ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไขควง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Awksauce (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาด
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Screw driver.jpg|thumb|ไขควงสี่แฉก]]
[[ไฟล์:Screw driver.jpg|thumb|ไขควงสี่แฉก]]
'''ไขควง''' คือ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งออกแบบมาเพื่อขัน[[สกรู]]ให้แน่นหรือคลายสกรูออก ไขควงทั่วไปประกอบด้วย..แท่ง[[โลหะ]] ส่วนปลายใช้สำหรับยึดกับสกรู ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันเพื่อให้ใช้ได้กับสกรูชนิดต่างๆ และมีแท่งสำหรับจับคล้าย[[ทรงกระบอก]]อยู่อีกด้านหนึ่งสำหรับการไขด้วยมือ หรือไขควงบางชนิดอาจจะหมุนด้วย[[มอเตอร์]]ก็ได้ ไขควงทำงานโดยการส่ง[[ทอร์ก]] (torque) จากการหมุนไปที่ปลาย ทำให้สกรูหมุนตามเกลียวเข้าหรือออกจากวัสดุอื่น
'''ไขควง''' คือ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งออกแบบมาเพื่อขัน[[สกรู]]ให้แน่นหรือคลายสกรูออก ไขควงทั่วไปประกอบด้วย..แท่ง[[โลหะ]] ส่วนปลายใช้สำหรับยึดกับสกรู ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันเพื่อให้ใช้ได้กับสกรูชนิดต่าง ๆ และมีแท่งสำหรับจับคล้าย[[ทรงกระบอก]]อยู่อีกด้านหนึ่งสำหรับการไขด้วยมือ หรือไขควงบางชนิดอาจจะหมุนด้วย[[มอเตอร์]]ก็ได้ ไขควงทำงานโดยการส่ง[[ทอร์ก]] (torque) จากการหมุนไปที่ปลาย ทำให้สกรูหมุนตามเกลียวเข้าหรือออกจากวัสดุอื่น


ไขควง (Screw Driver) เป็นเครื่องมือสำหรับ ขันและคลาย สกรูชนิดหัวผ่า ขนาดและรูปทรงของไขควงถูกออกแบบให้เป็นไปตามลักษณะการ ใช้งาน เช่น ไขควงที่ใช้สำหรับงานของช่างอัญมณี (Jeweler's Screw Driver) จะออกแบบมาให้เป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานละเอียดเที่ยงตรงกับ ไขควง ที่ใช้ ในงานหนักของช่างเครื่องกลจะออกแบบให้ก้านใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อให้ใช้ประแจ หรือ คีมจับขันเพื่อเพิ่มแรงในการบิดตัวของ ไขควง ให้มากกว่าเดิมได้ไขควงประกอบด้วย ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนคือ


1.ด้ามไขควง (Handle)
ไขควง (Screw Driver) เป็นเครื่องมือสำหรับ ขันและคลาย สกรูชนิดหัวผ่า ขนาดและรูปทรงของไขควงถูกออกแบบให้เป็นไปตามลักษณะการ ใช้งาน เช่น ไขควงที่ใช้สำหรับงานของช่างอัญมณี (Jeweler's Screw Driver)จะออกแบบมาให้เป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานละเอียดเที่ยงตรงกับ ไขควง ที่ใช้ ในงานหนักของช่างเครื่องกลจะออกแบบให้ก้านใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อให้ใช้ประแจ หรือ คีมจับขันเพื่อเพิ่มแรงในการบิดตัวของ ไขควง ให้มากกว่าเดิมได้ไขควงประกอบด้วย ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนคือ


1.ด้ามไขควง (Handle)
2.ก้านไขควง (Blade or Ferule)


2.ก้านไขควง (Blade or Ferule)
3.ปากไขควง (Tip)

