ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรีโกรี รัสปูติน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
KuroiSchwert (คุย | ส่วนร่วม)
KuroiSchwert (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 60: บรรทัด 60:
3 วันต่อมา ศพของรัสปูตินถูกพบ และถูกส่งไปชันสูตร ผลการชันสูตร พบสารไซยาไนด์และกระสุนปืนจำนวนมากในร่างของรัสปูติน แต่ร่างกายของรัสปูตินเสียชีวิตเพราะการจมน้ำ ส่วนไซยาไนด์และกระสุนปืนนั้นไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิต
3 วันต่อมา ศพของรัสปูตินถูกพบ และถูกส่งไปชันสูตร ผลการชันสูตร พบสารไซยาไนด์และกระสุนปืนจำนวนมากในร่างของรัสปูติน แต่ร่างกายของรัสปูตินเสียชีวิตเพราะการจมน้ำ ส่วนไซยาไนด์และกระสุนปืนนั้นไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิต


ข่าวความตายของรัสปูตินแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรสร้างความโศกแก่อเล็กซานดรายิ่งนัก ไม่ใช้เพราะเสียคนสนิท แต่เนื่องจากก่อนหน้าที่รัสปูตินจะตายไม่นาน เขาได้บันทึกสั้นๆ ถึงพระองค์ว่า
ข่าวความตายของรัสปูตินแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรสร้างความโศกแก่อเล็กซานดรายิ่งนัก ไม่ใช่เพราะเสียคนสนิท แต่เนื่องจากก่อนหน้าที่รัสปูตินจะตายไม่นาน เขาได้บันทึกสั้นๆ ถึงพระองค์ว่า


"ขอได้ทรงรับรู้ว่า หากคนที่ฆ่าหม่อมชั้นตายเป็นคนสามัญธรรมดา ราชวงศ์โรมานอฟก็จะยั่งยืนต่อไป แต่ถ้าหากเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทำให้หม่อมชั้นตาย พระองค์และครอบครัวจะต้องสิ้นพระชนม์ในสองปี จากฝีมือของประชาชนในรัสเซีย" เกรกอรี รัสปูติน
"ขอได้ทรงรับรู้ว่า หากคนที่ฆ่าหม่อมชั้นตายเป็นคนสามัญธรรมดา ราชวงศ์โรมานอฟก็จะยั่งยืนต่อไป แต่ถ้าหากเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทำให้หม่อมชั้นตาย พระองค์และครอบครัวจะต้องสิ้นพระชนม์ในสองปี จากฝีมือของประชาชนในรัสเซีย" เกรกอรี รัสปูติน

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:48, 28 มิถุนายน 2557

กรีโกรี รัสปูติน
Grigori Rasputin
เกิด21 มกราคม ค.ศ. 1869(1869-01-21)
หมู่บ้าน Pokrovskoye ,Tyumen Oblast, ไซบีเรีย, จักรวรรดิรัสเซีย
เสียชีวิต30 ธันวาคม ค.ศ. 1916 (อายุ 47)
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
สาเหตุเสียชีวิตฆาตกรรม
อาชีพชาวไร่ คนเร่ร่อน แพทย์แผนโบราณ ที่ปรึกษา
คู่สมรสPraskovia Fedorovna Dubrovina
บุตรDmitri (1895–1937)
Matryona (1898–1977)
Varvara (1900–1925)
บิดามารดาEfim Vilkin Rasputin
Anna Parshukova

เกรกอรี เอฟีโมวิช รัสปูติน[1][ก] ([Григо́рий Ефи́мович Распу́тин (Grigoriy Efimovič Rasputin)] ข้อผิดพลาด: {{Lang-xx}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); อังกฤษ: Grigori Yefimovich Rasputin) เป็นนักบวช ผู้ที่มีพลังจิตพิเศษที่มีบทบาทในยุคปลายราชวงศ์โรมานอฟของประเทศรัสเซีย แต่การมีบทบาทและอิทธิพลของเขานั้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การล่มสลายของราชวงศ์โรมานอฟ

ก่อนเข้ามามีบทบาทในราชสำนัก

เจ้าชายอะเลคเซย์ คนไข้ที่พลิกชีวิตรัสปูติน

รัสปูตินเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1869 ที่หมู่บ้านโปครอฟสกี เมืองโตบอลส์ก (ปัจจุบันคือเขตปกครองทยูแมนโฮบลาสต์) ในไซบีเรีย ในครอบครัวเกษตรกร สันนิษฐานว่าเขามีความเชื่อในนิกายคริสติ และค็อปสตี ซึ่งในสมัยนั้นเป็นนิกายที่นอกรีต ต่อมาในวัยเด็ก รัสปูติน ก็ดูมีความสามารถพิเศษในการทำนายอนาคตได้อย่างค่อนข้างถูกต้อง

