ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทศบาลนครเชียงใหม่"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24: บรรทัด 24:


== ประวัติ ==
== ประวัติ ==
เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อเริ่มแรกมีฐานะเป็นเพียงเทศบาลเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 2458]] และยังขึ้นตรงต่อ[[มณฑลพายัพ]] แต่ต่อมาเมื่อ[[ประเทศไทย]]มีการปกครองในระบอบ[[ประชาธิปไตย]] ในปี [[พ.ศ. 2475]] สภาผู้แทนราษฎรจึงมีมติสมควรจัดตั้งชุมชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุขาภิบาลให้มีฐานะเป็น [[เทศบาล]] โดยในครั้งนั้นเทศบาลนครเชียงใหม่ได้รับฐานะใหม่จากเทศบาลเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็น "เทศบาลนครเชียงใหม่" ในปี พ.ศ. 2478 <ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/2136.PDF พระราชบัญญัติจัดตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ พุทธศักราช ๒๔๗๘]ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 80 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2478</ref> ถือได้ว่าเป็น[[เทศบาลนคร]]แห่งแรกของไทย
เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อเริ่มแรกมีฐานะเป็นเพียงสุขาภิบาลเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 2458]] และยังขึ้นตรงต่อ[[มณฑลพายัพ]] แต่ต่อมาเมื่อ[[ประเทศไทย]]มีการปกครองในระบอบ[[ประชาธิปไตย]] ในปี [[พ.ศ. 2475]] สภาผู้แทนราษฎรจึงมีมติสมควรจัดตั้งชุมชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุขาภิบาลให้มีฐานะเป็น [[เทศบาล]] โดยในครั้งนั้นนครเชียงใหม่ได้รับฐานะใหม่จากสุขาภิบาลเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็น "เทศบาลนครเชียงใหม่" ในปี พ.ศ. 2478 <ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2478/A/2136.PDF พระราชบัญญัติจัดตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ พุทธศักราช ๒๔๗๘]ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 80 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2478</ref> ถือได้ว่าเป็น[[เทศบาลนคร]]แห่งแรกของไทย


;ดวงตราเทศบาล
;ดวงตราเทศบาล
บรรทัด 291: บรรทัด 291:
สำหรับการเดินทางในเทศบาลนคร จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์รวมทั้งจักรยาน สำหรับระบบมวลชนจะมี [[รถแดง]], [[รถตุ๊กตุ๊ก]], [[รถโดยสารประจำทาง]] และประมาณ [[พ.ศ. 2550]] เริ่มมี[[แท็กซี่มิเตอร์]]ในบริการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถมีสีเหลือง-น้ำเงิน เป็นแท็กซี่สหกรณ์ ส่วนสีแดง-เหลืองเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคล มีสถานีขนส่งภายในตัวจังหวัดเชื่อมต่ออำเภอต่าง ๆ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1 (สถานีขนส่งช้างเผือก) และสถานีขนส่งระหว่างจังหวัดคือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (สถานีขนส่งอาเขต)
สำหรับการเดินทางในเทศบาลนคร จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์รวมทั้งจักรยาน สำหรับระบบมวลชนจะมี [[รถแดง]], [[รถตุ๊กตุ๊ก]], [[รถโดยสารประจำทาง]] และประมาณ [[พ.ศ. 2550]] เริ่มมี[[แท็กซี่มิเตอร์]]ในบริการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถมีสีเหลือง-น้ำเงิน เป็นแท็กซี่สหกรณ์ ส่วนสีแดง-เหลืองเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคล มีสถานีขนส่งภายในตัวจังหวัดเชื่อมต่ออำเภอต่าง ๆ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1 (สถานีขนส่งช้างเผือก) และสถานีขนส่งระหว่างจังหวัดคือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (สถานีขนส่งอาเขต)


ส่วนระบบ[[รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ]]เชียงใหม่ ({{ภาษาอังกฤษ|Chiangmai Transit System}}) จะเปิดให้บริการในอนาคต แต่ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณและการพิจารณาอนุมัติของ[[สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร]] (สนข.)
ส่วนระบบ[[รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ]]นครเชียงใหม่ ({{ภาษาอังกฤษ|Chiangmai Transit System}}) จะเปิดให้บริการในอนาคต แต่ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณและการพิจารณาอนุมัติของ[[สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร|สำนักงานขนส่งจังหวัด]] (สนข.)


=== ทางราง ===
=== ทางราง ===
บรรทัด 298: บรรทัด 298:


=== ทางอากาศ ===
=== ทางอากาศ ===
[[ไฟล์:Chiang Mai Internationnal Airport.jpg|thumb|200px|ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศ]]
[[ไฟล์:Chiang Mai Intl Airport.jpg|thumb|200px|ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศ]]
เทศบาลนครเชียงใหม่มี[[ท่าอากาศยานเชียงใหม่]] ที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศรองจาก [[ท่าอากาศยานดอนเมือง]], [[ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ]], [[ท่าอากาศยานภูเก็ต]] ตามลำดับ โดยมีเที่ยวบินไป–กลับวันละหลายเที่ยวบิน ทั้งสายการบินภายในประเทศ และสายการบินระหว่างประเทศ โดยสายการบินระหว่างประเทศ มีสายการบินในแถบ[[เอเชีย]]มีเที่ยวบินโดยตรงจากเชียงใหม่ไปยังหลายประเทศ เช่น [[ประเทศลาว]], [[ประเทศพม่า]], [[ประเทศมาเลเซีย]], [[ประเทศสิงคโปร์]], [[ประเทศจีน]] [[ประเทศเกาหลีใต้]] เป็นต้น
นครเชียงใหม่มี[[ท่าอากาศยานเชียงใหม่]] ที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศรองจาก[[ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ]], [[ท่าอากาศยานดอนเมือง]], [[ท่าอากาศยานภูเก็ต]] ตามลำดับ โดยมีเที่ยวบินไป–กลับวันละหลายเที่ยวบิน ทั้งสายการบินภายในประเทศ และสายการบินระหว่างประเทศ โดยสายการบินระหว่างประเทศ มีสายการบินในแถบ[[เอเชีย]]มีเที่ยวบินโดยตรงจากเชียงใหม่ไปยังหลายประเทศ เช่น [[ประเทศจีน]], [[ประเทศเกาหลีใต้]], [[ประเทศลาว]], [[ประเทศพม่า]], [[ประเทศมาเลเซีย]], [[ประเทศสิงคโปร์]] เป็นต้น


== สถานที่สำคัญ ==
== สถานที่สำคัญ ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:00, 29 สิงหาคม 2558

เทศบาลนครเชียงใหม่
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันThetsaban Tambon Chiang Mai City
คูเมืองเชียงใหม่ด้านตะวันออก, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, ภาพถ่ายมุมสูงจากดอยสุเทพ, ประตูท่าแพ, รถสี่ล้อแดง, วัดเชียงมั่น
คูเมืองเชียงใหม่ด้านตะวันออก, วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร, ภาพถ่ายมุมสูงจากดอยสุเทพ, ประตูท่าแพ, รถสี่ล้อแดง, วัดเชียงมั่น
คำขวัญ: 
เชียงใหม่เมืองน่าอยู่ เฟื่องฟูวัฒนธรรม นำด้วยธรรมาภิบาล บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชน[1]
ประเทศ ไทย
จังหวัด[[จังหวัด{{{province}}}|{{{province}}}]]
อำเภอ{{{district}}}
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีนายทัศนัย บูรณุปกรณ์
พื้นที่
 • ทั้งหมด40.22 ตร.กม. (15.53 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2557)
 • ทั้งหมด132,634 คน
 • ความหนาแน่น3,297.71 คน/ตร.กม. (8,541.0 คน/ตร.ไมล์)
รหัส อปท.{{{code}}}
ที่อยู่
สำนักงาน
สำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ เลขที่ 1 ถนนวังสิงห์คำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300
โทรศัพท์0 5325 9000
เว็บไซต์http://www.cmcity.go.th/ http://www.cmcity.go.th/
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีพิกัดภูมิศาสตร์ 18°47′20″ เหนือ 98°59′00″ ตะวันออก เทศบาลนครเชียงใหม่ได้รับการเปรียบว่าเป็น กุหลาบแห่งเมืองเหนือ เนื่องด้วยเป็นเมืองที่สวยงาม บรรยากาศดีแห่งหนึ่งของประเทศ เทศบาลนครเชียงใหม่ซึ่งเป็นอดีตนครหลวงแห่งอาณาจักรล้านนาถือเป็นศูนย์กลางความเจริญของภาคเหนือ มีศักยภาพและความพร้อมในหลายๆ ด้าน อีกทั้งนครเชียงใหม่ ยังเป็นนครประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือหลักฐานทางวัฒนธรรม ทั้งโบราณสถานมากมายในเมืองที่เป็นลักษณะเฉพาะของเชียงใหม่บ่งบอกถึงความเป็นล้านนา ทำให้เชียงใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย

ประวัติ

เทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อเริ่มแรกมีฐานะเป็นเพียงสุขาภิบาลเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2458 และยังขึ้นตรงต่อมณฑลพายัพ แต่ต่อมาเมื่อประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในปี พ.ศ. 2475 สภาผู้แทนราษฎรจึงมีมติสมควรจัดตั้งชุมชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นสุขาภิบาลให้มีฐานะเป็น เทศบาล โดยในครั้งนั้นนครเชียงใหม่ได้รับฐานะใหม่จากสุขาภิบาลเมืองเชียงใหม่ขึ้นเป็น "เทศบาลนครเชียงใหม่" ในปี พ.ศ. 2478 [2] ถือได้ว่าเป็นเทศบาลนครแห่งแรกของไทย

ดวงตราเทศบาล

ดวงตราสัญลักษณ์ของเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นรูปพระบรมธาตุดอยสุเทพตั้งตระหง่านอยู่บนปุยเมฆ และยังมีพญานาค รวงข้าว และลายดอกประจำยาม ในดวงตราสัญลักษณ์อีกด้วย

  1. พระบรมธาตุดอยสุเทพ สถานที่ซึ่งเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงยังเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทำให้ที่แห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของพระพุทธศาสนิกชนแสดงถึงการเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในภาคเหนือที่รุ่งเรืองมายาวนานทุกสมัย
  2. ปุยเมฆ เป็นตัวบ่งบอกลักษณะสภาพอากาศโดยทั่วไปของนครเชียงใหม่ ที่เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี
  3. พญานาค ซึ่งตามประวัติความเป็นมานั้น พญานาคถือว่าเป็นผู้ให้น้ำ และในที่นี้หมายถึง แม่น้ำปิง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านนครเชียงใหม่
  4. รวงข้าว เปรียบดังความอุดมสมบูรณ์ของเมือง ที่มีพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปีเช่นกัน

ภูมิศาสตร์

เทศบาลนครเชียงใหม่มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 40.216 ตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมพื้นที่ 14 ตำบลของอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ ตำบลหายยา ตำบลช้างม่อย ตำบลศรีภูมิ ตำบลวัดเกต ตำบลช้างคลาน ตำบลพระสิงห์ ตำบลสุเทพ ตำบลป่าแดด ตำบลฟ้าฮ่าม ตำบลหนองป่าครั่ง ตำบลท่าศาลาบางส่วน ตำบลป่าตัน ตำบลหนองหอย และตำบลช้างเผือก

สภาพทั่วไป

ตัวเมืองเชียงใหม่บางส่วน ถ่ายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ที่ตั้งและลักษณะของชุมชน

