ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตลก 6 ฉาก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Apple1968 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 140: บรรทัด 140:
! ฉาก !! รายละเอียด
! ฉาก !! รายละเอียด
|-
|-
| ออฟฟิศจิตป่วน || เรื่องราวการประชุมภายในออฟฟิศตอนกลางคืน ของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมี บอส (โหน่ง) เดือน-เลขา (ฝน) พรพรรณ (ตุ๊กกี้) ณวัฒน์ (ท็อฟฟี่), แมนเมือง (บอย) เข้าประชุม โดยฉากนี้บอสมักจะพูดประโยคว่า '''ทำไมบริษัทของเรา ถึงไม่เจริญสักที''' เป็นการเปิดประเด็นปัญหาทุกครั้ง และลงเอยด้วยสาเหตุที่มาจากการกระทำของพนักงาน หรือการกระทำ (ที่ไม่รู้ตัว) ของบอสเสียเอง ในบางครั้งพัน พลุแตก ก็จะมาถามคำถามต่างๆ
| ออฟฟิศจิตป่วน || เรื่องราวการประชุมภายในออฟฟิศตอนกลางคืน ของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมี บอส (โหน่ง) เดือน-เลขา (ฝน) พรพรรณ (ตุ๊กกี้) ณวัฒน์ (ท็อฟฟี่), แมนเมือง (บอย) เข้าประชุม โดยฉากนี้บอสมักจะพูดประโยคว่า '''ทำไมบริษัทของเรา ถึงไม่เจริญสักที''' เป็นการเปิดประเด็นปัญหาทุกครั้ง และลงเอยด้วยสาเหตุที่มาจากการกระทำของพนักงาน หรือการกระทำ (ที่ไม่รู้ตัว) ของบอสเสียเอง ในบางครั้งพัน พลุแตก ก็จะมาถามคำถามต่างๆ เช่นการล้อเลียนรายการปริศนาฟ้าแลบ ในชื่อ '''ปริศนาฟ้าร้อง'''
|-
|-
| ข่าวด่วนชวนยิ้ม || การรายงานข่าวที่ไม่ธรรมดาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 6 โดยสุรพันธ์ ชาวบางกะปิ (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น [[พัน พลุแตก]]) (พัน) บางครั้งผู้ประกาศข่าวจะรับบทโดยนักแสดงคนอื่น เช่น โก๊ะตี๋, นุ้ย EFM หรือ อาร์ต ศิลป์ เป็นต้น
| ข่าวด่วนชวนยิ้ม || การรายงานข่าวที่ไม่ธรรมดาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 6 โดยสุรพันธ์ ชาวบางกะปิ (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น [[พัน พลุแตก]]) (พัน) บางครั้งผู้ประกาศข่าวจะรับบทโดยนักแสดงคนอื่น เช่น โก๊ะตี๋, นุ้ย EFM หรือ อาร์ต ศิลป์ เป็นต้น และมักจะมาพร้อมกับผู้สนับสนุนรายการซึ่งมีชื่อและสโลแกนที่มาในแนวตลก เช่น มรสุมแอร์ไลน์ หักคานทองทัวร์ ไวน์มองดูวัวบนระเบียง ฯลฯ เป็นต้น
|-
|-
| แท็กซี่ฮาเฮ || เดิมชื่อคือ เข้าเกียร์ฮา เรื่องของคนขับแท็กซี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำแสดงโดย พัน พลุแตก ที่ต้องเจอลูกค้าที่ไม่ปกติ หรือเป็นคนขับแท็กซี่ที่ไม่ปกติซะเอง ต่อมามีการนำนักแสดงคนอื่นมาแสดงในฉากนี้เช่นเดียวกันฉากข่าวด่วนชวนยิ้ม
| แท็กซี่ฮาเฮ || เดิมชื่อคือ เข้าเกียร์ฮา เรื่องของคนขับแท็กซี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำแสดงโดย พัน พลุแตก ที่ต้องเจอลูกค้าที่ไม่ปกติ หรือเป็นคนขับแท็กซี่ที่ไม่ปกติซะเอง ต่อมามีการนำนักแสดงคนอื่นมาแสดงในฉากนี้เช่นเดียวกันฉากข่าวด่วนชวนยิ้ม

