ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วงศ์ปลากระโทง"
บรรทัด 36: | บรรทัด 36: | ||
== การจำแนก == |
== การจำแนก == |
||
มีทั้งหมด |
มีทั้งหมด 11 [[สปีชีส์|ชนิด]] ใน 5 สกุล ประกอบไปด้วย |
||
* [[Istiompax indica|ปลากระโทงดำ]] (''Istiompax indica'') |
* [[Istiompax indica|ปลากระโทงดำ]] (''Istiompax indica'') |
||
* |
*[[ปลากระโทงร่มแอตแลนติก]] (''Istiophorus albicans'') |
||
* [[Istiophorus platypterus|ปลากระโทงร่มอินโด-แปซิฟิก]] (''Istiophorus platypterus'') |
|||
* [[Kajikia albida|ปลากระโทงขาว]] (''Kajikia albida'') |
* [[Kajikia albida|ปลากระโทงขาว]] (''Kajikia albida'') |
||
* [[Kajikia audax|ปลากระโทงลาย]] (''Kajikia audax'') |
* [[Kajikia audax|ปลากระโทงลาย]] (''Kajikia audax'') |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:19, 10 มกราคม 2558
ปลากระโทง ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ครีเทเชียสตอนต้น-ปัจจุบัน | |
---|---|
ลักษณะของปลากระโทง | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
อันดับย่อย: | Xiphioidei |
วงศ์: | Istiophoridae |
สกุล[1] | |
ชื่อพ้อง | |
|
วงศ์ปลากระโทง หรือ วงศ์ปลากระโทงแทง หรือ วงศ์ปลาปากนก (อังกฤษ: Marlin, Spearfish, Sailfish, Billfish) ปลากระดูกแข็งขนาดใหญ่จำพวกหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเล อยู่ในอันดับปลากะพง (Perciformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่า Istiophoridae
โดยคำว่า Istiophoridae ที่ใช้เป็นชื่อวงศ์นั้น มาจากภาษากรีกคำว่า "Ιστίων" (Istion) หมายถึง "ใบเรือ" รวมกับคำว่า "φέρειν" (pherein) หมายถึง "แบกไว้"
ปลากระโทง เป็นปลาทะเลขนาดใหญ่ที่มีความปราดเปรียวและว่องไวมาก จัดเป็นปลาที่สามารถว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลก[2]ด้วยมีกล้ามเนื้อที่ทรงพลัง และกระดูกหลังที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถพุ่งจากน้ำได้เร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และในฤดูอพยพอาจทำความเร็วได้ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง[3]
มีลำตัวค่อนข้างกลม ปากกว้าง มีฟันแบบวิลลิฟอร์ม ครีบหลังและครีบก้นมีอย่างละ 2 ครีบ ไม่มีครีบฝอย ครีบท้องมีก้านครีบ 1-3 ก้าน มีสันที่คอดหาง ครีบหางเว้าลึก [4]
มีจุดเด่นคือปลายปากด้านบนมีกระดูกยื่นยาวแหลมออกมา ใช้ในการนำทาง ล่าเหยื่อ และป้องกันตัว ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสิ่งที่เหลืออยู่จากยุคก่อนประวัติศาสตร์ เพื่อป้องกันตัวจากบรรดาปลานักล่าต่าง ๆ ที่มีอยู่ดาษดื่น[3] มีครีบกระโดงหลังมีสูงแหลม ในบางชนิด จะมีกระโดงสูงมากและครอบคลุมเกือบเต็มบริเวณหลัง ดูแลคล้ายใบเรือ มีสีและลวดลายข้างลำตัวแตกต่างออกไปตามแต่ชนิด ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสภาพอารมณ์ หากตกใจหรือเครียด สีจะซีด และใช้เป็นสิ่งที่แยกของปลาแต่ละตัว[3]
โดยมากแล้วมักจะอาศัยหากินอยู่บริเวณผิวน้ำ พบได้ในทะเลเขตอบอุ่นและเขตร้อนทั่วโลก ออกล่าเหยื่อเป็นปลาขนาดเล็กกว่า บางครั้งอาจอยู่รวมเป็นฝูงนับร้อยตัว มักล่าเหยื่อในเวลากลางวัน เนื่องจากเป็นปลาที่ล่าด้วยประสาทสัมผัสทางตาเป็นหลัก[5] สามารถโดดพ้นน้ำได้สูงและมีความสง่างามมาก จึงนิยมตกเป็นเกมกีฬา ได้รับฉายาจากนักตกปลาว่าเป็น "ราชินีแห่งท้องทะล" โดยมักจะออกตกด้วยการล่องเรือไปกลางทะเลและตกด้วยอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้ด้วยกันเวลาหลายชั่วโมง ด้วยการให้ปลายื้อเบ็ดจนหมดแรงเอง โดยปลากระโทงชนิดที่ใหญ่ที่สุดคือ ปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติก (Makaira nigricans) เป็นชนิดที่พบที่มหาสมุทรแอตแลนติก ที่สามารถโตเต็มที่ได้ถึง 5 เมตร หนักกว่า 636 กิโลกรัม
การจำแนก
มีทั้งหมด 11 ชนิด ใน 5 สกุล ประกอบไปด้วย
- ปลากระโทงดำ (Istiompax indica)
- ปลากระโทงร่มแอตแลนติก (Istiophorus albicans)
- ปลากระโทงร่มอินโด-แปซิฟิก (Istiophorus platypterus)
- ปลากระโทงขาว (Kajikia albida)
- ปลากระโทงลาย (Kajikia audax)
- ปลากระโทงสีน้ำเงินแปซิฟิก (Makaira mazara)
- ปลากระโทงสีน้ำเงินแอตแลนติก (Makaira nigricans)
- ปลากระโทงปากสั้น (Tetrapturus angustirostris)
- ปลากระโทงเมดิเตอร์เรเนี่ยน (Tetrapturus belone)
- ปลากระโทงเกล็ดกลม (Tetrapturus georgii)
- ปลากระโทงปากยาวแอตแลนติก (Tetrapturus pfluegeri)
นอกจากนี้แล้ว ยังมีปลากระโทงดาบที่มีลักษณะคล้ายปลากระโทงอีกชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Xiphias gladius ซึ่งมิได้อยู่ในวงศ์เดียวกันนี้ แต่จัดอยู่ในวงศ์ Xiphiidae [6]
ในน่านน้ำไทย พบได้ทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยชนิดที่พบได้แก่ ปลากระโทงร่มอินโด-แปซิฟิก และ ปลากระโทงสีน้ำเงินแปซิฟิก เป็นต้น
ปลากระโทงยังมีชื่อเรียกอื่นเป็นภาษาใต้ว่า "ปลาอินทรียักษ์" เป็นต้น
อ้างอิง
- ↑ จาก ITIS.gov (อังกฤษ)
- ↑ "สัตว์น้ำที่สุดในโลก". กระปุกตั้งฉ่าย Siamfishing.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Super Fish: fastest predator in the sea, สารคดีทางแอนิมอลพลาเน็ต .ทางทรูวิชั่นส์: เสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2556
- ↑ มีนวิทยา
- ↑ "อัศจรรย์โลกใต้น้ำตอนที่ 5". ช่อง 7. 9 January 2015. สืบค้นเมื่อ 9 January 2015.
- ↑ กรมประมง