ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์)"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) |
||
บรรทัด 30: | บรรทัด 30: | ||
หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์ เป็นบุตรของ[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์]] กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)<ref>http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html</ref> พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"<ref>ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ''ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) '', พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484</ref> |
หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์ เป็นบุตรของ[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์]] กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)<ref>http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html</ref> พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"<ref>ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ''ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) '', พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484</ref> |
||
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่[[เดนมาร์ก]] เมื่อ [[พ.ศ. 2425]] เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น[[หม่อมราชินิกุล]]มีนามว่า "หม่อมชาติเดชอุดม" ถือศักดินา 800<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/502_3.PDF พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ], เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒</ref> และเป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร<ref name="ลิ้นชักภาพเก่า">{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=[[เอนก นาวิกมูล]]|ชื่อหนังสือ=ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์|URL= |จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์วิญญูชน|ปี= พ.ศ. 2550|ISBN=978-974-94365-2-3|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=392}}</ref> |
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่[[ประเทศเดนมาร์ก]] เมื่อ [[พ.ศ. 2425]] เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น[[หม่อมราชินิกุล]]มีนามว่า "หม่อมชาติเดชอุดม" ถือศักดินา 800<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/502_3.PDF พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ], เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒</ref> และเป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร<ref name="ลิ้นชักภาพเก่า">{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=[[เอนก นาวิกมูล]]|ชื่อหนังสือ=ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์|URL= |จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์วิญญูชน|ปี= พ.ศ. 2550|ISBN=978-974-94365-2-3|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=392}}</ref> |
||
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงเกษตราธิการ]] เมื่อ พ.ศ. 2453 <ref name="ลิ้นชักภาพเก่า"/> ในปลายสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น[[กระทรวงคมนาคม]] ต่อมาในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ภายหลัง[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475]] เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรพาณิชยการ โดยรวมกระทรวงเกษตราธิการ กับกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม เป็นกระทรวงเดียวกัน เรียกว่า กระทรวงเกษตรพาณิชยการ <ref>http://www.fisheries.go.th/DOF_THAI/Intro/History/history_dof.htm</ref> |
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงเกษตราธิการ]] เมื่อ พ.ศ. 2453 <ref name="ลิ้นชักภาพเก่า"/> ในปลายสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น[[กระทรวงคมนาคม]] ต่อมาในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ภายหลัง[[การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475]] เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรพาณิชยการ โดยรวมกระทรวงเกษตราธิการ กับกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม เป็นกระทรวงเดียวกัน เรียกว่า กระทรวงเกษตรพาณิชยการ <ref>http://www.fisheries.go.th/DOF_THAI/Intro/History/history_dof.htm</ref> |
||
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ และ[[ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)]] เป็นผู้เลี้ยงดูสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในระหว่าง พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2477 เมื่อหม่อมหลวงบัว ต้องติดตามหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ไปปฏิบัติราชการ ตำแหน่งเลขานุการเอก ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุง[[วอชิงตัน ดี. |
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ และ[[ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)]] เป็นผู้เลี้ยงดูสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในระหว่าง พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2477 เมื่อหม่อมหลวงบัว ต้องติดตามหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ไปปฏิบัติราชการ ตำแหน่งเลขานุการเอก ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุง[[วอชิงตัน ดี.ซี.]] [[สหรัฐอเมริกา]] <ref>http://www.sf.ac.th/honour/honour.htm</ref> |
||
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง[[โรงเรียนสายปัญญา]] โดยเมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ สิ้นพระชนม์ ท่านเป็นต้นคิดในหมู่ทายาท ให้นำวังของพระบิดา มาก่อตั้งเป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี โดยได้รับพระราชทานนามโรงเรียนจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2459 |
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง[[โรงเรียนสายปัญญา]] โดยเมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ สิ้นพระชนม์ ท่านเป็นต้นคิดในหมู่ทายาท ให้นำวังของพระบิดา มาก่อตั้งเป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี โดยได้รับพระราชทานนามโรงเรียนจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2459 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:42, 15 กรกฎาคม 2558
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) | |
---|---|
ไฟล์:เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ.jpg เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ เมื่อ พ.ศ. 2453 | |
เกิด | หม่อมราชวงศ์กลาง สนิทวงศ์ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2409 |
เสียชีวิต | 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483 |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงตาด วงษานุประพัทธ์ บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อุบะ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา |
บุตร | 14 คน |
บิดามารดา | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ หม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา |
มหาอำมาตย์เอก พลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ หรือ หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์ (นามเดิม หม่อมราชวงศ์กลาง) (24 มิถุนายน พ.ศ. 2409 [1] - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483) อดีตเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ (พ.ศ. 2452 – 2455) และกระทรวงคมนาคม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว องคมนตรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระอัยกาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เคยเป็นข้าหลวงใหญ่ปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับแคว้นอินโดจีนตอนเหนือ (หลวงพระบาง) ของฝรั่งเศส ระหว่าง พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2450 [2]
