ดับเบิลยูดับเบิลยูอี แชมเปียนชิป

WWE World Heavyweight Championship ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เวิลด์เฮฟวี่เวท แชมเปียนชิป
WWE World Heavyweight Championship WWE World Heavyweight Championship
รายละเอียด
แชมเปี้ยน	แรนดี ออร์ตัน
วันที่ชนะ	27 ตุลาคม ค.ศ. 2013
สมาคม	เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์
ค่าย	รอว์
วันก่อตั้ง	29 เมษายน ค.ศ. 1963
ชื่ออื่น	WWWF World Heavyweight Championship WWWF Heavyweight Championship WWF Heavyweight Championship WWF World Heavyweight Championship WWF Championship WWF/E "Undisputed" Championship
แบบในอดีต	ไฟล์:WWE Undisputed Championship Belt.jpg ไฟล์:800px-Wwfwinged.jpg
สถิติ จำนวนสมัย มากสุด จอห์น ซีนา (11 สมัย) แชมเปี้ยน คนแรก บัดดี โรเจอร์ส แชมเปี้ยน คนสุดท้าย {{{lastchamp}}} สมัยนานสุด บรูโน ซามมาร์ติโน (2803 วัน) สมัยสั้นสุด อังเดร เดอะ ไจแอนท์ (ไม่ถึง 45 วินาที) แชมเปี้ยน อายุสูงสุด วินซ์ แม็กแมเฮิน (54 ปี, 21 วัน) แชมเปี้ยน อายุอ่อนสุด บร็อก เลสเนอร์ (25 ปี, 44 วัน) แชมเปี้ยน หนักสุด โยโกะซูน่า (568 ปอนด์) แชมเปี้ยน เบาสุด เรย์ มิสเตริโอ (175 ปอนด์)

ผู้ชนะเลิศดับเบิลยูดับเบิลยูอี (อังกฤษ: WWE Championship) เป็นเข็มขัดแชมป์โลกของ WWE โดยเป็นส่วนหนึ่งของค่าย รอว์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1963 เข็มขัดเส้นนี้เกิดจากการรวมตัวกันระหว่าง แชมป์โลก WWE (ในสมัยนั้นเรียกว่า WWF Championship) และ แชมป์โลก WCW ที่ WWE ได้ซื้อกิจการมา ผู้ที่ครองในนามแชมป์ Undisputed คนแรก คือ คริส เจอริโค นั่นเอง ต่อมาเข็มขัดก็ไปตกอยู่ในมือของ ทริปเปิล เอช เป็นครั้งแรกที่ได้นำเข็มขัดมาใช้เพียงเส้นเดียวแล้วก็เสียแชมป์เรื่อยมาจนกระทั่ง บร็อก เลสเนอร์ แชมป์โลก WWE ที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น การเรียกแชมป์ WWE Undisputed Championship นั้น ยาวไป จึงลดขนาดคำให้เหลือเพียงแค่ WWE Championship อย่างเดียวเพราะทางค่าย รอว์ อิริค บิสชอฟฟ์ ผู้จัดการทั่วไปตอนนั้น ก็ได้สร้างเข็มขัดระดับโลกขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายคลึงกับ แชมป์โลก WCW ชื่อว่า เวิลด์เฮวีเวตแชมเปียน

ประวัติ

หลังจากที่ บร็อค เลสเนอร์ คว้าแชมป์ WWE Undisputed Championship จาก เดอะ ร็อค มาได้ และเซ็นสัญญากับผู้จัดการทั่วไปของ สแมคดาวน์ ในขณะนั้น คือ สเตฟันนี่ แมคแมน โดยจะป้องกันเข็มขัดให้กับ สแมคดาวน์ เท่านั้น พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเข็มขัดเป็น WWE Championship ทำให้แชมป์ WWE เป็นกรรมสิทธิ์ของ สแมคดาวน์

