ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อู๋ อฺวี่เซียง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
Aristitleism ย้ายหน้า อู่ อวี่เซียง ไปยัง อู๋ อฺวี่เซียง
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''อู่ อวี่เซียง''' ({{zh-all|c=武禹襄|p=Wǔ Yǔxiāng}}; ค.ศ. 1812-1880) ชื่อเดิม อู่ เหอชิง ({{zh-all|c=武河清|p=Wǔ Héqīng}}) เป็นข้าราชการ[[ราชวงศ์ชิง]] และเป็นครูสอน[[ไท่เก๊ก]]
'''อู๋ อฺวี่เซียง''' ({{zh-all|c=武禹襄|p=Wǔ Yǔxiāng}}; ค.ศ. 1812-1880) ชื่อเดิม อู่ เหอชิง ({{zh-all|c=武河清|p=Wǔ Héqīng}}) เป็นข้าราชการ[[ราชวงศ์ชิง]] และเป็นครูสอน[[ไท่เก๊ก]]


== พื้นเพ ==
== พื้นเพ ==
เป็นชาวตำบลกว๋างฝู่ อำเภอหย่งเหนียน [[มณฑลเหอเป่ย]] อู่ อวี่เซียงเกิดในตระกูลบัณฑิต มีพี่ชาย 2 คน คือ อู่ เฉิงชิง ({{zh-all|c=武澄清|p=Wǔ Chéngqīng}}) กับ อู่ หยู่ชิง ({{zh-all|c=武汝清|p=Wǔ Rǔqīng}}) ไปเป็นขุนนาง อู่ อวี่เซียงเป็นบัณฑิต ในเหล่าพี่น้องมีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่บ้านเกิด มีอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ, วิเคราะห์วิจัยทางมวยไท่เก๊ก อู่ อวี่เซียงกับพี่ชายรวม 3 คน ชอบศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์ และวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เยาว์วัย มีชาติตระกูลที่มั่งคั่ง มีกิจการห้างขายใบชาอยู่ในเมือง ทั้งถนนด้านทิศตะวันออกและถนนด้านทิศตะวันตก ถนนละ 1 ห้าง ภายหลังได้รวมร้านทั้งสองแห่งเข้ารวมเป็นร้านเดียว โดยร้านทางถนนทิศตะวันตก ได้ปล่อยเช่าให้กับเฉิน เต๋อหู คนของเฉินเจียโกว (หมู่บ้านสกุลเฉิน) ตำบลเวิน [[มณฑลเหอหนาน]] เปิดเป็นร้านขายยาชื่อว่า "ไท้เหอถัง"
เป็นชาวตำบลกว๋างฝู่ อำเภอหย่งเหนียน [[มณฑลเหอเป่ย]] อู๋ อฺวี่เซียงเกิดในตระกูลบัณฑิต มีพี่ชาย 2 คน คือ อู่ เฉิงชิง ({{zh-all|c=武澄清|p=Wǔ Chéngqīng}}) กับ อู๋ หยู่ชิง ({{zh-all|c=武汝清|p=Wǔ Rǔqīng}}) ไปเป็นขุนนาง อู๋ อฺวี่เซียงเป็นบัณฑิต ในเหล่าพี่น้องมีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่บ้านเกิด มีอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ, วิเคราะห์วิจัยทางมวยไท่เก๊ก อู๋ อฺวี่เซียงกับพี่ชายรวม 3 คน ชอบศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์ และวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เยาว์วัย มีชาติตระกูลที่มั่งคั่ง มีกิจการห้างขายใบชาอยู่ในเมือง ทั้งถนนด้านทิศตะวันออกและถนนด้านทิศตะวันตก ถนนละ 1 ห้าง ภายหลังได้รวมร้านทั้งสองแห่งเข้ารวมเป็นร้านเดียว โดยร้านทางถนนทิศตะวันตก ได้ปล่อยเช่าให้กับเฉิน เต๋อหู คนของเฉินเจียโกว (หมู่บ้านสกุลเฉิน) ตำบลเวิน [[มณฑลเหอหนาน]] เปิดเป็นร้านขายยาชื่อว่า "ไท้เหอถัง"


