ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัยยัปปัน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
{{กล่องข้อมูล เทวดา | ไฟล์ภาพ = Ayyappan.jpg | คำอธิบายภาพ = | พระนาม = พระสวามีอัยยัปปา | มาลายัม = അയ്യപ്പ} |
{{กล่องข้อมูล เทวดา | ไฟล์ภาพ = Ayyappa_by_sand.jpg | คำอธิบายภาพ = | พระนาม = พระสวามีอัยยัปปา | มาลายัม = അയ്യപ്
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล เทวดา
{{กล่องข้อมูล เทวดา
| ไฟล์ภาพ = Ayyappan.jpg
| ไฟล์ภาพ = Ayyappa_by_sand.jpg
| คำอธิบายภาพ =
| คำอธิบายภาพ =
| พระนาม = พระสวามีอัยยัปปา
| พระนาม = พระสวามีอัยยัปปา
บรรทัด 9: บรรทัด 9:
| ทมิฬ = ஐயப்பன்
| ทมิฬ = ஐயப்பன்
| จำพวก = เทวะ
| จำพวก = เทวะ
| เทวฉายา =
| เทวฉายา = เทวะทรงพรหมจรรย์ การถือพรต
| อาวุธ = ดาบ
| อาวุธ = [[ธนู]]<br /> ลูกศร
| พระชายา =
| พระชายา =
| พระสวามี =
| พระสวามี =
บรรทัด 16: บรรทัด 16:
| ดาวพระเคราะห์ =
| ดาวพระเคราะห์ =
}}
}}
'''พระสวามีอัยยัปปา''' ({{lang-ta|ஐயப்பன்}}; {{lang-ml|അയ്യപ്പ}}; {{lang-te|అయ్యప్ప స్వామి}}; {{lang-kn|ಅಯ್ಯಪ್ಫ}}) ทรงเป็นเทวะท้องถิ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ใน[[รัฐเกรละ]]และเป็นที่นิยมบูชาในภาคใต้ของ[[ประเทศอินเดีย]]
'''สวามีอัยยัปปา''' ({{lang-ta|ஐயப்பன்}}; {{lang-ml|അയ്യപ്പ}}; {{lang-te|అయ్యప్ప స్వామి}}; {{lang-kn|ಅಯ್ಯಪ್ಫ}}) แต่เดิมเป็นบุตรของ[[พระศิวะ]]กับ[[พระวิษณุ]] ในร่างของนางโมหิณี นามว่า ธรรมะศรัทธา ต่อมาพระศิวะให้เทพบุตรธรรมะศรัทธาจุติบนโลกมนุษย์ โดยมิได้เกิดจากครรภ์ของพระมเหสีของพระราชาราชศรีกาลา และให้[[ท้าวนาคา]] มีหน้าที่คุ้มครองพระกุมาร เมื่อพระราชราชาศรีกาลาเสด็จประพาสป่า พระองค์ก็ได้พบกับพระกุมารหน้าเทวาลัยของพระศิวะ แล้วพระองค์ก็เกิดเอ็นดูพระกุมารคนนี้ขึ้นมา แล้วก็ดำริขึ้นว่าจะทำยังไงกับพระกุมารคนนี้ดี จู่ ๆ ก็มีโยคีคนหนึ่งปรากฏแล้วบอกกับพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระองค์ไม่ต้องกลัวไปหรอก ขอให้พระองค์นำเด็กผู้นี้กลับไปยังพระนครเถิด เลี้ยงดูให้ดี เด็กน้อยผู้นี้จะนำความเจริญ ความรุ่งเรื่องมาสู่พระนครของพระองค์ และให้พระนามแก่ทารกน้อยนี้ว่า มานีกันดัน เมื่อพระองค์ทรงเลี้ยงดูเด็กน้อยนี้จนอายุครบสิบสองปี พระองค์จะทราบถึงความเป็นมาทั้งหมดของเด็กทารกผู้นี้เอง" โยคีก็หายตัวไป
== เทพปกรณัมการกำเนิด ==
แต่เดิมเป็นบุตรของ[[พระศิวะ]]กับ[[พระวิษณุ]] ในร่างของนางโมหิณี นามว่า ธรรมะศรัทธา ต่อมาพระศิวะให้เทพบุตรธรรมะศรัทธาจุติบนโลกมนุษย์ โดยมิได้เกิดจากครรภ์ของพระมเหสีของพระราชาราชศรีกาลา และให้ท้าวนาคามีหน้าที่คุ้มครองพระกุมาร เมื่อพระราชราชาศรีกาลาเสด็จประพาสป่า พระองค์ก็ได้พบกับพระกุมารหน้าเทวาลัยของพระศิวะ แล้วพระองค์ก็เกิดเอ็นดูพระกุมารคนนี้ขึ้นมา แล้วก็ดำริขึ้นว่าจะทำยังไงกับพระกุมารคนนี้ดี จู่ ๆ ก็มีโยคีคนหนึ่งปรากฏแล้วบอกกับพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระองค์ไม่ต้องกลัวไปหรอก ขอให้พระองค์นำเด็กผู้นี้กลับไปยังพระนครเถิด เลี้ยงดูให้ดี เด็กน้อยผู้นี้จะนำความเจริญ ความรุ่งเรื่องมาสู่พระนครของพระองค์ และให้พระนามแก่ทารกน้อยนี้ว่า มานีกันดัน เมื่อพระองค์ทรงเลี้ยงดูเด็กน้อยนี้จนอายุครบสิบสองปี พระองค์จะทราบถึงความเป็นมาทั้งหมดของเด็กทารกผู้นี้เอง" โยคีก็หายตัวไป