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:39, 25 กรกฎาคม 2558

ตลก 6 ฉาก

ไฟล์:Talok6Chak.png
ออกอากาศ 21/10/2550 - 27/12/2551
24/04/2552 - ปัจจุบัน
สถานีโทรทัศน์ ช่อง 5 ททบ. 5
(21 ตุลาคม 2550 - 27 ธันวาคม 2557)
ช่อง 1 เวิร์คพอยท์
(3 มกราคม 2558 - ปัจจุบัน)
ผู้ดำเนินรายการ โหน่ง ชะชะช่า
(21-10-2550---)
พิษณุ นิ่มสกุล
(21-10-2550---)
ศิวดล จันทเสวี
(21-10-2550---)
โก๊ะตี๋ อารามบอย
(24-02-2551---)
ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน
(4-10-2551---)
ภาณุพันธ์ ครุฑโต
(4-10-2551---)
นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล
(2555---)
พิมพ์ลดา ไชยปรีชาวิทย์
(2556---)
ศิลป์ รุจิรวนิช
(2557---)
ดนู ชุตินาวี
(2557---)
ผลิตโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ตลก 6 ฉาก (อังกฤษ: Talok Hok Chak) เป็นรายการวาไรตี้ผสมละครซิตคอมตลกสั้นจบในตอนมีความกระชับ และปิดท้ายด้วยเกมโชว์ ออกอากาศทุกวันเสาร์ 12:00 - 13:30 น. ทางช่อง 1 เวิร์คพอยท์ ผลิตโดย บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในยุคแรกมีฉากทั้งหมด 6 ฉาก เช่น ฉากโรงพยาบาล, ร้านกาแฟ, ซูเปอร์มาเก็ต, ฟิตเนส เป็นต้น จึงได้ชื่อว่า "ตลก 6 ฉาก" ละครจะเน้นความตลกขบขัน ภายใต้สโลแกนว่า “จะฉากอะไรในชีวิต ก็คิดให้มันเป็นเรื่อง..ตลก”

นอกจากนี้ยังเป็นรายการโทรทัศน์รายการแรกของไทยที่ได้รับ เหรียญรางวัลและเกียรติบัตรจาก เวที อินเตอร์เนชั่นแนล เอมี่ อะวอร์ดส รางวัลทางโทรทัศน์ระดับโลก [1]

ในปัจจุบัน ฉากในรายการจะมีทั้งหมด 10 ฉาก ได้แก่ ออฟฟิศจิตป่วน, ข่าวด่วนชวนยิ้ม, แท็กซี่ฮาเฮ, เฟอร์-ฟอร์-ฟัน, ฮา-มิด-ไมล์, ร้านชำสำราญ, โรงพยาบาล, ห้องซ้อมดนตรี, รถไฟฟ้า และอาศรม แต่ละฉากก็จะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกันออกไป มีนักแสดงหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันแสดงทุกฉาก หากตอนในฉากใดมีหมายเลขกำกับด้านล่าง แสดงว่าเป็นตอนที่จะมีมากกว่า 1 ช่วงในตอนนั้นๆ

รูปแบบ

ในยุคแรก เปิดรายการมาพิธีกรจะกล่าวสวัสดีท่านผู้ชมแล้วก็แนะนำแขกรับเชิญประจำสัปดาห์ โดยการร้องเพลงต้อนรับ หลังจากนั้นก็จะมีการคุยกับแขกรับเชิญ แล้วจึงตัดมาเป็นละครซิตคอมสั้นช่วงละ 2 ฉาก (ปัจจุบันจะมีช่วงละ 4 ฉาก และ 6 ฉากในภายหลัง) เมื่อละครจบครบทั้ง 6 ฉาก (หรือ 11 ฉากและ 12 ฉากในภายหลัง) ก็มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการ ซึ่งดารารับเชิญจะร่วมเล่นเกมกับพิธีกร (แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2553 ถึง 30 ธันวาคม 2553 ทางรายการจะไม่มีแขกรับเชิญมาร่วมรายการ จึงกลายเป็นการแข่งขันเกมของพิธีกรแทน)

โดยช่วงแรกจะไม่มีเพลงบรรเลงเข้าฉากถัดไปจะเป็นผู้บรรยายประกาศชื่อฉากที่จะนำออกอากาศ ต่อมา พ.ศ. 2552 มีการใช้เพลงบรรเลงประกอบฉากซึ่งทำนองจะเข้ากับฉากของแต่ละฉาก ต้นปี 2556 มีการดัดแปลงเพลงเข้าฉากเพื่อให้เข้ากับไตเติ้ลใหม่ แต่กลางปีเดียวกันกลายเป็นไตเติ้ลรายการแทน

ปัจจุบัน(2558) เบรกแรก จะเปิดรายการด้วยละครก่อนต่อด้วยผู้ดำเนินรายการหลัก 10 คนมาต้อนรับผู้ชม และมีประเด็นประจำสัปดาห์มาให้ผู้ดำเนินรายการพูดคุยกัน แล้วส่งผู้ชมไปชมละคร ต่อมาเบรก 2-4 จะเป็นละคร เบรก 5 ที่เป็นการเล่นเกมของผู้ดำเนินรายการ ปิดท้ายด้วยคำคม และช่วงมุกหลุด ที่รวบรวมมุกหลุดๆ จากละคร หรือมุกที่ไม่ได้มีในละคร

การออกอากาศ

“ตลก 6 ฉาก” เดิมออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. ทางช่อง 5 เริ่มครั้งแรก 21 ตุลาคม 2550 ต่อมารายการนี้มีการเปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศมาเป็นทุกวันเสาร์ ช่อง 5 เวลา 14.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 เป็นต้นไป และเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 ละครก็หลุดออกจากผังช่อง 5 พร้อมรายการอื่นในเครืออีก 4 รายการเนื่องจากความผิดพลาดในการสื่อสารและประสานงานกันของบริษัทกับสถานี[2] โดยตอนสุดท้ายออกอากาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ต่อมากลับมาออกอากาศอีกครั้งที่ช่อง 5 เช่นเดิม ทุกวันศุกร์ เวลา 23.00 น. เป็นต้นไป เริ่มออกอากาศ 24 เมษายน พ.ศ. 2552[3]

ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 จะย้ายวัน และ เวลาออกอากาศไปเป็นวันพฤหัสบดี เวลา 23.30 - 00.10 น. เนื่องจากมีรายการของทางบริษัทฯ คือ เอสเอ็มอี ตีแตก มาออกอากาศในช่วงเวลาดังกล่าว และ เป็นการแข่งขันอีกรายการของทางบริษัท คือ ล้วงลับตับแตก ซึ่งออกอากาศคนละช่อง แต่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน

ใน พ.ศ. 2554 เปลี่ยนแปลงเวลาออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์เวลา 12.50 น. เริ่มวันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554 และ ใน พ.ศ. 2557 มีการขยายเวลาการออกอากาศเป็น 2 ชั่วโมง จากเดิม 12.50 - 14.00 น. เป็น 12.50 - 14.50 น.โดยเริ่มออกอากาศตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 จนถึง ธันวาคม 2557

ใน พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศเป็นทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 13.30 น. ( 1 ชั่วโมงครึ่ง ) และ ย้ายการออกอากาศจาก สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 มาเป็น ช่อง 1 เวิร์คพอยท์ โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกวันเสาร์ที่ 3 มกราคม 2558 นี้ เป็นต้นไปและออกอากาศซ้ำอีกครั้งทุกวันจันทร์เวลา 23.00 -00.30 น.

ข้อมูลการออกอากาศ

ปีที่ออกอากาศ สถานีโทรทัศน์ วันที่ออกอากาศ เวลาออกอากาศ ระยะเวลาออกอากาศ รวม
2550 สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5
วันอาทิตย์
16.00 - 17.00 น. 21 ตุลาคม 2550 - กุมภาพันธ์ 2551 4 เดือน
2551 วันเสาร์ 14.00 - 15.00 น. 1 มีนาคม 2551 - 2552 1 ปี
2552 วันศุกร์ 23.00 - 24.00 น. 24 เมษายน 2552 - 29 มกราคม 2553 9 เดือน 5 วัน
2553
วันพฤหัสบดี
23.00 - 00.10 น. 4 กุมภาพันธ์ 2553 - 2554 1 ปี
2554 วันเสาร์ 12.50 - 14.00 น. 1 มกราคม 2554 - 27 ธันวาคม 2557 4 ปี
2558
ช่อง 1 เวิร์คพอยท์
12.00 - 13.30 น. 3 มกราคม 2558 - ปัจจุบัน
วันจันทร์ รีรัน 23.00 - 24.30 น. 11 พฤษภาคม - 29 มิถุนายน 2558 - 2 เดือน
วันอังคาร รีรัน 23.00 - 24.30 น. 7 กรกฎาคม 2558 - ปัจจุบัน 1 สัปดาห์
22:30 - 24.00 น. 14 กรกฎาคม 2558 - ปัจจุบัน

นักแสดงและผู้ดำเนินรายการ

นักแสดงหลักและผู้ดำเนินรายการในปัจจุบัน

นักแสดงหลักและผู้ดำเนินรายการในอดีต

นักแสดงร่วมแสดง

นักแสดงรับเชิญที่ผลัดเปลี่ยนมาร่วมแสดงละคร โดยที่ไม่ใช่ดารารับเชิญเฉพาะเทป และไม่ใช่พิธีกร

  • บริบูรณ์ จันทร์เรือง (ตั๊ก)
  • แจ๊ส ชวนชื่น
  • ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร (ดีเจ นุ้ย)
  • จิตตริน กุลกัลยาดี (ดีเจ เจมส์)
  • วง Room 3.50 บาท (รูม สามบาทห้าสิบ) (3 สิงหาคม 2556 - ปัจจุบัน)
  • จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย (จันจิ)
  • จุฑามาศ วิชัย (จอย)
  • ภาณิศา อุดมเรืองเกียรติ (นุ่น)
  • ธนิสสา อิทธิฤทธิ์ (เพลง)
  • ศิรภัสรา สินตระการผล (แป๋ม)
  • บอล เชิญยิ้ม

ผู้ดำเนินรายการแทน

  • จิ้ม ชวนชื่น แทน โก๊ะตี๋ อารามบอย เมื่อวันที่ 8 , 29 มกราคม และ 5 , 12 กุมภาพันธ์ 2554
  • เสนาลิง แทน โก๊ะตี๋ อารามบอย เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554

ละคร

ฉาก

รายชื่อฉากในปัจจุบัน

ฉาก รายละเอียด
ออฟฟิศจิตป่วน เรื่องราวการประชุมภายในออฟฟิศตอนกลางคืน ของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมี บอส (โหน่ง) เดือน-เลขา (ฝน) พรพรรณ (ตุ๊กกี้) ณวัฒน์ (ท็อฟฟี่), แมนเมือง (บอย) เข้าประชุม โดยฉากนี้บอสมักจะพูดประโยคว่า ทำไมบริษัทของเรา ถึงไม่เจริญสักที เป็นการเปิดประเด็นปัญหาทุกครั้ง และลงเอยด้วยสาเหตุที่มาจากการกระทำของพนักงาน หรือการกระทำ (ที่ไม่รู้ตัว) ของบอสเสียเอง ในบางครั้งพัน พลุแตก ก็จะมาถามคำถามต่างๆ เช่นการล้อเลียนรายการปริศนาฟ้าแลบ ในชื่อ ปริศนาฟ้าร้อง
ข่าวด่วนชวนยิ้ม การรายงานข่าวที่ไม่ธรรมดาของสถานีโทรทัศน์ช่อง 6 โดยสุรพันธ์ ชาวบางกะปิ (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น พัน พลุแตก) (พัน) บางครั้งผู้ประกาศข่าวจะรับบทโดยนักแสดงคนอื่น เช่น โก๊ะตี๋, นุ้ย EFM หรือ อาร์ต ศิลป์ เป็นต้น และมักจะมาพร้อมกับผู้สนับสนุนรายการซึ่งมีชื่อและสโลแกนที่มาในแนวตลก เช่น มรสุมแอร์ไลน์ หักคานทองทัวร์ ไวน์มองดูวัวบนระเบียง ฯลฯ เป็นต้น
แท็กซี่ฮาเฮ เดิมชื่อคือ เข้าเกียร์ฮา เรื่องของคนขับแท็กซี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำแสดงโดย พัน พลุแตก ที่ต้องเจอลูกค้าที่ไม่ปกติ หรือเป็นคนขับแท็กซี่ที่ไม่ปกติซะเอง ต่อมามีการนำนักแสดงคนอื่นมาแสดงในฉากนี้เช่นเดียวกันฉากข่าวด่วนชวนยิ้ม
เฟอร์-ฟอร์-ฟัน เรื่องของร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง โดยจะมีลูกค้าหลายประเภทและมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป
โรงพยาบาล สถานการณ์ในโรงพยาบาลชีวาวาย
ห้องซ้อมดนตรี (3 สิงหาคม 2556-ปัจจุบัน) สถานการณ์ในห้องซ้อมดนตรี โดยมี วง Room 3.50 บาท (รูม สามบาทห้าสิบ) มาซ้อมที่นี่เป็นประจำ วง Room 3.50 บาท มีแขกมากหน้าหลายตามาเยือน พร้อมเรื่องตลกกับดนตรีและเพลง
รถไฟฟ้า เหตุการณ์ภายในขบวนรถไฟฟ้า กับผู้โดยสารหลายรูปแบบ
ห้องเรียน เหตุการณ์ภายในห้องเรียน โดยจะมีนักเรียนหลากหลายประเภทและมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป
โกดัง เหตุการณ์ภายในโกดังแห่งหนึ่ง
บ้าน เรื่องราวในบ้าน ทุกตอนมีการเปลี่ยนตัวละคร
2 min. cooking อร่อย 2 นาที (25 มกราคม 2557 - ปัจจุบัน) การทำอาหารภายในเวลา 2 นาทีโดยโก๊ะตี๋ และมีดะเป็นผู้ช่วย ซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วมักจะเป็นอาหารที่ดูไม่เป็นอาหารเสียเลย เช่น เป็ดปักกิ่งเป็นการเอากิ่งมาปักบนเป็ด และเอาเป็ดมาจากข้าวหน้าเป็ด ส่วนเครื่องเทศเป็นผักจากต่างประเทศ
ร้านเฮียพัน (11 ตุลาคม 2557 - ปัจจุบัน) เรื่องในร้านขายอาหารตามสั่ง มีเฮียพัน (พัน) เป็นเจ้าของร้าน และมีลูกค้าหน้าเดิมเข้ามาสร้างความสนุกสนาน
ร้านอาหารปลา (25 ตุลาคม 2557 - ปัจจุบัน) เรื่องราวในร้านอาหารปลาซากุระ โดยจะมีลูกค้าหลายประเภทและมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป

รายชื่อฉากในอดีต

ฉาก รายละเอียด
ร้านสะดวกรัก เรื่องของเฮียไฝเจ้าของร้านสะดวกซื้อจอมเจ้าชู้ (โหน่ง) เจ๊หมึก-ภรรยา (โอปอล์) และแป้ง-ลูกจ้าง ของเจ๊หมึกภายในร้าน (พีค) ซึ่งเฮียไฝมักจะหาทางแต๊ะอั๋งแป้งอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ถูกเจ๊หมึกจับได้ทุกครั้งไป และผู้ได้รับผลผระโยชน์ทั้งหมดจากการกระทำของเฮียไฝคือแก๊ป(บอย) ที่เดินเข้าร้านในตอนจบ ต่อมา ฉากนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยฉากปั๊มเติมยิ้ม
นางฟ้าฟิตเนส เรื่องของชู(โหน่ง) และดล (ท็อฟฟี่)ซึ่งมาเล่นฟิตเนส โดยมีครูฟ้า (พีค)เป็นเทรนเนอร์ ซึ่งทั้งชูและดลก็พยายามจีบครูฟ้าในทุกตอน แต่ก็ผิดหวังทุกครั้งไป (อนึ่ง ชื่อชูและดลนั้น มาจากชื่อจริงของโหน่งและท๊อฟฟี่) ต่อมา ฉากนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยฉากออฟฟิศจิตป่วน แต่ยังคงในองค์ประกอบเดิมทุกอย่าง
สามสาวซาลอน เรื่องของร้านเสริมสวย เดิมทีมีเจ๊น้อยโหน่ง (โหน่ง) คำหล้า (ซาร่า) และเจ๊แป๋ว (โอปอล์)เป็นเจ้าของร้าน แต่ต่อมาก็มีคุกกี้(ตุ๊กกี้)มาทำงานแทนเจ๊แป๋ว และบางครั้งก็มีอุ๋ม(พีค)มาทำงานแทนคำหล้า(ในความเป็นจริงคือ มาช่วยสมทบในกรณีที่ซาร่าไม่ได้มาร่วมบันทึกในเทปนั้นๆ แต่ในเวลาต่อมา มักจะเห็นแต่เจ๊น้อยโหน่ง )
มุมบาร์มุมฮา เรื่องของพนักงานบริษัทสองคนที่เลิกงานแล้ว(พันและบอย) มานั่งดื่มเหล้ากันในบาร์ (ในช่วงที่รายการยังออกอากาศกลางวัน ทั้งคู่จะนั่งดื่มน้ำชากัน)
โมบายป้ายยิ้ม เรื่องราวของพนักงานขายคนหนึ่ง (พัน) ในร้านขายโทรศัพท์มือถือไอโมบายที่คอยบริการลูกค้าหลากหลายประเภท
ไอซียูมหาสนุก เรื่องราวของหมอ(บอย)กับพยาบาลเปิ้ล(ซาร่า)หรือพยาบาลตุ๊ก (ตุ๊กกี้)ในคลินิกแห่งหนึ่ง โดยมีคนไข้เข้ามารับการรักษา แต่มักจะไม่ได้การรักษาที่ถูกต้อง ในอดีต หมอนั้นไม่เคยเรียกชื่อพยาบาลเปิ้ลถูกเลยสักครั้ง
ยิ้มดอตเน็ต เรื่องราวของ กิ๊ก (ตุ๊กกี้) พนักงานให้บริการคนหนึ่งในร้านทรีบรอดแบรนด์ ที่พยายามจีบ ไบร์ท (บอย) พนักงานรักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง ปัจจุบัน ฉากนี้ถูกแทนด้วย ซีนีม่าฮาเฮ
ปั๊มเติมยิ้ม เรื่องภายในปั๊มน้ำมัน G Station โดยมีดำ (โก๊ะตี๋) และแนน (พีค) เป็นเด็กปั๊ม คอยบริการลูกค้าที่มักจะไม่ค่อยปกติ
ฮา อิน วัน เรื่องของสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งซึ่งมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป
ฮา-บีคิว เรื่องของร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป
ยิ้มติดล้อ เรื่องราวของพนักงานคนหนึ่ง (ท็อฟฟี่) ในโชว์รูมมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าที่คอยบริการลูกค้าที่มีหลากหลายประเภท
เหตุเกิดที่มุมตึก เรื่องราวของโจรอ้วน (โหน่ง) และโจรผอม (บอย) ที่รอปล้นผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวมุมตึก โดยบางตอนจะมีโก๊ะตี๋และบอลมาร่วมฉากด้วย
ลิฟท์ฮาเฮ เรื่องของพนักงานบริษัทคนหนึ่ง(โก๊ะตี๋) พยายามหาทางเข้าลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังชั้นที่ 39 แต่ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง(มีเพียงสองครั้งเท่านั้นที่พนักงานสามารถขึ้นลิฟท์ได้ โดยเหลิมขึ้นได้แต่ลิฟท์มีแค่ชั้น 1 ส่วนโก๊ะตี๋สามารถขึ้นได้ถึงชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นที่ทำงานได้สำเร็จ) ฉากนี้จะจบฉากด้วยการสรุปมุกเป็นฉากเดียวที่มีการสรุปมุกในตอนจบ และเป็นฉากที่มีระยะสั้นที่สุด ภายหลังเป็น เหตุการณ์ในลิฟต์แทน
ซีนีม่าฮาเฮ เรื่องราวของฟ้าลั่น (พัน) และฟ้าคราม (ตุ๊กกี้) สามีภรรยาคู่หนึ่ง มีเรื่องราวป่วนๆ ไม่ปกติในโรงภาพยนตร์ เช่นจับกิ๊ก คิดว่ามีอะไรกันในโรงหนังให้คนอื่นเข้าใจผิด ซ้อมกันในโรงหนัง ปัจจุบันเป็นเรื่องราวของพนักงานต้อนรับลูกค้าสองคน(ท็อฟฟี่) โดยจะมีลูกค้าหลายประเภทและมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป
แก๊ก-แพค-เกอร์ เรื่องของร้านกระเป๋าเดินทางแห่งหนึ่ง โดยมีกิ๊ฟหกฉาก เป็นพนักงานขาย โดยจะมีลูกค้าหลายประเภทและมีเหตุการณ์แตกต่างกันไป
คาเฟ่ เดอ ฮา
(เดิมชื่อ แมวมองคอร์เนอร์)
เรื่องราวภายในคอฟฟี่ช็อป (ในอดีตเป็นร้านนม+เบเกอรี่ และในปัจจุบันได้เปลี่ยนกลับมาเป็นร้านนมอีกครั้ง) โดยมีเอ (ท็อฟฟี่) เป็นพนักงานภายในร้าน โดยมีเจนนี่ (โอปอล์) เป็นผู้จัดการคิวงานของดาราต่างๆ มานั่งรับประทานกาแฟที่นี่พร้อมพูดคุยเรื่องในวงการบันเทิง ต่อมา เหลือเพียงเอคนเดียวที่ทำงานในร้าน และมีตุ๊กกี้ มารับบทเป็นตัวเองแทนตำแหน่งของโอปอล์
ฮา...โหล เรื่องของร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่ง โดยมี ท็อฟฟี่ เป็นพนักงานขายโทรศัพท์ซัมซุง โดยจะต้อนรับลูกค้าหลายประเภท
ลิสซิ่ง สถานการณ์ในแหล่งให้บริการสินเชื่อ โดยจะมีลูกค้าหลากหลายประเภทและมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป
ร้านค้าปลอดภาษี เรื่องราวในร้านค้าปลอดภาษี โดยจะมีลูกค้าหลากหลายประเภทและมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป
ร้านโยเกิร์ต เรื่องราวในร้านโยเกิร์ต