== ประวัติการศึกษามวยไท่เก๊ก ==
== ประวัติการศึกษามวยไท่เก๊ก ==
ใน ช่วงปีรัชกาล[[เต้ากวงฮ่องเต้]] หยาง ลู่ฉาน ({{zh-all|c=杨禄禅|p=Yáng Lùshàn}}) (ค.ศ. 1799-1872) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในหมู่บ้านเดียวกัน ได้กลับมาที่หมู่บ้าน หลังจากที่ได้ร่ำเรียนยุทธจากหมู่บ้านสกุลเฉิน อู่ อวี่เซียงมักจะลองวิชากับหยาง ลู่ฉานเป็นประจำ พบว่ายากที่จะรู้ซึ้งถึงความพิสดารและความลึกซึ้งได้
ใน ช่วงปีรัชกาล[[เต้ากวงฮ่องเต้]] หยาง ลู่ช่าน ({{zh-all|c=杨禄禅|p=Yáng Lùshàn}}) (ค.ศ. 1799-1872) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในหมู่บ้านเดียวกัน ได้กลับมาที่หมู่บ้าน หลังจากที่ได้ร่ำเรียนยุทธจากหมู่บ้านสกุลเฉิน อู๋ อฺวี่เซียงมักจะลองวิชากับหยาง ลู่ช่านเป็นประจำ พบว่ายากที่จะรู้ซึ้งถึงความพิสดารและความลึกซึ้งได้


ในปีที่ 2 ของรัชกาล[[เสียนเฟิงฮ่องเต้]] (ค.ศ. 1852) อู่ เฉิงชิง (ค.ศ. 1800-1884) ซึ่งเป็นพี่ชายของอู่ อวี่เซียง สอบได้จิ้นซื่อ และได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ เป็นนายอำเภอที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน อู่ อวี่เซียงได้รับคำสั่งจากแม่ ให้ไปเยี่ยมเยียนพี่ชายที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน ระหว่างทางซึ่งต้องผ่านหมู่บ้านสกุลเฉิน จึงคิดที่จะไปเยี่ยมเฉินฉางซิง ({{zh-all|c=陈长兴|p=Chén zhǎngxìng}}; ค.ศ. 1771-1853) ซึ่งเป็นอาจารย์ของหยาง ลู่ฉาน เพื่อขอคำชี้แนะ ตอนที่ผ่านหมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง อำเภอเวิน มณฑลเหอหนาน ได้ทราบว่าเฉิน ฉางซิง กำลังป่วยด้วยโรคชรา (ปีนั้นฉางซิงมีอายุได้ 82 ปี และได้ถึงแก่กรรมในปีนั้นเอง) ภายหลังได้รับคำแนะนำจากร้านขายยา "ไท้เหอถัง" ที่หย่งเหนียนว่าที่หมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง มีครูมวยอยู่ท่านหนึ่งคือ เฉิน ชิงผิง ({{zh-all|c=陈清平|p=Chén Qīngpíng}}) มีวิชาหมัดมวยลึกล้ำ มีฝีมือเป็นเลิศ ยากที่จะหาใครทัดเทียมได้ ดังนั้น ระหว่างทางที่อู่ อวี่เซียงเดินทางไปเยี่ยมอู่ เฉิงชิง ผู้พี่ที่อำเภออู่หยาง ได้วกเข้าหมู่บ้านจ้าวเป่า กราบอาจารย์เพื่อเรียนวิชา หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากเฉิน ชิงผิง (ค.ศ. 1795-1868) เป็นเวลาเดือนเศษ ได้เรียนรู้หลักเกณฑ์จนครบถ้วน รู้ลึกถึงความพิสดาร
ในปีที่ 2 ของรัชกาล[[เสียนเฟิงฮ่องเต้]] (ค.ศ. 1852) อู๋ เฉิงชิง (ค.ศ. 1800-1884) ซึ่งเป็นพี่ชายของอู๋ อฺวี่เซียง สอบได้จิ้นซื่อ และได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ เป็นนายอำเภอที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน อู๋ อฺวี่เซียงได้รับคำสั่งจากแม่ ให้ไปเยี่ยมเยียนพี่ชายที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน ระหว่างทางซึ่งต้องผ่านหมู่บ้านสกุลเฉิน จึงคิดที่จะไปเยี่ยมเฉินฉางซิง ({{zh-all|c=陈长兴|p=Chén zhǎngxìng}}; ค.ศ. 1771-1853) ซึ่งเป็นอาจารย์ของหยาง ลู่ช่าน เพื่อขอคำชี้แนะ ตอนที่ผ่านหมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง อำเภอเวิน มณฑลเหอหนาน ได้ทราบว่าเฉิน ฉางซิง กำลังป่วยด้วยโรคชรา (ปีนั้นฉางซิงมีอายุได้ 82 ปี และได้ถึงแก่กรรมในปีนั้นเอง) ภายหลังได้รับคำแนะนำจากร้านขายยา "ไท้เหอถัง" ที่หย่งเหนียนว่าที่หมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง มีครูมวยอยู่ท่านหนึ่งคือ เฉิน ชิงผิง ({{zh-all|c=陈清平|p=Chén Qīngpíng}}) มีวิชาหมัดมวยลึกล้ำ มีฝีมือเป็นเลิศ ยากที่จะหาใครทัดเทียมได้ ดังนั้น ระหว่างทางที่อู๋ อฺวี่เซียงเดินทางไปเยี่ยมอู่ เฉิงชิง ผู้พี่ที่อำเภออู่หยาง ได้วกเข้าหมู่บ้านจ้าวเป่า กราบอาจารย์เพื่อเรียนวิชา หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากเฉิน ชิงผิง (ค.ศ. 1795-1868) เป็นเวลาเดือนเศษ ได้เรียนรู้หลักเกณฑ์จนครบถ้วน รู้ลึกถึงความพิสดาร


== สถาปนามวยไท่เก๊กตระกูลอู่ ==
== สถาปนามวยไท่เก๊กตระกูลอู๋ ==
ในสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ อู่ อวี่เซียงยังได้รับ "บันทึกมวยไท่เก๊ก ({{zh-all|c=太极拳谱|p=Tàijí quán pǔ}})" ซึ่งแต่งโดยซันอิ้วหวังจงเยว่ ({{zh-all|c=山右王宗岳|p=Shān yòu wángzōngyuè}}) จากอู่ เฉิงชิงผู้พี่ ซึ่งได้บันทึกเล่มนี้จากร้านขายเกลือในอำเภออู่หยางอีกทอดนึง หลังจากกลับถึงกว๋างฝู่แล้ว อู่ อวี่เซียงตั้งอกตั้งใจ วิเคราะห์และฝึกฝนสิ่งที่ได้จากบันทึกเล่มนั้น พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดลออ ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ประลองฝีมือกับเหล่ายอดฝีมือ และไม่เคยแพ้ใครเลย ซึ่งยืนยันได้ถึงพลังฝีมือของมวยไท่เก๊กที่ได้ฝึกฝน มาสองปีให้หลังฝีมือรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ได้ค้นพบหลักเกณฑ์อย่างมากมาย ซึ่งได้รับจาการฝึกฝนด้วยตนเอง เข้าใจถึงแก่นวิชาในบันทึกมวยไท่เก๊ก และได้หล่อหลอมเอาสิ่งที่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งเข้ารวมกับหลักพิชัย สงคราม, แนวทางของเต็มว่างเท็จจริง, อรรถาธิบายเกี่ยวกับเส้นลมปราณภายในร่างกายของวิชาแพทย์, วิชาเต้าอิ่นถู่น่าของวิธีการบำรุงสุขภาพ, การเก็บปล่อยพลังของวิธีการต่อสู้, ความคล่องแคล่วของการยกปล่อย โดยได้ใช้สติปัญญาวิเคราะห์อย่างเต็มความสามารถเป็นเวลาหลายปี ก็สมปรารถนาอันสุดยอด อู่ อวี่เซียงยังได้อาศัยกฎเกณฑ์และหลักเกณฑ์ของวิชามวยบัญญัติมวยขึ้นมาชุด หนึ่ง ซึ่งท่ามวยได้หลอมรวมเอาวิชาต่อสู้กับการบำรุงสุขภาพร่างกายเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังได้บัญญัติท่ากระบี่ไท่เก๊กตระกูลอู่, 13 ดาบไท่เก๊กตระกูลอู่, 13 ทวนไท่เก๊กตระกูลอู่, การฝึกโต้ตอบทวน, ทวนเกาะติด ชุดฝึกเหล่านี้ เป็นต้น ทั้งยังนำเอาการผลักมือมาเปลี่ยนแปลงเป็นการก้าวหน้าถอยหลัง 3 ก้าวครึ่งซึ่งเป็นการผลักมือแบบก้าวย่าง
ในสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ อู๋ อฺวี่เซียงยังได้รับ "บันทึกมวยไท่เก๊ก ({{zh-all|c=太极拳谱|p=Tàijí quán pǔ}})" ซึ่งแต่งโดยชันโย่วหวังจงเยฺว่ ({{zh-all|c=山右王宗岳|p=Shān yòu wángzōngyuè}}) จากอู๋ เฉิงชิงผู้พี่ ซึ่งได้บันทึกเล่มนี้จากร้านขายเกลือในอำเภออู่หยางอีกทอดนึง หลังจากกลับถึงกว๋างฝู่แล้ว อู๋ อฺวี่เซียงตั้งอกตั้งใจ วิเคราะห์และฝึกฝนสิ่งที่ได้จากบันทึกเล่มนั้น พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดลออ ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ประลองฝีมือกับเหล่ายอดฝีมือ และไม่เคยแพ้ใครเลย ซึ่งยืนยันได้ถึงพลังฝีมือของมวยไท่เก๊กที่ได้ฝึกฝน มาสองปีให้หลังฝีมือรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ได้ค้นพบหลักเกณฑ์อย่างมากมาย ซึ่งได้รับจาการฝึกฝนด้วยตนเอง เข้าใจถึงแก่นวิชาในบันทึกมวยไท่เก๊ก และได้หล่อหลอมเอาสิ่งที่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งเข้ารวมกับหลักพิชัย สงคราม, แนวทางของเต็มว่างเท็จจริง, อรรถาธิบายเกี่ยวกับเส้นลมปราณภายในร่างกายของวิชาแพทย์, วิชาเต้าอิ่นถู่น่าของวิธีการบำรุงสุขภาพ, การเก็บปล่อยพลังของวิธีการต่อสู้, ความคล่องแคล่วของการยกปล่อย โดยได้ใช้สติปัญญาวิเคราะห์อย่างเต็มความสามารถเป็นเวลาหลายปี ก็สมปรารถนาอันสุดยอด อู๋ อฺวี่เซียงยังได้อาศัยกฎเกณฑ์และหลักเกณฑ์ของวิชามวยบัญญัติมวยขึ้นมาชุด หนึ่ง ซึ่งท่ามวยได้หลอมรวมเอาวิชาต่อสู้กับการบำรุงสุขภาพร่างกายเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังได้บัญญัติท่ากระบี่ไท่เก๊กตระกูลอู๋, 13 ดาบไท่เก๊กตระกูลอู๋, 13 ทวนไท่เก๊กตระกูลอู๋, การฝึกโต้ตอบทวน, ทวนเกาะติด ชุดฝึกเหล่านี้ เป็นต้น ทั้งยังนำเอาการผลักมือมาเปลี่ยนแปลงเป็นการก้าวหน้าถอยหลัง 3 ก้าวครึ่งซึ่งเป็นการผลักมือแบบก้าวย่าง