ชุมชนเมืองเชียงใหม่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงตอนกลางเชิงดอยสุเทพ มีแม่น้ำปิงไหลผ่านใจกลางเมืองในแนวเหนือ–ใต้ ส่วนชุมชนดั้งเดิมหรือบริเวณเมืองเก่าตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ต่อมาเมื่อชุมชนได้พัฒนาให้มีความเจริญขึ้น โดยมีการขยายตัวข้ามแม่น้ำปิงมาทางฝั่งตะวันออก และภายหลังจากที่ได้มีการตัดถนนอ้อมเมือง ชุมชนได้พัฒนาออกไปหลายทิศทางตามเส้นทางคมนาคม และโครงข่ายสาธารณูปโภค ธุรกิจการพัฒนาที่ดินและที่พักอาศัยได้ขยายตัวเป็นอย่างมาก สภาพที่แท้จริงของชุมชนเมืองเชียงใหม่ในปัจจุบันไม่ได้คงอยู่แต่เฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น แต่ได้ขยายออกไปตามบริเวณชานเมืองและชนบทโดยรอบ อย่างเช่น เขตอำเภอหางดง, อำเภอสันทราย, อำเภอแม่ริม, อำเภอสารภี, อำเภอสันกำแพง, อำเภอดอยสะเก็ด, อำเภอสันป่าตอง, อำเภอจอมทอง และอำเภอแม่แตง เป็นต้น

อาณาเขต

เทศบาลนครเชียงใหม่มีอาณาเขตติดต่อ ดังนี้

ภูมิอากาศ

ข้อมูลภูมิอากาศของเทศบาลนครเชียงใหม่ (2504–2533)
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) 34.1
(93.4)
37.3
(99.1)
39.5
(103.1)
41.3
(106.3)
41.4
(106.5)
37.5
(99.5)
37.5
(99.5)
36.5
(97.7)
36.1
(97)
35.3
(95.5)
34.5
(94.1)
33.0
(91.4)
41.4
(106.5)
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 28.9
(84)
32.2
(90)
34.9
(94.8)
36.1
(97)
34.1
(93.4)
32.3
(90.1)
31.7
(89.1)
31.1
(88)
31.3
(88.3)
31.1
(88)
29.8
(85.6)
28.3
(82.9)
31.8
(89.2)
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) 20.5
(68.9)
22.9
(73.2)
26.4
(79.5)
28.7
(83.7)
28.1
(82.6)
27.3
(81.1)
27.0
(80.6)
26.6
(79.9)
26.5
(79.7)
25.8
(78.4)
23.8
(74.8)
21.0
(69.8)
25.4
(77.7)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 13.7
(56.7)
14.9
(58.8)
18.2
(64.8)
21.8
(71.2)
23.4
(74.1)
23.7
(74.7)
23.6
(74.5)
23.4
(74.1)
23.0
(73.4)
21.8
(71.2)
19.0
(66.2)
15.0
(59)
20.1
(68.2)
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) 3.7
(38.7)
7.3
(45.1)
10.0
(50)
15.8
(60.4)
19.6
(67.3)
20.0
(68)
20.5
(68.9)
20.7
(69.3)
16.8
(62.2)
13.3
(55.9)
6.0
(42.8)
5.0
(41)
3.7
(38.7)
ปริมาณฝน มม (นิ้ว) 6.9
(0.272)
4.6
(0.181)
13.0
(0.512)
50.1
(1.972)
158.4
(6.236)
131.6
(5.181)
160.8
(6.331)
236.0
(9.291)
227.6
(8.961)
121.9
(4.799)
52.8
(2.079)
19.8
(0.78)
1,183.5
(46.594)
วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย 1 1 2 6 15 17 19 21 17 11 6 2 118
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด 282.1 276.9 279.0 270.0 266.6 180.0 155.0 142.6 174.0 223.2 234.0 257.3 2,740.7
แหล่งที่มา 1: Thai Meteorological Department[3]
แหล่งที่มา 2: หอสังเกตการณ์ฮ่องกง[4], NOAA (extremes)[5]

การแบ่งเขตการปกครอง

เทศบาลนครเชียงใหม่แบ่งการปกครอง ออกเป็น 4 แขวง ได้แก่

  1. แขวงนครพิงค์ มีพื้นที่ 11.7 ตารางกิโลเมตร
  2. แขวงกาวิละ มีพื้นที่ 11.4 ตารางกิโลเมตร
  3. แขวงเม็งราย มีพื้นที่ 7.7 ตารางกิโลเมตร
  4. แขวงศรีวิชัย มีพื้นที่ 9.2 ตารางกิโลเมตร

