ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คุยกับผู้ใช้:ตรวจทาน"

ไม่รองรับเนื้อหาของหน้าในภาษาอื่น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Syum90 (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ 171.96.184.79 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย 183.89.230.32
บรรทัด 1: บรรทัด 1:

เคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้นเคี่ยวจนข้น
{| id="t-test3" class="noprint" style=" width: 80%; margin: 0 auto; border-collapse: collapse; background: #FFee99; border: 1px solid darkorange; border-left: 10px solid #f28500;"
|-
| style="padding: 0.25em 0.5em;" width="60px" | [[ภาพ:Stop hand nuvola.svg|40px]]
| style="color:#333333;" |'''<big>
== กรุณาหยุด ==
</big>''' ถ้าคุณยังก่อกวนต่อไป คุณจะถูก'''บล็อก'''จากการแก้ไขวิกิพีเดีย ถ้าคุณอยากทดลองแก้ไข กรุณาใช้[[วิกิพีเดีย:ทดลองเขียน|หน้าทดลองเขียน]]
|}

{{Template:Welcome|realName=|name=ตรวจทาน}}

-- [[ผู้ใช้:New user message|New user message]] ([[คุยกับผู้ใช้:New user message|พูดคุย]]) 19:33, 12 เมษายน 2556 (ICT)

''ข้อความตัวเอน''== โทลคีน ==

เชิญเขียนหน้า [[ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน]] ตามที่คุณต้องการเลยครับ เขียนเสร็จแล้วมาบอกผม ผมจะบอกว่าต้องแก้อะไรบ้าง --[[ผู้ใช้:Nullzero|Nullzero]] ([[คุยกับผู้ใช้:Nullzero|พูดคุย]]) 19:03, 13 เมษายน 2556 (ICT)
:: ผมบอกแล้วไงครับว่าให้เขียนหน้า [[ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน]] ไปก่อน เพราะคุณเองก็ยอมรับเองว่าภาษายังใช้ไม่ได้ แล้วที่คุณบอกว่าจะเพิ่มอ้างอิงก็ยังไม่ได้เพิ่ม เมื่อคุณแก้ในหน้า [[ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน]] จนโอเคแล้ว เดี๋ยวผมลอกเนื้อหาไปลงในบทความโทลคีนให้เองครับ --[[ผู้ใช้:Nullzero|Nullzero]] ([[คุยกับผู้ใช้:Nullzero|พูดคุย]]) 19:33, 13 เมษายน 2556 (ICT)

----
มายืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า คุณต้องเพิ่มอ้างอิงอย่างด่วนเลยครับ ตอนนี้ถ้าไม่มีอ้างอิง เราก็มองว่าคุณกำลังเอาความคิดของคุณเองมาใส่เท่านั้น --[[ผู้ใช้:Horus|Horus]] | [[คุยกับผู้ใช้:Horus|พูดคุย]] 19:49, 13 เมษายน 2556 (ICT)

เวนกรรมอย่างรุนแรง

ไม่ไปตรวจสอบเองบาง

ให้เปลี่ยนชื่อจากภาษาไทยเป็นอังกฤษ เพื่อความขลัง

สามารถหาคำดูเมิน ลบลู่ รวมถึงพวกผิดเพศได้ตาม พันทิพ ประมูล

เนื้อหาเยอะเกินไป และผมก็ไม่อยากจะมีความทรงจำร้ายๆแบบนั้น


The Silmarillion (อังกฤษ: The Silmarillion) เป็นนิยายแฟนตาซีแต่งโดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (ผู้แต่งเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์) เริ่มประพันธ์โครงเรื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.1917 และมีการเขียนเพิ่มเติมมาโดยตลอด จนเมื่อ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน สิ้นชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1973 วรรณกรรมเรื่องนี้ก็ยังเขียนไม่เสร็จ และยังไม่ได้รับการตีพิมพ์

////ว่าด้วยเรื่องการปรากฏของพระเจ้าสูงสุดและเทพเจ้าที่รองลงมา โดยเรียกว่าGODโดยรวม (ซึ่งก็ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องแล้ว)

ซึ่งแนวคิดนี้สามารถสั่นคลอนความเชื่อในพระเจ้าในแบบที่ทุกคนเชื่อกันเป็นอย่างมาก (เมื่อเปรียบเทียบกับความเชื่อที่เป็นส่วนใหญ่ในเนื้อหาของโทนคีนจะมีเรื่องพันธุศาสตร์ปรากฏอยู่)

เพราะว่าพระเจ้าและเทพเจ้าคือผู้มีความก้าวหน้าและการเจริญเติบโตของอารยธรรมที่ไปไกลมาก (เราจะเห็นได้จากเรื่องซารูมานการการลูกผสมได้ อุรุไฮ)

ได้มาปรากฏตัวแล้วเริ่มสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา (เมื่อปรากฏก็ออกมาแล้วก็เริ่มสร้างโลกขึ้น)

และก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายในภายหลัง

แต่หลักๆย่อมมีความเชื่อซึ่งมักจะไม่ตรงความเป็นจริงเสมอในด้านของการบันทึกสังเคราะห์ข้อมูล (เป็นในแง่ก็ลักษณะของความเป็นจริงกับการเขียนบันทึก ซึ่งมักจะไม่ตรงเสมอไปในแง่ของการเกิดขึ้น กับการบันทึก)///


คริสโตเฟอร์ โทลคีน บุตรชายคนที่สามของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ได้สานต่องานประพันธ์ของพ่อ โดยรวบรวมงานเขียนที่ยังคั่งค้างอยู่ ทั้งส่วนที่เขียนรายละเอียดแล้ว และส่วนที่มีเพียงแนวคิด โครงเรื่อง มาประพันธ์ต่อจนสำเร็จสมบูรณ์ เดอะ Silmarillion จึงได้ตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1977

เนื้อหาในตำนานแห่งซิลมาริล เกี่ยวกับตำนานการสร้างโลก และเหตุการณ์ในยุคที่หนึ่งและยุคที่สองของโลกอาร์ดา ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลายพันปีก่อนถึงยุคสมัยในเรื่อง เดอะฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งอยู่ในยุคที่สาม {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|20:56, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}


:: ไมเห็นเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนชื่อไทยเป็นชื่ออังกฤษ เพราะชื่อไทยเป็นชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาไทยและที่รู้จักในชนที่ใช้ภาษาไทยแล้ว มิเช่นนั้น "สามก๊ก" ก็คงต้องเปลี่ยนเป็น "ซันกั๋ว", "ไซอิ๋ว" เป็น "ซีโหยว", "เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม" เป็น "ชีเสียหวู่อี้", "เวนิสวาณิช" เป็น "เดอะเมอร์แชนต์ออฟเวนิส", "คนค่อมแห่งน็อทร์-ดาม" เป็น "น็อทร์-ดามเดอปารี" ฯลฯ ส่วนที่ว่าเพื่อความขลังนั้น คงเป็นความเห็นส่วนตัวของคุณเดียว ไม่สามารถชี้วัดให้เห็นประจักษ์ได้ว่า ใช้ชื่อภาษาอังกฤษแล้วขลัง ใช้ชื่อภาษาไทยแล้วก่อให้เกิดความชั่วร้ายดังที่อ้าง --[[ผู้ใช้:Aristitleism|Aristitleism]] ([[คุยกับผู้ใช้:Aristitleism|พูดคุย]]) 21:09, 13 เมษายน 2556 (ICT)

อย่างน้อยก็ให้ผู้ที่อ่านคำอังกฤษออก ใช้ความพยายามสักนิดในการแปล {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|21:13, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

== หัวข้อที่2 ==

ดูพวกข้อความในนี้ http://springofarda.izedzine.com/index.php

ถ้าผมเหนื่อยผมจะไม่ทำแล้วนะเพราะว่าต้องดูข้อมูลมาเป็นปริมาณมากกว่าจะได้ซักนิดนึง


ไอนูลินดาเล และวาลาเควนตา
ดูบทความหลักที่ ไอนูลินดาเล และ วาลาเควนตา
ไอนูลินดาเล เป็นเนื้อหาส่วนแรกของหนังสือ ตำนานแห่งซิลมาริล เล่าถึงเหตุการณ์การสร้างโลกในลักษณะตำนาน กล่าวคือ อิลูวาทาร์ ("พระบิดาแห่งสรรพสิ่ง") ทรงสร้างไอนัวร์ขึ้นก่อนทุกสิ่ง เป็นดวงจิตที่ถือกำเนิดขึ้นจากดำริ หรือความคิดของพระองค์เอง จากนั้นอิลูวาทาร์ทรงแสดงดนตรีให้เหล่าไอนัวร์ชม แล้วโปรดให้พวกเขาบรรเลงดนตรีให้พระองค์ฟังบ้าง การบรรเลงดนตรีของเหล่าไอนัวร์นี้เรียกว่า "มหาคีตาแห่งไอนัวร์" (คำแปลของ ไอนูลินดาเล) ในระหว่างการบรรเลงนั้น เมลคอร์ ไอนัวร์องค์หนึ่งคิดอยากบรรเลงตามใจตัวเอง ทำให้เสียงดนตรีเพี้ยนผิดพลาดไปหมดจนล่มลง แต่องค์อิลูวาทาร์ทรงสำแดงฤทธิ์เป็นเสียงดนตรีไม่สิ้นสุด แล้วจากนั้นจึงแสดงภาพของโลกอาร์ดา ให้เหล่าไอนัวร์ได้เห็น โลกอาร์ดานั้นคือสิ่งที่บังเกิดขึ้นจากการบรรเลงดนตรีนั่นเอง

จากนั้นอิลูวาทาร์จึงสร้าง เออา หรือโลกอาร์ดาขึ้นให้เป็นจริง แล้วโปรดให้เหล่าไอนัวร์ที่ทรงพลังอำนาจ ลงไปสถิตอยู่ในโลกนั้น เพื่อสร้างโลกให้เป็นไปตามที่พวกเขาได้บรรเลงบทเพลงเอาไว้ เหล่าไอนัวร์ที่ลงมาในโลก กลุ่มที่มีฤทธิ์มากเรียกว่า วาลาร์ กลุ่มที่มีฤทธิ์รองลงมา เรียกว่า ไมอาร์ พวกเขาทั้งหมดพากันสร้างโลกให้พร้อมรอรับการมาถึงของเหล่าบุตรแห่งอิลูวาทาร์ โดยที่มีเมลคอร์คอยขัดขวางการก่อสร้างอยู่ตลอด

บท วาลาเควนตา เป็นเนื้อหาส่วนที่สองของหนังสือ กล่าวถึงรายละเอียดของวาลาร์ทั้ง 14 พระองค์ และรายละเอียดของไมอาร์องค์สำคัญบางองค์ สุดท้ายกล่าวถึงเทพอสูรเมลคอร์ คือไอนัวร์ที่จิตใจหันไปสู่ความชั่วร้าย กับบรรดาไมอาร์ที่ยอมเป็นสมุนของเขา เช่นเซารอน และบัลร็อก บทดนตรีเพลงที่มีเพียงผู้มีอำนาจแห่งพลังเท่านั้นที่จะบรรเลงได้

\\\\เทพเจ้าและพระเจ้าในเนื้อหานี้จะหมายถึงสิ่งมีชีวิตที่ก้าวหน้ามากเกินความเข้าใจโดยปกติได้ ภควัทคีตา คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนาฮินดู ภควัทคีตา อ่านว่า "พะ-คะ-วัด-คี-ตา" หมายถึง "บทเพลงแห่งพระเป็นเจ้า"

เป็นชื่อคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่เล่าเรื่องโดย ฤๅษีกฤษณะ ไทวปายนะ วยาส โดยฤๅษีตนนี้ ได้เล่าเรื่องราวของมหาภารตะให้แก่ พระพิฆเนศ และพระพิฆเนศก็ได้จดจาร

บันทึกไว้เป็นตัวอักษร ก่อเกิดเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดูใช้ปฏิบัติกันจวบจนปัจจุบัน คัมภีร์ภควัทคีตา

ฉบับที่แปลเป็นภาษาไทยปัจจุบันแทบจะไม่เหลือแล้ว ลองหาอ่านได้ตามหอสมุดแห่งชาติ (ห้องหนังสือศาสนา) โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า และหอสมุดโบราณต่างๆ