ช่วงอื่นๆ

  • ตลก 6 บรรทัด

เป็นช่วงอ่านมุขจากทางบ้านโดยพิธีกรตลก 6 ฉากที่มีความยาว 6 บรรทัด มุขไหนที่คัดเลือกออกอากาศจะได้เสื้อไป

  • ตลก 6 บรรเลง

ช่วงของวง 3.50 ที่จะมาแนะนำเพลงที่เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ

  • บัฟฟอลโลว์

เป็นช่วงที่ตั๊กกับดะจะมาเล่ามุขตลกแบบฮาๆให้ผู้ชมได้ขำกัน

ตัวละคร

ตัวละครประจำ

  • โคขุน โพนยางแฟบ (รับบทโดย พัน พลุแตก) นักสืบ ที่ล้อเลียนตัวละคร โคนัน จาก ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน
  • โจรอ้วน กับ โจรผอม (รับบทโดย โหน่ง และบอย)
  • พนักงานออฟฟิศ บอส, พรพรรณ, แมนเมือง, ณวัฒน์ และเดือน (รับบทโดย โหน่ง, ตุ๊กกี้, บอย, ท็อฟฟี่ และฝน)
  • พัน พลุแตก ผู้ประกาศข่าว , ร้านอาหารตามสั่ง

ละครพิเศษ

รักหกฉาก

รักหกฉาก เป็นชื่อรายการตลกหกฉากในเทปพิเศษ ออกอากาศในช่วงที่มีการงดรายการบันเทิง เพื่อไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 20 มกราคม 8 พฤศจิกายน และ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 โดย 2 เทปแรก จะมีแขกรับเชิญเทปละ 2 ท่านเป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน โดยรายการตลกหกฉากในชื่อพิเศษนี้จะเป็นเทปที่งดเสียงหัวเราะ งดความสนุกสนาน งดเสียงดนตรี แต่พิธีกรจะพูดคุยกับแขกรับเชิญในเรื่องของความรัก และมีละครสั้นซิตคอม 6 ฉากเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักล้วนๆ ทั้งสดใส เหงา เศร้า และสมหวัง เมื่อละครจบครบทั้ง 6 ฉาก พิธีกรก็มีการพูดคุยกับแขกรับเชิญเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนกล่าวปิดรายการ ยกเว้นในเทปวันที่ 8 และ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่มีแขกรับเชิญเพียงคนเดียว ได้ร้องเพลงตามปกติก่อนปิดรายการ

เกมโชว์

เกมร้องเพลง (21 ตุลาคม 2550 - 6 พฤษภาคม 2553)

ช่วงสุดท้ายของรายการ จะการร้องเพลงจากแผ่นป้าย แขกรับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้ายที่กำหนดให้ ภายในป้ายจะมีเพลงซ่อนอยู่ เมื่อเลือกแล้วแขกรับเชิญจะต้องร้องเพลงร่วมกับพิธีกร โดยจะมีพิธีกร 1 คนลงไปชี้ตัว เมื่อร้องจบแล้วก็ถึงเวลาสำหรับการให้คะแนนจากท่านผู้ชมในห้องส่งจำนวน 100% ในอดีต ถ้าคะแนนจากท่านผู้ชมมากกว่า 50% ขึ้นไปแขกรับเชิญจะได้รางวัลเครื่องปรับอากาศ แต่ถ้าคะแนนไม่ถึง 50% ก็จะได้รับรางวัลเป็นพัดลมแทน แต่ปัจจุบันจะมีรางวัลเป็นกล้องถ่ายวิดีโอให้หากได้คะแนนจากท่านผู้ชมมากกว่า 50 % (ในภายหลัง ได้เปลี่ยนวิธีแสดงผลคะแนนเป็น O และ X แทน โดย O คือผ่าน X คือไม่ผ่าน)

เกมทายชื่อเพลง (13 พฤษภาคม 2553 - 30 ธันวาคม 2553)

พิธีกรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือทีมของ "พีค-ทอฟฟี่-โก๊ะตี๋" และ "บอย-โหน่ง-ตุ๊กกี้" โดยจะมีพันเข้ามาเป็นกรรมการด้วย

ทั้ง 2 ทีมจะส่งตัวแทนออกมาเป่ายิ้งฉุบ เพื่อหาว่าทีมไหนจะได้เล่นก่อน หลังจากนั้น ทางรายการจะเปิดเพลง และแสดงชื่อเพลงบนจอ(โดยไม่มีพยัญชนะ,สระ หรือวรรณยุกต์ใดๆ) ทีมที่ได้เล่นก่อนจะต้องเลือกแผ่นป้ายว่าสมาชิกคนไหนในทีมจะได้ทายชื่อเพลง (โดยทีมของ พีค-ทอฟฟี่-โก๊ะตี๋ จะได้เลือกแผ่นป้ายหมายเลข 1-3 หรือแผ่นป้ายแถวบน ส่วนทีมของ บอย-โหน่ง-ตุ๊กกี้ จะได้เลือกแผ่นป้ายหมายเลข 4-6 หรือแผ่นป้ายแถวล่าง) เมื่อเลือกแผ่นป้ายแล้ว พิธีกรคนนั้นจะมีสิทธิทายพยัญชนะ,สระ หรือวรรณยุกต์ 1 ตัว หากตัวอักษรที่ทาย มีปรากฏอยู่ในชื่อเพลง จะสามารถเล่นต่อไปได้ แต่หากไม่มีปรากฏในชื่อเพลง อีกทีมหนึ่งจะได้เล่นต่อ โดยจะต้องเลือกแผ่นป้ายใหม่ และได้ฟังเพลงเพิ่ม หากทีมไหนทายชื่อเพลงได้ถูกต้องก่อนจะเป็นฝ่ายชนะไป แต่ถ้าหากทายชื่อเพลงแล้วผิด ทีมนั้นจะแพ้ทันที ซึ่งทีมที่แพ้ จะถูกทำโทษไปในแต่ละอาทิตย์

