ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งความยาวคลื่น"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Tropicalkitty (คุย | ส่วนร่วม)
Reverted 1 edit by 110.77.176.251 (talk) to last revision by AlphamaBot. (TW)
บรรทัด 9: บรรทัด 9:


ข้อเสียของระบบ WDM คือจะเป็นการยากในการออกแบบระบบสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง เนื่องจากค่าความยาวคลื่นที่ต่างกันจะทำให้ ระยะทางของสถานีทวนสัญญาณแต่ละความยาวคลื่นนั้นแตกต่างกัน ดั้งนั้นจึงทำให้กำเนิดระบบ DWMD เกิดขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางการออกแบบวงจรของสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง จึงได้คิดค้นที่จะทำการทดลองโดยใช้หมู่ธาตุหายากโดยใช้ธาตุ [[Erbium]] ที่ทำให้ความยาวคลื่นที่ 1550 nm สามารถขยายสัญญาณในช่วงความถี่ดังกล่าวโดยเหมือนกับว่าเป็นสถานีทวนสัญญาณเชิงแสงนั้นเอง
ข้อเสียของระบบ WDM คือจะเป็นการยากในการออกแบบระบบสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง เนื่องจากค่าความยาวคลื่นที่ต่างกันจะทำให้ ระยะทางของสถานีทวนสัญญาณแต่ละความยาวคลื่นนั้นแตกต่างกัน ดั้งนั้นจึงทำให้กำเนิดระบบ DWMD เกิดขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางการออกแบบวงจรของสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง จึงได้คิดค้นที่จะทำการทดลองโดยใช้หมู่ธาตุหายากโดยใช้ธาตุ [[Erbium]] ที่ทำให้ความยาวคลื่นที่ 1550 nm สามารถขยายสัญญาณในช่วงความถี่ดังกล่าวโดยเหมือนกับว่าเป็นสถานีทวนสัญญาณเชิงแสงนั้นเอง
{{โครงเทคโนโลยี}}123
{{โครงเทคโนโลยี}}





รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:25, 17 สิงหาคม 2558

การมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งความยาวคลื่น (อังกฤษ: Wavelength-division multiplexing: WDM) คือการนำสัญญาณที่มีความยาวคลื่นต่างกันมารวมกัน แล้วทำการส่งเข้าไปในเส้นใยแก้วนำแสง เทคโนโลยี WDM เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เพิ่มขนาดแบนด์วิท การส่งข้อมูลบนเครือข่ายใยแก้วนำแสง โดยการรวมส่งข้อมูลหลายชุดพร้อมกันโดยใช้วิธีผสมแสงแถบความถี่แคบๆเข้าด้วยกัน เป็นแถบกว้างคล้าย FDM คือ ทำ MUX ข้อมูลโดยใช้สัญญาณพาหะต่างความถี่ต่างกันที่ความถี่นั้นค่าสูงมาก โดยข้อมูลแต่ละชุดใช้แสงที่มีความยาวคลื่นที่แตกต่างกันลงบนสายใยแก้วเส้นเดียว ปัจจุบันเทคโนโลยี WDM ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญบนอุปกรณ์เครือข่ายใยแก้วนำแสง เพราะด้วยแบนด์วิทที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถติดตั้งเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของระบบเดิมที่มีอยู่ก่อนได้ง่าย และด้วยการที่ WDM เป็นเทคโนโลยีในชั้นกายภาพ จึงสามารถใช้เทคโนโลยีนี้กับระบบต่างๆ ได้ เช่นทั้งอุปกรณ์ SONE, ATM switch หรือแม้แต่ IP router

ในการทำงาน WDM จะต้องมีต้องส่งและรับสัญญาณดังนี้

  • ทางด้านส่ง (MUX) ต้องการรวมแสงที่ความยาวคลื่นต่างกันเข้าด้วยกัน mux ที่ใช้ในการรวมแสงมีหลายลักษณะ เช่น คับเปลอร์เส้นใยแก้ว คับเปลอร์แบบระนาบ
  • ทางด้านรับ (DEMUX) ต้องการแยกแสงที่มีความยาวคลื่นต่างกันออกจากกัน

ข้อเสียของระบบ WDM คือจะเป็นการยากในการออกแบบระบบสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง เนื่องจากค่าความยาวคลื่นที่ต่างกันจะทำให้ ระยะทางของสถานีทวนสัญญาณแต่ละความยาวคลื่นนั้นแตกต่างกัน ดั้งนั้นจึงทำให้กำเนิดระบบ DWMD เกิดขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางการออกแบบวงจรของสถานีทวนสัญญาณเชิงแสง จึงได้คิดค้นที่จะทำการทดลองโดยใช้หมู่ธาตุหายากโดยใช้ธาตุ Erbium ที่ทำให้ความยาวคลื่นที่ 1550 nm สามารถขยายสัญญาณในช่วงความถี่ดังกล่าวโดยเหมือนกับว่าเป็นสถานีทวนสัญญาณเชิงแสงนั้นเอง