มหาภารตะ เป็นมหากาพย์ที่ยาวที่สุดในโลก (ยาวกว่า สามก๊ก อีเลียด Oddysey และ The Cantos รวมกัน) มีเนื้อหาที่ซับซ้อนมาก ให้ความรู้ครบถ้วนทุกศาสตร์ในโลก ทั้งเรื่องราวของเทพปกรณัม นิทาน บทกวี คติสอนใจ หลักปรัชญา หลักการสู้รบ {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|21:47, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

ภูมิศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปะ ประเพณีของอินเดีย การเมือง และมีเรื่องย่อยๆ แทรกอยู่อีกมากมาย สามารถแยกเรื่องย่อยๆเหล่านั้นมาเป็นหนังสือได้อีกหลายร้อยเล่ม\\\\\ {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|21:47, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

เนื้อหาใน ภควัทคีตา คือ วรรณกรรมทิพย์ ที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งมวลในโลกและจักรวาลนี้\\\\\
อ้างอิง siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

ภัมคีร์ภควัทคีตา
ตรงนี้คือส่วนประกอบแม่แบบของโทนคีน

และให้เห็นถึงความมากมายมหาศาลของข้อมูล {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|21:22, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

ต้องอ่านต้องดูวิดีโอสารคดีอีกเยอะ
ถ้าไม่งั้นก็ทำส่วนเฉพาะตัวใหญ่ที่โยงจากหัวข้อที่อยู่ท้ายสุดของบทความ ไปยังที่เฉพาะแล้วตั้งกฏให้ผมโดยตรงให้สามารถใช้ส่วนนั้นได้โดย
หรือทำเป็นบทขยายความ ที่ใช้เป็นแม่แบบหรือส่วนที่เป็นแรงบรรดาลใจของโทนคีน
ช่วยทำแค่นี้เองให้แค่ว่าปกป้องเนื้อหา
ไม่งั้นก็ปล่อยให้ถูกย่ำยีอยู่ต่อไป
แล้วคุณที่เกี่ยวข้องกับวิกิพีเดีย ผมจะโทษคุณและทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยว
ผมจะเกลียดไปจนวันตาย {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|22:04, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

== หัวข้อที่3 ==

อ้างอิง
พฤกษศาสตร์

ความที่โทลคีนมีสุขภาพไม่ดี จึงไม่สามารถเข้าโรงเรียนตามปกติ มาเบลสอนหนังสือเด็กๆ ด้วยตัวเอง แต่พี่น้องตระกูลโทลคีนนี้ฉลาดหลักแหลมมาก แม่ของพวกเขาสอนเรื่องพฤกษศาสตร์ให้แก่พวกเขา ซึ่งทำให้ทั้งสองคนทราบข้อมูลเกี่ยวกับพืชได้ดีมาก โทลคีนยังชอบวาดรูปทิวทัศน์และหมู่ไม้ และมีฝีมือวาดที่ดีด้วย แต่สิ่งที่โทลคีนสนใจที่สุดคือศาสตร์ทางด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาลาติน ซึ่งเขาสามารถอ่านออกได้ตั้งแต่มีอายุเพียง 4 ปี และเขียนได้หลังจากนั้นอีกไม่นาน ปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ.1900) เมื่อโทลคีนอายุได้ 8 ปี จึงได้เข้าโรงเรียนคิงเอ็ดเวิร์ด เนื่องจากความไม่เคร่งครัดเรื่องการหยุดเรียน แต่ค่าเล่าเรียนก็แพงมาก ปีเดียวกันนั้น แม่ของโทลคีนได้หันมานับถือนิกายโรมันคาทอลิก ในขณะที่ครอบครัวของเธอเองได้คัดค้านอย่างรุนแรง และตัดขาดไม่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เธออีก โทลคีนกับน้องจึงต้องย้ายไปโรงเรียนเซนต์ฟิลลิป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่การเรียนการสอนก็ด้อยกว่ามาก ภายหลังมาเบลตัดสินใจให้โทลคีนย้ายกลับมาโรงเรียนคิงเอ็ดเวิร์ดอีกครั้งในปี ค.ศ.1903 โทลคีนสามารถสอบเข้าเรียนได้โดยการชิงทุน[6]

อันนี้เริ่มก่อน

งานวิจัยด้านภาษาศาสตร์ทุกๆภาษาเก่า (อันนี้ไปดูเอาเองในส่วนเป็นภาษาที่โทนคีนศึกษาว่ามีจำนวนเท่าไร)

แฟนตาซีระดับสูงไฮเกรด.

วรรณกรรมเด็กสำหรับลูกไฮเกรด

ด้านสังคม (ในด้านการตีโจมตีเมือง)

การเมือง (เรื่องของเมืองโรฮาน การหวนคืนของกษัิติย์)

สงคราม (วิธีสู้รบของผู้คน)

พันธุศาสตร์ (ผังตระกูล)

ภูติ(เจตภูติ)

ปีศาจ(กอปลิน)

อสุรกาย(ออค)

พฤษาศาสตร์

ผลงานครั้งแรกของชีวิต

The Voyage of Earendel the Evening Star


ผลงานสำคัญที่ตีพิม (ตอนมีชีวิต)

เดอะฮอบบิท

เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์


ตัด ซิลมาริลลิออน ออกเพราะเป็นผลงานรวบรวมของลูกเขา


แล้วเปลี่ยนจาก ภาษาไทยเป็นอังกฤษแค่ส่วนนั้น ไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนชื่อเป็นอีกชื่อหนึ่ง {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|22:20, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

== หัวข้อที่4 ==

อ้างอิงบ้างอย่างก็อยู่ในเนื้อที่มีอยู่แล้วนั้น
แต่ผมแปลกใจว่าทำไม่เป็น ตรงข้ามกัน
และไม่ควรเริ่มจากวรรณกรรมเด็ก ก่อน
ให้เริ่มจากเรื่องของภาษาก่อน
ใครเข้ามาอ่านก็คิดว่าเป็นคนเขียนนิทานหลอกเด็ก {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|22:23, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

แล้วก็ไปดูที่ คัมภีร์ไบเบิลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นแม่แบบชิ้นหนึ่งของThe Silmarillion

แม่แบบคัมภีร์ภควคีตาชิ้นหนึ่ง ของThe Silmarillion {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|22:31, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

== หัวข้อที่5 ==

เนื้อหาหลายตำแหน่ง

ที่มีอยู่แล้วนี้ขัดแย้งกันเองหลายจุด

และ ทุกๆสิ่งก็มาจากความคิดนั้นแหละ

ไม่ได้มาจากไหนหรอก

แล้วก็ทำตารางแยกระหว่าง

ผลงานการเขียนเรื่องแรกจนถึงเรื่องสุดท้าย(เรียงตามค.ศ.)

แล้วก็ทำ

ผลงานการเขียนที่ได้รับการตีพิม (OKมีตอนมีชีวิตอยู่และหลังเสียชีวิต)



เนื้อหาของก่อนนั้นยังไม่ดี (ผมพูดถึงของที่มีอยู่แล้ว)

ผิดพลาดมีข้อมูลผิดหลายจุด (ผมพูดถึงของที่มีอยู่แล้ว)


ถ้ามีคำผิดก็แก้คำสิถ้ายังไม่ถูก หรือสำเนียงการเขียน (อันนี้ผมพูดถึงผมเอง)

อุสาเขียนตรวจสอบครึ่งวันกว่าจะเขียนเสร็จ ไหนบอกว่าจะช่วยแก้ไง --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 19:41, 13 เมษายน 2556 (ICT)

แต่คุณไม่ใช่พวกที่ปกป้อง บ้างครั้งการเผยแพร่ก็นำมาซึ่งความขัดแย้งได้เพราะรู้มากเกินไป
แล้วเอาไปโจมตี {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|22:51, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

== หัวข้อที่6 ==

บทกวีเก่าแก่ของแองโกลแซกซอน ว่าด้วยเทพองค์หนึ่งชื่อ เออาเรนเดล (Earendel) ซึ่งประทับใจเขามาก ในปี 1914 หลังการรวมพลของสมาชิก T.C.B.S. โทลคีนแต่งบทกวีขึ้นบทหนึ่ง ตั้งชื่อว่า การผจญภัยของเออาเรนเดล ดวงดาวสายัณห์ (The Voyage of Earendel the Evening Star) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธของโทลคีน

เออาเรนเดล ดวงดาวสายัณห์

แล้วทำต่อมาเป็น

ล่มสลายของกอนโดลิน

ตำนานของเบเรนและลูธิเอน

ตำนานบุตรแห่งฮูริน

บทประพันธ์ทั้งสามนี้เป็นเรื่องเอก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงานเขียนชุดที่เรียกว่า เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เดอะฮอบบิท ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก [[ฮอบบิท (หนังสือ)|เดอะฮอบบิท]]จึงได้รับความนิยมเพราะเขาทำขึ้นเพื่อลูกของเขาโดยเฉพาะ

ุต้องเริ่มที่การเขียน(โดยไม่เกี่ยวกับการตีพิม)

แล้วตามด้วยการตีพิม (ที่หลัง) {{ไม่ได้ลงชื่อ|ตรวจทาน|23:04, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

The Hobbit

โทลคีนได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากตำนานเก่าแก่ของเยอรมัน โดยเฉพาะวรรณกรรมแองโกลแซกซอน ซึ่งเขามีความชื่นชอบและชำนาญอย่างยิ่งยวด ในบรรดานี้แหล่งข้อมูลสำคัญคือ ตำนานเรื่องเบวูล์ฟ
มหากาพย์นอร์สเรื่องโวลซุงกา และ แฮร์วาราร์ [29] บทกวีชุด Edda, Nibelungenlied และตำนานเก่าแก่อื่นๆ อีกมาก[30] {{ไม่ได้ลงชื่อไอพี|113.53.136.169|23:20, 13 เมษายน 2556 (ICT)}}

วรรณกรรมแองโกลแซกซอน

ตำนานเรื่องเบวูล์ฟ

มหากาพย์นอร์สเรื่องโวลซุงกา

แฮร์วาราร์

บทกวีชุด Edda

Nibelungenlied

และตำนานเก่าแก่อื่นๆ อีกมาก

โทลคีนเองเคยระบุถึงงานประพันธ์ของโฮเมอร์ โซเฟคลีส และลำนำโบราณของฟินแลนด์เรื่อง คาเลวาลา ว่าเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างปกรณัมของเขา[31] เขายังได้แนวคิดมาจากประวัติศาสตร์และตำนานเซลติก สก๊อต และเวลช์ อีกหลายเรื่อง[32][33]

ลำนำโบราณของฟินแลนด์เรื่อง คาเลวาลา

แนวคิดมาจากประวัติศาสตร์และตำนานเซลติก สก๊อต และเวลช์ อีกหลายเรื่อง

สำหรับแนวคิดด้านปรัชญา โทลคีนได้รับอิทธิพลจาก อัลเฟรดมหาราช งานแปลจากภาษาแองโกลแซกซอนของ โบธีอุส นักปรัชญาคริสเตียนในคริสต์ศตวรรษที่ 6 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลำนำของโบธีอุส[34] ซึ่งตำนานเทววิทยาของโรมันคาทอลิกก็มีส่วนอย่างมากในการสร้างโลกในจินตนาการของโทลคีน อันเนื่องมาจากศรัทธาอันแรงกล้าของเขาเอง[35]

== หัวข้อที่7 ==

อ้างอิงส่วนใหญ่อยู่ในบทความเดิมแล้ว

////ซึ่งมีความซับซ้อนมีเหตุมีผลใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าเรื่องใดเป็นลักษณะการสังเคราะห์เหตุการณ์เพื่อการขยายความโดยที่มีเค้าโครงบางส่วนจากตำนานเก่าโบราณติดอยู่ด้วย///

บทวิเคราะห์แง่มุมของปีศาจ ผู้ประพันธ์เรื่องเบวูล์ฟไม่ได้เน้นเรื่องโชคชะตาของวีรบุรุษ หรือแม้ความเป็นชนเผ่าต่างๆ ในดินแดนนั้นเลย หัวใจสำคัญของเรื่องคือเหล่าปีศาจต่างหาก