สาเหตุที่พระองค์ถือกำเนิดขึ้นมาก็เพื่อจะมาปราบอสูรมหิงสี น้องสาวของอสูรมหิษาสูรนั่นเอง แต่สวามีอัยยัปปาก็มีศัตรูก่อนที่จะปราบอสูรมหิงสี ซึ่งก็คือ อำมาตย์ของพระบิดาของพระองค์ อำมาตย์คนนั้นมี ชื่อว่า ไดวัลย์ ไดวัลย์ต้องการชิงพระราชสมบัติของพระราชราชาศรีกาลา โดยจะกำจัดสวามีอัยยัปปาก่อน เนื่องจากพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาให้กำเนิดพระโอรสคนที่ 2 มีนามว่า ราชาราชันย์ ไดวัลย์ได้ยุยงพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาว่า "ทำไมเลยต้องให้ไอ้เด็กที่มาจากป่าไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาสืบสันตติวงศ์ จริง ๆ แล้วบัลลังค์นี้น่าจะเป็นของบุตรที่เกิดจากพระนางเองมากกว่าถึงจะถูก" พระมเหสีก็เห็นด้วย ไดวัลย์จึงให้พระเหสีแกล้วหลอกพระราชราชาศรีกาลาว่า พระนางป่วยเป็นโรคร้าย พระราชราชราชาศรีกาลาก็เชื่อ จึงให้หมอที่ดีที่สุดในเมืองมารักษาพระมเหสี ซึ่งหมอคนนี้ก็ได้รับสินบนมาจากไดวัลย์ หมอก็บอกพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระนางเป็นโรคร้ายไม่มีทางรักษาได้ แต่มีวิธีเดียว คือ ต้องไปนำน้ำนมของแม่เสือในป่ามาให้พระนางเสวย โรคร้ายจึงจะหาย" จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาจึงให้สวามีอัยยัปปา หรือ มานีกันดัน ไปนำน้ำนมจากป่ามาให้ แล้วระหว่างทาง [[พระอินทร์]]ได้มาขอร้องสวามีอัยยัปปา พระองค์จึงไปปราบอสูรมหิงสี แต่สุดท้ายอสูรมหิงสีก็ถูกสวามีอัยยัปปาสังหาร และพระอินทร์ก็ตอบแทนสวามีอัยยัยปปา โดยการแปลงเป็นแม่เสือมาให้สวามีอัยยัปปาจับไปในวัง จากนั้น สวามีอัยยัปปาก็ขี่แม่เสือที่พระอินทร์แปลงมาเข้าไปในวัง เมื่อไดวัลย์กับพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาเห็น จึงเข้าไปขอโทษที่วางแผนกันจะฆ่ามานีกันดัน จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาก็บอกกับ สวามีอัยยัปปา ให้อยู่ในวังด้วยกันเถิด แต่สวามีอัยยัปปาปฏิเสธ ขอเข้าไปอยู่ในป่าแทน จากนั้น สวามีอัยยัปปาจึงเข้าไปบำเพ็ญพรตในป่าตลอดชีวิต
สาเหตุที่พระองค์ถือกำเนิดขึ้นมาก็เพื่อจะมาปราบอสูรมหิงสี น้องสาวของอสูรมหิษาสูรนั่นเอง แต่สวามีอัยยัปปาก็มีศัตรูก่อนที่จะปราบอสูรมหิงสี ซึ่งก็คือ อำมาตย์ของพระบิดาของพระองค์ อำมาตย์คนนั้นมี ชื่อว่า ไดวัลย์ ไดวัลย์ต้องการชิงพระราชสมบัติของพระราชราชาศรีกาลา โดยจะกำจัดสวามีอัยยัปปาก่อน เนื่องจากพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาให้กำเนิดพระโอรสคนที่ 2 มีนามว่า ราชาราชันย์ ไดวัลย์ได้ยุยงพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาว่า "ทำไมเลยต้องให้ไอ้เด็กที่มาจากป่าไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาสืบสันตติวงศ์ จริง ๆ แล้วบัลลังค์นี้น่าจะเป็นของบุตรที่เกิดจากพระนางเองมากกว่าถึงจะถูก" พระมเหสีก็เห็นด้วย ไดวัลย์จึงให้พระเหสีแกล้วหลอกพระราชราชาศรีกาลาว่า พระนางป่วยเป็นโรคร้าย พระราชราชราชาศรีกาลาก็เชื่อ จึงให้หมอที่ดีที่สุดในเมืองมารักษาพระมเหสี ซึ่งหมอคนนี้ก็ได้รับสินบนมาจากไดวัลย์ หมอก็บอกพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระนางเป็นโรคร้ายไม่มีทางรักษาได้ แต่มีวิธีเดียว คือ ต้องไปนำน้ำนมของแม่เสือในป่ามาให้พระนางเสวย โรคร้ายจึงจะหาย" จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาจึงให้สวามีอัยยัปปา หรือ มานีกันดัน ไปนำน้ำนมจากป่ามาให้ แล้วระหว่างทาง [[พระอินทร์]]ได้มาขอร้องสวามีอัยยัปปา พระองค์จึงไปปราบอสูรมหิงสี แต่สุดท้ายอสูรมหิงสีก็ถูกสวามีอัยยัปปาสังหาร และพระอินทร์ก็ตอบแทนสวามีอัยยัยปปา โดยการแปลงเป็นแม่เสือมาให้สวามีอัยยัปปาจับไปในวัง จากนั้น สวามีอัยยัปปาก็ขี่แม่เสือที่พระอินทร์แปลงมาเข้าไปในวัง เมื่อไดวัลย์กับพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาเห็น จึงเข้าไปขอโทษที่วางแผนกันจะฆ่ามานีกันดัน จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาก็บอกกับ สวามีอัยยัปปา ให้อยู่ในวังด้วยกันเถิด แต่สวามีอัยยัปปาปฏิเสธ ขอเข้าไปอยู่ในป่าแทน จากนั้น สวามีอัยยัปปาจึงเข้าไปบำเพ็ญพรตในป่าตลอดชีวิต

