ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทางรถไฟสายพระพุทธบาท"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
}} |
}} |
||
'''ทางรถไฟสายพระพุทธบาท''' เป็น[[ทางรถไฟ]]เอกชนที่เดินรถระหว่าง[[สถานีรถไฟท่าเรือ]] [[อำเภอท่าเรือ]] [[จังหวัดพระนครศรีอยุธยา]] กับ[[อำเภอพระพุทธบาท]] [[ |
'''ทางรถไฟสายพระพุทธบาท''' เป็น[[ทางรถไฟ]]เอกชนที่เดินรถระหว่าง[[สถานีรถไฟท่าเรือ]] [[อำเภอท่าเรือ]] [[จังหวัดพระนครศรีอยุธยา]] กับ[[อำเภอพระพุทธบาท]] [[จังหวัดสระบุรี]] เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร ตั้งแต่ [[พ.ศ. 2445]] ถึง [[พ.ศ. 2485]] ชาวบ้านท้องถิ่นมักเรียกรถไฟสายนี้ว่า '''รถไฟกรมพระนรา''' หรือ '''รถไฟกรมพระดารา''' |
||
รถไฟเล็กสายพระพุทธบาทนี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ เมื่อปี [[พ.ศ. 2445]] และได้รับการจัดชั้นเป็น [[รถราง]] โดยเปิดให้บริการปี [[พ.ศ. 2449]] |
รถไฟเล็กสายพระพุทธบาทนี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ เมื่อปี [[พ.ศ. 2445]] และได้รับการจัดชั้นเป็น [[รถราง]] โดยเปิดให้บริการปี [[พ.ศ. 2449]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:42, 7 ตุลาคม 2556
บทความนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน มีเนื้อหา รูปแบบ หรือลักษณะการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมสำหรับสารานุกรม |
ทางรถไฟสายพระพุทธบาท | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | ยกเลิกแล้ว |
เจ้าของ | บริษัทท่าเรือจำกัด |
ที่ตั้ง | อำเภอท่าเรือ อำเภอพระพุทธบาท |
ปลายทาง | |
จำนวนสถานี | 7 |
การดำเนินงาน | |
รูปแบบ | รถไฟระหว่างเมือง, รถราง |
ประวัติ | |
เปิดเมื่อ | พ.ศ. 2445 |
ปิดเมื่อ | กรกฎาคม พ.ศ. 2485 |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
ระยะทาง | 20 กม. (12.43 ไมล์) |
รางกว้าง | รางแคบขนาดเล็ก 75 เซนติเมตร (ตามซากที่ยังหลงเหลือ) หรือ 60 เซนติเมตร |
ทางรถไฟสายพระพุทธบาท เป็นทางรถไฟเอกชนที่เดินรถระหว่างสถานีรถไฟท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร ตั้งแต่ พ.ศ. 2445 ถึง พ.ศ. 2485 ชาวบ้านท้องถิ่นมักเรียกรถไฟสายนี้ว่า รถไฟกรมพระนรา หรือ รถไฟกรมพระดารา
รถไฟเล็กสายพระพุทธบาทนี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษ เมื่อปี พ.ศ. 2445 และได้รับการจัดชั้นเป็น รถราง โดยเปิดให้บริการปี พ.ศ. 2449
ทางรถไฟสายพระพุทธบาทดำเนินการโดย บริษัทท่าเรือจำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นหลักคือ บริษัทนาบุญจำกัดสินใช้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ได้รับสัมปทานตั้งแต่ พ.ศ. 2445
รายละเอียดการเดินรถ
รถไฟกรมพระนราใช้รางกว้างขนาด 60 ซม. (แต่ 75 ซม. ตาม หลักฐานจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติและซากทางที่โรงน้ำตาลวังกระพี้ซึ่งยกมาจาก สายพระพุทธยาท) หัวรถจักรไอน้ำใช้ความเร็ว 20 กม.ต่อชั่วโมง หัวรถจักรดีเซล ใช้ความเร็ว 30 กม.ต่อชั่วโมง
แต่ละขบวนที่มีพนักงาน 4 คน คือ พขร. 1 คน ช่างไฟ 1 คน (มีหน้าที่เติมน้ำ และฟืน) พนักงานขายตั๋วและตรวจตั๋ว 2 คน (ตั๋วอ่อนแบบฉีก) การซื้อขายตั๋วจะมี การขายตั๋วเฉพาะสถานีท่าเรือกับสถานีพระพุทธบาทเท่านั้น หากขึ้นลงระหว่าง กลางทางก็ต้องซื้อตั๋วกันบนขบวนรถ
ส่วนสถานีระหว่างทางนั้น เป็นเพียงแค่จุดรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น ไม่มี นายสถานีและพนักงานประจำอยู่ ส่วนอัตราค่าโดยสารคิดเป็นช่วงๆ
ค่าโดยสาร
ระยะแรก เก็บตามรายสถานีละ 5 สตางค์ เช่น
ต้นทาง | ปลายทาง | ราคา |
---|---|---|
ท่าเรือ | บางโขมด | 5 สตางค์ |
ท่าเรือ | บ่อโศก (สร่างโศก) | 10 สตางค์ |
ท่าเรือ | หนองคณฑี | 15 สตางค์ |
ท่าเรือ | เขาเลี้ยว | 20 สตางค์ |
ท่าเรือ | เจ้าพ่อเขาตก | 25 สตางค์ |
ท่าเรือ | พระพุทธบาท | 30 สตางค์ |
แล้วราคาก็ขึ้นเรื่อยๆตามค่าครองชีพ และก่อนเลิกกิจการก็ช่วงสถานีละ 25 สตางค์
ผู้จัดการ
ลำดับที่ | พระนาม / ชื่อ | ปีที่ดำรงตำแหน่ง | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
1 | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ | พ.ศ. 2445 - พ.ศ. 2474 | |
2 | หม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ | พ.ศ. 2474 - พ.ศ. 2485 | |
3 | นายโชติ ยุวสูตร | พ.ศ. 2474 - พ.ศ. 2485 | ทำงานคู่กับ หม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ |
สถานี
ชื่อสถานี / ที่หยุดรถ | ชื่อภาษาอังกฤษ | หมายเหตุ |
---|---|---|
ท่าเรือ | Tha Rua | อยู่ตรงข้ามกับธนาคารออมสินสาขาท่าเรือหลังเก่า |
บางโขมด | Bang Khamot | เข้าเขตจังหวัดสระบุรี |
บ่อโศก (สร่างโศก) | Bor Soke (Srang Soke) | ปัจจุบันยังมีร่องรอยของตัวสถานีให้เห็นอยู่ |
หนองคณฑี | Nhong Khontee | |
เขาเลี้ยว | Khao Liao | |
เจ้าพ่อเขาตก | Chao Por Khao Tok | |
พระพุทธบาท | Phra Phutthabat | ปัจจุบันคือโรงเจฮกเอี๊ยง |
ความล้มเหลวของกิจการ
อย่างไรก็ตามแม้พยายามปรับปรุงสักเพียงใดแต่บริการยังไม่น่าพอใจเพราะ มีการพลิกคว่ำ หรือไม่ก็รถขัดข้องกลางทางบ่อยๆ แม้แต่การเดินทางเที่ยวแรกปี 2449 ที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเปิดเส้นทางก็เกิดการหยุดกลางทาง 2-3 ครั้ง ที่สุด ก็ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวปี 2472 และมาทำสัญญาใหม่กะกรมรถไฟหลวงปี 2474
อันที่จริง รถไฟสายนี้เคยถูกยกเลิกการเดินรถไปครั้งหนึ่งเมื่อราวๆ ปี 2471 - 2472 ฐานเดินรถไม่ได้มาตรฐาน แถมยังเกิดการขาดทุนอยู่หลายปี ติดๆ กัน จนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ต้องแก้ปัญหาโดยการให้ หม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ โอรสใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทำ สัญญาสัมปทานใหม่ กับกรมรถไฟหลวง เมื่อปี 2474
การเลิกกิจการ
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากิจการยังทรงๆ พอ ถนนพหลโยธินไปถึงเมื่องลพบุรี โดยผ่าน อำเภอพระพุทธบาท เมื่อปี 2483 ก็ยิ่งขาดทุนหนัก จนอยู่ไม่ได้ ต้องขายกิจการ ให้บริษัทส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย (โรงงงานน้ำตาลวังกะพี้ โรงงานน้ำตาล เกาะ คา โรงงานน้ำตาล กุมภวาปี) เมื่อ 16 กรกฎาคม 2485 แต่มาจ่ายเงิน 5 แสนบาทกันเมื่อปี 2490 เพราะตอนนั้น ทางรถไฟดังกล่าวโดนนำไปใช้ในการสร้างพุทธบุรีมณฑลตามคำสั่งของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
กิจการรถไฟกรมพระนรา หรือรถไฟเล็ก ก็ได้เลิกกิจการทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2490 (จริงๆ ได้ทำเรื่องขอเลิกการเดินรถโดยอนุมัติ โดยกระทรวงคมนาคม มาแต่ 16 กรกฎาคม 2485 แต่กว่า บริษัทส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นเจ้าของ โรงงานน้ำตาลวังกระพี้ และ โรงงานน้ำตาลกุมภวาปีจะชำระเงินค่ารางและหัวรถจักร ก็ต่อเมือสิ้นสงครามไปแล้ว) โดยหม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ ได้ขายหัวรถจักรทั้งหมด ให้โรงงานน้ำตาลวังกระพี้ จ.อุตรดิตถ์ และโรงงานน้ำตาลที่อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และ ขายเส้นทางให้กับกรมทางหลวงในราคา 5 แสนบาท
ปัจจุบัน
เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3022 สายท่าเรือ-พระพุทธบาท