โทลคีนไม่เคยรู้สึกว่าเขา "แต่ง" เรื่องขึ้นมา เขาเพียงแต่ "เขียน" เรื่องที่มีอยู่แล้วที่ใดที่หนึ่งในวงล้อประวัติศาสตร์ เมื่อเขาอ่านงานเขียนของตนให้เพื่อนในกลุ่มอิงคลิงส์ฟัง และมีผู้โต้แย้งถึงความไม่สมเหตุสมผล ว่าทำไมจึงเกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเล่า โทลคีนไม่เคยบอกว่าเขาจะกลับไปแก้หรือแต่งใหม่ แต่เขาจะตอบเพื่อนว่า "ผมจะหาดูว่าความจริงเป็นอย่างไร

== Re: ==

* <u>ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก</u> ไหนอ้างอิงครับ (ผมไม่คาดหวังว่าคุณจะหาอ้างอิงมาได้หรอก เพราะมันเห็นแบบชัดเจนว่าเป็นความคิดคุณคนเดียว)
* <u>ซึ่งจะมีความมืดมนต์หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีคำอธิบายหรือคำตอบและอยู่ อย่างนั้นตลอดไป สติปัญญาอันต่ำต้อยของคนทั่วไปมิควรหยั่งถึงพระเจ้าอิลูวาทา (แม้จะมีเพียงชื่อเรียกแต่ก็อย่าได้ดูหมิ่น)</u> นี่ก็เช่นเดียวกันกับข้างบน
* หัวข้อ <u>แม่แบบ</u> ที่คุณเขียน ซ้ำซ้อนกับข้อข้อ "แรงบันดาลใจ" ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว หากหัวข้อ "แรงบันดาลใจ" ขาดอะไรไป คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้ แต่หาอ้างอิงมายืนยันด้วย
* <u>ผลงานการเขียนเรียงตามอายุ</u> ก็มีแทรกอยู่ในความเรียงเดิมอยู่แล้วเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเขียนเพิ่ม --[[ผู้ใช้:Nullzero|Nullzero]] ([[คุยกับผู้ใช้:Nullzero|พูดคุย]]) 17:28, 14 เมษายน 2556 (ICT)

เกิดมาพึ่งจะเคยเจอกับความโง่สุดบรรยาย
บอกว่่าให้ไปดูสิ นั้นไงหลักฐาน
ไปอ่านดูสิภาษาอังกฤษ ทั้งเล่มจะให้ลงหมดเลยมั้ย
ก็เอามาจัดเป็นลำดับเพื่อให้ดูง่ายขึ้น
ตายกันพอดี
ลองไปเรียนภาษาที่โทนคีนเคยเรียนสิครับคุณหนู
อ้างอิงมันมีอยู่ในบทความเดิมนั้น แหกตาดูซะบ้างสิ
siamganesh.com/BhagavadGita-00.html
ภควคีตาบทเพลงพระเป็นเจ้าแบบเดียวกับซิลมาริออน
ไปอ่านเอาเอง ทั้ง ผมตามอ่านมาเกือบทั้งหมอของงานเขียนโทนคีน
ทำงานกับคุณนี้มันเหมือนกับคนๆหนึ่งที่ผมจะบีบคอให้ตายคามือ

ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก ไหนอ้างอิงครับ (ผมไม่คาดหวังว่าคุณจะหาอ้างอิงมาได้หรอก เพราะมันเห็นแบบชัดเจนว่าเป็นความคิดคุณคนเดียว)
ลองอ่านดูสิซับซ้อนแค่ไหน

ซึ่งจะมีความมืดมนต์หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีคำอธิบายหรือคำตอบและอยู่ อย่างนั้นตลอดไป สติปัญญาอันต่ำต้อยของคนทั่วไปมิควรหยั่งถึงพระเจ้าอิลูวาทา (แม้จะมีเพียงชื่อเรียกแต่ก็อย่าได้ดูหมิ่น) นี่ก็เช่นเดียวกันกับข้างบน
*///ผมบอกให้คุณไปดูที่เว็บประมูลกับพันทิฟ ไง พวกที่ หมิน ลบลู่ พวกที่ผิดเพศ///
*///คุณเป็นคนคลั่งการ์ตูนส่วนผมนั้นไม่ ดังนั้นผมดูคุณออก///
*///แล้วก็ส่วนนี้ก็อยู่ในส่วนผู้ที่เขียนจดหมายเรื่องทอมบอมบาดิล หรือ อิลูวาทา ว่าใครเกิดก่อนเกิดหลัง///


หัวข้อ แม่แบบ ที่คุณเขียน ซ้ำซ้อนกับข้อข้อ "แรงบันดาลใจ" ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว หากหัวข้อ "แรงบันดาลใจ" ขาดอะไรไป คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้ แต่หาอ้างอิงมายืนยันด้วย
*///เอาเรียงให้มันดูง่ายเหมือนกับงานที่ตีพิม///
*///แม่แบบ หมายถึง โครงไม่ใช่แรงบรรดาลใจ เช่นไบเบิ้ล ภควคีตา///siamganesh.com/BhagavadGita-00.html


ผลงานการเขียนเรียงตามอายุ ก็มีแทรกอยู่ในความเรียงเดิมอยู่แล้วเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเขียนเพิ่ม --Nullzero (พูดคุย) 17:28, 14 เมษายน 2556 (ICT)
*///เอาเรียงให้มันดูง่ายเหมือนกับงานที่ตีพิมจัดเป็นสรุป///

== บางคนเข้ามาอ่านแล้วคิดว่า ==

*บางคนเข้ามาอ่านแล้วคิดว่าเป็นพวกเขียนนิทานหลอกเด็ก ถ้านำคำว่าวรรณกรรมเด็กขึ้นก่อน
*ซึ่งมันจะเข้าทางคุณที่ชอบแต่การ์ตูนเป็นชีวิต
*แต่กับผม โทนคีนคือจอมอัจริยะแห่งภาษาและผู้สังเคราะห์ศาสนา(ซิลมาริออน)
*ดังนั้นควรจะยกให้สูงกว่าโดยการเรียงลำดับให้ถูก

*โดยเฉพาะในส่วนข้าง
*แนวทางการเขียน
*งานวิจัยด้านภาษาศาสตร์ทุกๆภาษาเก่า,
*แฟนตาซีระดับสูงไฮเกรด,วรรณกรรมเด็กสำหรับลูกไฮเกรด,ด้านสังคม,การเมือง,สงคราม,พันธุศาสตร์,ภูติ,ปีศาจ,อสุรกาย,พฤษาศาสตร์,
*พระเจ้า,เทพเจ้า

*ผมได้ลำดับอย่างถูกต้อง
*แง่มุมปีศาจ
*อย่างน้อยก็เขียนสรุปภาพรวม
*เพราะบ้างครั้ง คนก็มักจะไปตัดสินที่รายละเอียดด้านข้าง
*มากกว่าเนื้อหาที่มากมายของโทนคีน

(และควรเข้าใจด้วยว่าผมไม่ชอบการ์ตูนญี่ป่น ผมเกลียดด้วยซ้ำและผมมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ผมตามรอยโทนคีนได้เกือบครบทุกอย่างศึกษาทุกสิ่งที่โทนคีนเคยศึกษาและศึกษาสิ่งที่โทนคีนเลยสร้างและเขียน จนเกือบกลายเป็น โทนคีนที่2 ไปแล้ว)
:เชิญคุณเกลียดการ์ตูนไปคนเดียว เพราะคนที่เกลียดการ์ตูนก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ไม่มีศิลปะในจิตใจหรอก (อย่าลืมเสียว่า การ์ตูนก็คือศิลปะจากการวาด) --[[ผู้ใช้:Jungide|Jungide]] ([[คุยกับผู้ใช้:Jungide|พูดคุย]]) 02:21, 17 เมษายน 2556 (ICT)
:เฮ้อ...การใช้ย่อหน้าเอย การใช้บริบทเอย การจัดประโยคเอย ผิดหลักภาษาหมด แล้วเรียกตัวเองว่าโทลคีนคนที่สอง? ตลกล่ะครับ [[ผู้ใช้:Kuruni|In Heaven, everything is fine.]] ([[คุยกับผู้ใช้:Kuruni|พูดคุย]]) 10:54, 17 เมษายน 2556 (ICT)
*ญี่ปุ่นชั่ว
*ผมชอบความเป็นจริงมากว่าจิตนาการศิลปะงี่เง่า

*เฉพาะเนื้อหา
*เว็บโง่ๆแบบนี้ (เห็นมั้ยไม่เข้า้ใจอะไรเลย)
*คุณคิดว่าโทนคีนเขาไม่เคยเขียนผิดหรือไงกัน
*ไม่เคยแก้ไขงานเขียน ความขัดแย้งของเนื้อหาที่เข้ากันไม่ได้อีกเยอะแยะในฉบับหนังสือ
*โทลคีนที่2 ได้ชื่อมาเพราะเข้าใจเนื้อหาได้ดีกว่าในแง่ของความเป็นจริงของปกรนัม
*อาจจะดีกว่าโทนคีนด้วยซ้ำเพราะว่าเรามีคอมพิวเตอร์ใช้กันแล้ว
*เรามีภาษาคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน การเข้ารหัสหลายชั้น (ถ้าคุณสงสัยก็ไม่แปลกที่วิธีการเขียนของผมดูประลาดก็เพราะมันใกล้เคียงกับวิธีการทางคอมพิวเตอร์พอสมควร และมักชินกับบางระบบในการเก็บรักษาข้อมูลอันมีคุณค่า)
*เราไม่มีเวลาที่จะมามีพิธีที่ตอง พิธีพิถัน
*ถักทอแบบรีบๆไม่อยากคิดอะไร ป้องกันโทนคีนไว้ก่อน
*คุณคิดแต่ผมไม่ชอบคิด
*เหมือนพวกนักวิชาการที่อ่านคำว่าสงบสุข แต่ไม่สามารถทำความสงบสุขขึ้นมาได้
*เหมือนอ่านวิธีทำสมาธิ แต่ไม่สามารถเอามาใช้ได้

*ภาษาพูดกับภาษาเขียน
*มันคนละอย่างกัน ถ้าวันๆเอาแต่เขียนอย่างเดียวคุณก็จะขาดความสามารถในการเข้าถึงความจริง
*และคุณก็ไม่รู้จักผมดีพอ
*ยังมีวิธีการเขียนอีกมากมายที่คุณเองก็ไม่รู้จักทั้งหมด
*ผมเขียนแบบระบบวาง (รู้จักมั้ย)
*เหมือนผู้ที่ใช้การเข้ารหัสถอดรหัส
*การเข้าถึงคำเฉพาะเหมือนตำราลึกลับแห่งโลกทั้งหหลายแหล่
*วิธีที่ดาวินชีใช้เก็บงานวิจัย
*เพราะคุณไม่เคยโดนยุ่งดูดเลือด หรือ ทากหนอนดูดเลือดเหมือนผม เอาแต่คิดโดนซะบางตายจริง เกิดจริง
*ผมเข้าถึงในแง่ของความเป็นจริงที่ถูกอธิบายมากกว่าแง่ของอักษรการจัดเรียง
*แต่แน่นอนการเขียนในแบบวิกิมันยังลำบากเพราะต้องมีคำสั่งโน้นนี้เยอะแยะ
*ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิธีของผม

:::# โปรดมีมารยาทในการพูดคุย
:::# โปรดทราบด้วยว่าจุดประสงค์ของวิกิพีเดียคือมีไว้เขียน '''สารานุกรม''' ไม่ได้เป็นที่เอาๆไว้เขียนอะไรก็ได้
:::# และเพื่อพิสูจน์ว่าเนื้อหาที่คุณเขียนถูกต้อง เราต้องการ '''อ้างอิง''' ที่น่าเชื่อถือ (และคุณก็ไม่เคยให้มาเลย) เหตุลว่า "ผมเป็นผู้รู้ดี จริง ๆ มันต้องเป็นอย่างนี้ ๆ" หรือ "ก็มันเป็นความจริง" ไม่สามารถใช้ในการยืนยันเนื้อหาว่าถูกต้องได้ (เราต้องการ '''อ้างอิง''' ที่น่าเชื่อถือ ตามที่บอกไปแล้ว)
:::# ผมไม่เข้าใจว่าประเด็นการ์ตูนญี่ปุ่นมันโผล่มาได้ยังไง? คุณต้องการจะว่าผมหรือเปล่า? ผมงงจริง ๆ นะเนี่ย
::: --[[ผู้ใช้:Nullzero|Nullzero]] ([[คุยกับผู้ใช้:Nullzero|พูดคุย]]) 18:07, 17 เมษายน 2556 (ICT)

:"''คุณคิดแต่ผมไม่ชอบคิด''" อืม...อ่านดูก็รู้ว่าไม่ค่อยคิดอะไรจริงๆ เขียนคำผิดๆถูกๆ กะเอาประหลาดอย่างเดียวแต่สื่อความไม่ได้ ยกยอตัวเอง บอกว่า ''เข้าถึงในแง่ของความเป็นจริงที่ถูกอธิบาย'' แต่ตัวเองเล่นไร้สาระจนอธิบายอะไรไม่ได้สักอย่างแล้วทับถมว่าคนอื่นโง่ พูดตรงๆเป็นภาษาคนนะครับ ใช้ภาษาแปลกๆแล้วสื่อใจความไม่ได้นี่ไม่มีประโยชน์อะไรในการเขียนสารานุกรมหรอกครับ [[ผู้ใช้:Kuruni|In Heaven, everything is fine.]] ([[คุยกับผู้ใช้:Kuruni|พูดคุย]]) 20:31, 17 เมษายน 2556 (ICT)

:ศิลปะกับความจริงมันสามารถใช้และอยู่ร่วมกันได้ แต่ที่อ่านจากข้อความของคุณตรวจทานแล้ว ''มันบ่งบอกว่าคุณไม่สามารถอยู่ร่วมกับความเป็นจริงได้เลยสักนิด'' อย่างน้อยๆคุณก็ควรเข้าใจในศิลปะบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี นอกจากนี้เรื่องที่คุณยกยอปอปั้นว่าตนเองเป็นโทลคีนคนที่2 และเผยธาตุแท้เรื่องการทำลายโทลคีนนั้น มันก็ส่อให้เห็นแล้ว คุณตรวจทานก็แค่คนที่น่ารังเกียจคนหนึ่งเท่านั้น ถ้ารักโทลคีนจริง คุณก็น่าจะรู้ว่าคุณควรจะปฏิบัติอย่างไร
:ในเมื่อคุณอยากจะเป็นโทลคีนเสียเองและทำลายโทลคีนตัวจริงแบบนี้ ก็ขอให้สมหวังอยู่กับความสุขของคุณละกัน ถ้าโดนแบนขึ้นมาก็อย่ามาร้องขอผู้ใช้วิกิละ ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะก้าวสู่เส้นทางนั้นเรียบร้อยแล้ว --[[ผู้ใช้:Jungide|Jungide]] ([[คุยกับผู้ใช้:Jungide|พูดคุย]]) 00:30, 18 เมษายน 2556 (ICT)

:บอกตรงๆครับ อ่านมาทั้งหมดของผู้ใช้คนนี้ สื่อความหมายออกมาแทบไม่ออก (ไม่รู้ว่าผู้ใช้นี้มาดีหรือมาร้ายกันแน่) ผมนี่อยากรู้จริงว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่!!! อยากให้จับมาคุยแบบชนเข่ากันเลย ว่าเขาต้องการอะไร (นักหนา) ''แต่แน่นอนการเขียนในแบบวิกิมันยังลำบากเพราะต้องมีคำสั่งโน้นนี้เยอะแยะ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิธีของผม'' ยิ่งข้อความนี้มาแปลก หรือไม่ก็จัดการสอนอย่างพิเศษเกี่ยวกับว่า อะไรคือวิกิพีดีย... ให้ผู้ใ้คนนี้เลย!!! ถ้าไม่เข้าใจ ดื้อรั้น และก่อกวน หนทางเดียวที่ถูกต้อง คือ... บล็อก ครับ!! (ด้วยความหวังดี ><) --[[ผู้ใช้:Palmy U-U|ปาล์มมี่]] ([[คุยกับผู้ใช้:Palmy U-U|พูดคุย]]) 00:44, 18 เมษายน 2556 (ICT)

*แบนก็แบนลบชื่อนี้ออกเลยก็ได้
*โทนคีนที่2 คนอื่นเขายกให้ ไม่ใช่ผมที่จริงไม่ชอบด้วยซ้ำเพียงเพราะมันมีกองขยะของโทนคีนในบ้านแค่นี้เพื่อนก็ยอว่าเป็นโทนคีนแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ในชมรมของใครแค่เอาวิธีการของโทนคีนไปเข้ารหัสคอมพิวเตอร์
*แล้วใช้ภาษาที่โทนคีนประดิษฐ์มาทั้งหมดเข้ารหัสได้สมบูรณ์ถึง80% ทึ่งมั้ยเจ้าน้อง
*แล้วทุกวันนี้คุณรู้มั้ยการทำภาพยนต์มันทำให้คนลบลู่มากขึ้นแทนที่จะศรัทธา
*อีกอย่างวิธีของคุณเหมือนพวกที่พยายามอัพเดตบางอย่างด้วยการกระตุ้นให้ผมคายข้อมูลที่ผมรู้ออกมา
*โลกของการเขียน ณ วันนี้ตกต่ำลงมาก การใช้คำของพวกวัยรุ่น แต่นี้วิีธีของผม
*เพราะคุณไม่เคยโดนยุ่งดูดเลือด หรือ ทากหนอนดูดเลือดเหมือนผม เอาแต่คิด โดนซะบางตายจริง เกิดจริง เจ็บเกิดแผล นั้นสงครามก็คือศิลปแห่งการฆ่า
*นั้นไงพอๆกับการเจรจาระหว่างนักวิชาการกับชาวบ้านยังไงยังงั้นเหมือนพูดภาษาราชาศัพท์ไทยกับชาวบ้าน
*แล้วคุี๊ณสามารถตอบคำตอบผมได้อย่างไร โดยไม่เข้าใจคำศัพท์ที่ผมเขียน คล้ายกับคนดีคุยกับคนบ้าได้ยังไง
*ช่างเถอะ ลบก็ลบไม่คิดมาก แต่อย่างน้อยก็แค่ได้ทดสอบ
*ผมไม่แค
*เหมือนพวกนักวิชาการที่อ่านคำว่าสงบสุข แต่ไม่สามารถทำความสงบสุขขึ้นมาได้
*เหมือนอ่านวิธีทำสมาธิ แต่ก็ไม่สามารถเอามาใช้ได้
*เหมือนพระที่เรียนสอบเปรียญ แต่ไม่สามารถทำสมาธิได้
*พระบ้านนอกอยู่ป่ากลับทำสมาธิ แต่กลับไม่มีเปรียญยศสูงแบบพระในเมือง
*ไม่ต้องตอบกลับกลับมาที่ผมแล้ว


*ผู้ใช้:Kuruni|In Heaven, everything is fine.
*โทนคีน คือผู้สร้างภาษาที่แปลกที่สุดเนื้อหาซับซ้อน

*ผู้ใช้:Jungide|Jungide

*ผู้ใช้:Palmy U-U|ปาล์มมี่
*อายุ13ตามนั้นรึ
*ภาษามันวิวัฒไปได้
*คุณลองดูตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
*ภาษาไทยในยุคนั้นกับยุคนี้มันคนละภาษากันเลย
*แต่ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับทำเป็นภาษาไทยปัจจุบัน
*ภาษาคือกำแพงช่วยปกป้อง
*ไม่ให้ความชั่วร้ายหรือผลกระทบผ่านเข้ามาในเขตนั้นๆ
*อาเชียนคือการทำลายวัฒนธรรมไทย
*คุณลองดูการรวมทุกๆสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้
*เดียวนี้โคมลอย ลอยอยู่ทุกๆภาคของไทยแทนที่จะเป็นแหล่งเฉพาะ
*วัฒนธรรมมีไว้แสดง ไม่ได้มีำำไว้ดำรงชีพอีกต่อไป


*OKลืมๆไปซะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเหนื่อยและยอมแพ้
:มีล็อกอินก็ควรจะตอบในฐานะล็อกอิน
:ที่อ่านมา เราคิดว่า อาการคุณเริ่มหนักแล้ว ทางที่ดีควรไปที่ศรีธัญญาหรือโรงพยาบาลประสาทแถวบ้าน(แถวจังหวัด)ที่คุณอยู่เสียเถิด จะได้รักษาตัวทัน อีกอย่าง '''การที่คุณไปเหยียบย่ำความชอบของคนอื่นแล้วเอามาด่าเผยแพร่สาธารณชนนั้น คิดว่ามันเจ๋งสุดยอดหรือไงกัน คิดได้เพียงเท่านี้หรอกหรือ?''' ลองพิจารณาตนเองเสียบ้างว่า การเหยียบย่ำและด่าความชอบของคนอื่น มันใช่สิ่งที่มนุษย์พึงจะกระทำหรือไม่? --[[ผู้ใช้:Jungide|Jungide]] ([[คุยกับผู้ใช้:Jungide|พูดคุย]]) 15:35, 18 เมษายน 2556 (ICT)

: จะโทลคงโทลคีน ริงออฟลอร์ดอะไรก็ช่างมันเถอะ คนธรรมดาไม่ได้มาเข้าใจได้หมดทุกคน อย่าเขียนให้มันเหมือนอะไรที่อ่านแล้วล่องลอย ไม่มีหลักการไปหน่อยเลย (อย่ามาอ้างว่าหลักการคือโทลคง ไม่ใช่ทุกคนที่อ่าน) เขียนให้คนธรรมดาอ่านเข้าใจ อย่ามาเขียนอะไรที่ล้ำลึก ตกลงมะ --[[พิเศษ:เรื่องที่เขียน/115.87.91.124|115.87.91.124]] 16:50, 18 เมษายน 2556 (ICT)

: จ๊ะ ขอบคุณ "คุณไม่ควรนำความคิดเห็นของคนอื่นและผู้ใช้คนอื่น ชนชาติ ประชาคม ความชอบส่วนบุคคล มา'''ประนาม'''" (เอา'''ใจเขามาใส่ใจเรา''' บ้าง '''ด่า ประนาม''' แต่คนอื่น คุณมองแต่แง่'''ลบ''' ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองจะรู้สึก ว่ามัน'''เจ็บ'''กว่า'''ยุงกัด'''ที่คุณยกตัวอย่างมา) ผมอยากให้คุณทำความเข้าใจกับส่วนร่วมที่เขามาเตือนคุณ ไม่ใช่เอาความคิดเห็นส่วนตัวครับ (ควรเห็นส่วนร่วมเป็นหลักครับ) (ปล. ห็นด้วยกับพี่ [[ผู้ใช้:Jungide|Jungide]]) (~~ โอม ขอให้เรื่องนี้จบๆ นะครับ ~~) --[[ผู้ใช้:Palmy U-U|ปาล์มมี่]] ([[คุยกับผู้ใช้:Palmy U-U|พูดคุย]]) 19:03, 18 เมษายน 2556 (ICT)

*ไม่ใช่การด่า เป็นคำอธิบายเพราะว่ามันจริงไง คนที่ดูการ์ตูนมาก มันยืดๆใบหน้า แขนขายาวเป็นกิโล ญี่ปุ่นเครียด
*สุดท้ายมันก็ได้แค่ความคิด เรื่องเพราะว่าโดนยุงเป็นฝูงมันก็สนุกดีบางทีฝนกับน้ำแข็งอาจจะสนุุกกว่า
*Okไม่ต้องลึกล้ำ วิกิพีเดียคือเป็นแบบย่อแต่มันก็ OKแต่ถ้ามีการลบลู่เกิดขึ้นอีก ผมจะไม่ละเว้นใดๆทั้งสิ้น (แล้วก็เปลี่ยนสถานที่เกิดเป็นแอฟริกาใต้เหมือนเดิมเดียวตรงจุดนั้น แค่นี้จบ)
*แล้วก็ลบหน้านี้ไปเพื่อจบไม่ต้องจำ
:เขียนเป็นภาษาคนดูสักครั้งสิครับ ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนตอนคนบ้าแถวบ้านบ่น [[ผู้ใช้:Kuruni|In Heaven, everything is fine.]] ([[คุยกับผู้ใช้:Kuruni|พูดคุย]]) 01:13, 19 เมษายน 2556 (ICT)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:01, 26 พฤษภาคม 2558

กรุณาหยุด

ถ้าคุณยังก่อกวนต่อไป คุณจะถูกบล็อกจากการแก้ไขวิกิพีเดีย ถ้าคุณอยากทดลองแก้ไข กรุณาใช้หน้าทดลองเขียน

ยินดีต้อนรับสู่วิกิพีเดียภาษาไทย

ยินดีต้อนรับคุณ ตรวจทาน สู่วิกิพีเดียภาษาไทย หน้าต่อไปนี้อาจเป็นประโยชน์แก่คุณ:

มือใหม่ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเริ่มจากแก้หรือต่อเติมบทความที่มีอยู่แล้วก่อน ไม่ควรรีบสร้างบทความด้วยตัวเองเพราะมักไม่ผ่านและถูกลบ

แนะนำเว็บ

และ

เรียนรู้การแก้ไข (ขอใช้เวลาอ่านไม่นานเพื่อให้ทราบพื้นฐาน)

อีกทางหนึ่ง อ่านหน้า การเข้ามีส่วนร่วมในวิกิพีเดีย ซึ่งสรุปทุกอย่างไว้หน้าเดียว

ฉันอ่านหมดแล้วยังไม่เข้าใจเลย
ถามที่แผนกช่วยเหลือ หรือ ถามในหน้านี้แหละ! หรือ ใช้ แชตดิสคอร์ด

อย่าลืมลงชื่อในหน้าพูดคุย โดยการพิมพ์ --~~~~ จะปรากฏชื่อและวันเวลา

Hello ตรวจทาน! Welcome to Thai Wikipedia. If you are not a Thai speaker, you can ask a question in our Guestbook.