ประชากรศาสตร์

ไฟล์:Chiang Mai2.jpg
ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ ด้านขวาเป็นกำแพงเมืองเก่า
ไฟล์:Chiang Mai night skyline.JPG
วิวทิวทัศน์ตัวเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืน มองลงมาจากดอยสุเทพ

เทศบาลนครเชียงใหม่มีประชากรประมาณ 174,235 คน แบ่งเป็นชาย 66,036 คน หญิง 75,325 คน จำนวนบ้านเรือน 75,878 หลังคาเรือน[6] ในปัจจุบันเทศบาลนครเชียงใหม่กลายเป็นศูนย์กลางความเจริญทุก ๆ ด้านของภูมิภาค ทำให้มีประชากรแฝง อพยพมาอาศัยในเทศบาลนครเชียงใหม่ มากกว่า 2.5 ล้านคน[7] และมีประชากรในต่างอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาใช้บริการในเขตเมืองในเวลากลางวัน และอพยพออกไปในเวลากลางคืนประมาณ 250,000 คนต่อวัน ทำให้ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีความหนาแน่น และมีสภาพการจราจรที่คับคั่ง ไม่ต่างจากกรุงเทพมหานคร [8]

ภาษา

ภาษาราชการที่ใช้ในจังหวัดเชียงใหม่ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก และมีภาษาท้องถิ่นซึ่งเรียกว่า ภาษาคำเมือง ซึ่งแต่ละท้องถิ่นของทางภาคเหนือ มีคุณลักษณะของภาษาที่คล้าย ๆ กัน จะแตกต่างกันเฉพาะสำเนียงและศัพท์บางคำ แต่ละท้องถิ่นก็จะมีความไพเราะ ต่างกันไปนักท่องเที่ยวที่มาจากถิ่นอื่น ล้วนชื่นชมว่า "ภาษาคำเมืองนั้น มีความไพเราะ นุ่มนวล ยิ่งนักแล"

ศาสนา

ประชากรในเทศบาลนครเชียงใหม่ นับถือศาสนาพุทธ 91.80% ศาสนาคริสต์ 5.60% ศาสนาอิสลาม 1.17% ศาสนาฮินดูและศาสนาซิกข์ 0.02% และอื่น ๆ 1.14%

ประเพณีและวัฒนธรรม

เทศบาลนครเชียงใหม่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน คนเชียงใหม่ได้สั่งสมวัฒนธรรมประเพณีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มีความผูกพันกับพุทธศาสนาและความเชื่อดั้งเดิม ประเพณีที่สำคัญ ได้แก่

  • ปีใหม่เมือง หรือ สงกรานต์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13–15 เมษายนของทุกปี เป็นประเพณีที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของชาวเชียงใหม่ แบ่งเป็นวันที่ 13 เป็นวันมหาสงกรานต์ มีขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ และพิธีสรงน้ำพระ วันที่ 14 เข้าวัดก่อเจดีย์ทราย และวันที่ 15 เมษายน ประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และมีการเล่นสาดน้ำตลอดช่วงเทศกาล
  • ประเพณียี่เป็ง จัดขึ้นในช่วงวันลอยกระทงของทุกปี ราวเดือนพฤศจิกายน มีการตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ ด้วยโคมชนิดต่าง ๆ มีการปล่อยโคมลอย มีการลอยกระทง ประกวดกระทงและนางนพมาศ
  • ประเพณีเข้าอินทขิล จัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นการบูชาเสาหลักเมืองโดยการนำดอกไม้ธูปเทียนมาใส่ขันดอก
  • มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ จัดขึ้นในอาทิตย์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี บริเวณสวนสาธารณะบวกหาด มีขบวนรถบุปผาชาติ และนางงามบุปผาชาติ

การศึกษา

ไฟล์:มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.jpg
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ในปี พ.ศ. 2550 เทศบาลนครเชียงใหม่มีโรงเรียนในสังกัดจำนวน 11 แห่ง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 1 แห่ง มีจำนวนห้องเรียนทั้งสิ้น 162 ห้อง มีจำนวนครูทั้งสิ้น 273 คน และมีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 4,289 คน

การคมนาคม

เทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นเมืองหลักของภาคเหนือ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการคมนาคม จึงมีเส้นทางคมนาคมหลักทั้งทางบก และทางอากาศ มีทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงจังหวัด และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทำให้การเดินทางติดต่อภายในจังหวัด การเดินทางสู่จังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานครเป็นไปด้วยความสะดวก

ทางบก

รถสองแถวที่รู้จักกันในชื่อ รถแดง

การเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังนครใหม่ใช้ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดอ่างทอง, จังหวัดนครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์) ผ่านจังหวัดลำปาง แยกซ้าย ผ่านจังหวัดลำพูน จนถึงจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับการเดินทางในเทศบาลนคร จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์รวมทั้งจักรยาน สำหรับระบบมวลชนจะมี รถแดง, รถตุ๊กตุ๊ก, รถโดยสารประจำทาง และประมาณ พ.ศ. 2550 เริ่มมีแท็กซี่มิเตอร์ในบริการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถมีสีเหลือง-น้ำเงิน เป็นแท็กซี่สหกรณ์ ส่วนสีแดง-เหลืองเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคล มีสถานีขนส่งภายในตัวจังหวัดเชื่อมต่ออำเภอต่าง ๆ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1 (สถานีขนส่งช้างเผือก) และสถานีขนส่งระหว่างจังหวัดคือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2 และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3 (สถานีขนส่งอาเขต)

ส่วนระบบรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษนครเชียงใหม่ (อังกฤษ: Chiangmai Transit System) จะเปิดให้บริการในอนาคต แต่ยังติดปัญหาเรื่องงบประมาณและการพิจารณาอนุมัติของสำนักงานขนส่งจังหวัด (สนข.)

ทางราง

สถานีรถไฟเชียงใหม่ สถานีปลายทางของทางรถไฟสายเหนือ

การคมนาคมทางรถไฟ ปัจจุบันมีรถไฟสายกรุงเทพ–เชียงใหม่ โดยผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา–ลพบุรี–นครสวรรค์–พิษณุโลก–อุตรดิตถ์–แพร่–ลำปาง–ลำพูน เปิดการเดินรถเร็ว, รถด่วน, รถด่วนพิเศษ, และรถดีเซลรางปรับอากาศ รวมวันละ 14 ขบวนไป–กลับ และนครสวรรค์–เชียงใหม่ วันละ 2 ขบวนไป–กลับ มีสถานีรถไฟหลักและเป็นสถานีปลายทางในนครเชียงใหม่ คือ สถานีรถไฟเชียงใหม่

ทางอากาศ

ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศ

นครเชียงใหม่มีท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ 4 ของประเทศรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานภูเก็ต ตามลำดับ โดยมีเที่ยวบินไป–กลับวันละหลายเที่ยวบิน ทั้งสายการบินภายในประเทศ และสายการบินระหว่างประเทศ โดยสายการบินระหว่างประเทศ มีสายการบินในแถบเอเชียมีเที่ยวบินโดยตรงจากเชียงใหม่ไปยังหลายประเทศ เช่น ประเทศจีน, ประเทศเกาหลีใต้, ประเทศลาว, ประเทศพม่า, ประเทศมาเลเซีย, ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น

สถานที่สำคัญ

ทางเข้าสวนสัตว์เชียงใหม่

เมืองพี่น้อง

อ้างอิง

  1. http://www.cmcity.go.th//flash/header.swf
  2. พระราชบัญญัติจัดตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ พุทธศักราช ๒๔๗๘ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 80 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2478
  3. "30 year Average (1961-1990) - CHIANG MAI". Thai Meteorological Department. สืบค้นเมื่อ 2010-04-20.
  4. "Climatological Information for Chiang Mai, Thailand". Hong Kong Observatory. สืบค้นเมื่อ 2010-10-28.
  5. "Climate Normals for Chiang Mai". National Oceanic and Atmospheric Administration. สืบค้นเมื่อ 1 February 2013.
  6. [1]
  7. http://www.ryt9.com/s/prg/369382
  8. chiangmainews. เข้าถึงได้จาก: [2]
  9. 9.0 9.1 9.2 9.3 บรรยายสรุปจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. 2555 หน้า 39. สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่

แหล่งข้อมูลอื่น