ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม) ยังต้องการจัดรูปแบบอีก |
|||
บรรทัด 77: | บรรทัด 77: | ||
=== ภาควิชา === |
=== ภาควิชา === |
||
* ภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช |
* ภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช |
||
** สาขาวิชากีฎวิทยา |
|||
- สาขาวิชาโรคพืช |
- สาขาวิชาโรคพืช |
||
* ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ |
* ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ |
||
บรรทัด 86: | บรรทัด 86: | ||
- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร |
- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร |
||
- สาขาวิชาส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร |
- สาขาวิชาส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร |
||
* ภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ |
* ภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ |
||
=== ศูนย์วิจัย === |
=== ศูนย์วิจัย === |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:32, 8 กันยายน 2556
Faculty of Agriculture,Changmai University | |
สถาปนา | 25 กุมภาพันธ์ 2510 |
---|---|
คณบดี | รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช |
ที่อยู่ | 239 ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200 |
สี | สีเหลืองข้าวโพด |
บทความนี้หรือส่วนนี้ ต้องการลิงก์ภายในแบบวิกิและจัดรูปแบบ คุณสามารถช่วยปรับปรุงแก้ไข โดยการเพิ่มการเชื่อมโยงภายในตามความเหมาะสม |
บทความนี้ต้องการข้อความอธิบายความสำคัญที่กระชับ และสรุปเนื้อหาไว้ย่อหน้าแรกของบทความ |
คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ประวัติ
- พ.ศ.2507 มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งเป็นภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร โดยสังกัดอยู่กับคณะวิทยาศาสตร์
- พ.ศ.2510 ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นคณะตามประกาศพระราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2510 ให้เป็นหน่วยราชการระดับคณะ นับเป็นคณะที่ 5 ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และแต่งตั้งให้ อาจารย์ ดร.สุขุม อัศเวศน์ เป็นคณบดีคนแรกของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น 5 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชาปฐพีศาสตร์และอนุรักษศาสตร์ ภาควิชาสัตวบาล ภาควิชาพืชศาสตร์ ภาควิชาถนอมผลิตภัณฑ์เกษตร ภาควิชาส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร
- พ.ศ.2518 ภาควิชาถนอมผลิตภัณฑ์เกษตร เปลี่ยนชื่อเป็นภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร และได้พัฒนาไปเป็นคณะอุตสาหกรรมเกษตรในปัจจุบัน ส่วนภาควิชาพืชศาสตร์ ได้ยุบภาควิชาและจัดตั้งเป็น ภาควิชาพืชสวน ภาควิชาพืชไร่ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร และภาควิชาอารักขาพืช
- พ.ศ.2523 ยุบภาควิชาอารักขาพืชจัดตั้งเป็นภาควิชาโรคพืช และภาควิชากีฏวิทยา
- พ.ศ.2535 ภาควิชาสัตวบาลได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นภาควิชาสัตวศาสตร์
- พ.ศ.2547 ได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น 1 สำนักงานเลขานุการคณะ และ 8 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชากีฏวิทยา ภาควิชาปฐพีศาสตร์และอนุรักษศาสตร์ ภาควิชาพืชไร่ ภาควิชาพืชสวน ภาควิชาโรคพืช ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร ภาควิชาส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร ภาควิชาสัตวศาสตร์
- พ.ศ.2552 ได้หลอมรวมและแบ่งส่วนราชการเป็น 1 สำนักงานคณะ 3 ศูนย์ และ 4 ภาควิชา ได้แก่ ภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและส่งเสริมเผยแพร่การเกษตร และภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ
พื้นที่ดูแล
- อาคารเรียนและแปลงทดลองในบริเวณมหาวิทยาลัย 77 ไร่
- สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ 1,293 ไร่
- สถานีวิจัยเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน อ.เมือง 442 ไร่
- สถานีวิจัยการเกษตรที่สูงหนองหอย อ.แม่ริม 80 ไร่
- สถานีวิจัยการเกษตรที่สูงดอยป่าเกี๊ยะ อ.เชียงดาว 60 ไร่
- สถานีวิจัยการเกษตรเขตชลประทาน 50 ไร่
- ศูนย์ศึกษาและพัฒนาลำไย “หริภุญชัย” 200 ไร่
ทำเนียบคณบดี
ทำเนียบคณบดีคณะแกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | ||
---|---|---|
รายนามคณบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
1. | พ.ศ. | |
2. | ||
3. | ||
4. | ||
5. | ||
6. | ||
7. | ||
8. |
หน่วยงานและโครงสร้าง
สํานักงานคณะ
- งานบริหารทั่วไป
- งานการเงิน การคลังและพัสดุ
- งานบริการการศึกษา และพัฒนาคุณภาพนักศึกษา
- งานบริหารงานวิจัย และวิเทศสัมพันธ์
- งานนโยบายและแผน และ ประกันคุณภาพการศึกษา
ภาควิชา
- ภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช
- สาขาวิชากีฎวิทยา
- สาขาวิชาโรคพืช
- ภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ
- สาขาวิชาพืชไร่ - สาขาวิชาพืชสวน - สาขาวิชาปฐพีศาสตร์และอนุรักษศาสตร์
- ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและส่งเสริมเผยแพร่การเกษตร
- สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร - สาขาวิชาส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร
- ภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ
ศูนย์วิจัย
- ศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ
- หน่วยวิจัยและพัฒนาวัสดุอินทรีย์ชีวภาพ - หน่วยวิจัยพืชพลังงาน - หน่วยสาธิตและฝึกอบรม - หน่วยหอพัก
- ศูนย์วิจัยระบบทรัพยากรเกษตร
- หน่วยวิจัยและพัฒนาระบบเกษตรยั่งยืน - หน่วยวิจัยและพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
- ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมที่สูง
- หน่วยวิจัยและพัฒนากาแฟ - หน่วยวิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนไร่หน้า - หน่วยวิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนไร่หลัง - หน่วยวิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงหนองหอย - หน่วยวิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูงป่าเกี๊ยะ
- ศูนย์วิจัยข้าวล้านนา
- สถานีวิจัยและพัฒนาลำไยหริภุญไชย
- ศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพเกษตร
- กลุ่มวิจัยผลิตผลเกษตรปลอดภัยและลดการใช้สารเคมี (Safe Agricultural Product and Appropriate Technology for Reduction of Agrochemistry in Northern Thailand )(ATRACT)
- ศูนย์บริการการพัฒนาไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ศูนย์บริการวิชาการ
- ศูนย์บริการวิชาการ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร *
- งานบริการวิชาการและฝึกอบรม - ร้านจำหน่ายผลิตผล และธุรกิจเกษตร
หลักสูตร
ระดับปริญญาตรี | ระดับปริญญาโท | ระดับปริญญาเอก |
---|---|---|
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (เกษตรศาสตร์) (4 ปี)
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วาริชศาสตร์) (4 ปี) |
รายนามผู้บริหารชุดปัจจุบัน
ตำแหน่ง | นาม |
---|---|
คณบดี | |
รองคณบดีฝ่าย | |
รองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
รองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
รองคณบดีฝ่าย | |
รองคณบดีฝ่าย | |
รองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
- ผู้ช่วยรองคณบดีฝ่าย | |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่าย | |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่าย | |
ผู้ช่วยคณบดีฝ่าย |
พัฒนาการของการวิจัย
บทความนี้คล้ายโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์
วิกิพีเดียมิใช่ช่องทางการสื่อสารการตลาดของหน่วยธุรกิจใด ๆ กรุณาเขียนใหม่ด้วยมุมมองที่เป็นกลาง และนำลิงก์ภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องออก |
งานวิจัยของบุคลากรของคณะเกษตรศาสตร์สามารถแบ่งเนื้องานวิจัยของคณาจารย์และบุคลากร ทั้งที่เป็นงานวิจัยแบบสาขาวิชาเดี่ยว (Disciplinary research) และสหสาขาวิชา (Interdisciplinary research) ได้ตามพัฒนาการของวงการวิจัยในระดับนานาชาติได้ดังนี้
พ.ศ.2504-2513 (ค.ศ.1961-1970)
การวิจัยทางเกษตรตามแนวคิดปฏิวัติเขียว (Green Revolution) ขององค์กรวิจัยเกษตรนานาชาติ นั่นคือการใช้เทคโนโลยีทางเกษตรได้แก่ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี สารเคมี เครื่องจักรกลในการพัฒนาและยกระดับผลผลิตพืชและสัตว์ต่อหน่วยพื้นที่
พ.ศ.2514-2523 (ค.ศ.1971-1980)
กำเนิดยุคของระบบการปลูกพืชที่มีข้าวเป็นพืชหลัก เน้นการจัดรูปแบบการผลิตพืชแบบหมุนเวียนโดยเฉพาะในพื้นที่เขตชลประทาน ส่วนในพื้นที่นาเขตอาศัยน้ำฝนเน้นการปลูกพืชก่อนและหรือหลังนาโดยใช้ความชื้นในดิน ในระยะนี้ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเกียรติให้จัดการประชุมวิชาการระบบการปลูกพืชครั้งแรกในประเทศไทยในปี 2520 และได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี เป็นเวลา 7 ปี (พฤกษ์, 2536) โดยมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ กรมวิชาการเกษตร หมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีการเชื่อมโยงระหว่างนักวิชาการจากหลายสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรให้มีโอกาสในการพิจารณาและศึกษาปัญหาของระบบเกษตรตั้งแต่ระดับไร่นาเกษตรกรถึงระดับนโยบาย พิจารณาประเด็นความเสมดภาคของการจัดการทรัพยากรตามนโยบายต่อเกษตรกรรายย่อย
พ.ศ.2524-2533 (ค.ศ.1981-1990)
กำเนิดยุคระบบการทำฟาร์มและยุคดิจิตอลในวงการเกษตรนานาชาติ และยุคของการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาหลายสาขาวิชา มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยระบบการทำฟาร์ม สังกัดกรมวิชาการเกษตรในปี 2526 มีการจัดประชุมวิชาการงานวิจัยระบบการทำฟาร์มครั้งแรกในปี 2527 โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมเพิ่มเติมได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นต้น ในระดับนานาชาติมีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์และแบบจำลองพืชหลักเพื่อเสริมงานวิจัยให้ก้าวหน้ามากขึ้น ในระยะนี้ คณะเกษตรศาสตร์ได้มีงานวิจัยพอเพียงต่อการเปิดหลักสูตรบัณฑิตศึกษาหลายสาขาวิชา ได้แก่ พืชไร่ พืชสวน เกษตรศาสตร์เชิงระบบซึ่งในปี 2531 ได้พัฒนาเป็นหลักสูตรนานาชาติ
พ.ศ.2534-2543 (ค.ศ.1991-2000)
กำเนิดของการเกษตรยั่งยืน การพัฒนาที่ยั่งยืน และยุคของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ มีการขยายหน่วยงานที่ดำเนินการวิจัยเชิงระบบในกรมวิชาการเกษตรซึ่งในปี 2536 สถาบันวิจัยการทำฟาร์มได้รับการจัดตั้งเป็นสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรจำนวนทั้งสิ้น 6 สำนัก ตามเขตเกษตรที่สำคัญของประเทศ ในระยะนี้คณะเกษตรศาสตร์ได้ดำเนินการวิจัยอย่างพอเพียงและสามารถเปิดหลักสูตรปริญญาเอกในสองสาขาวิชาในปี 2538 ซึ่งจะกล่าวในส่วนของหลักสูตร
พ.ศ.2544-2553 (ค.ศ.2001-2010)
กำเนิดของยุคการค้าเสรีในระดับโลกและระดับประเทศคู่ค้า กำเนิดของยุคจัดการความองค์ความรู้ การจัดการทรัพยากรโดยมีส่วนร่วม ในปี 2548 รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา นโยบายการกำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดินในระดับรัฐไว้ 9 ด้าน ได้แก่
- การกำหนดการแก้ไขปัญหาความยากจน
- การพัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นด้านมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
- การปรับโครงสร้างการผลิต
- การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การต่างประเทศ
- การพัฒนากฏหมาย
- ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย และกระบวนการประชาสังคม
- การรักษาความมั่งคงของรัฐ สถาบันพระมหากัษตริย์ การป้องกันประเทศ
- การรองรับการเปลี่ยนแปลงและพลวัตของโลก