ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บุญชู"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 65: | บรรทัด 65: | ||
| 2538 |
| 2538 |
||
| [[บุญชู 8 เพื่อเธอ]] |
| [[บุญชู 8 เพื่อเธอ]] |
||
| รำเพย , นารายณ์บรรทม |
| รำเพย , นารายณ์บรรทม , แฉล้ม |
||
| - |
| - |
||
|- |
|- |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:22, 11 สิงหาคม 2556
บุญชู เป็นภาพยนตร์ไทย ประเภทหนังตลกขบขัน ที่มีการสร้างถึง 8 ครั้ง 10 ภาค ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 – พ.ศ. 2553 สร้างโดย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น โดย 7 ภาคแรก กำกับภาพยนตร์และเขียนบทภาพยนตร์โดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล โดยมี สันติสุข พรหมศิริ และ จินตหรา สุขพัฒน์ แสดงนำ โดยเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมสูงสุดในยุคนั้น นอกจากนั้นภาพยนตร์ชุดบุญชูที่สร้างภาคต่อๆ มา ก็ได้รับการบันทึกว่าเป็นภาพยนตร์ซึ่งได้รับความนิยมทำรายได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกภาค[1]
ภาคสุดท้ายของบุญชู มีชื่อเรื่องว่า "บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ" ฉายในปี พ.ศ. 2553 ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับภาพยนตร์เป็น เกียรติ กิจเจริญ หนึ่งในกลุ่มนักแสดงบุญชูซึ่งร่วมงานมาทุกภาค
บุญชูได้เคยถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ในปี พ.ศ. 2541 ออกอากาศทางช่อง 5 โดยใช้ชื่อว่า บุญชู สระอูยาว สร้างโดย มีเดีย ออฟ มีเดียส์ กำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล เช่นเดิม นำแสดงโดย เพ็ญเพชร เพ็ญกุล, ผาณิต สุทธาศวิน, สันติสุข พรหมศิริ, กีรติ เจนปรมกิจ
เนื้อหา
ภาค 1-5 : ช่วงศึกษา
เรื่องราวของ "บุญชู" เริ่มขึ้นเมื่อ บุญชู บ้านโข้ง หนุ่มสุพรรณฯ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับหลานสาว เพื่อเรียนกวดวิชาและสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยได้พบกับเพื่อนใหม่จากต่างถิ่น และ โมลี สาวน้อยผู้น่ารัก จนเมื่อผลสอบเข้าไม่ผ่าน บุญชูจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิด และกลับมากรุงเทพฯ อีกครั้งโดยช่วยงานที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นจึงขอสอบใหม่อีกครั้ง ผลปรากฏว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยในช่วงกำลังศึกษา บุญชูเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนๆ ร่วมสถาบัน เคยสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานนักศึกษาแต่ก็ไม่ได้รับเลือก จนกระทั่งสำเร็จการศึกษา
ภาค 6-8 : ช่วงทำงาน
โมลีต้องการให้บุญชูทำงานในกรุงเทพฯ แต่บุญชูทนไม่ไหวกับสภาพความหนาแน่นของผู้คนที่พากันแย่งก็เลยตัดสินใจกลับบ้านเกิด โดยไปเป็นพ่อค้าขายข้าว ต่อมา บุญล้อม แม่ของบุญชูได้ยกบ้านริมน้ำให้เป็นเรือนหอกับโมลี แต่มานีพี่สาวของเธอไม่ตกลงโดยยื่นคำขาดให้กำจัดน้ำเน่าเสียในคลองหน้าบ้านให้เป็นน้ำสะอาด มานีเห็นใจในความพยายาม จึงตัดสินใจให้โมลีแต่งงานกับบุญชู และอยู่ด้วยกันที่บ้านริมน้ำหลังนั้น จนได้ให้กำเนิดลูกชาย [2]
ภาค 9-10 : ช่วงแห่งความเป็นพ่อ