เข็มขัดรูปแบบเก่านี้ถูกยุติที่ เจบีแอล หลังจากที่เสียแชมป์ให้กับ จอห์น ซีนา แล้วตนไม่ยอมเสียเข็มขัดให้ จึงนำเข็มขัดเส้นนี้ไปทำลายทิ้ง จอห์น ซีนา จึงได้เปลี่ยนแปลงเข็มขัดเส้นนี้โดยให้มีตัวสัญลักษณ์ WWE หมุนอยู่กลางเส้น จนกระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2005 สืบเนื่องมาจากผลการจับฉลาก ดับเบิลยูดับเบิลยูอี ดราฟท์ 2005 เมื่อ จอห์น ซีนา ถูกย้ายไปอยู่ค่าย รอว์ พร้อมด้วยเข็มขัดแชมป์ WWE ทำให้แชมป์ WWE กลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ รอว์

เมื่อ จอห์น ซีนา ย้ายมาอยู่ รอว์ ก็สามารถป้องกันแชมป์ WWE ได้เป็นเวลายาวนาน โดยสามารถปราบผู้ท้าชิงตัวฉกาจลงได้ถึง 2 คน ได้แก่ คริส เจอริโค และ เคิร์ต แองเกิล แต่ต่อมาก็เสียแชมป์ให้กับ เอดจ์ ที่ใช้สิทธิ์ของกระเป๋า Money in The Bank ในขณะที่ จอห์น ซีนา กำลังบาดเจ็บ หลังจากนั้น เอดจ์ ที่กำลังเห่อแชมป์โลกของตนเองในขณะนั้น ไม่ต้องการให้มีอัตราลักษณ์ของผู้อื่นอยู่บนเข็มขัดที่ตนถือครอง จึงนำเข็มขัดของ จอห์น ซีนา ไปถ่วงน้ำแล้วเปลี่ยนสัญลักษณ์ WWE ที่หมุนนั้นเป็นรูปตัว R ซึ่งเข้ากับเอดจ์ที่รับบทบาทนั้น แล้ว จอห์น ซีนา ก็ชิงคืนมาได้ แล้วทำการเปลี่ยนหัวเข็มขัดให้เป็นดังเดิมเหมือนเส้นปัจจุบัน

แต่แล้ว ในปี 2007 จอห์น ซีนา ก็ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ แรนดี ออร์ตัน ได้ส้มหล่น เอาแชมป์ไปครองในเดือนตุลาคม ในศึก No Mercy 2007 วินซ์ แมคแมน มอบเข็มขัดแชมป์ให้แก่ แรนดี ออร์ตัน ฟรีๆ แต่ ทริปเปิล เอช ก็ได้เข้ามาขัดขวาง และขอชิงแชมป์ตั้งแต่ตอนนั้น และ ทริปเปิล เอช ได้แชมป์ไป แต่ วินซ์ แมคแมน ก็ใช้กลโกง ให้ ทริปเปิล เอช เจอกับ อูมาก้า ในแมทช์ที่ 2 และคู่เอกก็คือ ทริปเปิล เอช เจอกับ แรนดี ออร์ตัน ในการชิงแชมป์ WWE เท่ากับว่า ทริปเปิล เอช ได้ปล้ำ 3 แมทช์ในคืนเดียว สุดท้ายก็สู้ไม่ได้ ต้องเสียแชมป์คืนแก่ออร์ตันไป ทริปเปิล เอช เป็นแชมป์ำได้เพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้นเอง

