ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แกะภูเขา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 37: | บรรทัด 37: | ||
มีลักษณะลำตัวมีขนแผงยาวนุ่มที่คอ หน้าอก และส่วนบนของขาหน้า มี[[เขา]]ขนาดใหญ่โง้งยาวไปทางด้านหลังทั้งตัวผู้และตัวเมีย ลำตัวยาว 1.3-1.9 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะสูงถึง 90 เซนติเมตร หางยาว 25 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 130-150 กิโลกรัม |
มีลักษณะลำตัวมีขนแผงยาวนุ่มที่คอ หน้าอก และส่วนบนของขาหน้า มี[[เขา]]ขนาดใหญ่โง้งยาวไปทางด้านหลังทั้งตัวผู้และตัวเมีย ลำตัวยาว 1.3-1.9 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะสูงถึง 90 เซนติเมตร หางยาว 25 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 130-150 กิโลกรัม |
||
มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบภูเขาสูงชันและทะเลทรายใน[[แอฟริกาเหนือ|ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ]] เช่น [[ประเทศอียิปต์]], [[แอลจีเรีย]], [[ลิเบีย]] [[ซูดาน]] และ[[ตูนิเซีย]] มีอุปนิสัยอยู่ตามลำพัง หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ เป็นครอบครัว มีสีขนออกสีน้ำตาล เพื่อประโยชน์เมื่อเวลาที่หลีกหนีศัตรู จะใช้การพรางตัวให้กลมกลืนกับทรายและหิน สามารถปีนป่ายตามเขาชัน ด้วยความเร็ว 15 ไมล์/ชั่วโมง และสามารถกระโจนข้ามซอกหินได้ถึง 6 เมตร<ref>[http://www.thai-tour.com/thai-tour/East/Chonburi/data/night_safari_zoo.htm ชมชีวิตสัตว์ป่ากลางคืน ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว]{{th}}</ref> กินหญ้า, ต้นไม้, ใบไม้, เปลือกไม้ เป็นอาหาร ได้น้ำจากอาหารและเลียน้ำค้าง ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว ปีละ 1 ครั้ง แกะภูเขาถูกล่าโดยมนุษย์เพื่อเอาเนื้อ, หนัง, ขน และเอ็น เพื่อใช้ประโยชน์ |
มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบภูเขาสูงชันและทะเลทรายใน[[แอฟริกาเหนือ|ทวีปแอฟริกาตอนเหนือ]] เช่น [[ประเทศอียิปต์]], [[แอลจีเรีย]], [[ลิเบีย]], [[ชาด]], [[ซูดาน]] และ[[ตูนิเซีย]] มีอุปนิสัยอยู่ตามลำพัง หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ เป็นครอบครัว มีสีขนออกสีน้ำตาล เพื่อประโยชน์เมื่อเวลาที่หลีกหนีศัตรู จะใช้การพรางตัวให้กลมกลืนกับทรายและหิน สามารถปีนป่ายตามเขาชัน ด้วยความเร็ว 15 ไมล์/ชั่วโมง และสามารถกระโจนข้ามซอกหินได้ถึง 6 เมตร<ref>[http://www.thai-tour.com/thai-tour/East/Chonburi/data/night_safari_zoo.htm ชมชีวิตสัตว์ป่ากลางคืน ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว]{{th}}</ref> กินหญ้า, ต้นไม้, ใบไม้, เปลือกไม้ เป็นอาหาร ได้น้ำจากอาหารและเลียน้ำค้าง ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว ปีละ 1 ครั้ง แกะภูเขาถูกล่าโดยมนุษย์เพื่อเอาเนื้อ, หนัง, ขน และเอ็น เพื่อใช้ประโยชน์ |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:18, 22 ธันวาคม 2556
แกะภูเขา | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Artiodactyla |
วงศ์: | Bovidae |
วงศ์ย่อย: | Caprinae |
สกุล: | Ammotragus Blyth, 1840 |
สปีชีส์: | A. lervia |
ชื่อทวินาม | |
Ammotragus lervia Pall., 1777 | |
ชนิดย่อย[2] | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ | |
ชื่อพ้อง[3] | |
|
แกะภูเขา หรือ แกะบาร์บารี (อังกฤษ: Barbary sheep; ชื่อวิทยาศาสตร์: Ammotragus lervia) เป็นแกะชนิดหนึ่ง จัดอยู่เพียงชนิดเดียวในสกุล Ammotragus [2]
มีลักษณะลำตัวมีขนแผงยาวนุ่มที่คอ หน้าอก และส่วนบนของขาหน้า มีเขาขนาดใหญ่โง้งยาวไปทางด้านหลังทั้งตัวผู้และตัวเมีย ลำตัวยาว 1.3-1.9 เมตร เมื่อโตเต็มที่จะสูงถึง 90 เซนติเมตร หางยาว 25 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 130-150 กิโลกรัม
มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบภูเขาสูงชันและทะเลทรายในทวีปแอฟริกาตอนเหนือ เช่น ประเทศอียิปต์, แอลจีเรีย, ลิเบีย, ชาด, ซูดาน และตูนิเซีย มีอุปนิสัยอยู่ตามลำพัง หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ เป็นครอบครัว มีสีขนออกสีน้ำตาล เพื่อประโยชน์เมื่อเวลาที่หลีกหนีศัตรู จะใช้การพรางตัวให้กลมกลืนกับทรายและหิน สามารถปีนป่ายตามเขาชัน ด้วยความเร็ว 15 ไมล์/ชั่วโมง และสามารถกระโจนข้ามซอกหินได้ถึง 6 เมตร[4] กินหญ้า, ต้นไม้, ใบไม้, เปลือกไม้ เป็นอาหาร ได้น้ำจากอาหารและเลียน้ำค้าง ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว ปีละ 1 ครั้ง แกะภูเขาถูกล่าโดยมนุษย์เพื่อเอาเนื้อ, หนัง, ขน และเอ็น เพื่อใช้ประโยชน์
อ้างอิง
- ↑ Cassinello, J., Cuzin, F., Jdeidi, T., Masseti, M., Nader, I. & de Smet, K. (2008). Ammotragus lervia. In: IUCN 2008. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 11 November 2008. Database entry includes a brief justification of why this species is of Vulnerable C1.
- ↑ 2.0 2.1 Grubb, P. (16 November 2005). Wilson, D. E.; Reeder, D. M, eds. Mammal Species of the World (3rd ed.). Johns Hopkins University Press. ISBN 978-0-8018-8221-0.
- ↑ Cassinello, J.; Serrano, E.; Calabuig, G. & Pérez, J.M. (2004). Range expansion of an exotic ungulate (Ammotragus lervia) in southern Spain: ecological and conservation concerns. Biodiversity and Conservation 13: 851-866
- ↑ ชมชีวิตสัตว์ป่ากลางคืน ที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว(ไทย)
แหล่งข้อมูลอื่น
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Ammotragus lervia ที่วิกิสปีชีส์