ในวัยเด็กและวัยหนุ่ม การที่รัสปูตินมีพลังพิเศษที่อธิบายไม่ได้ ประกอบกับอุปนิสัยที่เงียบขรึม และบางครั้งก็ชอบทำอะไรแปลกๆ ทำให้คนรอบข้างหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่กล้าพูดด้วย จนใน ค.ศ. 1887 รัสปูตินได้เข้าถือพรตเป็นนักพรตในศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย พำนักอยู่ในอาราม Verkhoturye และมีมาคาเรีย (Makariy) เป็นอาจารย์ ในช่วงแรก ผู้คนในเมืองที่รัสปูตินพำนัก ต่างนับถือ แต่ต่อมา เมื่อผู้คนพบกับธาตุแท้ ต่างเรียกรัสปูตินว่า Icha หรือ "นักพรตวิปลาส"

ค.ศ. 1889 รัสปูตินแต่งงานกับปราสโกเวีย เฟโอโดรอฟนา ดูโบรวินา (Praskovia Fyodorovna) และมีลูกด้วยกัน 4 คน แต่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก 1 คน ส่วนอีก 3 คน ได้แก่ Dmitri เกิดใน ค.ศ. 1897 , Matryona เกิดใน ค.ศ. 1898 และ Varvara เกิดใน ค.ศ. 1900

ค.ศ. 1901 รัสปูตินออกเดินทางแสวงบุญไปยังกรีกและเยรูซาเลม เป็นเวลา 2 ปี

ค.ศ. 1903 รัสปูตินเดินทางกลับมาถึงรัสเซีย และอ้างตนเป็นผู้มีพลังพิเศษ สามารถทำนายอนาคตและรักษาโรคได้

ค.ศ. 1904 เจ้าชายอะเลคเซย์ พระราชโอรสองค์สุดท้องในพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย ประสูติ แต่มีพระอาการประชวรด้วยโรคฮีโมฟีเลีย (Haemophillia) หรือพระโลหิตไหลออกง่ายและหยุดยาก เนื่องจากพระโลหิตผิดปกติ ซึ่งในสมัยนั้นโรคนี้สามารถคร่าชีวิตคนได้ พระเจ้าซาร์หาหมอมือดีมาหลายคนก็ไม่สามารถรักษาพระอาการได้

ค.ศ. 1905 รัสปูตินเดินทางมาในพระราชวัง และสามารถรักษาพระอาการป่วยของเจ้าชายอะเลคเซย์ได้ (ซึ่งปัจจุบัน ข้อสันนิษฐานที่นักประวัติศาสตร์คิดว่าเป็นไปได้มากที่สุดของวิธีที่รัสปูตินใช้ คือ สะกดจิตให้เจ้าชายหลับไป และปล่อยให้ระบบในพระวรกายเยียวยาเจ้าชายอย่างเงียบๆ จนมีพระอาการดีขึ้น) จักรพรรดินีอเล็กซานดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย (เจ้าหญิงอลิกซ์แห่งเฮสส์และไรน์) พระมารดาของเจ้าชายอะเลคเซย์ และพระมเหสีในพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จึงขอให้รัสปูตินเข้ามาอยู่ในวัง เพื่อดูแลอะเลคเซย์ต่อ ทำให้ชีวิตของรัสปูติน เริ่มมีบทบาทและอำนาจขึ้นมา

รัสปูตินในวังหลวง

หลังจากรัสปูตินอยู่ในวังหลวงได้สักพัก รัสปูตินก็เริ่มจัดงานเลี้ยงเพื่อล้างบาป ซึ่งงานเลี้ยงแต่ละครั้ง ก็ใช้เงินมาก และยิ่งนานวัน รัสปูตินยิ่งสั่งจัดงานเลี้ยงล้างบาปบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนดูพร่ำเพรื่อ และคนภายนอกเริ่มมองว่ารัสปูตินต้องการเสวยสุขจากงานเลี้ยงมากกว่า

ค.ศ. 1914 สถานการณ์โลกไม่ค่อยดีนัก มีแววว่าสงครามโลกกำลังจะเกิดขึ้น รัสเซียเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนอดอยากแร้นแค้น พระเจ้าซาร์ทรงให้รัสปูตินลดๆ การจัดงานล้างบาปลงเสียบ้าง เพราะจะได้นำเงินไปใช้ทำสงคราม และดูแลประชาชน รัสปูตินไม่พอใจ เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 รัสปูตินก็แกล้งทำนายพระเจ้าซาร์ว่า พระเจ้าซาร์ต้องไปบัญชาการรบเอง รัสเซียจึงจะมีชัย เพื่อให้พระเจ้าซาร์ออกไปรบ และจักรพรรดินีอเล็กซานดรา ซึ่งเชื่อรัสปูตินแทบทุกอย่างได้ปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อรัสปูติน จะได้ทำตามใจตนเอง ครั้งหนึ่ง ซาร์นิโคลัส ลังเลพระทัยว่าจะเคลื่อนทัพไปทางเหนือหรือใต้ดี ซาริน่า ถวายคำแนะนำให้ไปทางเหนือตามคำแนะนำของ รัสปูติน โดยเชื่อว่าเป็นญาณวิเศษ แต่ผลกลับทำให้กองทัพรัสเซียสูญเสียอย่างหนัก

ความเดือดร้อนที่ประชาชนแบกรับ ต่อมา ได้เกิดเป็นการประท้วง ตามด้วยการจลาจล และการก่อการปฏิวัติ ทำให้พระเจ้าซาร์ ต้องกลับมาจากสนามรบ เมื่อกลับมา รัสปูตินก็ปรนเปรอพระเจ้าซาร์ด้วยงานเลี้ยงรื่นเริงเข้าไปอีก ทำให้พระเจ้าซาร์เริ่มปฏิบัติงานน้อยลง และฝากงานต่างๆ ให้รัสปูตินมากขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่า พระเจ้าซาร์ และจักรพรรดินีอเล็กซานดร้าเป็นหุ่นเชิดของรัสปูติน

การบริหารงานของรัสปูติน เริ่มสร้างความไม่พอใจในหมู่ประชาชน จนเริ่มมีแววว่าจะเกิดความวุ่นวายในรัสเซีย

จุดจบของรัสปูติน

เจ้าชายเฟลิกซ์ (ซ้าย) คนสำคัญที่วางแผนสังหารรัสปูติน
แกรนด์ดยุกดิมิทรี พัฟโลวิช คนสำคัญที่ร่วมวางแผนสังหารรัสปูติน

ค.ศ. 1916 เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซ์ป็อป (Felix Yussupov) เห็นว่าเก็บรัสปูตินไว้จะเป็นภัยต่อชาติ จึงร่วมมือกับแกรด์ดยุกดมิทรี พัฟโลวิช (Grand Duke Dmitri Pavlovich) ลวงสังหารรัสปูติน โดยจะเชิญรัสปูตินไป โดยอ้างว่าเป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ในวังเจ้าชาย และจะวางยาพิษไซยาไนด์ในเครื่องดื่มและเค้กของรัสปูติน

เมื่อรัสปูตินทานเค้กจนหมด ก็ดูไม่เป็นอะไร เหมือนไม่ได้ถูกยาพิษใดๆ เจ้าชายเฟลิกซ์จึงยิงปืนใส่รัสปูตินหลายนัด รัสปูตินก็ยังไม่เสียชีวิต เดินออกมาข้างนอกวัง กลุ่มข้าราชบริพารของเจ้าชายเฟลิกซ์ที่เจ้าชายเตรียมไว้ ก็ระดมยิงปืนใส่ ก็ยังไม่เสียชีวิต ผลสุดท้าย ข้าราชบริพารจึงยิงปืนใส่ตารัสปูตินจนตกลงไปในน้ำ เสียชีวิตในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 1916 รวมอายุ 47 ปี

3 วันต่อมา ศพของรัสปูตินถูกพบ และถูกส่งไปชันสูตร ผลการชันสูตร พบสารไซยาไนด์และกระสุนปืนจำนวนมากในร่างของรัสปูติน แต่ร่างกายของรัสปูตินเสียชีวิตเพราะการจมน้ำ ส่วนไซยาไนด์และกระสุนปืนนั้นไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิต

ข่าวความตายของรัสปูตินแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรสร้างความโศกแก่อเล็กซานดรายิ่งนัก ไม่ใช่เพราะเสียคนสนิท แต่เนื่องจากก่อนหน้าที่รัสปูตินจะตายไม่นาน เขาได้บันทึกสั้นๆ ถึงพระองค์ว่า

"ขอได้ทรงรับรู้ว่า หากคนที่ฆ่าหม่อมชั้นตายเป็นคนสามัญธรรมดา ราชวงศ์โรมานอฟก็จะยั่งยืนต่อไป แต่ถ้าหากเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทำให้หม่อมชั้นตาย พระองค์และครอบครัวจะต้องสิ้นพระชนม์ในสองปี จากฝีมือของประชาชนในรัสเซีย" เกรกอรี รัสปูติน