เกือบยี่สิบปีให้หลัง บุญโชค ลูกชายของบุญชูและโมลี โตเป็นหนุ่มแต่อยู่ในช่วงแห่งการศึกษาพระธรรม ขณะที่คุณพ่อซึ่งอาศัยอยู่ร้านขายของชำในจังหวัดบ้านเกิดก็ตั้งใจจะให้ลูกบวชไปเรื่อยๆ จนเป็นพระ แต่คุณแม่อยากให้เข้าเรียนและใช้ชีวิตปกติมากกว่า บุญโชคจึงแอบสึกเณรเข้ากรุงเทพฯ โดยไม่บอกพ่อ เพื่อฝากให้กลุ่มเพื่อนเก่าของพ่อช่วยดูแล จนบุญโชคสามารถสอบเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาแต่ผลก็คือไม่ได้เข้าสอบ อันเนื่องมาจากความวุ่นวายนั้นเอง[3] จึงเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อพบพ่อแม่ และได้รับคำปลอบว่าจะเรียนอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดี เรื่องสอบยังไม่สาย บุญโชคจึงตั้งใจสอบใหม่อีกครั้งโดยมีความหวังคือเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อที่จะพบเพื่อนใหม่อย่างคาดไม่ถึง
ความนิยม
ภาพยนตร์เรื่อง "บุญชู ผู้น่ารัก" ออกสู่สายตาผู้ชมครั้งแรกในปี 2531 โดยเป็นภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนั้น จากความสำเร็จในภาคแรก ทำให้มีการสร้างภาพยนตร์ในภาคต่อๆ มา และกลายเป็นภาพยนตร์ตลกที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการบันทึกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกภาค [4] ดังนี้
- บุญชู ผู้น่ารัก : 13 ล้านบาท
- บุญชู 2 น้องใหม่ : 16 ล้านบาท
- บุญชู 5 เนื้อหอม : 21 ล้านบาท
- บุญชู 6 โลกนี้ดีออก สุดสวย น่ารักน่าอยู่ ถ้าหงุ่ย : 23.5 ล้านบาท
- บุญชู 7 รักเธอคนเดียวตลอดกาลใครอย่าแตะ : 32.1 ล้านบาท
- บุญชู 8 เพื่อเธอ : 26 ล้านบาท
- บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู : ประมาณ 50 ล้านบาท [5][6]
- บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ : 15.6 ล้านบาท
ภาค
ปี | ชื่อภาค | ตัวละครรับเชิญ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|
2531 | บุญชู ผู้น่ารัก | โต้ง , เงินตรา | เปิดตัวภาคแรก |
2532 | บุญชู 2 น้องใหม่ | มหาแจ่ม , บุญมา | เปลี่ยนผู้แสดง "เฉื่อย" เป็น นฤพนธ์ ไชยยศ , เปิดตัว "ประพันธ์" (เกรียงไกร อมาตยกุล), เปลี่ยนผู้แสดง "บุญช่วย" เป็น สุเทพ ประยูรพิทักษ์ |
2533 | บุญชู 5 เนื้อหอม | อำภาวรรณ , อ.สุโต , เรวัต , จันทร์เพ็ญ , สายัณห์ | ฉายรวมกับ บุญชู 3 จำจากแม่ และ บุญชู 4 ปีหนึ่ง, เปลี่ยนผู้แสดง "มานี" เป็น ปรารถนา สัชชุกร |
2534 | บุญชู 6 โลกนี้ดีออก สุดสวย น่ารักน่าอยู่ ถ้าหงุ่ย | ลลิตา, ทองดี | - |
2536 | บุญชู 7 รักเธอคนเดียวตลอดกาลใครอย่าแตะ | สตีฟ , ทองดี , อากลม , อาเที่ยง | - |
2538 | บุญชู 8 เพื่อเธอ | รำเพย , นารายณ์บรรทม , แฉล้ม | - |
2551 | บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู | พิม, แอ่น, พี่เหน่ง | เปิดตัวนักแสดงรุ่นลูก |
2553 | บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ | จันทร์ผา, จันทร์หอม, พี่หมอ, ปิงวัง, ยมน่าน, มะขิ่น, อบต | เกียรติ กิจเจริญ กำกับภาพยนตร์, ปิดตัวภาคสุดท้าย |
ตัวละครหลัก
ตัวละครที่ปรากฏตัวจนถึงภาคล่าสุด
- บุญชู บ้านโข้ง เป็นคนสุพรรณ บ้านโข้ง มีแม่ชื่อ บุญล้อม มีพี่ชายชื่อ บุญช่วย และมีหลานชื่อ บัวลอย เป็นลูกพี่ชายของบุญชู เรียนจบจากนิสิตเกษตร (คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)[7] จบปริญญา ได้กลายเป็นเกษตรแบบพอเพียงเต็มตัว รวมทั้งมีร้านสะดวกซื้อ แบบบ้านนอกเป็นของตัวเอง ยังคงเป็นคนน่ารักของทุกคนเหมือนเดิม แม้ว่าเวลาจะผ่านมายี่สิบปีแล้ว เสน่ห์ของบุญชู คือ ความใส ความซื่อของตัวบุญชู และ จริยธรรมที่แทรกอยู่ว่าความดีสารมารถเอาชนะความชั่ว มีลูกกับโมลีอยู่ 3 คน คนแรกชื่อ บุญโชค[8] และอีกสองคนเป็นลูกแฝด[3]
- โมลี เป็นคนกรุงเทพฯ มีพี่สาวชื่อ มานี เรียนจบจาก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[7] เป็นคนรักของบุญชู ยอมสละชีวิตที่หรูหราในกรุงเทพฯกับพี่สาว มาอยู่กับคนรักที่บ้านริมน้ำที่บ้านโข้ง มีลูกชายชื่อ บุญโชค ที่หวังจะฟูมฟักให้ได้เรียนสูงๆเช่นกัน และมีด้วยกันอีกสองคน เป็นลูกแฝด [3]
- ไวยากรณ์ กำไร สอบติดเรียนจบจาก คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์[7] เป็นสัตวแพทย์เพื่อนเก่าของบุญชูและโมลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมพันธุ์ และยังคงเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนๆ
- ประพันธ์ เรียนจบจาก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรียนคณะเดียวกันกับโมลี[7] ยังคงเป็นคนขี้สงสัย ช่างซักในเรื่องไม่ควรซัก อันเป็นลักษณะที่เป็นกรรมพันธุ์ถ่ายทอดไปถึงรุ่นลูก และเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของโมลี มีลูกชายชื่อ ประพาฬ[8]
- นรา จบจากนิติศาสตร์บัณฑิต (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง)[7] ที่เล่นการเมืองแล้วสอบตกแล้วสอบตกอีก เป็นทนายความที่ทำให้ลูกความติดตะรางเป็นประจำ ชอบปราศรัยแบบที่ใครฟังไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม มีลูกสาวชื่อ นิ้ง[8]
- คำมูล เรียนจบจากบัณฑิตโบราณคดี (คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร)[7] ชอบทำตัวเป็น อินเดียน่า โจนส์ เที่ยวตามล่าหาสมบัติไม่เลิกและยังกินปลากระป๋องเป็นประจำ
- เฉื่อย (มั่นคง) สอบติดและเรียนจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร[7] เป็นอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรมที่พูดไม่ทันคนอื่นเหมือนเดิมและยังไม่ทันเพื่อนๆ เหมือนเดิม
- หยอย (ยงยุทธ) สอบติดและเรียนจบจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[7] ชอบเสียงดังเอ็ดตะโรเหมือนเดิม โดยเฉพาะเวลาที่เผชิญหน้ากับ พี่ปอง ปากหมา เจ้าของร้านอาหารเจ้าประจำ ในภาคแรกๆ ชอบพูดคำติดปากว่า "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง" หยอยมีลูกชายชื่อ หยอน[8]
- พี่ปอง ปากหมา เจ้าของร้านอาหารเจ้าประจำ ชอบพูดกวนๆกับลูกค้าในร้านเสมอๆ ทำให้ใครๆเรียกว่า พี่ปอง ปากหมา ชอบทะเลาะกัดกับหยอย เดิมตั้งร้านอยู่ที่ท่าพระจันทร์ แล้วย้ายมาตั้งที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันปิดร้านแล้ว ไปเปิดสาขาใหม่ที่เชียงราย[3]
ตัวละครรุ่นลูก
- บุญโชค ลูกชายเพียงคนเดียวของบุญชูและโมลี ซื่อและมีจิตใจดีงามเหมือนพ่อ แต่อารมณ์สนุกสนานเหมือนเด็กรุ่นใหม่ บวชเณรตั้งแต่เล็กๆ ไม่ยอมสึกและเดินธุดงค์ตามอาจารย์ไปหลายประเทศ จนโมลีผู้เป็นแม่ทนไม่ไหว ตามไปสึกและส่งเข้าไปหาทางเรียนหนังสือต่อในกรุงเทพ แต่ก็ไม่ได้ไปสอบ ต่อมาได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง [3]