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:56, 17 ธันวาคม 2556

พระสวามีอัยยัปปา
จำพวกเทวะ
อาวุธธนู
ลูกศร
สัตว์พาหนะเสือ
ม้า

พระสวามีอัยยัปปา (ทมิฬ: ஐயப்பன்; มลยาฬัม: അയ്യപ്പ; เตลูกู: అయ్యప్ప స్వామి; กันนาดา: ಅಯ್ಯಪ್ಫ) ทรงเป็นเทวะท้องถิ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในรัฐเกรละและเป็นที่นิยมบูชาในภาคใต้ของประเทศอินเดีย

เทพปกรณัมการกำเนิด

แต่เดิมเป็นบุตรของพระศิวะกับพระวิษณุ ในร่างของนางโมหิณี นามว่า ธรรมะศรัทธา ต่อมาพระศิวะให้เทพบุตรธรรมะศรัทธาจุติบนโลกมนุษย์ โดยมิได้เกิดจากครรภ์ของพระมเหสีของพระราชาราชศรีกาลา และให้ท้าวนาคามีหน้าที่คุ้มครองพระกุมาร เมื่อพระราชราชาศรีกาลาเสด็จประพาสป่า พระองค์ก็ได้พบกับพระกุมารหน้าเทวาลัยของพระศิวะ แล้วพระองค์ก็เกิดเอ็นดูพระกุมารคนนี้ขึ้นมา แล้วก็ดำริขึ้นว่าจะทำยังไงกับพระกุมารคนนี้ดี จู่ ๆ ก็มีโยคีคนหนึ่งปรากฏแล้วบอกกับพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระองค์ไม่ต้องกลัวไปหรอก ขอให้พระองค์นำเด็กผู้นี้กลับไปยังพระนครเถิด เลี้ยงดูให้ดี เด็กน้อยผู้นี้จะนำความเจริญ ความรุ่งเรื่องมาสู่พระนครของพระองค์ และให้พระนามแก่ทารกน้อยนี้ว่า มานีกันดัน เมื่อพระองค์ทรงเลี้ยงดูเด็กน้อยนี้จนอายุครบสิบสองปี พระองค์จะทราบถึงความเป็นมาทั้งหมดของเด็กทารกผู้นี้เอง" โยคีก็หายตัวไป

สาเหตุที่พระองค์ถือกำเนิดขึ้นมาก็เพื่อจะมาปราบอสูรมหิงสี น้องสาวของอสูรมหิษาสูรนั่นเอง แต่สวามีอัยยัปปาก็มีศัตรูก่อนที่จะปราบอสูรมหิงสี ซึ่งก็คือ อำมาตย์ของพระบิดาของพระองค์ อำมาตย์คนนั้นมี ชื่อว่า ไดวัลย์ ไดวัลย์ต้องการชิงพระราชสมบัติของพระราชราชาศรีกาลา โดยจะกำจัดสวามีอัยยัปปาก่อน เนื่องจากพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาให้กำเนิดพระโอรสคนที่ 2 มีนามว่า ราชาราชันย์ ไดวัลย์ได้ยุยงพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาว่า "ทำไมเลยต้องให้ไอ้เด็กที่มาจากป่าไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาสืบสันตติวงศ์ จริง ๆ แล้วบัลลังค์นี้น่าจะเป็นของบุตรที่เกิดจากพระนางเองมากกว่าถึงจะถูก" พระมเหสีก็เห็นด้วย ไดวัลย์จึงให้พระเหสีแกล้วหลอกพระราชราชาศรีกาลาว่า พระนางป่วยเป็นโรคร้าย พระราชราชราชาศรีกาลาก็เชื่อ จึงให้หมอที่ดีที่สุดในเมืองมารักษาพระมเหสี ซึ่งหมอคนนี้ก็ได้รับสินบนมาจากไดวัลย์ หมอก็บอกพระราชราชาศรีกาลาว่า "พระนางเป็นโรคร้ายไม่มีทางรักษาได้ แต่มีวิธีเดียว คือ ต้องไปนำน้ำนมของแม่เสือในป่ามาให้พระนางเสวย โรคร้ายจึงจะหาย" จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาจึงให้สวามีอัยยัปปา หรือ มานีกันดัน ไปนำน้ำนมจากป่ามาให้ แล้วระหว่างทาง พระอินทร์ได้มาขอร้องสวามีอัยยัปปา พระองค์จึงไปปราบอสูรมหิงสี แต่สุดท้ายอสูรมหิงสีก็ถูกสวามีอัยยัปปาสังหาร และพระอินทร์ก็ตอบแทนสวามีอัยยัยปปา โดยการแปลงเป็นแม่เสือมาให้สวามีอัยยัปปาจับไปในวัง จากนั้น สวามีอัยยัปปาก็ขี่แม่เสือที่พระอินทร์แปลงมาเข้าไปในวัง เมื่อไดวัลย์กับพระมเหสีของพระราชราชาศรีกาลาเห็น จึงเข้าไปขอโทษที่วางแผนกันจะฆ่ามานีกันดัน จากนั้น พระราชราชาศรีกาลาก็บอกกับ สวามีอัยยัปปา ให้อยู่ในวังด้วยกันเถิด แต่สวามีอัยยัปปาปฏิเสธ ขอเข้าไปอยู่ในป่าแทน จากนั้น สวามีอัยยัปปาจึงเข้าไปบำเพ็ญพรตในป่าตลอดชีวิต

อ้างอิง