มีนาคม 1917 ไม่ถึง 3 เดือน หลังการตายของรัสปูติน กระแสการปฏิวัติเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่นครหลวงของรัสเซีย ขบวนชาวนาและคนงานอุตสาหกรรมแห่กันมาถวายฏีกาให้ปรับปรุงระบบการบริหารประเทศ แต่องค์รักษ์วังหลวงกลับต่อต้านด้วยอาวุธปืน ความจลาจลวุ่นวายเกิดขึ้น และผลสุดท้ายซาร์จำใจต้องสละราชบัลลังก์ พระองค์และเชื้อพระวงศ์ถูกควบคุมตัว และไปกักขังไว้ ณ ไซบีเรียอันห่างไกลและทุรกันดาล

หลังการตายของรัสปูติน

ก่อนเสียชีวิต รัสปูตินสามารถทำนายอนาคตตนเองได้ว่ากำลังจะเสียชีวิตเร็วๆ นี้ และได้พบกับคำทำนายบางสิ่ง จึงเขียนคำทำนายฉบับสุดท้ายฝากคนรับใช้ให้ไปส่งให้พระเจ้าซาร์ ฉบับนั้น เขียนไว้ในทำนองว่า ถ้าตัวเขาเองถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของสามัญชน ราชวงศ์โรมานอฟจะปกครองรัสเซียไปได้อีกหลายร้อยปี แต่ถ้าตัวเขาเองถูกฆ่าตายโดยเชื้อพระวงศ์ หรือบรรดาศักดิ์ ราชวงศ์โรมานอฟจะถูกโค่นล้มในอีก 2 ปีข้างหน้า นองจากนี้ยังเขียนทำนองว่า รัสปูตินจะเสียชีวิตก่อนที่จดหมายฉบับนี้จะไปถึงพระเจ้าซาร์

ทุกอย่างในคำทำนายเป็นจริง รัสปูติน เสียชีวิตก่อนที่คนใช้จะนำจดหมายคำทำนายไปถึงพระเจ้าซาร์ และเมื่อคนที่ฆ่ารัสปูตินเป็น "เจ้าชาย" ดังนั้น ค.ศ. 1917 เกิดการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์โรมานอฟจริงๆ หนำซ้ำ ค.ศ. 1918 ราชวงศ์โรมานอฟถูกตัดสินโทษประหารชีวิต

เชิงอรรถ

ก.   ^ ที่ถูก คำ "Rasputin" ตามสำเนียงรัสเซีย อ่านว่า "ระสฺปูติน" ("ระ-สฺปู-ติน") โดย "ระ" กับ "สฺปู" นั้นเป็นคนละพยางค์กัน (/rʌˈsputyɪn/; Ra·spu·tin) ส่วนสำเนียงอังกฤษว่า "แรสพฺยูทิน" (ræˈspyutɪn) อนึ่ง ชื่อเต็มคือ "Grigori Yefimovich Rasputin" นั้น สำเนียงรัสเซียว่า "กริกอรี ยิฟีเมอวิช ระสฺปูติน" (/gryɪˈgɔryi yɪˈfyiməvyɪtʃ rʌˈsputyɪn/) ส่วนสำเนียงอังกฤษว่า "กริกอรี อิฟีเมอะวิช แรสพฺยูทิน" (/grɪˈgɔri ɪˈfiməvɪtʃ ræˈspyutɪn/)

อ้างอิง

  • Fuhrmann, Joseph T (1990). Rasputin: A Life (illustrated ed.). New York: Praeger. p. 276. ISBN 027593215X. OCLC 19269485. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า s: |laysummary= และ |laydate= (help)
  • Massie, Robert K (2004) [originally in New York : Atheneum Books, 1967]. Nicholas and Alexandra: An Intimate Account of the Last of the Romanovs and the Fall of Imperial Russia (Common Reader Classic Bestseller ed.). United States: Tess Press. p. 672. ISBN 157912433X. OCLC 62357914. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า s: |laydate= และ |laysummary= (help)
  • Radzinsky, Edvard (2000) [originally in London : Weidenfeld & Nicolson, 2000]. Rasputin: The Last Word. translator Judson Rosengrant. St Leonards, New South Wales, Australia: Allen & Unwin. p. 704. ISBN 1865085294. OCLC 155418190. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า s: |laydate=, |laysummary= และ |trans_title= (help)

หนังสืออ่านเพิ่มเติม

  • King, Greg (1998) [Originally by Carol Pub. in 1995]. The Man Who Killed Rasputin: Prince Felix Youssoupov and the Murder That Helped Bring Down the Russian Empire (illustrated ed.). Secaucus, New Jersey: Citadel Press. ISBN 0806519711. {{cite book}}: Cite ไม่รู้จักพารามิเตอร์ว่างเปล่า s: |month=, |laysummary= และ |laydate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น