ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยราชภัฏ"
Tongacerz3 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
'''มหาวิทยาลัยราชภัฏ''' เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยครู หลังจากนั้น ได้รับพระราชทานนาม "ราชภัฏ" จาก[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช]] ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน พร้อมทั้ง พระราชทาน [[พระราชลัญจกร]]เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีอยู่ทั้งสิ้น |
'''มหาวิทยาลัยราชภัฏ''' เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยครู หลังจากนั้น ได้รับพระราชทานนาม "ราชภัฏ" จาก[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช]] ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน พร้อมทั้ง พระราชทาน [[พระราชลัญจกร]]เป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีอยู่ทั้งสิ้น 38 แห่ง ทั่วประเทศ |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:40, 10 กันยายน 2558
มหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยครู หลังจากนั้น ได้รับพระราชทานนาม "ราชภัฏ" จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน พร้อมทั้ง พระราชทาน พระราชลัญจกรเป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีอยู่ทั้งสิ้น 38 แห่ง ทั่วประเทศ
ประวัติ
มหาวิทยาลัยราชภัฏมีพัฒนามาจาก "โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์" โดยโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์แห่งแรกเปิดสอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 ซึ่งตั้งขึ้นบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง จังหวัดพระนคร (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร) [1] หลังจากนั้น จึงได้ขยายไปตั้งอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเป็น "วิทยาลัยครู"[2] ในเวลาต่อมา และในปี พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏ" และเมื่อปี พ.ศ. 2538 ได้มีพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ ยกฐานะวิทยาลัยครู ให้เป็น "สถาบันราชภัฏ" อย่างเป็นทางการ โดยให้สถาบันราชภัฏเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนา ท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู[3] จากนั้นได้มีการพระราชทานชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏ" เมื่อปี พ.ศ. 2545 และในปี พ.ศ. 2547 สถาบันราชภัฏ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏ" อย่างเป็นทางการ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ [4] ดังเช่นปัจจุบัน
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม " ราชภัฏ " และตราประจำมหาวิทยาลัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศสูงสุดแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร โดยนาม " ราชภัฏ หมายความว่า เป็นคนของพระราชา"
ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ พิจารณาจากดวงตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลปัจจุบัน เพื่อกำหนดรูปแบบสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏ และได้รับพระราชทานมาเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งมีรายละเอียดที่สมควร นำมากล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้คือ
- เป็นรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ให้กำเนิดสถาบัน
- เป็นรูปแบบที่เป็นกลาง เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นที่ตั้ง ธรรมชาติ และความสอดคล้องกับชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ได้รับพระราชทาน
- สีของตราประจำมหาวิทยาลัย มี 5 สี โดยมีความหมาย ดังนี้
- ██ สีน้ำเงิน แทนค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทานนาม “มหาวิทยาลัยราชภัฏ”
- ██ สีเขียว แทนค่าแหล่งที่ตั้งในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
- ██ สีทอง แทนค่าความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
- ██ สีส้ม แทนค่าความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
- ██ สีขาว แทนค่าความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
รายชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏ
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏมีทั้งหมด 38 แห่ง ดังนี้[5]
กลุ่มรัตนโกสินทร์
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มรภ.สส.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (มรภ.จษ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (มรภ.พระนคร)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (มรภ.ธ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มรภ.บส.)
กลุ่มภาคกลาง
- มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (มรภว.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (มรภน.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา (มรภ.อย.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี (มรภท.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี (มรภ.กจ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (มร.มจ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี (มรภ.พบ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี (มรภ.รพ.)
กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (มรภ.ชย.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (มรภ.นม.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ (มรภ.บร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ (มรภ.สร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ (มรภ.ศก.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี (มรภ.อบ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (มรภ.มค.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด (มรภ.รอ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย (มรภ.ล.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (มรภ.อด.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร (มรภ.สน.)
กลุ่มภาคเหนือ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (มรภ.ชม.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรภ.ชร.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (มรภ.ลป.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ (มรภอ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (มรภพส.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร (มรภ.กพ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ (มรภ.พช.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นว.)
กลุ่มภาคใต้
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต (มรภ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช (มร.นศ.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สข.)
- มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรย.)
อดีตมหาวิทยาลัยราชภัฎ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม - ได้ควบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2548[6]
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต - ได้แปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาลและเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 [7]
- มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ - ได้ควบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558[8]
อ้างอิง
- ↑ ประวัติมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
- ↑ พระราชกฤษฎีกายกฐานะสถาบันฝึกหัดครูเป็นวิทยาลัยครู ตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. 2518
- ↑ พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538
- ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547
- ↑ กุมารี วัชชวงษ์ ,อักษรย่อมหาลัยราชภัฏ ชื่อที่ตั้งไว้แต่ไม่มีคนรู้จัก, หนังสือพิมพ์ข่าวสด, วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2549
- ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนครพนม พ.ศ. 2548
- ↑ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสวนดุสิต พ.ศ. ๒๕๕๘, ราชกิจจานุเบกษา, วันที่สืบค้น 17 กรกฎาคม 2558
- ↑ [1] ราชกิจจานุเบกษา พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ พ.ศ. 2558 เล่ม 132 ตอน 86 ก หน้า 45 8 กันยายน 2558