ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พญาญี่บา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OoishiMoe (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
OoishiMoe (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2: บรรทัด 2:
'''พระยายีบา''' เป็น[[เจ้าเมือง]][[ลำพูน]]พระองค์สุดท้าย
'''พระยายีบา''' เป็น[[เจ้าเมือง]][[ลำพูน]]พระองค์สุดท้าย


ในปี [[พ.ศ. ๑๘๐๕]] (จ.ส. ๖๒๔) [[พระยามังราย]]ใด้สร้างเมือง[[เชียงราย]]ขึ้น และทรงเห็นว่าลานนาไทยแยกกันเป็นหลายวงศ์ ควรรวมกันเป็นแผ่นดินเดียวกันเสีย ดำริแล้วจึงยกทัพไปตีเมืองมอบไร เชียงคำ เชียงร้าง ฝาง เชียงของและเชิง ต่อมาจะตีเมืองลำพูน (หริภูญชัย) เพราะเป็นเมืองที่มั่งคั่ง แต่ขุนนางชื่อขุนฟ้า ค้านว่าเป็รการยากเพราะกำลังข้าศึกแ็งนัก ควรใช้อุบายยุยงให้แตกแยกกันเสียก่อน ครั้นแล้วพระยามังรายจึงทำอุบายเนรเทศขุนฟ้าออกจากเมืองฐานขบท ขุนฟ้าจึงใด้ไปรับราชการอยู่กับพระยายีบาเจ้าเมืองลำพูนนานถึง ๗ ปี และใด้ทำอุบายต่างๆ ให้พระยายีบากดขี่ราษฎร จนชาวเมืองเกลียดชังพระยายีบา
ในปี [[พ.ศ. ๑๘๐๕]] (จ.ส. ๖๒๔) [[พระยามังราย]]ใด้สร้างเมือง[[เชียงราย]]ขึ้น และทรงเห็นว่า[[ลานนา]]ไทยแยกกันเป็นหลายวงศ์ ควรรวมกันเป็นแผ่นดินเดียวกันเสีย ดำริแล้วจึงยกทัพไปตีเมืองมอบไร เชียงคำ เชียงร้าง ฝาง เชียงของและเชิง ต่อมาจะตีเมืองลำพูน (หริภูญชัย) เพราะเป็นเมืองที่มั่งคั่ง แต่ขุนนางชื่อขุนฟ้า ค้านว่าเป็รการยากเพราะกำลังข้าศึกแ็งนัก ควรใช้อุบายยุยงให้แตกแยกกันเสียก่อน ครั้นแล้วพระยามังรายจึงทำอุบายเนรเทศขุนฟ้าออกจากเมืองฐานขบท ขุนฟ้าจึงใด้ไปรับราชการอยู่กับพระยายีบาเจ้าเมืองลำพูนนานถึง ๗ ปี และใด้ทำอุบายต่างๆ ให้พระยายีบากดขี่ราษฎร จนชาวเมืองเกลียดชังพระยายีบา


ครั้นแล้วพระยามังรายก็ยกทัพไปตีเมืองลำพูนใด้โดยง่าย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๔ (จ.ส. ๖๔๓) พระยายีบาหนีมาอยู่กับพระยาเบิกเจ้าเมืองลำปาง(เขลางค์) ผู้เป็นโอรส เวลาล่วงไป ๑๔ ปี พระยาเบิกทรงช้างชือปานแสนพล ยกทัพไปหมายจะตีเมืองลำพูนคืนให้พระบิดา พระยามังรายให้เจ้าขุนสงครามทรงช้างชื่อแก้วไชยมงคลออกรับศึก ทั้งสองใด้ทำยุทธหัตถีกัน ที่บ้านขัวมุงขุนช้าง ใกล้เมืองกุมกาม พระยาเบิกถูกหอหแทงบาดเจ็บ และตีฝ่าวงล้องออกมาใด้ จึงมาตั้งรับอยู่ที่ตำบลแม่ตาล เขตเมืองลำปาง ได้สู้รบกันเป็นสามารถผล ที่สุดทัพลำปางแพ้ยับเยิน เจ้าขุนสงครามจับกุมตัวพระยาเบิกแม่ทัพใด้ และปลงพระชนม์เสียที่นี่ ดวงวิญญาณอันกล้าหาญเปลี่ยมไปด้วยกตัญญูเวฑิคุณนี้ จึงใด้รับพระราชทานนามว่า "เจ้าพ่อขุนตาน" ฃึ่งสถิตถ์อยู่ศาลอันศักสิทธิ์ แห่งนี้ (ที่มา จากพงษาวดารโยนก ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)
ครั้นแล้วพระยามังรายก็ยกทัพไปตีเมืองลำพูนใด้โดยง่าย เมื่อ [[พ.ศ. ๑๘๒๔]] (จ.ส. ๖๔๓) พระยายีบาหนีมาอยู่กับพระยาเบิกเจ้าเมืองลำปาง(เขลางค์) ผู้เป็นโอรส เวลาล่วงไป ๑๔ ปี พระยาเบิกทรงช้างชือปานแสนพล ยกทัพไปหมายจะตีเมืองลำพูนคืนให้พระบิดา พระยามังรายให้เจ้าขุนสงครามทรงช้างชื่อแก้วไชยมงคลออกรับศึก ทั้งสองใด้ทำยุทธหัตถีกัน ที่บ้านขัวมุงขุนช้าง ใกล้เมืองกุมกาม พระยาเบิกถูกหอหแทงบาดเจ็บ และตีฝ่าวงล้องออกมาใด้ จึงมาตั้งรับอยู่ที่ตำบลแม่ตาล เขตเมืองลำปาง ได้สู้รบกันเป็นสามารถผล ที่สุดทัพลำปางแพ้ยับเยิน เจ้าขุนสงครามจับกุมตัวพระยาเบิกแม่ทัพใด้ และปลงพระชนม์เสียที่นี่ ดวงวิญญาณอันกล้าหาญเปลี่ยมไปด้วยกตัญญูเวฑิคุณนี้ จึงใด้รับพระราชทานนามว่า "เจ้าพ่อขุนตาน" ฃึ่งสถิตถ์อยู่ศาลอันศักสิทธิ์ แห่งนี้ (ที่มา จากพงษาวดารโยนก ฉบับหอสมุดแห่งชาติ)
ศาลเจ้าพ่อขุนตานสร้างขึ้นเป็นที่สักการะแด่ดวงวิญญาณการสร้างวีรกรรม และความกตัญญูกตเวฑิตาของพระยาเบิก โอรสพระยายีบา แต่เดิมสร้างเป็นศาลเล็กๆ ต่อมามีการสร้างรูปหล่อเจ้าพรอขุนตานและศาลขึ้นควบคู่กับศาลเดิม เพื่อให้ประชากรสักการะบูชา กราบไหว้
ศาลเจ้าพ่อขุนตานสร้างขึ้นเป็นที่สักการะแด่ดวงวิญญาณการสร้างวีรกรรม และความกตัญญูกตเวฑิตาของพระยาเบิก โอรสพระยายีบา แต่เดิมสร้างเป็นศาลเล็กๆ ต่อมามีการสร้างรูปหล่อเจ้าพรอขุนตานและศาลขึ้นควบคู่กับศาลเดิม เพื่อให้ประชากรสักการะบูชา กราบไหว้



รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:08, 14 มิถุนายน 2550

พระยายีบา เป็นเจ้าเมืองลำพูนพระองค์สุดท้าย

ในปี พ.ศ. ๑๘๐๕ (จ.ส. ๖๒๔) พระยามังรายใด้สร้างเมืองเชียงรายขึ้น และทรงเห็นว่าลานนาไทยแยกกันเป็นหลายวงศ์ ควรรวมกันเป็นแผ่นดินเดียวกันเสีย ดำริแล้วจึงยกทัพไปตีเมืองมอบไร เชียงคำ เชียงร้าง ฝาง เชียงของและเชิง ต่อมาจะตีเมืองลำพูน (หริภูญชัย) เพราะเป็นเมืองที่มั่งคั่ง แต่ขุนนางชื่อขุนฟ้า ค้านว่าเป็รการยากเพราะกำลังข้าศึกแ็งนัก ควรใช้อุบายยุยงให้แตกแยกกันเสียก่อน ครั้นแล้วพระยามังรายจึงทำอุบายเนรเทศขุนฟ้าออกจากเมืองฐานขบท ขุนฟ้าจึงใด้ไปรับราชการอยู่กับพระยายีบาเจ้าเมืองลำพูนนานถึง ๗ ปี และใด้ทำอุบายต่างๆ ให้พระยายีบากดขี่ราษฎร จนชาวเมืองเกลียดชังพระยายีบา

ครั้นแล้วพระยามังรายก็ยกทัพไปตีเมืองลำพูนใด้โดยง่าย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๒๔ (จ.ส. ๖๔๓) พระยายีบาหนีมาอยู่กับพระยาเบิกเจ้าเมืองลำปาง(เขลางค์) ผู้เป็นโอรส เวลาล่วงไป ๑๔ ปี พระยาเบิกทรงช้างชือปานแสนพล ยกทัพไปหมายจะตีเมืองลำพูนคืนให้พระบิดา พระยามังรายให้เจ้าขุนสงครามทรงช้างชื่อแก้วไชยมงคลออกรับศึก ทั้งสองใด้ทำยุทธหัตถีกัน ที่บ้านขัวมุงขุนช้าง ใกล้เมืองกุมกาม พระยาเบิกถูกหอหแทงบาดเจ็บ และตีฝ่าวงล้องออกมาใด้ จึงมาตั้งรับอยู่ที่ตำบลแม่ตาล เขตเมืองลำปาง ได้สู้รบกันเป็นสามารถผล ที่สุดทัพลำปางแพ้ยับเยิน เจ้าขุนสงครามจับกุมตัวพระยาเบิกแม่ทัพใด้ และปลงพระชนม์เสียที่นี่ ดวงวิญญาณอันกล้าหาญเปลี่ยมไปด้วยกตัญญูเวฑิคุณนี้ จึงใด้รับพระราชทานนามว่า "เจ้าพ่อขุนตาน" ฃึ่งสถิตถ์อยู่ศาลอันศักสิทธิ์ แห่งนี้ (ที่มา จากพงษาวดารโยนก ฉบับหอสมุดแห่งชาติ) ศาลเจ้าพ่อขุนตานสร้างขึ้นเป็นที่สักการะแด่ดวงวิญญาณการสร้างวีรกรรม และความกตัญญูกตเวฑิตาของพระยาเบิก โอรสพระยายีบา แต่เดิมสร้างเป็นศาลเล็กๆ ต่อมามีการสร้างรูปหล่อเจ้าพรอขุนตานและศาลขึ้นควบคู่กับศาลเดิม เพื่อให้ประชากรสักการะบูชา กราบไหว้

อ้างจาก http://www.guidescenter.com/message_board.php?msg_type=3&msg_id=820 (เป็นเวปต์บอร์ด ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ)