ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรเบิร์ต กัมปิน"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata |
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต: เปลี่ยนจาก หมวดหมู่:จิตรกรยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้น ไปยัง หมวดหมู่:จิตรกรสมัยเนเธอร์แ... |
||
บรรทัด 56: | บรรทัด 56: | ||
[[หมวดหมู่:ชาวดัตช์|คแมแพง]] |
[[หมวดหมู่:ชาวดัตช์|คแมแพง]] |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 15|คแมแพง]] |
[[หมวดหมู่:จิตรกรในคริสต์ศตวรรษที่ 15|คแมแพง]] |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกร |
[[หมวดหมู่:จิตรกรสมัยเนเธอร์แลนด์เริ่มแรก|คแมแพง]] |
||
[[หมวดหมู่:จิตรกรสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา|คแมแพง]] |
[[หมวดหมู่:จิตรกรสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา|คแมแพง]] |
||
[[หมวดหมู่:โรแบร์ต แคมแพง|*]] |
[[หมวดหมู่:โรแบร์ต แคมแพง|*]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:44, 19 กุมภาพันธ์ 2557
โรแบร์ต แคมแพง (ภาษาอังกฤษ: Robert Campin) (ราว ค.ศ. 1375 - 26 เมษายน ค.ศ. 1444) เป็นจิตรกรยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้นของประเทศเนเธอร์แลนด์ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีความเชี่ยวชาญทางการเขียนจิตรกรรมแผง และเขียนบานพับภาพ โรแบร์ต แคมแพงมักจะสันนิษฐานว่าเป็นคนคนเดียวกับจิตรกรที่เรียกกันว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” (Master of Flémalle) ประวัติของแคมแพงมีเนื้อหาค่อนข้างสมบูรณ์สำหรับชีวิตคนในยุคนั้น[1] แต่ไม่มีงานชิ้นใดที่กล่าวได้แน่นอนว่าเป็นของแคมแพง ขณะที่งานส่วนใหญ่กล่าวกันว่าเป็นงานของผู้เรียกกันว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกตามภาพเขียน[2]
ชีวิต
โรแบร์ต แคมแพงดูเหมือนจะมีญาติอยู่ที่วาลองซิเอนส์ (Valenciennes) ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส เมื่อเริ่มแรกแคมแพงตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ทอร์เน (Tournai) ปัจจุบันอยู่ในประเทศเบลเยียม ระหว่างปี ค.ศ. 1405-1406 และเป็นสมาชิกสมาคมจิตรกรที่นั่น ในปี ค.ศ. 1410 แคมแพงซื้อสัญชาติซึ่งคงหมายความว่าแคมแพงไม่ได้เกิดในที่นั่น ต่อมาแคมแพงก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของสมาคมและหน้าที่ต่างๆ ที่วัดและสำนักงานท้องถิ่น รวมทั้งมีเวิร์คชอพใหญ่เป็นของตนเอง แต่แคมแพงถูกปลดจากตำแหน่งเพราะเหตุการณ์เล่าลือและถูกลงโทษให้ไปแสงบุญ ในปี ค.ศ. 1429 แคมแพงก็ถูกตัดสินว่ามีชู้และถูกลงโทษให้ขับออกจากเมืองไปปีหนึ่ง แต่มาร์กาเร็ตแห่งเบอร์กันดีชายาของวิลเลียมที่ 2 ผู้เป็นดุคแห่งบาวาเรีย-สเตราบิง และน้องของจอห์นผู้เก่งกล้าผู้เป็นดุคแห่งเบอร์กันดีก็เข้ามาช่วยลดการลงโทษให้เหลือเพียงแค่ปรับ[3] งานบานพับภาพที่ลงปีที่ทำว่าเป็น ค.ศ. 1438 แสดงว่าแคมแพงยังคงทำงานอยู่จนถึงเวลานั้น บานพับภาพนี้เหลืออยู่เพียงบานปีกสองข้าง บานกลางสูญหายไป
จิตรกร และ ลักษณะภาพ
ถึงแม้ว่าแคมแพงจะได้รับอิทธิพลจากศิลปินหนังสือวิจิตรรุ่นเดียวกันแต่งานของแคมแพงมีลักษณะเป็นสัจจะนิยมมากกว่าจิตรกรคนอื่นก่อนหน้านั้น แคมแพงเป็นจิตรกรคนแรกที่ทดลองการใช้สีน้ำมันแทนการใช้สีฝุ่นผสมเพื่อให้ได้สีที่สดขึ้นอันเป็นลักษณะของจิตรกรรมในสมัยนั้น แคมแพงใช้วิธีการเขียนแบบทัศนียภาพในการทำให้แบบมีลักษณะเป็นสามมิติมากขึ้นโดยการใช้แสงและเงาช่วยในการจัดองค์ประกอบที่เป็นทัศนียภาพที่ซับซ้อน ประเด็นหนึ่งที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันคือการใช้สัญลักษณ์ซับซ้อนที่ยอมรับกันว่าใช้ในงานของฟาน เอคก็ใช้ในงานของแคมแพงด้วย
นักประวัติศาสตร์ศิลปะได้พยายามที่จะสืบหาต้นตอของศิลปเรอเนซองส์ทางตอนเหนือของยุโรปแต่ก็มีหลักฐานทางตอนเหนือของอิตาลี และเข้าใจกันเป็นเวลานานว่ายาน ฟาน เอคเป็นจิตรกรคนแรกที่ใช้วิธีเขียนแบบใหม่ซึ่งเห็นได้จากหนังสือวิจิตรในการเขียนภาพบนแผ่นไม้ เมื่อมาถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงเป็นที่เห็นได้ชัดว่าฟาน เอคเป็นจิตรกรร่วมสมัยกับผู้เขียนภาพที่รวมทั้ง “ฉากแท่นบูชาเมโรด” ซึ่งเขียนเมื่อ ค.ศ. 1428 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา เป็นฉากแท่นบูชาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและความเหมือนจริง อึกสามแผ่นภาพก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน ว่ากันว่ามาจากแอบบีเฟลมาล (Flémalle) แต่ความจริงแล้วแอบบีเฟลมาลไม่มีจริง ปัจจุบันแผ่นภาพทั้งสามอยู่ที่แฟรงค์เฟิร์ต เป็นที่ถกเถียงกันว่างานเหล่านี้เป็นของ “ครูบาแห่งเฟลมาล” ซึ่งในขณะนั้นไม่สามารถบอกได้เป็นที่แน่นอนว่าใครคือผู้วาดที่แท้จริง
ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักวิชาการหลายท่านให้ความเห็นว่า “ครูบาแห่งเฟลมาล” เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โรแบร์ต แคมแพง ที่มีหลักฐานว่าเป็นครูบาจิตรกรที่ทอร์เนจากปี ค.ศ. 1406 ข้อโต้แย้งมาจากเอกสารที่กล่าวถึงลูกศิษย์สองคนที่แคมแพงรับไว้ที่สติวดิโอในปี ค.ศ. 1427 - ยาร์ค ดาเรท์ (Jacques Daret) และ โรเจเลท์ เดอลา พาสเจอร์ (Rogelet de la Pasture) ชื่อหลังอาจจะเป็นคนเดียวกับ โรเจียร์ ฟาน เดอ เวย์เด็น เพราะชื่อทั้งสอง, ชื่อแรกเป็นภาษาฝรั่งเศสและอีกชื่อหนึ่งภาษาดัทช์ หมายความว่า “ทุ่ง” ในภาษาอังกฤษ งานเขียนฉากแท่นบูชาชิ้นหนึ่งของดาเรท์มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับงานเขียนของ “ครูบาแห่งเฟลมาล” และ งานสมัยแรกๆ ของแคมแพงเป็นอย่างมาก ฉะนั้นจึงน่าจะกล่าวได้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกศิษย์ของ“ครูบาแห่งเฟลมาล” หรือ โรแบร์ต แคมแพง ข้อสันนิษฐานอีกข้อคือบานพับภาพเฟลมาลเขียนโดยโรเจียร์ ฟาน เดอร์ เวย์เด็นเมื่อยังอายุในระหว่างยี่สิบปีกว่าๆ นักวิชาการบางท่านกล่าวว่างาน “ชะลอร่างจากกางเขน” ที่พิพิธภัณฑ์ปราโดเขียนโดยโรแบร์ต แคมแพง มิใช่โรเจียร์ ฟาน เดอร์ เวย์เด็น
งานสมัยแรก
“บานพับภาพการฝังพระเยซู” หรือ “บานพับภาพไซเลิร์น” (Entombment Triptych หรือ Seilern Triptych) ที่สถาบันคอร์ทอล ที่ลอนดอนถือว่าเป็นงานชิ้นแรกๆ ของโรแบร์ต แคมแพงซึ่งเขียนราวปี ค.ศ. 1415-1420[1] บานกลางแสดงให้เห็นอิทธิที่ได้มาจากรูปปั้นในสมัยนั้น (แคมแพงเองก็มีชื่อว่าทาสีรูปปั้นหลายรูป) หลังจากนั้นแคมแพงก็เขียน “การแต่งงานของพรมจารี” (Marriage of the Virgin) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปราโด และ “การประสูติของพระเยซู” (Nativity) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ดิจองในประเทศฝรั่งเศสที่เขียนเมี่อราว ค.ศ. 1420-1425
บานพับภาพเมโรด์
ระหว่างปี ค.ศ. 1425-1430 ดูเหมือนว่าแคมแพงจะเขียน “ฉากแท่นบูชาเมโรด” ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์เมโทรโปลิตัน, นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นภาพที่ซับซ้อนจากหัวเรื่อง “การประกาศของเทพ” แผ่นกลางที่แปลกออกไปที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่บรัสเซลส์ทำให้เห็นว่าบานพับภาพเมโรด์ที่นิวยอร์กไม่ใช่ภาพต้นแบบจริง
งานอื่นๆ
งานอื่นที่กล่าวกันว่าเขียนโดยโรแบร์ต แคมแพงจะหาดูได้ที่ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, พิพิธภัณฑ์ปราโด และพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ, ลอนดอน, อังกฤษ
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
- โรแบร์ต แคมแพงที่ Artcyclopedia (อังกฤษ)
- โรแบร์ต แคมแพงที่ Zeno.org (อังกฤษ)
- แกลเลอรีของงานโดย โรแบร์ต แคมแพง (อังกฤษ)
สมุดภาพ
-
“บานพับภาพเวิร์ล” พิพิธภัณฑ์ปราโด, ประเทศสเปน
-
ภาพเหมือนผู้หญิง
ราว ค.ศ. 1430-1435
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ,
ลอนดอน, อังกฤษ