เกมโจรสลัด (8 มกราคม 2554 - 26 มีนาคม 2554)

แขกรับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้าย 1 แผ่นป้ายจากทั้งหมด 6 แผ่นป้าย โดยด้านหลังแผ่นป้ายจะเป็นรูปใบหน้าของพิธีกรทั้ง 6 คน คือ โหน่ง บอย พีค ทอฟฟี่ โก๊ะตี๋ และ ตุ๊กกี้ เมื่อเปิดออกมาแล้ว เป็นพิธีกรคนใด พิธีกรคนนั้นจะต้องแต่งชุดเป็นโจรสลัด แล้วต้องเข้ามาอยู่ในถังไม้ที่มีช่องเสียบมีดทั้งหมด 10 ช่อง จากนั้นพิธีกรที่เหลือจะต้องมาแข่งเกมกับแขกรับเชิญ ด้วยการเสียบมีดให้โจรสลัด(พิธีกรที่ถูกเลือก)กระเด้งออกจากถังไม้(ถูกสลิงดึงขึ้นไปข้างบน) โดยแขกรับเชิญจะเริ่มต้นเสียบมีดก่อน หากยังไม่กระเด้ง ทีมพิธีกรก็จะได้เสียบมีดต่อไป สลับกันไปเรื่อยๆจนโจรสลัดกระเด้งออกมา หากแขกรับเชิญสามารถเสียบมีดแล้วโจรสลัดสามารถกระเด้งออกจากถังไม้ได้ ก็จะได้รับรางวัลจากทางรายการ

และตั้งแต่เดือนมีนาคม แขกรับเชิญจะต้องเป็นโจรสลัดด้วย และต้องเลือกพิธีกรเป็นคู่แข่งจากการเลือกแผ่นป้ายทั้ง 6 แผ่นป้าย จากนั้น ทั้งคู่จะต้องอยู่ในถังไม้ โดยทั้งสองถังจะมีช่องเสียบมีดอยู่ 5 ช่อง โดยแขกรับเชิญจะเริ่มเลือกช่องเสียบมีดฝั่งพิธีกรก่อน โดยจะมีพิธีกรที่ไม่ได้เป็นโจรสลัดมาช่วยเสียบมีดให้ หากพิธีกรไม่กระเด้ง พิธีกรที่เป็นโจรสลัดก็จะเลือกเสียบมีดฝั่งแขกรับเชิญสลับกันไป หากโจรสลัดฝั่งใดกระเด้งขึ้นก่อนก็จะแพ้ไป หากเป็นโจรสลัดฝั่งพิธีกรกระเด้งออกจากถังไม้ขึ้นก่อน แขกรับเชิญก็จะชนะและได้รับรางวัลจากทางรายการ

แข่งเกมกับพิธีกร (2 เมษายน 2554 - ปัจจุบัน)

แขกรับเชิญจะต้องแข่งเกมกับพิธีกรทุกคน (ยกเว้นพันที่จะทำหน้าที่กรรมการ) โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือก 1 แผ่นป้ายจากทั้งหมด 6 แผ่นป้าย เพื่อดูว่าจะได้เล่นเกมอะไร และถ้าแขกรับเชิญสามารถทำได้ตามเงื่อนไขที่ทางรายการกำหนด แขกรับเชิญก็จะได้รับของรางวัลจากทางรายการทันทีปัจจุบันนี้เป็นการแข่งเกมของพิธีกรกันเอง

รายชื่อเกมที่ใช้แข่งขัน

  • พยางค์ปากเอก - แขกรับเชิญและพิธีกรทุกคนจะต้องตอบคำถามในหัวข้อที่กำหนด โดยผลัดกันตอบทีละคน ใครตอบซ้ำ หรือตอบไม่ทันภายใน 3 วินาที จะต้องออกจากการแข่งขัน

เงื่อนไข แขกรับเชิญต้องอยู่ในเกมจนถึงรอบ 3 คนสุดท้าย

  • พลุแป้งระเบิด - แขกรับเชิญจะต้องแข่งกับพิธีกรแต่ละคน โดยจะมีพลุกระดาษให้ 2 กระบอก กระบอกหนึ่งบรรจุสายรุ้งกระดาษ อีกกระบอกหนึ่งบรรจุแป้ง ให้แขกรับเชิญและพิธีกรเลือกพลุกระดาษแล้วยิงใส่กัน ใครโดนแป้งจะแพ้ในรอบนั้น

เงื่อนไข แขกรับเชิญห้ามโดนแป้งเกิน 2 ครั้ง (หากโดนแป้งครั้งที่ 3 จะถือว่าแพ้ทันที)

อ้างอิง

เฟซบุ๊กของรายการ Instagram