ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เดอะวอยซ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
→‎Battle Round: เป็นการต้อสู้เหมือนสตรีทไฟท์เตอร์ ที่เอานักร้องมาโชว์พลัง ที่มองไม่เห็นออกมา
โชริวเคน !!
บรรทัด 6: บรรทัด 6:


== Battle Round ==
== Battle Round ==
เมื่อโค้ชแต่ละคนได้สมาชิกในทีมแล้ว ก็จะเข้าสู่การแข่งรอบ The Battle ที่หลังจากผ่านการฝึกฝนแล้ว สมาชิกในทีมของโค้ชแต่ละคนจะถูกจับคู่ให้มาร้องด้วยกัน ในเพลงเดียวกันที่จะแบ่งท่อนกันร้อง และจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะเลือกสมาชิกคนใดให้เข้ารอบถัดไป ซึ่งในรอบนี้โค้ชคนอื่น สามารถแย่งชิงลูกทีมคนที่ตกรอบจากการ Battle นั้นๆ (Steal) มาเข้าทีมตัวเองได้ 2 คนทำให้สุดท้ายจะเหลือสมาชิกในแต่ละทีม 8 คน
เป็นการต้อสู้เหมือนสตรีทไฟท์เตอร์ ที่เอานักร้องมาโชว์พลัง ที่มองไม่เห็นออกมา โดยการสาดกลิ่นที่รุนแรง และ แผดสร่าน ที่แม้แต่สิ่งใดก็เทียบมิได้
หลังจากผ่านไปในยกที่ หนึ่ง จะเห็นได้ว่าจากประสบการณ์ ของนักร้อง ก็จะเริ่มใช้พลัง ก็อกที่สองออกมา และเมื่อเข้ายกที่สาม ก็จะปล่อยทุกอย่างที่มีออกมาเต็มที่


== The Knockouts ==
== The Knockouts ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:02, 17 ตุลาคม 2557

The Voice รายการเรียลีตี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรายการที่มีต้นแบบจาก The Voice of Holland ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะมีโค้ช 4 คนในแต่ละฤดูกาลที่มีความถนัดประเภทร้องเพลงแตกต่างกัน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการสลับเปลี่ยนตัวโค้ชกันไปมาในแต่ละฤดูกาล โดยในปัจจุบันมีโค้ชในรายการรวมแล้ว 8 คนดังนี้ คริสตีน่า อากีเลร่า , ซีโล กรีน , อดัม เลวีท , เบล็ค เชลตัน , ชาร์กีร่า , อัชเชอร์ , ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ , เกว็น สเตฟานี และการคัดเลือกจะไม่เหมือนการประกวดร้องเพลงทั่วๆ ไปเนื่องจากมีหลายรอบการแสดงและรูปแบบที่แตกต่างกันเพื่อให้เกิดความหลากหลาย และเค้นศักยภาพในด้านต่างๆ ออกมาให้มากที่สุด โดยจะมี 5 รอบการแข่งขันที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้

The Blind Audition

ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับเลือก จะต้องเข้ามาร้องเพลงเพื่อให้โค้ชทั้ง 4 คนฟังโดยกรรมการจะมองไม่เห็นผู้เข้าแข่งขันก่อน จะได้ยินเพียงแต่เสียงเท่านั้นเมื่อกรรมการต้องการนักร้องจะกดปุ่มสีแดงและจะมีคำว่า "I WANT YOU" ขึ้นและเก้าอี้จะหมุนขึ้นมา เมื่อจบเพลง ถ้ามีโค้ชกดคนเดียว ผู้เข้าแข่งขันจะเข้าไปอยู่ในทีมนั้นๆ โดยทันที แต่ถ้ามีโค้ชกดมากกว่า 1 คนผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกเองว่าจะอยู่ทีมใดที่กดเลือกมา สรุปแต่ละทีมจะมีสมาชิก 12 คน

Battle Round

เมื่อโค้ชแต่ละคนได้สมาชิกในทีมแล้ว ก็จะเข้าสู่การแข่งรอบ The Battle ที่หลังจากผ่านการฝึกฝนแล้ว สมาชิกในทีมของโค้ชแต่ละคนจะถูกจับคู่ให้มาร้องด้วยกัน ในเพลงเดียวกันที่จะแบ่งท่อนกันร้อง และจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะเลือกสมาชิกคนใดให้เข้ารอบถัดไป ซึ่งในรอบนี้โค้ชคนอื่น สามารถแย่งชิงลูกทีมคนที่ตกรอบจากการ Battle นั้นๆ (Steal) มาเข้าทีมตัวเองได้ 2 คนทำให้สุดท้ายจะเหลือสมาชิกในแต่ละทีม 8 คน

The Knockouts

ในรอบนี้โค้ช จะทำการจับลูกทีมกันเองเหมือนรอบ Battle แต่ต่างกันตรองที่จะร้องคนละเพลงแล้วตัดสินไปเลยว่าให้ใครผ่านเข้ารอบถัดไป โดยในรอบนี้โค้ชคนอื่นสามารถกด Steal กับลูกทีมคนอื่นที่ตกรอบจากการ Knockouts นั้นๆ ผ่านเข้าไปสู่รอบ Live Show และย้ายเข้ามาอยู่ทีมตนเองได้ 1 คนทำให้สุดท้ายจะเหลือสมาชิกในแต่ละทีม 5 คน

The Play Offs

The Play Offs เป็นการแสดงโชว์เต็มรูปแบบเหมือนรอบ Live Show แต่ไม่ได้ทำการถ่ายทอดสด โดยโค้ชจะทำการคัดออก 2 คนจาก 5 คนที่มีอยู่ในทีม ให้เข้าสู่รอบ Live Show ต่อไปโดยไม่มีการโหวตใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ในรอบนี้โค้ชจะได้เห็นการร้องเดี่ยวและองค์ประกอบการโชว์เต็มรูปแบบ สุดท้ายจะเหลือทีมละ 3 คน

Live Show

จากทีมละ 3 คนรวมทั้งหมดเป็น 12 คน โดยจะไม่มีการแยกทีมกันแต่อย่างใด และโค้ชจะไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจใดๆ อีกและจะใช้ผลโหวตตัดสินเท่านั้น โดยทุกสัปดาห์ผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดออกทีละ 2 คนโดยเริ่มจาก 12 และคัดออก 1 คนในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะเหลือ 3 คนสุดท้ายเป็นรอบชิงชนะเลิศ เพื่อหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว

ดูเพิ่ม

อ้างอิง