ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เดอะวอยซ์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 6: | บรรทัด 6: | ||
== Battle Round == |
== Battle Round == |
||
เมื่อ |
เมื่อโค้ชแต่ละคนได้สมาชิกในทีมแล้ว ก็จะเข้าสู่การแข่งรอบ The Battle ที่หลังจากผ่านการฝึกฝนแล้ว สมาชิกในทีมของโค้ชแต่ละคนจะถูกจับคู่ให้มาร้องด้วยกัน ในเพลงเดียวกันที่จะแบ่งท่อนกันร้อง และจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะเลือกสมาชิกคนใดให้เข้ารอบถัดไป ซึ่งในรอบนี้โค้ชคนอื่น สามารถแย่งชิงลูกทีมคนที่ตกรอบจากการ Battle นั้นๆ (steal) มาเข้าทีมตัวเองได้ 2 คน |
||
== The Knockouts == |
|||
ในรอบนี้โค้ช จะทำการจับลูกทีมกันเองเหมือนรอบ Battle แต่ต่างกันตรองที่จะร้องคนละเพลงแล้วตัดสินไปเลยว่าให้ใครผ่านเข้ารอบถัดไป โดยในรอบนี้โค้ชคนอื่นสามารถกดให้ Free Pass (เหมือนการกด steal) กับลูกทีมคนอื่นที่ตกรอบจากการ Knockouts นั้นๆ ผ่านเข้าไปสู่รอบ Live Show และย้ายเข้ามาอยู่ทีมตนเองได้ 1 คน |
|||
== Live Show == |
== Live Show == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:17, 26 กุมภาพันธ์ 2557
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
The Voice รายการเรียลีตี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรายการที่มีต้นแบบจาก The Voice of Holland ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะมีกรรมการ 4 คน ได้แก่ คริสตีน่า อากีเลร่า,ซี โล กรีน,อดัม เลวีท,เบล็ค เชลตัน โดยมีรอบดังนี้
The Blind Audition
ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับเลือก จะต้องเข้ามาร้องเพลงเพื่อ ให้กรรมการทั้ง 4 คน โดยกรรมการจะมองไม่เห็นผู้เข้าแข่งขันก่อน จะได้ยินเพียงแต่เสียงเท่านั้นเมื่อกรรมการต้องการ นักร้องจะกดปุ่มสีแดงและจะมีคำว่า "I WANT YOU" ขึ้นและเก้าอี้จะหมุนขึ้นมา เมื่อจบเพลง ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกกรรมการที่จะเป็นโค้ชโดยเลือกได้สูงสุด 8 คน (เพิ่มจำนวนมาที่ 12 และ 16 ในปีถัดๆ ไป)
Battle Round
เมื่อโค้ชแต่ละคนได้สมาชิกในทีมแล้ว ก็จะเข้าสู่การแข่งรอบ The Battle ที่หลังจากผ่านการฝึกฝนแล้ว สมาชิกในทีมของโค้ชแต่ละคนจะถูกจับคู่ให้มาร้องด้วยกัน ในเพลงเดียวกันที่จะแบ่งท่อนกันร้อง และจะเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะเลือกสมาชิกคนใดให้เข้ารอบถัดไป ซึ่งในรอบนี้โค้ชคนอื่น สามารถแย่งชิงลูกทีมคนที่ตกรอบจากการ Battle นั้นๆ (steal) มาเข้าทีมตัวเองได้ 2 คน
The Knockouts
ในรอบนี้โค้ช จะทำการจับลูกทีมกันเองเหมือนรอบ Battle แต่ต่างกันตรองที่จะร้องคนละเพลงแล้วตัดสินไปเลยว่าให้ใครผ่านเข้ารอบถัดไป โดยในรอบนี้โค้ชคนอื่นสามารถกดให้ Free Pass (เหมือนการกด steal) กับลูกทีมคนอื่นที่ตกรอบจากการ Knockouts นั้นๆ ผ่านเข้าไปสู่รอบ Live Show และย้ายเข้ามาอยู่ทีมตนเองได้ 1 คน
Live Show
ในรอบ Live Show จะทำการแสดงสดและใช้การคัดเลือกเหมือนรายการร้องเพลงทั่วๆ ไปแต่อาจจะมีการลูกเล่นต่างๆ บ้างที่แตกต่างกันออกไปและจะหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว