ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาผู้ไท"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Addbot (คุย | ส่วนร่วม)
Bot: Migrating 3 interwiki links, now provided by Wikidata on d:q3626597 (translate me)
ป้ายระบุ: ลบลิงก์ข้ามภาษา
Sunthorn Skulpone (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''ภาษาผู้ไท''' (เขียน '''ผู้ไทย''' หรือ '''ภูไท''' ก็มี) เป็นภาษาในตระกูลภาษาไท-กะได มีผู้พูดจำนวนไม่น้อย กระจัดกระจายในภูมิภาคต่างๆ ของ[[ประเทศไทย|ไทย]] [[ประเทศลาว|ลาว]] และ[[ประเทศเวียดนาม|เวียดนาม]] เข้าใจว่า ผู้พูดภาษาผู้ไทมีถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมอยู่ในเมือง '''แถง''' หรือปัจจุบันคือจังหวัด[[เดียนเบียนฟู]]ของเวียดนาม ในอดีตคือแคว้นสิบสองจุไทของสยาม เรียกว่า [[ชาวไทดำ]] ในปัจจุบัน มีการจัดให้ภาษาผู้ไทเป็นกลุ่มย่อยของ[[ภาษาไทดำ]]อีกทอดหนึ่ง
'''ภาษาผู้ไท''' (เขียน '''ผู้ไทย''' หรือ '''ภูไท''' ก็มี) เป็นภาษาในตระกูลภาษาไท-กะได มีผู้พูดจำนวนไม่น้อย กระจัดกระจายในภูมิภาคต่างๆ ของ[[ประเทศไทย|ไทย]] [[ประเทศลาว|ลาว]] เข้าใจว่า ผู้พูดภาษาผู้ไทมีถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมอยู่ในเมือง '''นาน้อย อ้อยหนู''' ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เมือง นาน้อยออ้ยหนู อันเป็นถิ่นฐานดั้งเดิมของ ผู้ไท อยู่ทีไหน เพราะปัจจุบันมีเมืองนาน้อยอ้อยหนูอยู่ถึง สามแห่ง ตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แถงหรือปัจจุบันคือจังหวัด[[เดียนเบียนฟู]]แห่งที่สองอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แถง และแห่งที่สาม อยู่ห่างจาก เมือง ลอของเวียดนามประมาณ 10 กิโลเมตร [[ชาวไทดำ]]กับผู้ไทเป็นคนละชาติพันธุ์กัน นัก ภาษาศาสตร์ สันนิฐานว่า อพยพแยกจากกันนานกว่า 1500 ปีมาแล้ว ในปัจจุบัน มีการจัดให้ภาษาผู้ไทเป็นกลุ่มย่อยของ[[ภาษาไทดำ]]นั้นไม่ถูกต้อง ผู้ไทอพยพจาก นาน้อยอ้อยหนู ไปอยู่ที่ เมืองวังอ่างคำ ซึ่งคือเมือง วีละบุลี ในแขวง สะหวันนะเขต ของสาธาระณะรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ก่อนถูกกวาดต้อนมาอยู่ประเทศสยาม เมื่อไม่ถึง 200 ปีมานี้ ผู้ไทที่ถูกกวาดต้อนมาอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงมีจำนวนไม่น้อย แต่ผู้ไทซึ่งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงแถบแขวงสะหวันนะเขต และคำม่วน ก็ยังมีประปราย มักจะเรียกผู้ไททั้งสองกลุ่มนี้รวมๆกันว่า "ผู้ไทสองฝั่งโขง"


== ผู้พูดภาษาผู้ไท ==
== ผู้พูดภาษาผู้ไท ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:15, 24 สิงหาคม 2556