แต่แชมป์ของ แรนดี ออร์ตัน ก็มาสะดุดลงในศึก แบคแลช (2008) เมื่อมีการปล้ำแบบ 4 เส้า แพ้คัดออก เพื่อแชมป์ WWE ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน , เจบีแอล , จอห์น ซีนา และ ทริปเปิล เอช สุดท้ายแล้ว ทริปเปิล เอช ก็ได้แชมป์ WWE ไปครอง จนถึงการ DRAFT ประจำปี 2008 ทริปเปิล เอช ได้ถูก DRAFT ไป สแมคดาวน์ และเป็นการไปพร้อมกับแชมป์ WWE ของเค้าด้วย แต่ก็ยังดีที่ เอดจ์ ที่อยู่ สแมคดาวน์ เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท เสียแชมป์ให้คนของ รอว์ คือ ซีเอ็ม พังค์ แชมป์เลยลงตัว ทำให้แชมป์ WWE กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ สแมคดาวน์ อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากที่ เอดจ์ เสีย แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไป จึงหันมาชิงแชมป์ WWE กับ ทริปเปิล เอช แต่จนแล้วจนรอด เอดจ์ ก็ไม่สามารถชิงแชมป์จาก ทริปเปิล เอช ได้ แถม เอดจ์ มีเรื่องกับ วิกกี้ เกอร์เรโร่ จนต้องเจอกับ อันเดอร์เทคเกอร์ หายไปพักใหญ่ และอีกปีต่อมา ทริปเปิล เอช ก็ถูก DRAFT ตัวกลับไปที่ รอว์ พร้อมกับเข็ดขัดแชมป์ WWE ในขณะที่ จอห์น ซีนา ก็เสีย แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ให้กับ เอดจ์ คนของ สแมคดาวน์ ไป ทำให้แชมป์ WWE กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของ รอว์ อีกครั้ง

เข็มขัดรูปแบบของ จอห์น ซีนา ถูกยุติลง ในศึก รอว์ (18 กุมภาพันธ์ 2013) เมื่อ เดอะ ร็อค แชมป์ WWE คนปัจจุบัน ได้ออกมาพูดถึงเข็มขัดแชมป์ WWE ว่ามันไม่ควรจะดูเหมือนของเล่นแบบนี้ และที่สำคัญมันไม่ควรจะหมุนได้ด้วย จากนั้นก็เปิดตัวเข็มขัดเส้นใหม่ และ จอห์น ซีนา ออกมายืนจ้องหน้า เดอะ ร็อค ท่ามกลางเสียงโห่ของคนดู จากนั้น ซีเอ็ม พังค์ เอาเข็มขัดเส้นเก่ามาฟาดใส่กลางหลัง จอห์น ซีนา จนล้มกลิ้ง จากนั้นก็โยนเข็มขัดเก่าทิ้งไว้ข้าง ๆ ตัว จอห์น ซีนา ก่อนจะยืนชี้หน้า เดอะ ร็อค แล้วเดินกลับไป

ภายหลังจากที่ จอห์น ซีนา สามารถคว้าแชมป์ WWE จาก เดอะ ร็อค ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 มาได้ แต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนเข็มขัดแชมป์กลับไปเป็นรูปแบบหมุนได้ดังเดิม

ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2013) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ได้มีการการปล้ำในแมตซ์ TLC ระหว่าง แชมป์โลก WWE แรนดี ออร์ตัน และ แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จอห์น ซีนา เพื่อการรวมเข็มขัดแชมป์โลกทั้งสองเส้นเป็นหนึ่งเดียว สุดท้าย แรนดี ออร์ตัน ก็สามารถเอาชนะไปได้ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น WWE World Heavyweight Championship หลังจากที่ได้มีการแยกเข็มขัดแชมป์โลกเป็น 2 เส้นมาตลอดนับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2002

แชมเปียนปัจจุบัน

แชมเปียนปัจจุบัน คือ แรนดี ออร์ตัน ชนะ จอห์น ซีนา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ในศึก ทีแอลซี: เทเบิล แลดเดอร์ แอนด์ แชร์ (2013) พร้อมกับรวบแชมป์ World Heavyweight Championship เป็นเส้นเดียวกันพร้อมกับเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น WWE World Heavyweight Championship

ดูเพิ่ม

• รายนามแชมเปี้ยนดับเบิลยูดับเบิลยูอี

แหล่งข้อมูลอื่น

• Official WWE Championship Title History
• Wrestling-Titles.com: WWE Championship
• WWE Championship History