3.ปากไขควง (Tip)
ด้ามไขควง ออกแบบให้มีรูปทรงที่สามารถจับได้ถนัดมือ และสามารถบิดไขควงไป-มา ได้แรงมากที่สุด ไขควงจะทำจากวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ พลาสติก หรือ โลหะบางชนิดตามประเภทการใช้งานปากไขควง จะทำจากเหล็กล้าเกรดดี ทรงกลมหรือสี่เหลี่ยม จัตุรัส ตีขึ้นรูปให้ลาดแบน และ ชุบแข็งด้วยความร้อน ในส่วนที่ไม่ได้ตีขึ้นรูปจะเป็นก้านไขควง ถ้าเป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานเบาจะเป็นเหล็กกล้าทรงกลมถ้าเป็นไขควงสำหรับ ใช้งานหนักจะเป็นเหล็กกล้าทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อให้สามารถใช้ประแจหรือคีมจับเพิ่มแรงบิดงานได้ก้านไขควงส่วนที่ต่อกับด้ามจะตีเป็นเหลี่ยมลาด เพื่อให้สวมได้สนิทกับด้าม เพื่อให้ด้ามจับก้านไขควงได้สนิทและไม่หมุนเมื่อใช้งานไขควง ในปัจจุบันมีการออกแบบให้ก้านไขควงทะลุตลอดด้าม ที่เป็นพลาสติก หรือไฟเบอร์และทำเป็นแท่นรับแรงสามารถใช้ค้อนเคาะตอกเพื่อการทำงานบางประเภทได้ขนาดความกว้างของปากไขควงจะมีสัดส่วน มาตรฐานสัมพันธ์กับความยาวของขนาดทั้งหมดของไขควงซึ่งเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเลือกใช้ไขควงเพราะแรงบิดที่กระทำต่อตัวสกรูจะเป็น ผลส่วนหนึ่งมาจากความยาวนี้ และอีกประการหนึ่งไขควงขนาดยาวปากไขควงจะกว้างกว่าปากไขควงขนาดสั้นความหนาของปากไขควงจะขึ้นอยู่กับ ความกว้างของปาก ปากกว้างมากก็จะยิ่งมีความหนามากขึ้น ความหนาของปากไขควงเป็นผลโดยตรงกับการออกแรงบิดตัวสกรูเพราะถ้าขนาด ของปากไขควงไม่พอดีกับร่องผ่าของหัวสกรูจะทำให้การขันพลาดทำให้หัวสกรูเยินหรือต้องสูญเสียแรงงานส่วนหนึ่งในการประคองปากไขควง ให้อยู่บนร่องหัวสกรู แทนการหมุนสกรูก่อนการนำไขควงไปใช้งาน ต้องตรวจสอบปากไขควงให้อยู่ใน สภาพพร้อมที่จะใช้งาน คือ ปากต้องเรียบ ไม่มีรอยบิด และเมื่อพิจารณาดูจากด้านล่างต้องมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไขควงที่ปากชำรุดสึกหรอไม่เรียบตรงหรือปากแตกร้าว เป็นอันตรายต่อ การใช้งานมากเพราะเมื่อใช้งานปากไขควงจะไม่สัมผัสกับร่องบนหัวสกรูเต็มที่ เมื่อออกแรงบิดจะทำให้พลาดจากร่องจะทำให้หัวสกรูบิ่นหรือลื่นจากหัว สกรูทำให้ผู้ขันได้รับอันตรายได้ไขควงแฉก (Phillips) หรือ ไขควงหัวลูกศร เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับ สกรูชนิดร่องหัวผ่าไขว้กัน การออกแบบ ขนาด และการเลือกใช้งานก็เช่นเดียวกับไขควงปากแบนข้อสำคัญที่สุดคือต้องเลือกใช้ไขควงที่ปากแนบสนิทกับร่องผ่าบนหัวสกรู จึงใช้งานได้เต็มตามประสิทธิภาพของไขควงไขควงเยื้องศูนย์ (Offset Screw Driwer) เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับการงานพิเศษที่ไขควงแบบ ปกติใช้งานไม่ได้ เช่นตามซอกมุมต่างๆ ไขควงชนิดพิเศษทำปากไขควงอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านอาจหันปากไปในตำแหน่งตามกันหรือเยื้องกันก็ได้ ส่วน ก้านใบไขควงอยู่ตรงกลางและทำหน้าที่เป็นด้ามไขควงด้วย


ด้ามไขควง ออกแบบให้มีรูปทรงที่สามารถจับได้ถนัดมือ และสามารถบิดไขควงไป-มา ได้แรงมากที่สุด ไขควงจะทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ พลาสติก หรือ โลหะบางชนิดตามประเภทการใช้งานปากไขควง จะทำจากเหล็กล้าเกรดดี ทรงกลมหรือสี่เหลี่ยม จัตุรัส ตีขึ้นรูปให้ลาดแบน และ ชุบแข็งด้วยความร้อน ในส่วนที่ไม่ได้ตีขึ้นรูปจะเป็นก้านไขควง ถ้าเป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานเบาจะเป็นเหล็กกล้าทรงกลมถ้าเป็นไขควงสำหรับ ใช้งานหนักจะเป็นเหล็กกล้าทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อให้สามารถใช้ประแจหรือคีมจับเพิ่มแรงบิดงานได้ก้านไขควงส่วนที่ต่อกับด้ามจะตีเป็นเหลี่ยมลาด เพื่อให้สวมได้สนิทกับด้าม เพื่อให้ด้ามจับก้านไขควงได้สนิทและไม่หมุนเมื่อใช้งานไขควง ในปัจจุบันมีการออกแบบให้ก้านไขควงทะลุตลอดด้าม ที่เป็นพลาสติก หรือไฟเบอร์และทำเป็นแท่นรับแรงสามารถใช้ค้อนเคาะตอกเพื่อการทำงานบางประเภทได้ขนาดความกว้างของปากไขควงจะมีสัดส่วน มาตรฐานสัมพันธ์กับความยาวของขนาดทั้งหมดของไขควงซึ่งเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเลือกใช้ไขควงเพราะแรงบิดที่กระทำต่อตัวสกรูจะเป็น ผลส่วนหนึ่งมาจากความยาวนี้ และอีกประการหนึ่งไขควงขนาดยาวปากไขควงจะกว้างกว่าปากไขควงขนาดสั้นความหนาของปากไขควงจะขึ้นอยู่กับ ความกว้างของปาก ปากกว้างมากก็จะยิ่งมีความหนามากขึ้น ความหนาของปากไขควงเป็นผลโดยตรงกับการออกแรงบิดตัวสกรูเพราะถ้าขนาด ของปากไขควงไม่พอดีกับร่องผ่าของหัวสกรูจะทำให้การขันพลาดทำให้หัวสกรูเยินหรือต้องสูญเสียแรงงานส่วนหนึ่งในการประคองปากไขควง ให้อยู่บนร่องหัวสกรู แทนการหมุนสกรูก่อนการนำไขควงไปใช้งาน ต้องตรวจสอบปากไขควงให้อยู่ใน สภาพพร้อมที่จะใช้งาน คือ ปากต้องเรียบ ไม่มีรอยบิด และเมื่อพิจารณาดูจากด้านล่างต้องมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไขควงที่ปากชำรุดสึกหรอไม่เรียบตรงหรือปากแตกร้าว เป็นอันตรายต่อ การใช้งานมากเพราะเมื่อใช้งานปากไขควงจะไม่สัมผัสกับร่องบนหัวสกรูเต็มที่ เมื่อออกแรงบิดจะทำให้พลาดจากร่องจะทำให้หัวสกรูบิ่นหรือลื่นจากหัว สกรูทำให้ผู้ขันได้รับอันตรายได้ไขควงแฉก (Phillips) หรือ ไขควงหัวลูกศร เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับ สกรูชนิดร่องหัวผ่าไขว้กัน การออกแบบ ขนาด และการเลือกใช้งานก็เช่นเดียวกับไขควงปากแบนข้อสำคัญที่สุดคือต้องเลือกใช้ไขควงที่ปากแนบสนิทกับร่องผ่าบนหัวสกรู จึงใช้งานได้เต็มตามประสิทธิภาพของไขควงไขควงเยื้องศูนย์ (Offset Screw Driwer) เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับการงานพิเศษที่ไขควงแบบ ปกติใช้งานไม่ได้ เช่นตามซอกมุมต่าง ๆ ไขควงชนิดพิเศษทำปากไขควงอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านอาจหันปากไปในตำแหน่งตามกันหรือเยื้องกันก็ได้ ส่วน ก้านใบไขควงอยู่ตรงกลางและทำหน้าที่เป็นด้ามไขควงด้วย


ประเภทของไขควง
ประเภทของไขควง


1. ไขควงปากแบนหรือไขควงธรรมดา (Common Screwdriver)
1. ไขควงปากแบนหรือไขควงธรรมดา (Common Screwdriver)
ปากไขควงจะมีลักษณะแบนลาดเอียงไปยังปลายสุดของไขควงทุกแบบสํ าหรับขันหรือคายสกรูหรือตะปูควงชนิดต่าง ๆ
ปากไขควงจะมีลักษณะแบนลาดเอียงไปยังปลายสุดของไขควงทุกแบบสําหรับขันหรือคายสกรูหรือตะปูควงชนิดต่าง ๆ
2.ไขควงปากแฉก (Cross - Reset Head Screwdriver)
2.ไขควงปากแฉก (Cross - Reset Head Screwdriver)
ไขควงชนิดนี้ส่วนที่ปลายของไขควงปากแฉกหรือลักษณะปากจีบจะผ่าหัวเป็นสี่แฉกเวลาบิดจะต้องใช้แรงกดที่ด้ามมากกว่าไขควงธรรมดาเพื่อไม่ให้เหลี่ยมของไขควงหลุดจากร่อง
ไขควงชนิดนี้ส่วนที่ปลายของไขควงปากแฉกหรือลักษณะปากจีบจะผ่าหัวเป็นสี่แฉกเวลาบิดจะต้องใช้แรงกดที่ด้ามมากกว่าไขควงธรรมดาเพื่อไม่ให้เหลี่ยมของไขควงหลุดจากร่อง
3. ไขควงหัวคลัตช์ (Clutch - Head Screwdriver)
3. ไขควงหัวคลัตช์ (Clutch - Head Screwdriver)
เป็นไขควงที่มีใช้เฉพาะกับตะปูควงหรือสกรูสํ าหรับงานโลหะแผ่น และงานการตกแต่งที่ต้องการความประณีตสวยงาม ปลายของไขควงจะสวมพอ
เป็นไขควงที่มีใช้เฉพาะกับตะปูควงหรือสกรูสําหรับงานโลหะแผ่น และงานการตกแต่งที่ต้องการความประณีตสวยงาม ปลายของไขควงจะสวมพอ
ดีกับหัวสกรู
ดีกับหัวสกรู
4.ไขควงออฟเสท (Offset Screwdriver)
4.ไขควงออฟเสท (Offset Screwdriver)
ไขควงออฟเสทใช้งานที่อยู่ในที่แคบ ๆ ยากที่จะใช้ไขควงธรรมดาเข้าไปขันได้สามารถขันสกรูได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องระวังเพราะไขควงหลุดจาก
ไขควงออฟเสทใช้งานที่อยู่ในที่แคบ ๆ ยากที่จะใช้ไขควงธรรมดาเข้าไปขันได้สามารถขันสกรูได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องระวังเพราะไขควงหลุดจาก
ร่องสกรูได้ง่ายทํ าให้หัวสกรูเสีย
ร่องสกรูได้ง่ายทําให้หัวสกรูเสีย



ข้อควรระวังในการใช้ไขควง
ข้อควรระวังในการใช้ไขควง
1. อย่าใช้ไขควงแทนสิ่วหรือสกัด
1. อย่าใช้ไขควงแทนสิ่วหรือสกัด
2. อย่าใช้ไขควงงัดอาจจะทำให้งอได้ง่าย
2. อย่าใช้ไขควงงัดอาจจะทำให้งอได้ง่าย
3. อย่าใช้ด้ามไขควงแทนค้อน
3. อย่าใช้ด้ามไขควงแทนค้อน
4. เมื่อชำรุดรีบซ่อมทันที
4. เมื่อชำรุดรีบซ่อมทันที


{{โครงเทคโนโลยี}}
{{โครงเทคโนโลยี}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:55, 3 พฤษภาคม 2558

ไขควงสี่แฉก

ไขควง คือ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งออกแบบมาเพื่อขันสกรูให้แน่นหรือคลายสกรูออก ไขควงทั่วไปประกอบด้วย..แท่งโลหะ ส่วนปลายใช้สำหรับยึดกับสกรู ซึ่งมีรูปร่างแตกต่างกันเพื่อให้ใช้ได้กับสกรูชนิดต่าง ๆ และมีแท่งสำหรับจับคล้ายทรงกระบอกอยู่อีกด้านหนึ่งสำหรับการไขด้วยมือ หรือไขควงบางชนิดอาจจะหมุนด้วยมอเตอร์ก็ได้ ไขควงทำงานโดยการส่งทอร์ก (torque) จากการหมุนไปที่ปลาย ทำให้สกรูหมุนตามเกลียวเข้าหรือออกจากวัสดุอื่น

ไขควง (Screw Driver) เป็นเครื่องมือสำหรับ ขันและคลาย สกรูชนิดหัวผ่า ขนาดและรูปทรงของไขควงถูกออกแบบให้เป็นไปตามลักษณะการ ใช้งาน เช่น ไขควงที่ใช้สำหรับงานของช่างอัญมณี (Jeweler's Screw Driver) จะออกแบบมาให้เป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานละเอียดเที่ยงตรงกับ ไขควง ที่ใช้ ในงานหนักของช่างเครื่องกลจะออกแบบให้ก้านใบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อให้ใช้ประแจ หรือ คีมจับขันเพื่อเพิ่มแรงในการบิดตัวของ ไขควง ให้มากกว่าเดิมได้ไขควงประกอบด้วย ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนคือ

1.ด้ามไขควง (Handle)

2.ก้านไขควง (Blade or Ferule)

3.ปากไขควง (Tip)

ด้ามไขควง ออกแบบให้มีรูปทรงที่สามารถจับได้ถนัดมือ และสามารถบิดไขควงไป-มา ได้แรงมากที่สุด ไขควงจะทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ พลาสติก หรือ โลหะบางชนิดตามประเภทการใช้งานปากไขควง จะทำจากเหล็กล้าเกรดดี ทรงกลมหรือสี่เหลี่ยม จัตุรัส ตีขึ้นรูปให้ลาดแบน และ ชุบแข็งด้วยความร้อน ในส่วนที่ไม่ได้ตีขึ้นรูปจะเป็นก้านไขควง ถ้าเป็นไขควงที่ใช้สำหรับงานเบาจะเป็นเหล็กกล้าทรงกลมถ้าเป็นไขควงสำหรับ ใช้งานหนักจะเป็นเหล็กกล้าทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพื่อให้สามารถใช้ประแจหรือคีมจับเพิ่มแรงบิดงานได้ก้านไขควงส่วนที่ต่อกับด้ามจะตีเป็นเหลี่ยมลาด เพื่อให้สวมได้สนิทกับด้าม เพื่อให้ด้ามจับก้านไขควงได้สนิทและไม่หมุนเมื่อใช้งานไขควง ในปัจจุบันมีการออกแบบให้ก้านไขควงทะลุตลอดด้าม ที่เป็นพลาสติก หรือไฟเบอร์และทำเป็นแท่นรับแรงสามารถใช้ค้อนเคาะตอกเพื่อการทำงานบางประเภทได้ขนาดความกว้างของปากไขควงจะมีสัดส่วน มาตรฐานสัมพันธ์กับความยาวของขนาดทั้งหมดของไขควงซึ่งเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเลือกใช้ไขควงเพราะแรงบิดที่กระทำต่อตัวสกรูจะเป็น ผลส่วนหนึ่งมาจากความยาวนี้ และอีกประการหนึ่งไขควงขนาดยาวปากไขควงจะกว้างกว่าปากไขควงขนาดสั้นความหนาของปากไขควงจะขึ้นอยู่กับ ความกว้างของปาก ปากกว้างมากก็จะยิ่งมีความหนามากขึ้น ความหนาของปากไขควงเป็นผลโดยตรงกับการออกแรงบิดตัวสกรูเพราะถ้าขนาด ของปากไขควงไม่พอดีกับร่องผ่าของหัวสกรูจะทำให้การขันพลาดทำให้หัวสกรูเยินหรือต้องสูญเสียแรงงานส่วนหนึ่งในการประคองปากไขควง ให้อยู่บนร่องหัวสกรู แทนการหมุนสกรูก่อนการนำไขควงไปใช้งาน ต้องตรวจสอบปากไขควงให้อยู่ใน สภาพพร้อมที่จะใช้งาน คือ ปากต้องเรียบ ไม่มีรอยบิด และเมื่อพิจารณาดูจากด้านล่างต้องมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไขควงที่ปากชำรุดสึกหรอไม่เรียบตรงหรือปากแตกร้าว เป็นอันตรายต่อ การใช้งานมากเพราะเมื่อใช้งานปากไขควงจะไม่สัมผัสกับร่องบนหัวสกรูเต็มที่ เมื่อออกแรงบิดจะทำให้พลาดจากร่องจะทำให้หัวสกรูบิ่นหรือลื่นจากหัว สกรูทำให้ผู้ขันได้รับอันตรายได้ไขควงแฉก (Phillips) หรือ ไขควงหัวลูกศร เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับใช้กับ สกรูชนิดร่องหัวผ่าไขว้กัน การออกแบบ ขนาด และการเลือกใช้งานก็เช่นเดียวกับไขควงปากแบนข้อสำคัญที่สุดคือต้องเลือกใช้ไขควงที่ปากแนบสนิทกับร่องผ่าบนหัวสกรู จึงใช้งานได้เต็มตามประสิทธิภาพของไขควงไขควงเยื้องศูนย์ (Offset Screw Driwer) เป็นไขควงที่ออกแบบมาสำหรับการงานพิเศษที่ไขควงแบบ ปกติใช้งานไม่ได้ เช่นตามซอกมุมต่าง ๆ ไขควงชนิดพิเศษทำปากไขควงอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านอาจหันปากไปในตำแหน่งตามกันหรือเยื้องกันก็ได้ ส่วน ก้านใบไขควงอยู่ตรงกลางและทำหน้าที่เป็นด้ามไขควงด้วย

ประเภทของไขควง

1. ไขควงปากแบนหรือไขควงธรรมดา (Common Screwdriver) ปากไขควงจะมีลักษณะแบนลาดเอียงไปยังปลายสุดของไขควงทุกแบบสําหรับขันหรือคายสกรูหรือตะปูควงชนิดต่าง ๆ 2.ไขควงปากแฉก (Cross - Reset Head Screwdriver) ไขควงชนิดนี้ส่วนที่ปลายของไขควงปากแฉกหรือลักษณะปากจีบจะผ่าหัวเป็นสี่แฉกเวลาบิดจะต้องใช้แรงกดที่ด้ามมากกว่าไขควงธรรมดาเพื่อไม่ให้เหลี่ยมของไขควงหลุดจากร่อง 3. ไขควงหัวคลัตช์ (Clutch - Head Screwdriver) เป็นไขควงที่มีใช้เฉพาะกับตะปูควงหรือสกรูสําหรับงานโลหะแผ่น และงานการตกแต่งที่ต้องการความประณีตสวยงาม ปลายของไขควงจะสวมพอ ดีกับหัวสกรู 4.ไขควงออฟเสท (Offset Screwdriver) ไขควงออฟเสทใช้งานที่อยู่ในที่แคบ ๆ ยากที่จะใช้ไขควงธรรมดาเข้าไปขันได้สามารถขันสกรูได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องระวังเพราะไขควงหลุดจาก ร่องสกรูได้ง่ายทําให้หัวสกรูเสีย

ข้อควรระวังในการใช้ไขควง 1. อย่าใช้ไขควงแทนสิ่วหรือสกัด 2. อย่าใช้ไขควงงัดอาจจะทำให้งอได้ง่าย 3. อย่าใช้ด้ามไขควงแทนค้อน 4. เมื่อชำรุดรีบซ่อมทันที