อู่ อวี่เซียงอาศัยความรู้ในหลักวิชามวยที่ละเอียดจนลึกล้ำอย่างยิ่ง รวมทั้งสิ่งที่ค้นพบด้วยตนเองจำนวนไม่น้อย สถาปนามวยไท่เก๊กขึ้นสำนักหนึ่ง คือมวยไท่เก๊กตระกูลอู่ ที่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักวิชาของมวยไท่เก๊กอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังได้รวบรวมเอาสิ่งที่ได้ปฏิบัติจริงและเข้าใจมาประพันธ์ออกมาเป็น เพลงเคล็ดการเดินพลัง 13 ท่า", "ไขความกระจ่างในการผลักมือ", "อรรถาธิบายมวยไท่เก๊ก", "อรรถาธิบายวิพากษ์มวยไท่เก๊ก", "วิพากษ์ 13 ท่าโดยย่อ", "เคล็ดลับ 4 คำ", "แปดหลักร่างกายที่สำคัญ", "สิ่งสำคัญในการผลักมือ" เป็นต้น ซึ่งเป็นวิพากษ์มวยอันเลื่องชื่อ กลายเป็นระบบการศึกษา การวิพากษ์หลักเกณฑ์ของมวยไท่เก๊กที่สมบูรณ์ขึ้นมาชุดหนึ่ง บทประพันธ์เหล่านี้ เป็นผลงานซึ่งได้อุทิศเพื่อการพัฒนาทฤษฎีของมวยไท่เก๊ก ซึ่งจวบปัจจุบันกาล ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบได้
อู๋ อฺวี่เซียงอาศัยความรู้ในหลักวิชามวยที่ละเอียดจนลึกล้ำอย่างยิ่ง รวมทั้งสิ่งที่ค้นพบด้วยตนเองจำนวนไม่น้อย สถาปนามวยไท่เก๊กขึ้นสำนักหนึ่ง คือมวยไท่เก๊กตระกูลอู๋ ที่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักวิชาของมวยไท่เก๊กอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังได้รวบรวมเอาสิ่งที่ได้ปฏิบัติจริงและเข้าใจมาประพันธ์ออกมาเป็น เพลงเคล็ดการเดินพลัง 13 ท่า", "ไขความกระจ่างในการผลักมือ", "อรรถาธิบายมวยไท่เก๊ก", "อรรถาธิบายวิพากษ์มวยไท่เก๊ก", "วิพากษ์ 13 ท่าโดยย่อ", "เคล็ดลับ 4 คำ", "แปดหลักร่างกายที่สำคัญ", "สิ่งสำคัญในการผลักมือ" เป็นต้น ซึ่งเป็นวิพากษ์มวยอันเลื่องชื่อ กลายเป็นระบบการศึกษา การวิพากษ์หลักเกณฑ์ของมวยไท่เก๊กที่สมบูรณ์ขึ้นมาชุดหนึ่ง บทประพันธ์เหล่านี้ เป็นผลงานซึ่งได้อุทิศเพื่อการพัฒนาทฤษฎีของมวยไท่เก๊ก ซึ่งจวบปัจจุบันกาล ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบได้


กู้ หลิวเซียง ({{zh-all|c=顾留馨|p=Gùliúxīn}}) นักวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงบทประพันธ์ของตระกูลอู่ว่า "ข้อความสั้นกะทัดรัดไม่มีข้อความไร้สาระแม้แต่น้อย"
กู้ หลิวซิน ({{zh-all|c=顾留馨|p=Gùliúxīn}}) นักวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงบทประพันธ์ของตระกูลอู๋ว่า "ข้อความสั้นกะทัดรัดไม่มีข้อความไร้สาระแม้แต่น้อย"