-- New user message (พูดคุย) 19:33, 12 เมษายน 2556 (ICT)

ข้อความตัวเอน== โทลคีน ==

เชิญเขียนหน้า ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน ตามที่คุณต้องการเลยครับ เขียนเสร็จแล้วมาบอกผม ผมจะบอกว่าต้องแก้อะไรบ้าง --Nullzero (พูดคุย) 19:03, 13 เมษายน 2556 (ICT)

ผมบอกแล้วไงครับว่าให้เขียนหน้า ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน ไปก่อน เพราะคุณเองก็ยอมรับเองว่าภาษายังใช้ไม่ได้ แล้วที่คุณบอกว่าจะเพิ่มอ้างอิงก็ยังไม่ได้เพิ่ม เมื่อคุณแก้ในหน้า ผู้ใช้:ตรวจทาน/โทลคีน จนโอเคแล้ว เดี๋ยวผมลอกเนื้อหาไปลงในบทความโทลคีนให้เองครับ --Nullzero (พูดคุย) 19:33, 13 เมษายน 2556 (ICT)

มายืนยันอีกเสียงหนึ่งว่า คุณต้องเพิ่มอ้างอิงอย่างด่วนเลยครับ ตอนนี้ถ้าไม่มีอ้างอิง เราก็มองว่าคุณกำลังเอาความคิดของคุณเองมาใส่เท่านั้น --Horus | พูดคุย 19:49, 13 เมษายน 2556 (ICT)

เวนกรรมอย่างรุนแรง

ไม่ไปตรวจสอบเองบาง

ให้เปลี่ยนชื่อจากภาษาไทยเป็นอังกฤษ เพื่อความขลัง

สามารถหาคำดูเมิน ลบลู่ รวมถึงพวกผิดเพศได้ตาม พันทิพ ประมูล

เนื้อหาเยอะเกินไป และผมก็ไม่อยากจะมีความทรงจำร้ายๆแบบนั้น


The Silmarillion (อังกฤษ: The Silmarillion) เป็นนิยายแฟนตาซีแต่งโดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน (ผู้แต่งเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์) เริ่มประพันธ์โครงเรื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.1917 และมีการเขียนเพิ่มเติมมาโดยตลอด จนเมื่อ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน สิ้นชีวิตเมื่อปี ค.ศ.1973 วรรณกรรมเรื่องนี้ก็ยังเขียนไม่เสร็จ และยังไม่ได้รับการตีพิมพ์

////ว่าด้วยเรื่องการปรากฏของพระเจ้าสูงสุดและเทพเจ้าที่รองลงมา โดยเรียกว่าGODโดยรวม (ซึ่งก็ปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องแล้ว)

ซึ่งแนวคิดนี้สามารถสั่นคลอนความเชื่อในพระเจ้าในแบบที่ทุกคนเชื่อกันเป็นอย่างมาก (เมื่อเปรียบเทียบกับความเชื่อที่เป็นส่วนใหญ่ในเนื้อหาของโทนคีนจะมีเรื่องพันธุศาสตร์ปรากฏอยู่)

เพราะว่าพระเจ้าและเทพเจ้าคือผู้มีความก้าวหน้าและการเจริญเติบโตของอารยธรรมที่ไปไกลมาก (เราจะเห็นได้จากเรื่องซารูมานการการลูกผสมได้ อุรุไฮ)

ได้มาปรากฏตัวแล้วเริ่มสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา (เมื่อปรากฏก็ออกมาแล้วก็เริ่มสร้างโลกขึ้น)

และก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมายในภายหลัง

แต่หลักๆย่อมมีความเชื่อซึ่งมักจะไม่ตรงความเป็นจริงเสมอในด้านของการบันทึกสังเคราะห์ข้อมูล (เป็นในแง่ก็ลักษณะของความเป็นจริงกับการเขียนบันทึก ซึ่งมักจะไม่ตรงเสมอไปในแง่ของการเกิดขึ้น กับการบันทึก)///


คริสโตเฟอร์ โทลคีน บุตรชายคนที่สามของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ได้สานต่องานประพันธ์ของพ่อ โดยรวบรวมงานเขียนที่ยังคั่งค้างอยู่ ทั้งส่วนที่เขียนรายละเอียดแล้ว และส่วนที่มีเพียงแนวคิด โครงเรื่อง มาประพันธ์ต่อจนสำเร็จสมบูรณ์ เดอะ Silmarillion จึงได้ตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1977

เนื้อหาในตำนานแห่งซิลมาริล เกี่ยวกับตำนานการสร้างโลก และเหตุการณ์ในยุคที่หนึ่งและยุคที่สองของโลกอาร์ดา ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลายพันปีก่อนถึงยุคสมัยในเรื่อง เดอะฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งอยู่ในยุคที่สาม --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 20:56, 13 เมษายน 2556 (ICT)


ไมเห็นเหตุผลที่จะต้องเปลี่ยนชื่อไทยเป็นชื่ออังกฤษ เพราะชื่อไทยเป็นชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาไทยและที่รู้จักในชนที่ใช้ภาษาไทยแล้ว มิเช่นนั้น "สามก๊ก" ก็คงต้องเปลี่ยนเป็น "ซันกั๋ว", "ไซอิ๋ว" เป็น "ซีโหยว", "เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม" เป็น "ชีเสียหวู่อี้", "เวนิสวาณิช" เป็น "เดอะเมอร์แชนต์ออฟเวนิส", "คนค่อมแห่งน็อทร์-ดาม" เป็น "น็อทร์-ดามเดอปารี" ฯลฯ ส่วนที่ว่าเพื่อความขลังนั้น คงเป็นความเห็นส่วนตัวของคุณเดียว ไม่สามารถชี้วัดให้เห็นประจักษ์ได้ว่า ใช้ชื่อภาษาอังกฤษแล้วขลัง ใช้ชื่อภาษาไทยแล้วก่อให้เกิดความชั่วร้ายดังที่อ้าง --Aristitleism (พูดคุย) 21:09, 13 เมษายน 2556 (ICT)

อย่างน้อยก็ให้ผู้ที่อ่านคำอังกฤษออก ใช้ความพยายามสักนิดในการแปล --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 21:13, 13 เมษายน 2556 (ICT)

หัวข้อที่2

ดูพวกข้อความในนี้ http://springofarda.izedzine.com/index.php

ถ้าผมเหนื่อยผมจะไม่ทำแล้วนะเพราะว่าต้องดูข้อมูลมาเป็นปริมาณมากกว่าจะได้ซักนิดนึง


ไอนูลินดาเล และวาลาเควนตา ดูบทความหลักที่ ไอนูลินดาเล และ วาลาเควนตา ไอนูลินดาเล เป็นเนื้อหาส่วนแรกของหนังสือ ตำนานแห่งซิลมาริล เล่าถึงเหตุการณ์การสร้างโลกในลักษณะตำนาน กล่าวคือ อิลูวาทาร์ ("พระบิดาแห่งสรรพสิ่ง") ทรงสร้างไอนัวร์ขึ้นก่อนทุกสิ่ง เป็นดวงจิตที่ถือกำเนิดขึ้นจากดำริ หรือความคิดของพระองค์เอง จากนั้นอิลูวาทาร์ทรงแสดงดนตรีให้เหล่าไอนัวร์ชม แล้วโปรดให้พวกเขาบรรเลงดนตรีให้พระองค์ฟังบ้าง การบรรเลงดนตรีของเหล่าไอนัวร์นี้เรียกว่า "มหาคีตาแห่งไอนัวร์" (คำแปลของ ไอนูลินดาเล) ในระหว่างการบรรเลงนั้น เมลคอร์ ไอนัวร์องค์หนึ่งคิดอยากบรรเลงตามใจตัวเอง ทำให้เสียงดนตรีเพี้ยนผิดพลาดไปหมดจนล่มลง แต่องค์อิลูวาทาร์ทรงสำแดงฤทธิ์เป็นเสียงดนตรีไม่สิ้นสุด แล้วจากนั้นจึงแสดงภาพของโลกอาร์ดา ให้เหล่าไอนัวร์ได้เห็น โลกอาร์ดานั้นคือสิ่งที่บังเกิดขึ้นจากการบรรเลงดนตรีนั่นเอง

จากนั้นอิลูวาทาร์จึงสร้าง เออา หรือโลกอาร์ดาขึ้นให้เป็นจริง แล้วโปรดให้เหล่าไอนัวร์ที่ทรงพลังอำนาจ ลงไปสถิตอยู่ในโลกนั้น เพื่อสร้างโลกให้เป็นไปตามที่พวกเขาได้บรรเลงบทเพลงเอาไว้ เหล่าไอนัวร์ที่ลงมาในโลก กลุ่มที่มีฤทธิ์มากเรียกว่า วาลาร์ กลุ่มที่มีฤทธิ์รองลงมา เรียกว่า ไมอาร์ พวกเขาทั้งหมดพากันสร้างโลกให้พร้อมรอรับการมาถึงของเหล่าบุตรแห่งอิลูวาทาร์ โดยที่มีเมลคอร์คอยขัดขวางการก่อสร้างอยู่ตลอด

บท วาลาเควนตา เป็นเนื้อหาส่วนที่สองของหนังสือ กล่าวถึงรายละเอียดของวาลาร์ทั้ง 14 พระองค์ และรายละเอียดของไมอาร์องค์สำคัญบางองค์ สุดท้ายกล่าวถึงเทพอสูรเมลคอร์ คือไอนัวร์ที่จิตใจหันไปสู่ความชั่วร้าย กับบรรดาไมอาร์ที่ยอมเป็นสมุนของเขา เช่นเซารอน และบัลร็อก บทดนตรีเพลงที่มีเพียงผู้มีอำนาจแห่งพลังเท่านั้นที่จะบรรเลงได้

\\\\เทพเจ้าและพระเจ้าในเนื้อหานี้จะหมายถึงสิ่งมีชีวิตที่ก้าวหน้ามากเกินความเข้าใจโดยปกติได้ ภควัทคีตา คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสนาฮินดู ภควัทคีตา อ่านว่า "พะ-คะ-วัด-คี-ตา" หมายถึง "บทเพลงแห่งพระเป็นเจ้า"

เป็นชื่อคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่เล่าเรื่องโดย ฤๅษีกฤษณะ ไทวปายนะ วยาส โดยฤๅษีตนนี้ ได้เล่าเรื่องราวของมหาภารตะให้แก่ พระพิฆเนศ และพระพิฆเนศก็ได้จดจาร

บันทึกไว้เป็นตัวอักษร ก่อเกิดเป็นมหากาพย์อันยิ่งใหญ่ และคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวฮินดูใช้ปฏิบัติกันจวบจนปัจจุบัน คัมภีร์ภควัทคีตา

