ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิเฉิงฮว่า"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: แก้ไขคำผิด
thumb|สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว '''สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว''' (9 ธันวาคม ค.ศ. 1447 - [[9
บรรทัด 2: บรรทัด 2:
'''สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว''' ([[9 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1447]] - [[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1487]]) เป็นพระราชโอรสใน[[จักรพรรดิเจิ้งถง]] ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 1991 ทรงครองราชย์เมื่อพระชนม์ได้เพียง 17 พรรษา ตั้งแต่ ค.ศ. 1464 (พ.ศ. 2008)
'''สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว''' ([[9 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1447]] - [[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1487]]) เป็นพระราชโอรสใน[[จักรพรรดิเจิ้งถง]] ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 1991 ทรงครองราชย์เมื่อพระชนม์ได้เพียง 17 พรรษา ตั้งแต่ ค.ศ. 1464 (พ.ศ. 2008)
ค.ศ. 1464 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากจักรพรรดิอิงจงสวรรคต พระองค์จึงได้ครองราชสมบัติ ขณะพระชนมพรรษาได้ 17 พรรษา เฉลิมพระนามว่าหมิงเสี้ยนจง (Xianzong) ใช้รัชศกเฉิงฮั่ว (成化-Chenghua)
ค.ศ. 1464 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากจักรพรรดิอิงจงสวรรคต พระองค์จึงได้ครองราชสมบัติ ขณะพระชนมพรรษาได้ 17 พรรษา เฉลิมพระนามว่าหมิงเสี้ยนจง (Xianzong) ใช้รัชศกเฉิงฮั่ว (成化-Chenghua)
พระเจ้าเซียนจง ทรงเป็นฮ่องเต้ที่อ่อนแอแม้จะทรงทราบถึงภัยที่จะเกิดจากขันทีที่ตอนนี้มีอำนาจและอิทธิพลล้นฟ้า สามารถจับกุมและสังหารคนได้ แต่พระองค์ก็ไม่จัดการประการใดเพราะพระองค์ก็ถูกแวดล้อมด้วย (แกมอิทธิพล ) ขันที อีกทั้งพระองค์เองยังทรงหวั่นไหวง่ายไม่ค่อยเสด็จออกว่าราชการให้ขุนนางเข้าเฝ้าถวายรายงานเพราะไม่ทรงไว้วางพระทัย ราชการต่างๆ จึงตกอยู่ในมือขันทีโดยปริยาย ในรัชกาลนี้ไม่มีสิ่งใดโดดเด่น
พระเจ้าเซียนจง ทรงเป็นฮ่องเต้ที่อ่อนแอแม้จะทรงทราบถึงภัยที่จะเกิดจากขันทีที่ตอนนี้มีอำนาจและอิทธิพลล้นฟ้า สามารถจับกุมและสังหารคนได้ แต่พระองค์ก็ไม่จัดการประการใดเพราะพระองค์ก็ถูกแวดล้อมด้วย (แกมอิทธิพล ) ขันที อีกทั้งพระองค์เองยังทรงหวั่นไหวง่ายไม่ค่อยเสด็จออกว่าราชการให้ขุนนางเข้าเฝ้าถวายรายงานเพราะไม่ทรงไว้วางพระทัย ราชการต่างๆ จึงตกอยู่ในมือขันทีโดยปริยาย ในรัชกาลนี้ไม่มีสิ่งใดโดดเด่น
นอกจากขันทีพระองค์ทรงยังมีสนมว่านกุ้ยเฟย (万贵妃) ซึ่งเดิมเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลพระองค์ขณะที่ทรงตกยากจึงทรงรับนางมาเป็นสนม สนมว่านผู้นี้ทะเยอทะยานเกรงว่าหากฮ่องเต้มีโอรสกับสนมอื่นจะเป็นภัยแก่โอรสของนาง จึงมักจับสนมผู้อื่นที่ตั้งครรภ์ไปทำแท้งจนหมด แต่แล้วไม่นานพระโอรสที่ประสูติจากพระนางก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฉิงฮั่วจึงไม่เสด็จฝ่ายในอีกเลย
นอกจากขันทีพระองค์ทรงยังมีสนมว่านกุ้ยเฟย (万贵妃) ซึ่งเดิมเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลพระองค์ขณะที่ทรงตกยากจึงทรงรับนางมาเป็นสนม สนมว่านผู้นี้ทะเยอทะยานเกรงว่าหากฮ่องเต้มีโอรสกับสนมอื่นจะเป็นภัยแก่โอรสของนาง จึงมักจับสนมผู้อื่นที่ตั้งครรภ์ไปทำแท้งจนหมด แต่แล้วไม่นานพระโอรสที่ประสูติจากพระนางก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฉิงฮั่วจึงไม่เสด็จฝ่ายในอีกเลย
ค.ศ. 1475 วันหนึ่งทรงพระปรารภกับขันทีจางหมิ่น () เรื่องไม่มีทายาทสืบบัลลังก์ เขาจึงกราบทูลว่าที่จริงพระองค์มีโอรสหน่อมังกรที่ประสูติจากอดีตนางกำนัลซึ่งขณะนี้อยู่นอกวัง ด้วยความดีพระทัยจึงโปรดให้นำตัวเข้าวัง และทรงขอร้องสนมว่านให้ช่วยดูแลเด็กน้อยผู้นี้ด้วย ซึ่งทำให้ต่อมาไม่กี่วันมีผู้พบศพขันทีจางหมิ่นถูกมือมืดจับเอาทองกรอกปาก ส่วนมารดาขององค์ชายน้อยก็ผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
ค.ศ. 1475 วันหนึ่งทรงพระปรารภกับขันทีจางหมิ่น () เรื่องไม่มีทายาทสืบบัลลังก์ เขาจึงกราบทูลว่าที่จริงพระองค์มีโอรสหน่อมังกรที่ประสูติจากอดีตนางกำนัลซึ่งขณะนี้อยู่นอกวัง ด้วยความดีพระทัยจึงโปรดให้นำตัวเข้าวัง และทรงขอร้องสนมว่านให้ช่วยดูแลเด็กน้อยผู้นี้ด้วย ซึ่งทำให้ต่อมาไม่กี่วันมีผู้พบศพขันทีจางหมิ่นถูกมือมืดจับเอาทองกรอกปาก ส่วนมารดาขององค์ชายน้อยก็ผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
ค.ศ. 1477 เฉิงฮั่วปีที่ 13 จักรพรรดิเซี่ยนจงมีราชโองการให้ก่อตั้งซีฉ่าง (西厂) โปรดให้ขันทีหวางจือ (汪直) ขันทีคนสนิทของว่านกุ้ยเฟยเป็นผู้บัญชาการ เหตุผลที่ทรงตั้งซีฉ่างก็เพื่อช่วยสอดส่องคุมตงฉ่างกับกององครักษ์เสื้อแพรอีกทอดหนึ่ง ในปีเดียวกันนี้สนมว่านกุ้ยเฟยถึงอสัญกรรมด้วยโรคตับวายเฉียบพลัน ทำให้พระองค์สะเทือนพระทัยมาก
ค.ศ. 1477 เฉิงฮั่วปีที่ 13 จักรพรรดิเซี่ยนจงมีราชโองการให้ก่อตั้งซีฉ่าง (西厂) โปรดให้ขันทีหวางจือ (汪直) ขันทีคนสนิทของว่านกุ้ยเฟยเป็นผู้บัญชาการ เหตุผลที่ทรงตั้งซีฉ่างก็เพื่อช่วยสอดส่องคุมตงฉ่างกับกององครักษ์เสื้อแพรอีกทอดหนึ่ง ในปีเดียวกันนี้สนมว่านกุ้ยเฟยถึงอสัญกรรมด้วยโรคตับวายเฉียบพลัน ทำให้พระองค์สะเทือนพระทัยมาก
ค.ศ. 1482 หลังจากตั้งซีฉ่างได้ 5 ปี มีขุนนางใหญ่น้อยรวมทั้งตงฉ่างถวายรายงานเรื่องการที่หวางจือใช้อำนาจมิชอบ พระเจ้าเซียนจงจึงมีพระราชโองการให้ยุบซีฉ่าง ส่วนหวางจือได้กราบบังคมทูลลากลับไปอยู่บ้านเกิด
ค.ศ. 1482 หลังจากตั้งซีฉ่างได้ 5 ปี มีขุนนางใหญ่น้อยรวมทั้งตงฉ่างถวายรายงานเรื่องการที่หวางจือใช้อำนาจมิชอบ พระเจ้าเซียนจงจึงมีพระราชโองการให้ยุบซีฉ่าง ส่วนหวางจือได้กราบบังคมทูลลากลับไปอยู่บ้านเกิด
ค.ศ. 1487 วันที่ 9 กันยายน จักรพรรดิเซี่ยนจงเสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษา 40 พรรษา ทรงครองราชย์นาน 23 ปี เมื่อ พระศพบรรจุอยู่ที่โม่วหลิง (Maoling)
ค.ศ. 1487 วันที่ 9 กันยายน จักรพรรดิเซี่ยนจงเสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษา 40 พรรษา ทรงครองราชย์นาน 23 ปี เมื่อ พระศพบรรจุอยู่ที่โม่วหลิง (Maoling)
จักรพรรดิเฉิงฮั่วทรงครองราชย์ตรงกับรัชกาล[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]แห่ง[[กรุงศรีอยุธยา]]
จักรพรรดิเฉิงฮั่วทรงครองราชย์ตรงกับรัชกาล[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]แห่ง[[กรุงศรีอยุธยา]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:07, 9 ตุลาคม 2556

สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว

สมเด็จพระจักรพรรดิเฉิงฮั่ว (9 ธันวาคม ค.ศ. 1447 - 9 กันยายน ค.ศ. 1487) เป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิเจิ้งถง ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 1991 ทรงครองราชย์เมื่อพระชนม์ได้เพียง 17 พรรษา ตั้งแต่ ค.ศ. 1464 (พ.ศ. 2008) ค.ศ. 1464 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังจากจักรพรรดิอิงจงสวรรคต พระองค์จึงได้ครองราชสมบัติ ขณะพระชนมพรรษาได้ 17 พรรษา เฉลิมพระนามว่าหมิงเสี้ยนจง (Xianzong) ใช้รัชศกเฉิงฮั่ว (成化-Chenghua) พระเจ้าเซียนจง ทรงเป็นฮ่องเต้ที่อ่อนแอแม้จะทรงทราบถึงภัยที่จะเกิดจากขันทีที่ตอนนี้มีอำนาจและอิทธิพลล้นฟ้า สามารถจับกุมและสังหารคนได้ แต่พระองค์ก็ไม่จัดการประการใดเพราะพระองค์ก็ถูกแวดล้อมด้วย (แกมอิทธิพล ) ขันที อีกทั้งพระองค์เองยังทรงหวั่นไหวง่ายไม่ค่อยเสด็จออกว่าราชการให้ขุนนางเข้าเฝ้าถวายรายงานเพราะไม่ทรงไว้วางพระทัย ราชการต่างๆ จึงตกอยู่ในมือขันทีโดยปริยาย ในรัชกาลนี้ไม่มีสิ่งใดโดดเด่น นอกจากขันทีพระองค์ทรงยังมีสนมว่านกุ้ยเฟย (万贵妃) ซึ่งเดิมเป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลพระองค์ขณะที่ทรงตกยากจึงทรงรับนางมาเป็นสนม สนมว่านผู้นี้ทะเยอทะยานเกรงว่าหากฮ่องเต้มีโอรสกับสนมอื่นจะเป็นภัยแก่โอรสของนาง จึงมักจับสนมผู้อื่นที่ตั้งครรภ์ไปทำแท้งจนหมด แต่แล้วไม่นานพระโอรสที่ประสูติจากพระนางก็สิ้นพระชนม์ พระเจ้าเฉิงฮั่วจึงไม่เสด็จฝ่ายในอีกเลย ค.ศ. 1475 วันหนึ่งทรงพระปรารภกับขันทีจางหมิ่น () เรื่องไม่มีทายาทสืบบัลลังก์ เขาจึงกราบทูลว่าที่จริงพระองค์มีโอรสหน่อมังกรที่ประสูติจากอดีตนางกำนัลซึ่งขณะนี้อยู่นอกวัง ด้วยความดีพระทัยจึงโปรดให้นำตัวเข้าวัง และทรงขอร้องสนมว่านให้ช่วยดูแลเด็กน้อยผู้นี้ด้วย ซึ่งทำให้ต่อมาไม่กี่วันมีผู้พบศพขันทีจางหมิ่นถูกมือมืดจับเอาทองกรอกปาก ส่วนมารดาขององค์ชายน้อยก็ผูกคอตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ค.ศ. 1477 เฉิงฮั่วปีที่ 13 จักรพรรดิเซี่ยนจงมีราชโองการให้ก่อตั้งซีฉ่าง (西厂) โปรดให้ขันทีหวางจือ (汪直) ขันทีคนสนิทของว่านกุ้ยเฟยเป็นผู้บัญชาการ เหตุผลที่ทรงตั้งซีฉ่างก็เพื่อช่วยสอดส่องคุมตงฉ่างกับกององครักษ์เสื้อแพรอีกทอดหนึ่ง ในปีเดียวกันนี้สนมว่านกุ้ยเฟยถึงอสัญกรรมด้วยโรคตับวายเฉียบพลัน ทำให้พระองค์สะเทือนพระทัยมาก ค.ศ. 1482 หลังจากตั้งซีฉ่างได้ 5 ปี มีขุนนางใหญ่น้อยรวมทั้งตงฉ่างถวายรายงานเรื่องการที่หวางจือใช้อำนาจมิชอบ พระเจ้าเซียนจงจึงมีพระราชโองการให้ยุบซีฉ่าง ส่วนหวางจือได้กราบบังคมทูลลากลับไปอยู่บ้านเกิด ค.ศ. 1487 วันที่ 9 กันยายน จักรพรรดิเซี่ยนจงเสด็จสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษา 40 พรรษา ทรงครองราชย์นาน 23 ปี เมื่อ พระศพบรรจุอยู่ที่โม่วหลิง (Maoling) จักรพรรดิเฉิงฮั่วทรงครองราชย์ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา

ก่อนหน้า จักรพรรดิเฉิงฮว่า ถัดไป
จักรพรรดิเจิ้งถง จักรพรรดิจีน
(พ.ศ. 2008 - พ.ศ. 2030)
จักรพรรดิหงจี๋|}