อู่ อวี่เซียงรับศิษย์น้อยมาก รับหลานซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคือ [[หลี่ อวี้อวี๋]] ({{zh-all|c=李亦畲|p=Liyìyú}}) เพียงคนเดียวเท่านั้น
อู๋ อฺวี่เซียงรับศิษย์น้อยมาก รับหลานซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคือ [[หลี่ อวี้อวี๋]] ({{zh-all|c=李亦畲|p=Liyìyú}}) เพียงคนเดียวเท่านั้น


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[มวยไท่เก๊กตระกูลอู่]]
* [[มวยไท่เก๊กตระกูลอู๋]]


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www.wuhaotaichi.net/th/history/-----1812-1880.html ประวัติปรมาจารย์ อู่ อวี่เซียง จากเวปไซต์ชมรมมวยไท้เก็กตระกูลอู่เพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย]
* [http://www.wuhaotaichi.net/th/history/-----1812-1880.html ประวัติปรมาจารย์ อู๋ อฺวี่เซียง จากเวปไซต์ชมรมมวยไท้เก็กตระกูลอู๋เพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย]


{{เกิดปี|2355}}
{{เกิดปี|2355}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:00, 11 กุมภาพันธ์ 2557

อู๋ อฺวี่เซียง (จีน: 武禹襄; พินอิน: Wǔ Yǔxiāng; ค.ศ. 1812-1880) ชื่อเดิม อู่ เหอชิง (จีน: 武河清; พินอิน: Wǔ Héqīng) เป็นข้าราชการราชวงศ์ชิง และเป็นครูสอนไท่เก๊ก

พื้นเพ

เป็นชาวตำบลกว๋างฝู่ อำเภอหย่งเหนียน มณฑลเหอเป่ย อู๋ อฺวี่เซียงเกิดในตระกูลบัณฑิต มีพี่ชาย 2 คน คือ อู่ เฉิงชิง (จีน: 武澄清; พินอิน: Wǔ Chéngqīng) กับ อู๋ หยู่ชิง (จีน: 武汝清; พินอิน: Wǔ Rǔqīng) ไปเป็นขุนนาง อู๋ อฺวี่เซียงเป็นบัณฑิต ในเหล่าพี่น้องมีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่บ้านเกิด มีอาชีพเป็นครูสอนหนังสือ, วิเคราะห์วิจัยทางมวยไท่เก๊ก อู๋ อฺวี่เซียงกับพี่ชายรวม 3 คน ชอบศึกษาทางด้านศิลปศาสตร์ และวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เยาว์วัย มีชาติตระกูลที่มั่งคั่ง มีกิจการห้างขายใบชาอยู่ในเมือง ทั้งถนนด้านทิศตะวันออกและถนนด้านทิศตะวันตก ถนนละ 1 ห้าง ภายหลังได้รวมร้านทั้งสองแห่งเข้ารวมเป็นร้านเดียว โดยร้านทางถนนทิศตะวันตก ได้ปล่อยเช่าให้กับเฉิน เต๋อหู คนของเฉินเจียโกว (หมู่บ้านสกุลเฉิน) ตำบลเวิน มณฑลเหอหนาน เปิดเป็นร้านขายยาชื่อว่า "ไท้เหอถัง"

ประวัติการศึกษามวยไท่เก๊ก

ใน ช่วงปีรัชกาลเต้ากวงฮ่องเต้ หยาง ลู่ช่าน (จีน: 杨禄禅; พินอิน: Yáng Lùshàn) (ค.ศ. 1799-1872) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในหมู่บ้านเดียวกัน ได้กลับมาที่หมู่บ้าน หลังจากที่ได้ร่ำเรียนยุทธจากหมู่บ้านสกุลเฉิน อู๋ อฺวี่เซียงมักจะลองวิชากับหยาง ลู่ช่านเป็นประจำ พบว่ายากที่จะรู้ซึ้งถึงความพิสดารและความลึกซึ้งได้

ในปีที่ 2 ของรัชกาลเสียนเฟิงฮ่องเต้ (ค.ศ. 1852) อู๋ เฉิงชิง (ค.ศ. 1800-1884) ซึ่งเป็นพี่ชายของอู๋ อฺวี่เซียง สอบได้จิ้นซื่อ และได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ เป็นนายอำเภอที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน อู๋ อฺวี่เซียงได้รับคำสั่งจากแม่ ให้ไปเยี่ยมเยียนพี่ชายที่อำเภออู่หยาง มณฑลเหอหนาน ระหว่างทางซึ่งต้องผ่านหมู่บ้านสกุลเฉิน จึงคิดที่จะไปเยี่ยมเฉินฉางซิง (จีน: 陈长兴; พินอิน: Chén zhǎngxìng; ค.ศ. 1771-1853) ซึ่งเป็นอาจารย์ของหยาง ลู่ช่าน เพื่อขอคำชี้แนะ ตอนที่ผ่านหมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง อำเภอเวิน มณฑลเหอหนาน ได้ทราบว่าเฉิน ฉางซิง กำลังป่วยด้วยโรคชรา (ปีนั้นฉางซิงมีอายุได้ 82 ปี และได้ถึงแก่กรรมในปีนั้นเอง) ภายหลังได้รับคำแนะนำจากร้านขายยา "ไท้เหอถัง" ที่หย่งเหนียนว่าที่หมู่บ้านจ้าวเป่าติ้ง มีครูมวยอยู่ท่านหนึ่งคือ เฉิน ชิงผิง (จีน: 陈清平; พินอิน: Chén Qīngpíng) มีวิชาหมัดมวยลึกล้ำ มีฝีมือเป็นเลิศ ยากที่จะหาใครทัดเทียมได้ ดังนั้น ระหว่างทางที่อู๋ อฺวี่เซียงเดินทางไปเยี่ยมอู่ เฉิงชิง ผู้พี่ที่อำเภออู่หยาง ได้วกเข้าหมู่บ้านจ้าวเป่า กราบอาจารย์เพื่อเรียนวิชา หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาจากเฉิน ชิงผิง (ค.ศ. 1795-1868) เป็นเวลาเดือนเศษ ได้เรียนรู้หลักเกณฑ์จนครบถ้วน รู้ลึกถึงความพิสดาร

สถาปนามวยไท่เก๊กตระกูลอู๋

ในสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ อู๋ อฺวี่เซียงยังได้รับ "บันทึกมวยไท่เก๊ก (จีน: 太极拳谱; พินอิน: Tàijí quán pǔ)" ซึ่งแต่งโดยชันโย่วหวังจงเยฺว่ (จีน: 山右王宗岳; พินอิน: Shān yòu wángzōngyuè) จากอู๋ เฉิงชิงผู้พี่ ซึ่งได้บันทึกเล่มนี้จากร้านขายเกลือในอำเภออู่หยางอีกทอดนึง หลังจากกลับถึงกว๋างฝู่แล้ว อู๋ อฺวี่เซียงตั้งอกตั้งใจ วิเคราะห์และฝึกฝนสิ่งที่ได้จากบันทึกเล่มนั้น พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดลออ ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ประลองฝีมือกับเหล่ายอดฝีมือ และไม่เคยแพ้ใครเลย ซึ่งยืนยันได้ถึงพลังฝีมือของมวยไท่เก๊กที่ได้ฝึกฝน มาสองปีให้หลังฝีมือรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ได้ค้นพบหลักเกณฑ์อย่างมากมาย ซึ่งได้รับจาการฝึกฝนด้วยตนเอง เข้าใจถึงแก่นวิชาในบันทึกมวยไท่เก๊ก และได้หล่อหลอมเอาสิ่งที่เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งเข้ารวมกับหลักพิชัย สงคราม, แนวทางของเต็มว่างเท็จจริง, อรรถาธิบายเกี่ยวกับเส้นลมปราณภายในร่างกายของวิชาแพทย์, วิชาเต้าอิ่นถู่น่าของวิธีการบำรุงสุขภาพ, การเก็บปล่อยพลังของวิธีการต่อสู้, ความคล่องแคล่วของการยกปล่อย โดยได้ใช้สติปัญญาวิเคราะห์อย่างเต็มความสามารถเป็นเวลาหลายปี ก็สมปรารถนาอันสุดยอด อู๋ อฺวี่เซียงยังได้อาศัยกฎเกณฑ์และหลักเกณฑ์ของวิชามวยบัญญัติมวยขึ้นมาชุด หนึ่ง ซึ่งท่ามวยได้หลอมรวมเอาวิชาต่อสู้กับการบำรุงสุขภาพร่างกายเป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังได้บัญญัติท่ากระบี่ไท่เก๊กตระกูลอู๋, 13 ดาบไท่เก๊กตระกูลอู๋, 13 ทวนไท่เก๊กตระกูลอู๋, การฝึกโต้ตอบทวน, ทวนเกาะติด ชุดฝึกเหล่านี้ เป็นต้น ทั้งยังนำเอาการผลักมือมาเปลี่ยนแปลงเป็นการก้าวหน้าถอยหลัง 3 ก้าวครึ่งซึ่งเป็นการผลักมือแบบก้าวย่าง

อู๋ อฺวี่เซียงอาศัยความรู้ในหลักวิชามวยที่ละเอียดจนลึกล้ำอย่างยิ่ง รวมทั้งสิ่งที่ค้นพบด้วยตนเองจำนวนไม่น้อย สถาปนามวยไท่เก๊กขึ้นสำนักหนึ่ง คือมวยไท่เก๊กตระกูลอู๋ ที่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักวิชาของมวยไท่เก๊กอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังได้รวบรวมเอาสิ่งที่ได้ปฏิบัติจริงและเข้าใจมาประพันธ์ออกมาเป็น เพลงเคล็ดการเดินพลัง 13 ท่า", "ไขความกระจ่างในการผลักมือ", "อรรถาธิบายมวยไท่เก๊ก", "อรรถาธิบายวิพากษ์มวยไท่เก๊ก", "วิพากษ์ 13 ท่าโดยย่อ", "เคล็ดลับ 4 คำ", "แปดหลักร่างกายที่สำคัญ", "สิ่งสำคัญในการผลักมือ" เป็นต้น ซึ่งเป็นวิพากษ์มวยอันเลื่องชื่อ กลายเป็นระบบการศึกษา การวิพากษ์หลักเกณฑ์ของมวยไท่เก๊กที่สมบูรณ์ขึ้นมาชุดหนึ่ง บทประพันธ์เหล่านี้ เป็นผลงานซึ่งได้อุทิศเพื่อการพัฒนาทฤษฎีของมวยไท่เก๊ก ซึ่งจวบปัจจุบันกาล ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถเปรียบเทียบได้

กู้ หลิวซิน (จีน: 顾留馨; พินอิน: Gùliúxīn) นักวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียง กล่าวถึงบทประพันธ์ของตระกูลอู๋ว่า "ข้อความสั้นกะทัดรัดไม่มีข้อความไร้สาระแม้แต่น้อย"

อู๋ อฺวี่เซียงรับศิษย์น้อยมาก รับหลานซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคือ หลี่ อวี้อวี๋ (จีน: 李亦畲; พินอิน: Liyìyú) เพียงคนเดียวเท่านั้น

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น