ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วรพจน์ เพชรขุ้ม"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{กล่องข้อมูล นักมวย |
{{กล่องข้อมูล นักมวย |
||
| ชื่อ = วรพจน์ เพชรขุ้ม |
| ชื่อ = วรพจน์ เพชรขุ้ม |
||
| ชื่อจริง = |
| ชื่อจริง = พ.อ.วรพจน์ เพชรขุ้ม |
||
| ภาพ = [[ไฟล์:Worapoj Petchkoom.jpg|200px|center|วรพจน์ เพชรขุ้ม]] |
| ภาพ = [[ไฟล์:Worapoj Petchkoom.jpg|200px|center|วรพจน์ เพชรขุ้ม]] |
||
| ฉายา = |
| ฉายา = |
||
บรรทัด 33: | บรรทัด 33: | ||
{{MedalBottom}} |
{{MedalBottom}} |
||
''' |
'''พันเอก วรพจน์ เพชรขุ้ม''' เกิดวันที่ [[18 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2524]] ที่[[อำเภอพนม]] [[จังหวัดสุราษฎร์ธานี]] เป็น[[นักกีฬา]][[มวยสากลสมัครเล่น]][[ชาวไทย]] เจ้าของเหรียญเงินใน[[กีฬาโอลิมปิก]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2547]] ที่[[ประเทศกรีซ]]<ref>นิพนธ์ ขาวอุบล. วรพจน์ เพชรขุ้ม 'รับใช้ชาติ 16 ปี..ผมพอแล้ว. '''มวยสยามรายวัน'''. ปีที่ 19 ฉบับที่ 6814. วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555. หน้า 16</ref> และได้รับเกียรติให้เป็นผู้เชิญ[[ธงชาติไทย]]นำขบวนนักกีฬา[[ประเทศไทยในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008|ทีมชาติไทย]] ใน[[พิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2008]] และในการแข่งขัน[[มวยสากลในเอเชียนเกมส์ 2010]] วรพจน์ชนะนักมวยจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพ และวรพจน์ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นับเป็นเหรียญทองแรกของวรพจน์ในเอเชียนเกมส์ เหรียญทองเดียวของมวยสากลสมัครเล่นไทยในการแข่งขันครั้งนี้ และเหรียญทองสุดท้ายของทีมชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้ |
||
==ประวัติ== |
==ประวัติ== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:00, 11 พฤศจิกายน 2557
วรพจน์ เพชรขุ้ม | |
---|---|
ชื่อจริง | พ.อ.วรพจน์ เพชรขุ้ม |
รุ่น | แบนตั้มเวท |
เกิด | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 สุราษฎร์ธานี |
สถิติเหรียญโอลิมปิก | ||
---|---|---|
มวยสากลสมัครเล่น | ||
โอลิมปิกฤดูร้อน | ||
เอเธนส์ 2004 | แบนตั้มเวท | |
เอเชียนเกมส์ | ||
กว่างโจว 2010 | แบนตั้มเวท | |
กาตาร์ 2006 | แบนตั้มเวท | |
ซีเกมส์ | ||
บรูไน 1999 | แบนตั้มเวท | |
เวียดนาม 2003 | แบนตั้มเวท | |
ฟิลิปปินส์ 2005 | แบนตั้มเวท | |
โคราช 2007 | แบนตั้มเวท |
พันเอก วรพจน์ เพชรขุ้ม เกิดวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ที่อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นชาวไทย เจ้าของเหรียญเงินในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี พ.ศ. 2547 ที่ประเทศกรีซ[1] และได้รับเกียรติให้เป็นผู้เชิญธงชาติไทยนำขบวนนักกีฬาทีมชาติไทย ในพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 และในการแข่งขันมวยสากลในเอเชียนเกมส์ 2010 วรพจน์ชนะนักมวยจากประเทศจีน ซึ่งเป็นเจ้าภาพ และวรพจน์ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน นับเป็นเหรียญทองแรกของวรพจน์ในเอเชียนเกมส์ เหรียญทองเดียวของมวยสากลสมัครเล่นไทยในการแข่งขันครั้งนี้ และเหรียญทองสุดท้ายของทีมชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้
ประวัติ
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านใหญ่ และเข้าศึกษาในมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพนมศึกษา (มัธยมศึกษาปีที่ 1) ก่อนย้ายไปโรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร (มัธยมศึกษาปีที่ 2) และโรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยทองสุข
โอลิมปิก
โอลิมปิก 2004
วรพจน์ลงแข่งขันในรุ่นแบนตั้มเวท 54 กิโลกรัม ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยขึ้นแข่งขันกับคู่ชกดังต่อไปนี้
- รอบ 32 คนสุดท้าย: ชนะ คิมวอนลี จากเกาหลีใต้ 1-47 หมัด
- รอบ 16 คนสุดท้าย: ชนะ คาวาสซี คัตซีกอฟ จากเบลารุส 33-18 หมัด
- รอบ 8 คนสุดท้าย: ชนะ เนสเตอร์ โบรุม จากไนจีเรีย 29-14 หมัด
- รอบรองชนะเลิศ: ชนะ อักฮาซี มัมมาดอฟ จากอาเซอร์ไบจาน 22-19 หมัด
- รอบชิงชนะเลิศ: แพ้ กิลเลอร์โม ริกอนเดอ๊อกซ์ จากคิวบา 12-22 หมัด[2]
โอลิมปิก 2008
ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน วรพจน์ประกาศว่า ตนจะคว้าเหรียญทองให้ได้ เพื่อนำไปเป็นกำลังใจให้คุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง วรพจน์สามารถผ่านรอบแรกไปโดยไม่ต้องชก เนื่องจากจับสลากได้ผ่านโดยอัตโนมัติ ในรอบสองสามารถเอาชนะ วิตโตริโอ จาฮิน ปาร์ริเนลโล จากอิตาลี ไปได้ขาดลอย 12-1 หมัด[3] แต่รอบสาม หรือรอบ 8 คนสุดท้าย วรพจน์กลับแพ้ให้กับ แยนคีล ลีออน อลาร์คอน จากคิวบา 2-10 หมัด ที่เป็นตัวแทนของกิลเลอร์โม ริกอนเดอ๊อกซ์ คู่ชิงชนะเลิศที่สามารถเอาชนะวรพจน์ไปได้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว[4] โดยภายหลังการชก วรพจน์ถึงกับร่ำไห้ ที่ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดได้เลย[5]
โอลิมปิก 2012
ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร วรพจน์ไม่อาจผ่านไปในรอบสุดท้ายในการแข่งขันได้ ด้วยเป็นฝ่ายแพ้ ชีวา ธาปา นักมวยชาวอินเดีย อายุ 18 ปี ไป 10-16 หมัด ในการแข่งขันคัดเลือกตัวที่ประเทศคาซัคสถาน เมื่อต้นเดือนเมษายน ปีเดียวกัน[6]
ผลงาน
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 21 (บรูไน)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 22 (เวียดนาม)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 23 (ฟิลิปปินส์)
- เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 24 (ไทย)
- เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ 2006 (กาตาร์)
- เหรียญเงินโอลิมปิก 2004 (กรีซ)
- เหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2010 (กว่างโจว จีน)
- เหรียญทองคิงส์คัพ
- เหรียญทองรายการนานาชาติ 2004 (อียิปต์)
กรณีถ่ายแบบ
ในกลางปี พ.ศ. 2552 วรพจน์ตกเป็นข่าวฮือฮาตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าได้ไปถ่ายแบบในกับนิตยสารฉบับหนึ่งในแบบวาบหวิว ทำให้ทางสมาคมมวยสากลสมัครเล่นลงโทษห้ามชกเป็นเวลา 3 เดือน[7]
ดูเพิ่ม
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2547 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้น จตุตถดิเรกคุณาภรณ์[8]
- พ.ศ. 2548 - เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้น ตติยดิเรกคุณาภรณ์
อ้างอิง
- ↑ นิพนธ์ ขาวอุบล. วรพจน์ เพชรขุ้ม 'รับใช้ชาติ 16 ปี..ผมพอแล้ว. มวยสยามรายวัน. ปีที่ 19 ฉบับที่ 6814. วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555. หน้า 16
- ↑ วรพจน์ เพชรขุ้ม นักมวยไทย จาก สุราษฎร์ธานี พ่ายไป 22 12 กลายเป็นนักชกเหรียญเงินคนที่สองของไทย
- ↑ โอลิมปิก 2008: วรพจน์ เพชรขุ้มทะลุชิงทองแดง หลังไล่ตะบันนักชกอิตาลีขาดลอย 12:1
- ↑ โอลิมปิก 2008: วรพจน์ เพชรขุ้มสุดต้าน แพ้นักชกคิวบาขาดลอย 2:10 หมัด
- ↑ วรพจน์ เพชรขุ้ม ให้สัมภาษณ์หลังพลาดเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งน้ำตา
- ↑ ร่วงเรียบ!วรพจน์พ่ายนักชกโรตีวัย18ปีชวดตั๋วอลป. จากสยามสปอร์ต
- ↑ วรพจน์ เพชรขุ้ม ถ่ายนู้ด นิตยสารเกย์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๑๙ ข ๘ ตุลาคม ๒๕๔๗ หน้า ๑๐
แหล่งข้อมูลอื่น
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2524
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักมวยสากลสมัครเล่นชาวไทยชุดโอลิมปิก 2004
- นักมวยสากลสมัครเล่นชาวไทยชุดโอลิมปิก 2008
- นักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาเหรียญทองเอเชียนเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ชาวไทย
- นักกีฬาไทยที่ได้เหรียญเงินโอลิมปิก
- บุคคลจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ทหารบกชาวไทย
- บุคคลจากสถาบันการพลศึกษา
- บุคคลจากวิทยาลัยทองสุข