ภาษาผู้ไท (เขียน ผู้ไทย หรือ ภูไท ก็มี) เป็นภาษาในตระกูลภาษาไท-กะได มีผู้พูดจำนวนไม่น้อย กระจัดกระจายในภูมิภาคต่างๆ ของไทย ลาว เข้าใจว่า ผู้พูดภาษาผู้ไทมีถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมอยู่ในเมือง นาน้อย อ้อยหนู ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เมือง นาน้อยออ้ยหนู อันเป็นถิ่นฐานดั้งเดิมของ ผู้ไท อยู่ทีไหน เพราะปัจจุบันมีเมืองนาน้อยอ้อยหนูอยู่ถึง สามแห่ง ตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แถงหรือปัจจุบันคือจังหวัดเดียนเบียนฟูแห่งที่สองอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง แถง และแห่งที่สาม อยู่ห่างจาก เมือง ลอของเวียดนามประมาณ 10 กิโลเมตร ชาวไทดำกับผู้ไทเป็นคนละชาติพันธุ์กัน นัก ภาษาศาสตร์ สันนิฐานว่า อพยพแยกจากกันนานกว่า 1500 ปีมาแล้ว ในปัจจุบัน มีการจัดให้ภาษาผู้ไทเป็นกลุ่มย่อยของภาษาไทดำนั้นไม่ถูกต้อง ผู้ไทอพยพจาก นาน้อยอ้อยหนู ไปอยู่ที่ เมืองวังอ่างคำ ซึ่งคือเมือง วีละบุลี ในแขวง สะหวันนะเขต ของสาธาระณะรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว ก่อนถูกกวาดต้อนมาอยู่ประเทศสยาม เมื่อไม่ถึง 200 ปีมานี้ ผู้ไทที่ถูกกวาดต้อนมาอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงมีจำนวนไม่น้อย แต่ผู้ไทซึ่งอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขงแถบแขวงสะหวันนะเขต และคำม่วน ก็ยังมีประปราย มักจะเรียกผู้ไททั้งสองกลุ่มนี้รวมๆกันว่า "ผู้ไทสองฝั่งโขง"

ผู้พูดภาษาผู้ไท

ผู้พูดภาษาผู้ไทในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณจังหวัดภาคอีสานตอนบน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์, นครพนม, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด และ สกลนคร นอกจากนี้ยังมีอีกเล็กน้อยในจังหวัดอุบลราชธานีและอุดรธานี โดย ในแต่ละท้องถิ่น ย่อมมีสำเนียงและคำศัพท์ที่แตกต่างกันไป

เป็นที่น่าสังเกตว่า ภาษาผู้ไทแม้จะกระจายอยู่ในแถบอีสาน แต่สำเนียงและคำศัพท์นั้นแตกต่างกับภาษาไทยถิ่นอีสานโดยทั่วไป อย่างไรก็ตามยังมีคำยืมจากภาษาถิ่นอีสานอยู่ในภาษาผู้ไทบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่นับว่ามาก ด้วยเหตุนี้ ชาวไทยที่พูดภาษาอีสานจึงไม่สามารถพูดหรือฟังภาษาผู้ไทอย่างเข้าใจโดยตลอด แต่ชาวผู้ไทส่วนใหญ่มักจะพูดภาษาอีสานได้

ลักษณะของภาษา

ด้วยภาษาผู้ไทเป็นภาษาในตระกูลไท จึงมีลักษณะเด่นร่วมกับภาษาไทยด้วย นั่นคือ

  • เป็นภาษาคำโดด มักเป็นคำพยางค์เดียว
  • เป็นภาษามีวรรณยุกต์
  • โครงสร้างประโยคแบบเดียวกัน คือ "ประธาน กริยา กรรม" (SVO) ไม่ผันรูปตามโครงสร้างประโยค

หน่วยเสียงในภาษาผู้ไท

หน่วยเสียงพยัญชนะ

ฐานกรณ์ของเสียง ริมฝีปากล่าง-ฟัน ริมฝีปาก โคนฟัน เพดานส่วนแข็ง เพดานส่วนอ่อน ช่วงคอ
เสียงหยุด (ไม่ก้อง) - /ป/ /ต/ /จ/ /ก/ /อ/
เสียงหยุด (ไม่ก้อง) - /พ/ /ท/ - /ค/ -
เสียงหยุด (ก้อง) - /บ/ /ด/ - - -
เสียงขึ้นจมูก - /ม/ /น/ /ญ/ /ง/ -
เสียงเสียดแทรก /ฟ/ /ส/ - - - /ห/
กึ่งสระ /ว/ - - /ย/ - -
ลอดข้างลิ้น - /ล/ - - - -

ในที่นี้ขออธิบายเฉพาะเสียงที่แตกต่างจากภาษาไทยมาตรฐาน ดังนี้

  • /ญ/ เป็นหน่วยเสียงพิเศษ ที่ไม่พบในภาษาไทยภาคกลาง แต่พบได้ในภาษาไทยถิ่นอีสาน เหนือ และใต้ (บางถิ่น) ในภาษาผู้ไท บางถิ่นผู้พูดใช้เสียง /ญ/ โดยตลอด บางถิ่นใช้ทั้งเสียง /ญ/ และ /ย/ โดยไม่แยกแยะคำศัพท์

หน่วยเสียงสระ

ภาษาผู้ไทมีสระเดี่ยว 9 ตัว หรือ 18 ตัวหากนับสระเสียงยาวด้วย โดยทั่วไปมีลักษณะของเสียงคล้ายกับสระในภาษาไทยถิ่นอื่น (เพื่อความสะดวก ในที่นี้ใช้อักษร อ ประกอบสระ เพื่อให้เขียนง่าย)

สระสูง อิ, อี อึ, อือ อุ, อู
สระกลาง เอะ, เอ เออะ, เออ โอะ, โอ
สระต่ำ แอะ,แอ อะ,อา เอาะ, ออ

อนึ่ง ในภาษาผู้ไทมักไม่ใช้สระประสม นิยมใช้แต่สระเดี่ยวข้างบนนี้ ตัวอย่างคำที่ภาษาไทยกลางเป็นสระประสม แต่ภาษาผู้ไทใช้สระเดี่ยว

ภาษาไทยกลาง ภาษาผู้ไท
/หัว/ /โห/
/สวน/ /โสน/
/เสีย/ /เส/
/เขียน/ /เขน/
/เสือ/ /เสอ/
/มะเขือ/ /มะเขอ/

หน่วยเสียงวรรณยุกต์

หน่วยเสียงวรรณยุกต์ในภาษาผู้ไท มีด้วยกัน 5 หน่วย

พยางค์

พยางค์ในภาษาผู้ไทมักจะเป็นพยางค์อย่างง่าย ดังนี้

  • เมื่อประสมด้วยสระเสียงยาว พยางค์อาจประกอบด้วยพยัญชนะต้น สระ และวรรณยุกต์ โดยจะมีพยัญชนะตัวสะกดหรือไม่ก็ได้
  • เมื่อมีสระเสียงสั้น พยางค์ประกอบด้วยพยัญชนะต้น สระ วรรณยุกต์ และพยัญชนะตัวสะกด

ลักษณะเด่นของภาษาผู้ไท

ลักษณะเด่นอื่นๆ ของภาษาผู้ไท มีดังนี้

  • เสียงท้ายคำถาม
    • เผอ,ผิเหลอ,ผะเหลอ = อะไร
    "นี้แม่นเผอ" = นี่คืออะไร
    "เว้าผิเหลอหว่ะ" = พูดอะไรน่ะ
    "จักแม่นผะเหลอ" = ไม่รู้อะไร
    • เผ่อ,ผู้เหล่อ = ใคร
    "แม้ ล่ะ ไป๋ เหย้ม เผ่อ" = แม่จะไปเยี่ยมใคร
    "ผู้เหล่อล่ะไป๋กับข้อยแด่" = ใครจะไปกับผมบ้าง
    • ซิเหล่อ,เนอะเห่อ = ที่ไหน
    "เพิ้น ล่ะ ไป๋ ซิ เหล่อ" = เขาจะไปไหน
    "เจ้าอยู่เนอะเห่อหว่ะ" = คุณอยู่ที่ไหนน่ะ
    • มิ = ไม่
    "ไป๋ลึมิไป๋" = ไปหรือไม่ไป
    "มิได้" = ไม่ได้,ไม่มี
  • สระประสมในภาษาไทยถิ่นอื่น มักเป็นสระเดี่ยวในภาษาผู้ไท
    • สระ เอีย เป็น เอ
    กระเทียม - กะเท่ม
    โรงเรียน - โฮงเฮน,โลงเลน
    • สระ เอือ เป็น เออ
    น้ำเชื่อม - น้ำเซิ้ม
    ใส่เสื้อ - เส่อเส้อ
    • สระ อัว เป็น โอ
    กล้วย - โก๊ย
    • สระใอ (ไม้ม้วน)ในภาษาไทกลาง เมื่อพูดในภาษาผู้ไท มักออกเสียงสระเออ ดังนี้
    ใหม่-เหม่อ
    ใส่-เส่อ
    หัวใจ-โหเจ๋อ
    ใกล้-เข้อ,เก้อ
    แกงมะเขือใส่เนื้อเสือ กินบนเรือ เพื่อกลับบ้าน-แกงมะเขอเส่อเน้อเสอ กินเทิงเฮอ เพ้อเมอเฮิน
    • สระไอ(ไม้มลาย)ในภาษาไทยกลาง จะออกเสียง จัตวา (+)ในสำเนียงภูไท ดังนี้
    ไป-ไป๋,
  • ข บางคำจะออกเสียงเป็น ห, ค บางคำจะออกเสียงเป็น ฮ ดังนี้
    • เข้า-เห้า,ข้า-ห้า,ค้าขาย-ฮ้าหาย
    • คนห้าคนฆ่าคนห้าคน-ฮนห้าฮนห้าฮนห้าฮน
  • คำที่สะกดด้วย -อก จะออกเสียง สระ เอาะ(เสียงสั้น) ดังนี้
    • นอก-เน้าะ,จอก-เจ้าะ,คอก-เค่าะ,ปลอก-เป๊าะ

อ้างอิง