามแต้ม

ฤดูกาล 2008-2009

หลังจากมีเหตุการณ์ว่านักเตะของเวสต์แฮมยูไนเต็ดมีเรื่องทะเลาะกับคณะกรรมการของฝ่ายการตลาด แอนทอน เฟอร์ดินานด์ และ จอร์จ แม็กคาร์ทเนย์ ได้ย้ายไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ และ ผู้จัดการทีม อลัน เคอร์บิชลีย์ ได้ลาออกเมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2008 ทายาทของเขาที่เคยเป็นอดีตกองหน้าของเชลซี จานฟรังโก โซลา ได้มารับงานคุมทีมเวสต์แฮมยูไนเต็ดซึ่งมาคุมทีมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2008 และในการทำเช่นนั้นก็กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ใช่ชาวอังกฤษครั้งแรกของสโมสร.[3] และเขาสามารถนนำเวสต์แฮมยูไนเต็ดจบอันดับที่ 9 ใน พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล 2009-2010

ในฤดูกาล 2009-10 เวสต์แฮมเริ่มต้นในการเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยด้วยการชนะทืมน้องใหม่ที่พึ่งเลื่อนชั้นมาอย่า ง วูลฟ์แฮมป์ตันวันเดอเรอส์ ไป 2-0 จากประตูของ มาร์ก โนเบิล ต่อมาเขาก็ได้รับตำแหน่งเป็นกัปตันทีมต่อจาก แมตทิว อัปสัน และในการแข่งขันลีกคัพที่พบกับอดีตคู่ปรับเก่าอย่าง มิลวอล ได้เกิดเหตุจลาจลรุนแรงเกี่ยวกับพื้นดินนอกเช่นเดียวกับการรุกรานสนามและปัญหาภายในฝูงชนอัพตันปาร์ค.[4][5] ในเดือน สิงหาคม ค.ศ. 2009 ความกังวลทางการเงินของในบริษัทของไอซ์แลนด์เจ้าของ บริษัท คนปัจจุบันไม่สามารถที่จะให้ทุนใด ๆ จนกว่าทางสโมสรจะได้เจ้าของใหม่สปอนเซอร์ใหม่และพอผ่านได้ไม่ถึงเดือนก็ได้มีสปอนเซอร์อย่าง สโบเบ็ต ที่ได้เข้ามาสนับสนุนและได้เงินที่ได้เสริมงบนักเตะแล้วทางสโมสรได้ซื้อนักเตะตำแหน่งกองหน้าอย่าง อเล็สซานโดร เดียมานติ มาจาก สโมสรฟุตบอลลิวอร์โน

เวสต์แฮมมีฤดูกาลที่ตกอับของพวกเขาเช่นกันด้วยการดิ้นรนหนีจากโซนตกชั้น แต่ในที่ของพวกเขาก็ปลอดภัยทั้งที่ที่มีสองเกมที่เหลือโดยการเอาชนะวีแกนแอธเลติก 3-2 สโมสรได้คะแนนทั้งหมด 35 คะแนนจากทั้งหมด 38 เกม

ฤดูกาล 2010-2011

วันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 สองวันหลังจากจบฤดูกาล 2009-2010 เวสต์แฮมประกาศยกเลิกสัญญาการคุมทีมของ โซลา ทันที และได้ไล่เขาออกจากการเป็นผู้จัดการทีม.[6] ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2010 อัฟราม แกรนท์ ผู้จัดการทีมชาว อิสราเอล ได้ลงนามเซ็นสัญญาในการเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมยูไนเต็ดด้วยสัญญา 4 ปี.[7] ถึงแม้จะได้แกรนท์มาคุมทีมแต่ก็ทำผลงานไม่ค่อยเข้าทีเข้าทางอย่างมั่นคงสักที ซึ่งเวสต์แฮมก็คงอยู่ใกล้โซนตกชั้นตลอด,[8] ในการแข่งขัน ลีกคัพ เวสต์แฮมได้สร้างความประทับใจด้วยการโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมถล่ม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไป 4-0 ในรอบแปดทีมสุดท้าย รูปแบบเวสต์แฮมในพรีเมียร์ลีกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรูปแบบของพวกเขาในสองถ้วยในประเทศ.[9] และในลีกคัพรอบก่อนรองชนะเลิศเวสต์แฮมต้องแพ้ให้กับเบอร์มิงแฮมซิตีไป 1-3 และส่วนในถ้วยเอฟเอคัพ เวสต์แฮมแพ้ให้กับสโต๊คซิตีไป 2-1 ในรอบแปดทีมสุดท้าย

วันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 เวสต์แฮมได้ตกชั้นไปเล่น ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ซึ่งในนัดสุดท้ายของฤดูกาลได้แพ้ให้กับ วีแกนแอธเลติก ที่สนาม ดีดับเบิลยูสเตเดียม ซึ่งในครึ่งแรกเวสต์แฮมนำไปก่อน 2-0 จากการยิงคนเดียวสองลูกของ เดมบา บา และในครึ่งหลังวีแกนกลับมาเข้าเกมส์อย่างมั่นคงและยิง 3 ประตู ทำให้วีแกนชนะไป 3-2 ด้วยการยิงประตูชัยของ ชาร์ลส์ เอ็น'ซ็อกเบีย หลังจากการแพ้ในนัดสุดท้าย เวสต์แฮมได้ไล่ อัฟราม แกรนท์ ออกจากการเป็นผู้จัดการทีม.[10]

ฤดูกาล 2011-2012

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2011 แซม อัลลาร์ไดซ์ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมยูไนเต็ดถัดจาก อัฟราม แกรนท์.[11]

สโมสรเวสต์แฮมจบในอันดับที่สามของ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2011-12 ด้วยการมีทั้งหมด 86 แต้ม และได้สิทธิไปเล่นในรอบเพลย์ออฟในการหาทีมอีกหนึ่งทีมที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012-13 ซึ่งนัดในแรกพวกเขาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ทั้งสองนัดรวมสกอร์ทั้งหมด 5-0 และในนัดชิงได้เจอกับ สโมสรฟุตบอลแบล็กพูล โดยได้เล่นที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 คาร์ลตัน โคล ยิงให้เวสต์แฮมนำไปก่อน 1-0 ก่อนที่แบล็กพูลจะมาตีเสมอได้ ในช่วงปลายครึ่งแรก และในช่วงครึ่งหลังเกมส์ทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอ แต่ในนาทีที่ 87 ริคาร์โด วาซ เต มายิงประตูชัยให้เวสต์แฮมชนะไป 2-1.[12]

ผู้เล่น

ณ วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558[13][14][15][16]

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK สาธารณรัฐไอร์แลนด์ แดร์เรน แรนดอล์ฟ
2 DF นิวซีแลนด์ วินสตัน รีด
3 DF อังกฤษ แอรอน เครสส์เวลล์
4 MF แคเมอรูน อเล็กซ์ ซง (ยืมตัวมาจาก บาร์เซโลนา)
5 DF อังกฤษ เจมส์ ทอมกินส์
7 MF อังกฤษ แมตต์ จาร์วิส
8 MF เซเนกัล ชีคคู คูยาเต
9 FW อังกฤษ แอนดี แคร์โรล
10 FW อาร์เจนตินา เมาโร ซาราเต
11 FW เอกวาดอร์ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย
12 DF อังกฤษ คาร์ล เจนคินสัน (ยืมตัวมาจาก สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล)
13 GK สเปน เอเดรียน
14 MF สเปน เปโดร โอเบียง
15 FW เซเนกัล เดียฟรา ซาโก
16 MF อังกฤษ มาร์ก โนเบิล (กัปตัน)
17 DF สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โจอี โอไบรอัน
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
18 MF ฝรั่งเศส มอร์แกน อมัลฟิตาโน
19 DF เวลส์ เจมส์ คอลลินส์
20 MF ไนจีเรีย วิกเตอร์ โมเซส (ยืมตัวมาจาก เชลซี)
21 DF อิตาลี อันเจโล ออกบอนนา
25 DF แคนาดา โดเนียล เฮนรี
26 FW โครเอเชีย นีคีตซา เยลาวิช
27 MF ฝรั่งเศส ดีมีทรี ปาแย
28 MF อาร์เจนตินา มานวยล์ ลานซีนี (ยืมตัวมาจาก Al Jazira Club)
30 MF อังกฤษ มิชาเอล แอนโตนีโอ
34 GK สวิตเซอร์แลนด์ ราฟาเอล สไปอีเกล
35 DF อังกฤษ รีซ อ๊อกซฟอร์ด
36 FW อังกฤษ อีเลียต ลี
39 MF สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โจช คัลเลน
42 MF นอร์เวย์ มาร์ติน ซามูเอล
46 DF อังกฤษ Kyle Knoyle

อ้างอิง

  1. "Boleyn Ground West Ham United, virtual stadium tour & video – Barclays Premier League". สืบค้นเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2014.
  2. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ whufc.com
  3. Ashdown, John (11 September 2008). "West Ham unveil Zola as new manager". The Guardian. UK. สืบค้นเมื่อ 12 September 2008.
  4. "Mass violence mars London derby". BBC News. 25 August 2009. สืบค้นเมื่อ 29 August 2009.
  5. "'Bring your bats ... but don't bring your kids': Thugs planned West Ham v Millwall rampage on internet chatrooms". Daily Mail. UK. 26 August 2009. สืบค้นเมื่อ 29 August 2009.
  6. "West Ham United statement". West Ham United F.C. 11 May 2010. สืบค้นเมื่อ 11 May 2010.
  7. "Avram Grant confirmed as West Ham United manager". BBC Sport. 3 June 2010. สืบค้นเมื่อ 3 June 2010.
  8. Chowdhury, Saj (5 January 2011). "BBC Sport – Football – Newcastle 5–0 West Ham". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 January 2011.
  9. Whyatt, Chris (30 November 2010). "BBC Sport – Football – West Ham 4–0 Manchester United". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 January 2011.
  10. "BBC Sport – West Ham part company with Avram Grant". BBC Sport. 16 May 2011. สืบค้นเมื่อ 17 May 2011.
  11. "Sam's the man". West Ham United F.C. 1 June 2011. สืบค้นเมื่อ 1 June 2011.
  12. Gibbs, Thom (19 May 2012). "Blackpool v West Ham United: live". The Daily Telegraph. London.
  13. "New squad numbers for the 2015/16 season". www.whufc.com. 30 July 2015. สืบค้นเมื่อ 1 August 2015.
  14. "First Team". www.whufc.com. สืบค้นเมื่อ 27 August 2015.
  15. "Development Squad". www.whufc.com. สืบค้นเมื่อ 27 August 2015.
  16. "Academy". www.whufc.com. สืบค้นเมื่อ 27 August 2015.