ฉบับที่แปลเป็นภาษาไทยปัจจุบันแทบจะไม่เหลือแล้ว ลองหาอ่านได้ตามหอสมุดแห่งชาติ (ห้องหนังสือศาสนา) โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า และหอสมุดโบราณต่างๆ

มหาภารตะ เป็นมหากาพย์ที่ยาวที่สุดในโลก (ยาวกว่า สามก๊ก อีเลียด Oddysey และ The Cantos รวมกัน) มีเนื้อหาที่ซับซ้อนมาก ให้ความรู้ครบถ้วนทุกศาสตร์ในโลก ทั้งเรื่องราวของเทพปกรณัม นิทาน บทกวี คติสอนใจ หลักปรัชญา หลักการสู้รบ --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 21:47, 13 เมษายน 2556 (ICT)

ภูมิศาสตร์ วิถีชีวิต ศิลปะ ประเพณีของอินเดีย การเมือง และมีเรื่องย่อยๆ แทรกอยู่อีกมากมาย สามารถแยกเรื่องย่อยๆเหล่านั้นมาเป็นหนังสือได้อีกหลายร้อยเล่ม\\\\\ --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 21:47, 13 เมษายน 2556 (ICT)

เนื้อหาใน ภควัทคีตา คือ วรรณกรรมทิพย์ ที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งมวลในโลกและจักรวาลนี้\\\\\ อ้างอิง siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

siamganesh.com/BhagavadGita-00.html

ภัมคีร์ภควัทคีตา ตรงนี้คือส่วนประกอบแม่แบบของโทนคีน

และให้เห็นถึงความมากมายมหาศาลของข้อมูล --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 21:22, 13 เมษายน 2556 (ICT)

ต้องอ่านต้องดูวิดีโอสารคดีอีกเยอะ ถ้าไม่งั้นก็ทำส่วนเฉพาะตัวใหญ่ที่โยงจากหัวข้อที่อยู่ท้ายสุดของบทความ ไปยังที่เฉพาะแล้วตั้งกฏให้ผมโดยตรงให้สามารถใช้ส่วนนั้นได้โดย หรือทำเป็นบทขยายความ ที่ใช้เป็นแม่แบบหรือส่วนที่เป็นแรงบรรดาลใจของโทนคีน ช่วยทำแค่นี้เองให้แค่ว่าปกป้องเนื้อหา ไม่งั้นก็ปล่อยให้ถูกย่ำยีอยู่ต่อไป แล้วคุณที่เกี่ยวข้องกับวิกิพีเดีย ผมจะโทษคุณและทุกๆคนที่มีส่วนเกี่ยว ผมจะเกลียดไปจนวันตาย --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 22:04, 13 เมษายน 2556 (ICT)

หัวข้อที่3

อ้างอิง พฤกษศาสตร์

ความที่โทลคีนมีสุขภาพไม่ดี จึงไม่สามารถเข้าโรงเรียนตามปกติ มาเบลสอนหนังสือเด็กๆ ด้วยตัวเอง แต่พี่น้องตระกูลโทลคีนนี้ฉลาดหลักแหลมมาก แม่ของพวกเขาสอนเรื่องพฤกษศาสตร์ให้แก่พวกเขา ซึ่งทำให้ทั้งสองคนทราบข้อมูลเกี่ยวกับพืชได้ดีมาก โทลคีนยังชอบวาดรูปทิวทัศน์และหมู่ไม้ และมีฝีมือวาดที่ดีด้วย แต่สิ่งที่โทลคีนสนใจที่สุดคือศาสตร์ทางด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาลาติน ซึ่งเขาสามารถอ่านออกได้ตั้งแต่มีอายุเพียง 4 ปี และเขียนได้หลังจากนั้นอีกไม่นาน ปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ.1900) เมื่อโทลคีนอายุได้ 8 ปี จึงได้เข้าโรงเรียนคิงเอ็ดเวิร์ด เนื่องจากความไม่เคร่งครัดเรื่องการหยุดเรียน แต่ค่าเล่าเรียนก็แพงมาก ปีเดียวกันนั้น แม่ของโทลคีนได้หันมานับถือนิกายโรมันคาทอลิก ในขณะที่ครอบครัวของเธอเองได้คัดค้านอย่างรุนแรง และตัดขาดไม่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เธออีก โทลคีนกับน้องจึงต้องย้ายไปโรงเรียนเซนต์ฟิลลิป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่การเรียนการสอนก็ด้อยกว่ามาก ภายหลังมาเบลตัดสินใจให้โทลคีนย้ายกลับมาโรงเรียนคิงเอ็ดเวิร์ดอีกครั้งในปี ค.ศ.1903 โทลคีนสามารถสอบเข้าเรียนได้โดยการชิงทุน[6]

อันนี้เริ่มก่อน

งานวิจัยด้านภาษาศาสตร์ทุกๆภาษาเก่า (อันนี้ไปดูเอาเองในส่วนเป็นภาษาที่โทนคีนศึกษาว่ามีจำนวนเท่าไร)

แฟนตาซีระดับสูงไฮเกรด.

วรรณกรรมเด็กสำหรับลูกไฮเกรด

ด้านสังคม (ในด้านการตีโจมตีเมือง)

การเมือง (เรื่องของเมืองโรฮาน การหวนคืนของกษัิติย์)

สงคราม (วิธีสู้รบของผู้คน)

พันธุศาสตร์ (ผังตระกูล)

ภูติ(เจตภูติ)

ปีศาจ(กอปลิน)

อสุรกาย(ออค)

พฤษาศาสตร์

ผลงานครั้งแรกของชีวิต

The Voyage of Earendel the Evening Star


ผลงานสำคัญที่ตีพิม (ตอนมีชีวิต)

เดอะฮอบบิท

เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์


ตัด ซิลมาริลลิออน ออกเพราะเป็นผลงานรวบรวมของลูกเขา


แล้วเปลี่ยนจาก ภาษาไทยเป็นอังกฤษแค่ส่วนนั้น ไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนชื่อเป็นอีกชื่อหนึ่ง --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 22:20, 13 เมษายน 2556 (ICT)

หัวข้อที่4

อ้างอิงบ้างอย่างก็อยู่ในเนื้อที่มีอยู่แล้วนั้น แต่ผมแปลกใจว่าทำไม่เป็น ตรงข้ามกัน และไม่ควรเริ่มจากวรรณกรรมเด็ก ก่อน ให้เริ่มจากเรื่องของภาษาก่อน ใครเข้ามาอ่านก็คิดว่าเป็นคนเขียนนิทานหลอกเด็ก --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 22:23, 13 เมษายน 2556 (ICT)

แล้วก็ไปดูที่ คัมภีร์ไบเบิลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คัมภีร์ไบเบิลซึ่งเป็นแม่แบบชิ้นหนึ่งของThe Silmarillion

แม่แบบคัมภีร์ภควคีตาชิ้นหนึ่ง ของThe Silmarillion --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 22:31, 13 เมษายน 2556 (ICT)

หัวข้อที่5

เนื้อหาหลายตำแหน่ง

ที่มีอยู่แล้วนี้ขัดแย้งกันเองหลายจุด

และ ทุกๆสิ่งก็มาจากความคิดนั้นแหละ

ไม่ได้มาจากไหนหรอก

แล้วก็ทำตารางแยกระหว่าง

ผลงานการเขียนเรื่องแรกจนถึงเรื่องสุดท้าย(เรียงตามค.ศ.)

แล้วก็ทำ

ผลงานการเขียนที่ได้รับการตีพิม (OKมีตอนมีชีวิตอยู่และหลังเสียชีวิต)


เนื้อหาของก่อนนั้นยังไม่ดี (ผมพูดถึงของที่มีอยู่แล้ว)

ผิดพลาดมีข้อมูลผิดหลายจุด (ผมพูดถึงของที่มีอยู่แล้ว)


ถ้ามีคำผิดก็แก้คำสิถ้ายังไม่ถูก หรือสำเนียงการเขียน (อันนี้ผมพูดถึงผมเอง)

อุสาเขียนตรวจสอบครึ่งวันกว่าจะเขียนเสร็จ ไหนบอกว่าจะช่วยแก้ไง --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุย • หน้าที่เขียน) 19:41, 13 เมษายน 2556 (ICT)

แต่คุณไม่ใช่พวกที่ปกป้อง บ้างครั้งการเผยแพร่ก็นำมาซึ่งความขัดแย้งได้เพราะรู้มากเกินไป แล้วเอาไปโจมตี --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 22:51, 13 เมษายน 2556 (ICT)

หัวข้อที่6

บทกวีเก่าแก่ของแองโกลแซกซอน ว่าด้วยเทพองค์หนึ่งชื่อ เออาเรนเดล (Earendel) ซึ่งประทับใจเขามาก ในปี 1914 หลังการรวมพลของสมาชิก T.C.B.S. โทลคีนแต่งบทกวีขึ้นบทหนึ่ง ตั้งชื่อว่า การผจญภัยของเออาเรนเดล ดวงดาวสายัณห์ (The Voyage of Earendel the Evening Star) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปกรณัมชุดมิดเดิลเอิร์ธของโทลคีน

เออาเรนเดล ดวงดาวสายัณห์

แล้วทำต่อมาเป็น

ล่มสลายของกอนโดลิน

ตำนานของเบเรนและลูธิเอน

ตำนานบุตรแห่งฮูริน

บทประพันธ์ทั้งสามนี้เป็นเรื่องเอก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงานเขียนชุดที่เรียกว่า เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เดอะฮอบบิท ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก เดอะฮอบบิทจึงได้รับความนิยมเพราะเขาทำขึ้นเพื่อลูกของเขาโดยเฉพาะ

ุต้องเริ่มที่การเขียน(โดยไม่เกี่ยวกับการตีพิม)

แล้วตามด้วยการตีพิม (ที่หลัง) --ข้อความนี้ไม่ได้ลงชื่อ ซึ่งออกความเห็นโดยผู้ใช้ ตรวจทาน (พูดคุยหน้าที่เขียน) 23:04, 13 เมษายน 2556 (ICT)

The Hobbit

โทลคีนได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากตำนานเก่าแก่ของเยอรมัน โดยเฉพาะวรรณกรรมแองโกลแซกซอน ซึ่งเขามีความชื่นชอบและชำนาญอย่างยิ่งยวด ในบรรดานี้แหล่งข้อมูลสำคัญคือ ตำนานเรื่องเบวูล์ฟ มหากาพย์นอร์สเรื่องโวลซุงกา และ แฮร์วาราร์ [29] บทกวีชุด Edda, Nibelungenlied และตำนานเก่าแก่อื่นๆ อีกมาก[30] --ความเห็นที่มิได้ลงชื่อโดย 113.53.136.169 (พูดคุย | ตรวจ) 23:20, 13 เมษายน 2556 (ICT)

วรรณกรรมแองโกลแซกซอน

ตำนานเรื่องเบวูล์ฟ

มหากาพย์นอร์สเรื่องโวลซุงกา

แฮร์วาราร์

บทกวีชุด Edda

Nibelungenlied

และตำนานเก่าแก่อื่นๆ อีกมาก

โทลคีนเองเคยระบุถึงงานประพันธ์ของโฮเมอร์ โซเฟคลีส และลำนำโบราณของฟินแลนด์เรื่อง คาเลวาลา ว่าเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างปกรณัมของเขา[31] เขายังได้แนวคิดมาจากประวัติศาสตร์และตำนานเซลติก สก๊อต และเวลช์ อีกหลายเรื่อง[32][33]

ลำนำโบราณของฟินแลนด์เรื่อง คาเลวาลา

แนวคิดมาจากประวัติศาสตร์และตำนานเซลติก สก๊อต และเวลช์ อีกหลายเรื่อง

สำหรับแนวคิดด้านปรัชญา โทลคีนได้รับอิทธิพลจาก อัลเฟรดมหาราช งานแปลจากภาษาแองโกลแซกซอนของ โบธีอุส นักปรัชญาคริสเตียนในคริสต์ศตวรรษที่ 6 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลำนำของโบธีอุส[34] ซึ่งตำนานเทววิทยาของโรมันคาทอลิกก็มีส่วนอย่างมากในการสร้างโลกในจินตนาการของโทลคีน อันเนื่องมาจากศรัทธาอันแรงกล้าของเขาเอง[35]