ประวัติ
หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์ เป็นบุตรของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)[3] พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"[4]
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อ พ.ศ. 2425 เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นหม่อมราชินิกุลมีนามว่า "หม่อมชาติเดชอุดม" ถือศักดินา 800[5] และเป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร[2]
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ เมื่อ พ.ศ. 2453 [2] ในปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงคมนาคม ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรพาณิชยการ โดยรวมกระทรวงเกษตราธิการ กับกระทรวงพาณิชย์และคมนาคม เป็นกระทรวงเดียวกัน เรียกว่า กระทรวงเกษตรพาณิชยการ [6]
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ และท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) เป็นผู้เลี้ยงดูสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในระหว่าง พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2477 เมื่อหม่อมหลวงบัว ต้องติดตามหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ไปปฏิบัติราชการ ตำแหน่งเลขานุการเอก ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา [7]
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนสายปัญญา โดยเมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ สิ้นพระชนม์ ท่านเป็นต้นคิดในหมู่ทายาท ให้นำวังของพระบิดา มาก่อตั้งเป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี โดยได้รับพระราชทานนามโรงเรียนจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2459
เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483 ด้วยไข้มาลาเรีย เบาหวาน และโรคหัวใจ[8] สิริอายุ 74 ปี
บุตร-ธิดา
- ท่านผู้หญิงตาด วงศานุประพัทธ์
ท่านผู้หญิงตาด วงศานุประพัทธ์ (สาวตาด สิงหเสนี) เป็นธิดาพระยาณรงค์เรืองฤทธิ์ (เอม สิงหเสนี) กับคุณหญิงขลิบ ณรงค์เรืองฤทธิ์[9] มีบุตร-ธิดา 6 คน คือ
- หลวงจรูญสนิทวงศ์ (หม่อมหลวงจรูญ สนิทวงศ์) เสกสมรสกับ หม่อมหลวงรวง สนิทวงศ์ และหม่อมหลวงฟ่อน สนิทวงศ์ ธิดาหม่อมราชวงศ์สุวพันธุ์ สนิทวงศ์ มีธิดารวม 3 คน ดังนี้
- ท่านผู้หญิงอรุณ กิติยากร ณ อยุธยา ภริยาหม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร
- อรอำไพ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- ทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- หลวงจรัญสนิทวงศ์ (หม่อมหลวงจรัญ สนิทวงศ์)
- หลวงเดชสหกรณ์ (หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์) เสกสมรสกับท่านผู้หญิงประยงค์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา มีบุตรธิดา 4 คน ดังนี้
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คุณวรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- พิสิษฐ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- มนูเสรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- หม่อมหลวงอุดม สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงแส สนิทวงศ์ เสกสมรสกับ หม่อมเจ้าเสริมสวาสดิ์ กฤดากร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศร์วรฤทธิ์) มีโอรสธิดา ดังนี้
- หม่อมราชวงศ์ยงสวาสดิ์ กฤดากร
- ศาสตราจารย์ นายแพทย์หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์
ท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) นามเดิม บาง ณ บางช้าง[10] มีบุตรธิดา 3 คน ดังนี้
- หม่อมหลวงบัว สนิทวงศ์ เสกสมรสกับหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร) มีบุตรธิดา 4 คนดังนี้
- หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร
- หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร
- สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร)
- หม่อมราชวงศ์บุษบา สธนพงศ์
- พลโท นายแพทย์ หม่อมหลวงจินดา สนิทวงศ์ เสกสมรสกับท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (หงสนันทน์) มีบุตรธิดา 3 คนดังนี้
- พลอากาศเอก จารึก สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- คุณหญิงบุษยา ไกรฤกษ์
- พันตรี ภาดร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค (หม่อมหลวงมณีรัตน์ สนิทวงศ์) เสกสมรสกับนายสุรเทิน บุนนาค มีบุตรธิดา ดังนี้
- พลตรีกรีเมศร์ บุนนาค
- พันโทสุรธัช บุนนาค
- อุบะ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- หม่อมหลวงสารภี สนิทวงศ์ (ท่านผู้หญิงสารภี มิ่งเมือง)
- บุตร-ธิดา ที่เกิดกับภรรยาอื่นๆ ได้แก่ [9] ===
- หม่อมหลวงชื่น สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงทัยเกษม สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงกมล สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงสงบ (จู๊ด) สนิทวงศ์ (เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2454 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า[11]
- พ.ศ. 2457 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ [12]
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ. 2462 : เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน[13]
อ้างอิง
- ↑ หนังสือ "ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์)" โดยข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ระบุว่าเกิด 21 มิถุนายน พ.ศ. 2409
- ↑ 2.0 2.1 2.2 เอนก นาวิกมูล. ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์วิญญูชน, พ.ศ. 2550. 392 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 978-974-94365-2-3
- ↑ http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html
- ↑ ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) , พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ, เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒
- ↑ http://www.fisheries.go.th/DOF_THAI/Intro/History/history_dof.htm
- ↑ http://www.sf.ac.th/honour/honour.htm
- ↑ http://thainews.prd.go.th/rachinephp/queen4.html
- ↑ 9.0 9.1 อรวรรณ ทรัพย์พลอย. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ปราชญ์ผู้เป็นกำลังของแผ่นดิน. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2552. 352 หน้า. ISBN 978-974-341-578-4
- ↑ สมภพ ภิรมย์, ศาสตราจารย์ น.อ. "สาแหรกครอบครัว (Family Tree) ลำดับพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์เฉพาะสายที่สืบราชสมบัติ". พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ:อมรินทร์การพิมพ์. 2528
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔, หน้า ๑๗๘๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานตรารัตนวราภรณ์, เล่ม ๓๑, ตอน ๐ ง, ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗, หน้า ๓๕๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา, เล่ม ๓๖, ตอน ๐, ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๒, หน้า ๓๓๑๘
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2409
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2483
- หม่อมราชวงศ์
- บรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยา
- หม่อมราชนิกุล
- ทหารบกชาวไทย
- ราชสกุลสนิทวงศ์
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทย
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ร.ว.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเหรียญ ร.ด.ม.(ผ)
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์