หัวข้อที่7

อ้างอิงส่วนใหญ่อยู่ในบทความเดิมแล้ว

////ซึ่งมีความซับซ้อนมีเหตุมีผลใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าเรื่องใดเป็นลักษณะการสังเคราะห์เหตุการณ์เพื่อการขยายความโดยที่มีเค้าโครงบางส่วนจากตำนานเก่าโบราณติดอยู่ด้วย///

บทวิเคราะห์แง่มุมของปีศาจ ผู้ประพันธ์เรื่องเบวูล์ฟไม่ได้เน้นเรื่องโชคชะตาของวีรบุรุษ หรือแม้ความเป็นชนเผ่าต่างๆ ในดินแดนนั้นเลย หัวใจสำคัญของเรื่องคือเหล่าปีศาจต่างหาก

โทลคีนไม่เคยรู้สึกว่าเขา "แต่ง" เรื่องขึ้นมา เขาเพียงแต่ "เขียน" เรื่องที่มีอยู่แล้วที่ใดที่หนึ่งในวงล้อประวัติศาสตร์ เมื่อเขาอ่านงานเขียนของตนให้เพื่อนในกลุ่มอิงคลิงส์ฟัง และมีผู้โต้แย้งถึงความไม่สมเหตุสมผล ว่าทำไมจึงเกิดหรือไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเล่า โทลคีนไม่เคยบอกว่าเขาจะกลับไปแก้หรือแต่งใหม่ แต่เขาจะตอบเพื่อนว่า "ผมจะหาดูว่าความจริงเป็นอย่างไร

Re:

  • ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก ไหนอ้างอิงครับ (ผมไม่คาดหวังว่าคุณจะหาอ้างอิงมาได้หรอก เพราะมันเห็นแบบชัดเจนว่าเป็นความคิดคุณคนเดียว)
  • ซึ่งจะมีความมืดมนต์หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีคำอธิบายหรือคำตอบและอยู่ อย่างนั้นตลอดไป สติปัญญาอันต่ำต้อยของคนทั่วไปมิควรหยั่งถึงพระเจ้าอิลูวาทา (แม้จะมีเพียงชื่อเรียกแต่ก็อย่าได้ดูหมิ่น) นี่ก็เช่นเดียวกันกับข้างบน
  • หัวข้อ แม่แบบ ที่คุณเขียน ซ้ำซ้อนกับข้อข้อ "แรงบันดาลใจ" ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว หากหัวข้อ "แรงบันดาลใจ" ขาดอะไรไป คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้ แต่หาอ้างอิงมายืนยันด้วย
  • ผลงานการเขียนเรียงตามอายุ ก็มีแทรกอยู่ในความเรียงเดิมอยู่แล้วเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเขียนเพิ่ม --Nullzero (พูดคุย) 17:28, 14 เมษายน 2556 (ICT)

เกิดมาพึ่งจะเคยเจอกับความโง่สุดบรรยาย บอกว่่าให้ไปดูสิ นั้นไงหลักฐาน ไปอ่านดูสิภาษาอังกฤษ ทั้งเล่มจะให้ลงหมดเลยมั้ย ก็เอามาจัดเป็นลำดับเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ตายกันพอดี ลองไปเรียนภาษาที่โทนคีนเคยเรียนสิครับคุณหนู อ้างอิงมันมีอยู่ในบทความเดิมนั้น แหกตาดูซะบ้างสิ siamganesh.com/BhagavadGita-00.html ภควคีตาบทเพลงพระเป็นเจ้าแบบเดียวกับซิลมาริออน ไปอ่านเอาเอง ทั้ง ผมตามอ่านมาเกือบทั้งหมอของงานเขียนโทนคีน ทำงานกับคุณนี้มันเหมือนกับคนๆหนึ่งที่ผมจะบีบคอให้ตายคามือ

ดังนั้นผู้ที่จะอ่านตรงนี้เข้าใจก็อาจจะต้องมีสติปัญญาญาณใกล้เคียงกับโทนคีนเลยที่เดียวถึงจะเข้าใจเพราะเนื้อหาหลักของโทนคีนมีความซับซ้อนมาก ไหนอ้างอิงครับ (ผมไม่คาดหวังว่าคุณจะหาอ้างอิงมาได้หรอก เพราะมันเห็นแบบชัดเจนว่าเป็นความคิดคุณคนเดียว) ลองอ่านดูสิซับซ้อนแค่ไหน

ซึ่งจะมีความมืดมนต์หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีคำอธิบายหรือคำตอบและอยู่ อย่างนั้นตลอดไป สติปัญญาอันต่ำต้อยของคนทั่วไปมิควรหยั่งถึงพระเจ้าอิลูวาทา (แม้จะมีเพียงชื่อเรียกแต่ก็อย่าได้ดูหมิ่น) นี่ก็เช่นเดียวกันกับข้างบน

  • ///ผมบอกให้คุณไปดูที่เว็บประมูลกับพันทิฟ ไง พวกที่ หมิน ลบลู่ พวกที่ผิดเพศ///
  • ///คุณเป็นคนคลั่งการ์ตูนส่วนผมนั้นไม่ ดังนั้นผมดูคุณออก///
  • ///แล้วก็ส่วนนี้ก็อยู่ในส่วนผู้ที่เขียนจดหมายเรื่องทอมบอมบาดิล หรือ อิลูวาทา ว่าใครเกิดก่อนเกิดหลัง///


หัวข้อ แม่แบบ ที่คุณเขียน ซ้ำซ้อนกับข้อข้อ "แรงบันดาลใจ" ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว หากหัวข้อ "แรงบันดาลใจ" ขาดอะไรไป คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้ แต่หาอ้างอิงมายืนยันด้วย

  • ///เอาเรียงให้มันดูง่ายเหมือนกับงานที่ตีพิม///
  • ///แม่แบบ หมายถึง โครงไม่ใช่แรงบรรดาลใจ เช่นไบเบิ้ล ภควคีตา///siamganesh.com/BhagavadGita-00.html


ผลงานการเขียนเรียงตามอายุ ก็มีแทรกอยู่ในความเรียงเดิมอยู่แล้วเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเขียนเพิ่ม --Nullzero (พูดคุย) 17:28, 14 เมษายน 2556 (ICT)

  • ///เอาเรียงให้มันดูง่ายเหมือนกับงานที่ตีพิมจัดเป็นสรุป///

บางคนเข้ามาอ่านแล้วคิดว่า

  • บางคนเข้ามาอ่านแล้วคิดว่าเป็นพวกเขียนนิทานหลอกเด็ก ถ้านำคำว่าวรรณกรรมเด็กขึ้นก่อน
  • ซึ่งมันจะเข้าทางคุณที่ชอบแต่การ์ตูนเป็นชีวิต
  • แต่กับผม โทนคีนคือจอมอัจริยะแห่งภาษาและผู้สังเคราะห์ศาสนา(ซิลมาริออน)
  • ดังนั้นควรจะยกให้สูงกว่าโดยการเรียงลำดับให้ถูก
  • โดยเฉพาะในส่วนข้าง
  • แนวทางการเขียน
  • งานวิจัยด้านภาษาศาสตร์ทุกๆภาษาเก่า,
  • แฟนตาซีระดับสูงไฮเกรด,วรรณกรรมเด็กสำหรับลูกไฮเกรด,ด้านสังคม,การเมือง,สงคราม,พันธุศาสตร์,ภูติ,ปีศาจ,อสุรกาย,พฤษาศาสตร์,
  • พระเจ้า,เทพเจ้า
  • ผมได้ลำดับอย่างถูกต้อง
  • แง่มุมปีศาจ
  • อย่างน้อยก็เขียนสรุปภาพรวม
  • เพราะบ้างครั้ง คนก็มักจะไปตัดสินที่รายละเอียดด้านข้าง
  • มากกว่าเนื้อหาที่มากมายของโทนคีน

(และควรเข้าใจด้วยว่าผมไม่ชอบการ์ตูนญี่ป่น ผมเกลียดด้วยซ้ำและผมมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ผมตามรอยโทนคีนได้เกือบครบทุกอย่างศึกษาทุกสิ่งที่โทนคีนเคยศึกษาและศึกษาสิ่งที่โทนคีนเลยสร้างและเขียน จนเกือบกลายเป็น โทนคีนที่2 ไปแล้ว)

เชิญคุณเกลียดการ์ตูนไปคนเดียว เพราะคนที่เกลียดการ์ตูนก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่ไม่มีศิลปะในจิตใจหรอก (อย่าลืมเสียว่า การ์ตูนก็คือศิลปะจากการวาด) --Jungide (พูดคุย) 02:21, 17 เมษายน 2556 (ICT)
เฮ้อ...การใช้ย่อหน้าเอย การใช้บริบทเอย การจัดประโยคเอย ผิดหลักภาษาหมด แล้วเรียกตัวเองว่าโทลคีนคนที่สอง? ตลกล่ะครับ In Heaven, everything is fine. (พูดคุย) 10:54, 17 เมษายน 2556 (ICT)
  • ญี่ปุ่นชั่ว
  • ผมชอบความเป็นจริงมากว่าจิตนาการศิลปะงี่เง่า
  • เฉพาะเนื้อหา
  • เว็บโง่ๆแบบนี้ (เห็นมั้ยไม่เข้า้ใจอะไรเลย)
  • คุณคิดว่าโทนคีนเขาไม่เคยเขียนผิดหรือไงกัน
  • ไม่เคยแก้ไขงานเขียน ความขัดแย้งของเนื้อหาที่เข้ากันไม่ได้อีกเยอะแยะในฉบับหนังสือ
*โทลคีนที่2 ได้ชื่อมาเพราะเข้าใจเนื้อหาได้ดีกว่าในแง่ของความเป็นจริงของปกรนัม  
*อาจจะดีกว่าโทนคีนด้วยซ้ำเพราะว่าเรามีคอมพิวเตอร์ใช้กันแล้ว
*เรามีภาษาคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน การเข้ารหัสหลายชั้น (ถ้าคุณสงสัยก็ไม่แปลกที่วิธีการเขียนของผมดูประลาดก็เพราะมันใกล้เคียงกับวิธีการทางคอมพิวเตอร์พอสมควร และมักชินกับบางระบบในการเก็บรักษาข้อมูลอันมีคุณค่า)
  • เราไม่มีเวลาที่จะมามีพิธีที่ตอง พิธีพิถัน
  • ถักทอแบบรีบๆไม่อยากคิดอะไร ป้องกันโทนคีนไว้ก่อน
  • คุณคิดแต่ผมไม่ชอบคิด
  • เหมือนพวกนักวิชาการที่อ่านคำว่าสงบสุข แต่ไม่สามารถทำความสงบสุขขึ้นมาได้
  • เหมือนอ่านวิธีทำสมาธิ แต่ไม่สามารถเอามาใช้ได้
  • ภาษาพูดกับภาษาเขียน
  • มันคนละอย่างกัน ถ้าวันๆเอาแต่เขียนอย่างเดียวคุณก็จะขาดความสามารถในการเข้าถึงความจริง
  • และคุณก็ไม่รู้จักผมดีพอ
  • ยังมีวิธีการเขียนอีกมากมายที่คุณเองก็ไม่รู้จักทั้งหมด
  • ผมเขียนแบบระบบวาง (รู้จักมั้ย)
  • เหมือนผู้ที่ใช้การเข้ารหัสถอดรหัส
  • การเข้าถึงคำเฉพาะเหมือนตำราลึกลับแห่งโลกทั้งหหลายแหล่
  • วิธีที่ดาวินชีใช้เก็บงานวิจัย
  • เพราะคุณไม่เคยโดนยุ่งดูดเลือด หรือ ทากหนอนดูดเลือดเหมือนผม เอาแต่คิดโดนซะบางตายจริง เกิดจริง
  • ผมเข้าถึงในแง่ของความเป็นจริงที่ถูกอธิบายมากกว่าแง่ของอักษรการจัดเรียง
  • แต่แน่นอนการเขียนในแบบวิกิมันยังลำบากเพราะต้องมีคำสั่งโน้นนี้เยอะแยะ
  • ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิธีของผม
  1. โปรดมีมารยาทในการพูดคุย
  2. โปรดทราบด้วยว่าจุดประสงค์ของวิกิพีเดียคือมีไว้เขียน สารานุกรม ไม่ได้เป็นที่เอาๆไว้เขียนอะไรก็ได้
  3. และเพื่อพิสูจน์ว่าเนื้อหาที่คุณเขียนถูกต้อง เราต้องการ อ้างอิง ที่น่าเชื่อถือ (และคุณก็ไม่เคยให้มาเลย) เหตุลว่า "ผมเป็นผู้รู้ดี จริง ๆ มันต้องเป็นอย่างนี้ ๆ" หรือ "ก็มันเป็นความจริง" ไม่สามารถใช้ในการยืนยันเนื้อหาว่าถูกต้องได้ (เราต้องการ อ้างอิง ที่น่าเชื่อถือ ตามที่บอกไปแล้ว)
  4. ผมไม่เข้าใจว่าประเด็นการ์ตูนญี่ปุ่นมันโผล่มาได้ยังไง? คุณต้องการจะว่าผมหรือเปล่า? ผมงงจริง ๆ นะเนี่ย
--Nullzero (พูดคุย) 18:07, 17 เมษายน 2556 (ICT)
"คุณคิดแต่ผมไม่ชอบคิด" อืม...อ่านดูก็รู้ว่าไม่ค่อยคิดอะไรจริงๆ เขียนคำผิดๆถูกๆ กะเอาประหลาดอย่างเดียวแต่สื่อความไม่ได้ ยกยอตัวเอง บอกว่า เข้าถึงในแง่ของความเป็นจริงที่ถูกอธิบาย แต่ตัวเองเล่นไร้สาระจนอธิบายอะไรไม่ได้สักอย่างแล้วทับถมว่าคนอื่นโง่ พูดตรงๆเป็นภาษาคนนะครับ ใช้ภาษาแปลกๆแล้วสื่อใจความไม่ได้นี่ไม่มีประโยชน์อะไรในการเขียนสารานุกรมหรอกครับ In Heaven, everything is fine. (พูดคุย) 20:31, 17 เมษายน 2556 (ICT)
ศิลปะกับความจริงมันสามารถใช้และอยู่ร่วมกันได้ แต่ที่อ่านจากข้อความของคุณตรวจทานแล้ว มันบ่งบอกว่าคุณไม่สามารถอยู่ร่วมกับความเป็นจริงได้เลยสักนิด อย่างน้อยๆคุณก็ควรเข้าใจในศิลปะบ้าง สักเล็กน้อยก็ยังดี นอกจากนี้เรื่องที่คุณยกยอปอปั้นว่าตนเองเป็นโทลคีนคนที่2 และเผยธาตุแท้เรื่องการทำลายโทลคีนนั้น มันก็ส่อให้เห็นแล้ว คุณตรวจทานก็แค่คนที่น่ารังเกียจคนหนึ่งเท่านั้น ถ้ารักโทลคีนจริง คุณก็น่าจะรู้ว่าคุณควรจะปฏิบัติอย่างไร
ในเมื่อคุณอยากจะเป็นโทลคีนเสียเองและทำลายโทลคีนตัวจริงแบบนี้ ก็ขอให้สมหวังอยู่กับความสุขของคุณละกัน ถ้าโดนแบนขึ้นมาก็อย่ามาร้องขอผู้ใช้วิกิละ ในเมื่อคุณตัดสินใจที่จะก้าวสู่เส้นทางนั้นเรียบร้อยแล้ว --Jungide (พูดคุย) 00:30, 18 เมษายน 2556 (ICT)
บอกตรงๆครับ อ่านมาทั้งหมดของผู้ใช้คนนี้ สื่อความหมายออกมาแทบไม่ออก (ไม่รู้ว่าผู้ใช้นี้มาดีหรือมาร้ายกันแน่) ผมนี่อยากรู้จริงว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่!!! อยากให้จับมาคุยแบบชนเข่ากันเลย ว่าเขาต้องการอะไร (นักหนา) แต่แน่นอนการเขียนในแบบวิกิมันยังลำบากเพราะต้องมีคำสั่งโน้นนี้เยอะแยะ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิธีของผม ยิ่งข้อความนี้มาแปลก หรือไม่ก็จัดการสอนอย่างพิเศษเกี่ยวกับว่า อะไรคือวิกิพีดีย... ให้ผู้ใ้คนนี้เลย!!! ถ้าไม่เข้าใจ ดื้อรั้น และก่อกวน หนทางเดียวที่ถูกต้อง คือ... บล็อก ครับ!! (ด้วยความหวังดี ><) --ปาล์มมี่ (พูดคุย) 00:44, 18 เมษายน 2556 (ICT)
  • แบนก็แบนลบชื่อนี้ออกเลยก็ได้
  • โทนคีนที่2 คนอื่นเขายกให้ ไม่ใช่ผมที่จริงไม่ชอบด้วยซ้ำเพียงเพราะมันมีกองขยะของโทนคีนในบ้านแค่นี้เพื่อนก็ยอว่าเป็นโทนคีนแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ในชมรมของใครแค่เอาวิธีการของโทนคีนไปเข้ารหัสคอมพิวเตอร์
  • แล้วใช้ภาษาที่โทนคีนประดิษฐ์มาทั้งหมดเข้ารหัสได้สมบูรณ์ถึง80% ทึ่งมั้ยเจ้าน้อง
  • แล้วทุกวันนี้คุณรู้มั้ยการทำภาพยนต์มันทำให้คนลบลู่มากขึ้นแทนที่จะศรัทธา
  • อีกอย่างวิธีของคุณเหมือนพวกที่พยายามอัพเดตบางอย่างด้วยการกระตุ้นให้ผมคายข้อมูลที่ผมรู้ออกมา
  • โลกของการเขียน ณ วันนี้ตกต่ำลงมาก การใช้คำของพวกวัยรุ่น แต่นี้วิีธีของผม
  • เพราะคุณไม่เคยโดนยุ่งดูดเลือด หรือ ทากหนอนดูดเลือดเหมือนผม เอาแต่คิด โดนซะบางตายจริง เกิดจริง เจ็บเกิดแผล นั้นสงครามก็คือศิลปแห่งการฆ่า
  • นั้นไงพอๆกับการเจรจาระหว่างนักวิชาการกับชาวบ้านยังไงยังงั้นเหมือนพูดภาษาราชาศัพท์ไทยกับชาวบ้าน
  • แล้วคุี๊ณสามารถตอบคำตอบผมได้อย่างไร โดยไม่เข้าใจคำศัพท์ที่ผมเขียน คล้ายกับคนดีคุยกับคนบ้าได้ยังไง
  • ช่างเถอะ ลบก็ลบไม่คิดมาก แต่อย่างน้อยก็แค่ได้ทดสอบ
  • ผมไม่แค
  • เหมือนพวกนักวิชาการที่อ่านคำว่าสงบสุข แต่ไม่สามารถทำความสงบสุขขึ้นมาได้
  • เหมือนอ่านวิธีทำสมาธิ แต่ก็ไม่สามารถเอามาใช้ได้
  • เหมือนพระที่เรียนสอบเปรียญ แต่ไม่สามารถทำสมาธิได้
  • พระบ้านนอกอยู่ป่ากลับทำสมาธิ แต่กลับไม่มีเปรียญยศสูงแบบพระในเมือง
  • ไม่ต้องตอบกลับกลับมาที่ผมแล้ว


  • ผู้ใช้:Kuruni|In Heaven, everything is fine.
  • โทนคีน คือผู้สร้างภาษาที่แปลกที่สุดเนื้อหาซับซ้อน
  • ผู้ใช้:Jungide|Jungide
  • ผู้ใช้:Palmy U-U|ปาล์มมี่
  • อายุ13ตามนั้นรึ
  • ภาษามันวิวัฒไปได้
  • คุณลองดูตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
  • ภาษาไทยในยุคนั้นกับยุคนี้มันคนละภาษากันเลย
  • แต่ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับทำเป็นภาษาไทยปัจจุบัน
  • ภาษาคือกำแพงช่วยปกป้อง
  • ไม่ให้ความชั่วร้ายหรือผลกระทบผ่านเข้ามาในเขตนั้นๆ
  • อาเชียนคือการทำลายวัฒนธรรมไทย
  • คุณลองดูการรวมทุกๆสิ่งให้เป็นหนึ่งเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้
  • เดียวนี้โคมลอย ลอยอยู่ทุกๆภาคของไทยแทนที่จะเป็นแหล่งเฉพาะ
  • วัฒนธรรมมีไว้แสดง ไม่ได้มีำำไว้ดำรงชีพอีกต่อไป


  • OKลืมๆไปซะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมเหนื่อยและยอมแพ้

มีล็อกอินก็ควรจะตอบในฐานะล็อกอิน
ที่อ่านมา เราคิดว่า อาการคุณเริ่มหนักแล้ว ทางที่ดีควรไปที่ศรีธัญญาหรือโรงพยาบาลประสาทแถวบ้าน(แถวจังหวัด)ที่คุณอยู่เสียเถิด จะได้รักษาตัวทัน อีกอย่าง การที่คุณไปเหยียบย่ำความชอบของคนอื่นแล้วเอามาด่าเผยแพร่สาธารณชนนั้น คิดว่ามันเจ๋งสุดยอดหรือไงกัน คิดได้เพียงเท่านี้หรอกหรือ? ลองพิจารณาตนเองเสียบ้างว่า การเหยียบย่ำและด่าความชอบของคนอื่น มันใช่สิ่งที่มนุษย์พึงจะกระทำหรือไม่? --Jungide (พูดคุย) 15:35, 18 เมษายน 2556 (ICT)
จะโทลคงโทลคีน ริงออฟลอร์ดอะไรก็ช่างมันเถอะ คนธรรมดาไม่ได้มาเข้าใจได้หมดทุกคน อย่าเขียนให้มันเหมือนอะไรที่อ่านแล้วล่องลอย ไม่มีหลักการไปหน่อยเลย (อย่ามาอ้างว่าหลักการคือโทลคง ไม่ใช่ทุกคนที่อ่าน) เขียนให้คนธรรมดาอ่านเข้าใจ อย่ามาเขียนอะไรที่ล้ำลึก ตกลงมะ --115.87.91.124 16:50, 18 เมษายน 2556 (ICT)
จ๊ะ ขอบคุณ "คุณไม่ควรนำความคิดเห็นของคนอื่นและผู้ใช้คนอื่น ชนชาติ ประชาคม ความชอบส่วนบุคคล มาประนาม" (เอาใจเขามาใส่ใจเรา บ้าง ด่า ประนาม แต่คนอื่น คุณมองแต่แง่ลบ ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองจะรู้สึก ว่ามันเจ็บกว่ายุงกัดที่คุณยกตัวอย่างมา) ผมอยากให้คุณทำความเข้าใจกับส่วนร่วมที่เขามาเตือนคุณ ไม่ใช่เอาความคิดเห็นส่วนตัวครับ (ควรเห็นส่วนร่วมเป็นหลักครับ) (ปล. ห็นด้วยกับพี่ Jungide) (~~ โอม ขอให้เรื่องนี้จบๆ นะครับ ~~) --ปาล์มมี่ (พูดคุย) 19:03, 18 เมษายน 2556 (ICT)
  • ไม่ใช่การด่า เป็นคำอธิบายเพราะว่ามันจริงไง คนที่ดูการ์ตูนมาก มันยืดๆใบหน้า แขนขายาวเป็นกิโล ญี่ปุ่นเครียด
  • สุดท้ายมันก็ได้แค่ความคิด เรื่องเพราะว่าโดนยุงเป็นฝูงมันก็สนุกดีบางทีฝนกับน้ำแข็งอาจจะสนุุกกว่า
  • Okไม่ต้องลึกล้ำ วิกิพีเดียคือเป็นแบบย่อแต่มันก็ OKแต่ถ้ามีการลบลู่เกิดขึ้นอีก ผมจะไม่ละเว้นใดๆทั้งสิ้น (แล้วก็เปลี่ยนสถานที่เกิดเป็นแอฟริกาใต้เหมือนเดิมเดียวตรงจุดนั้น แค่นี้จบ)
  • แล้วก็ลบหน้านี้ไปเพื่อจบไม่ต้องจำ
เขียนเป็นภาษาคนดูสักครั้งสิครับ ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนตอนคนบ้าแถวบ้านบ่น In Heaven, everything is fine. (พูดคุย) 01:13, 19 เมษายน 2556 (ICT)