- นิ้ง ลูกสาวของนรา เพื่อนคนหนึ่งของบุญชู เรียนรามคำแหงคณะนิติศาสตร์เหมือนพ่อ และทำงานที่ร้านเชสเตอร์กริลล์ไปในเวลาเดียวกันด้วย เป็นคนไม่ค่อยยอมคน ทะเลาะได้แม้แต่พ่อของตัวเอง
- หยอน ลูกชายของหยอย ที่รูปร่างผอมๆในขณะที่พ่ออ้วน พ่อลูกจึงเรียกกันว่า “ไอ้ผอม” (หยอน) และ “อ้วน” (หยอย) เป็นคนที่มีเรื่องตื่นเต้นมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเสมอหยอนและปพาฬยังแย่งกันจีบแอ่นเสมอเมื่อมีโอกาส
- ปพาฬ ลูกชายคนเดียวของประพันธ์ ช่างสงสัยคล้ายพ่อ เรียนคณะศิลปศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใช้เวลาว่างหารายได้พิเศษ ด้วยการเปิดหมวกเล่นไมค์โดยหิ้วไวโอลินติดตัวเพื่อความเท่ห์
ตัวละครที่ปรากฏตัวในอดีต
- บุญล้อม / แม่บุญล้อม แม่ของบุญชู เป็นผู้ที่หวังให้บุญชูเพื่อให้บุญชูสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยให้โด่งดังทั่วบ้านโข้ง พอบุญชูจบมหาวิทยาลัย แม่บุญล้อมได้ยกบ้านริมน้ำให้เป็นเรือนหอกับโมรี แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏตัวแล้ว
- บุญช่วย พี่ชายของบุญชู มักมีนิสัยเหลวไหล ชอบขอเงินจากแม่บุญล้อม ไปเช่าท่าเรือข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่บุญล้อมเคยส่งเงินบุญช่วยเรียนต่อ แต่บุญช่วยกลับไปแต่งงานจนถูกทิ้ง ต่อมาได้ปิดกิจการไปเปิดร้านอาหารที่บ้านเกิด บุญช่วยมีลูกสาวจากภรรยาชื่อว่า บัวลอย และแอบชอบมานี ปัจจุบันไม่ปรากฏตัวแล้ว
- มานี พี่สาวของโมลี มีนิสัยโมโหง่าย เป็นเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นคนรักน้องสาวมาก มานีต้องการจะให้โมลีใช้ชีวิตที่หรูหราในกรุงเทพฯร่วมกับตน แต่โมลีมาอยู่กับบุญชูที่บ้านโข้ง ปัจจุบันไม่ปรากฏตัวแล้ว
- บัวลอย ลูกสาวของบุญช่วย พี่ชายของบุญชู หลานสาวของบุญชู ชอบพูดคำติดปากว่า "ระวังน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า" ปัจจุบันไม่ปรากฏตัวแล้ว
รายชื่อผู้แสดง
ผู้แสดงที่ปรากฏตัวจนถึงภาคล่าสุด
- สันติสุข พรหมศิริ : บุญชู
- จินตหรา สุขพัฒน์ : โมลี
- เกียรติ กิจเจริญ : หยอย (ยงยุทธ)
- เกรียงไกร อมาตยกุล : ประพันธ์ (ร่วมงานตั้งแต่ภาค 2)
- วัชระ ปานเอี่ยม : ไวยากรณ์
- อรุณ ภาวิไล : นรา
- กฤษณ์ ศุกระมงคล : คำมูล
- โรม อิศรา, ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ : เฉื่อย (มั่นคง)
- สมเกียรติ คุณานิธิพงศ์ : ปอง
ผู้แสดงที่ปรากฏตัวในอดีต
- จุรี โอศิริ : บุญล้อม : แม่ของบุญชู
- นิรุตติ์ ศิริจรรยา, สุเทพ ประยูรพิทักษ์ : บุญช่วย : พี่ชายของบุญชู
- ญาณี จงวิสุทธิ์, ปรารถนา สัชฌุกร : มานี : พี่สาวของโมลี
- กัญญาลักษณ์ บำรุงรักษ์ : บัวลอย : ลูกพี่ชายของบุญชู หลานของบุญชู
ผู้แสดงที่ปรากฏตัวเฉพาะภาค
- ส.อาสนจินดา : มหาแจ่ม (ภาค 2,5,7)
- สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต : แม่ของทองดี (ภาค 6)
- ชาลี อินทรวิจิตร : อธิการบดี(ภาค 5) , พ่อของทองดี(ภาค 6), พ่อค้าขายของชำ(ภาค 7)
- สมบัติ เมทะนี : อากลม (ภาค 7)
- สมจินต์ ธรรมทัต : อาเที่ยง (ภาค 7)
- สรพงศ์ ชาตรี : สามีของรำเพย (ภาค 8)
- จารุณี สุขสวัสดิ์ : รำเพย (ภาค 8)
- ดร.เสรี วงษ์มณฑา (ภาค 2)
- ชาญณรงค์ ขันทีท้าว : จันทร์เพ็ญ (ภาค 4,5)
- ธงชัย ประสงค์สันติ : บุญมา (ภาค 2,5)
- ศศิวิมล วิริยานนท์ (ภาค 2)
- นัย สุขสกุล (ภาค 2,8)
- เกรียงไกร อุณหะนันทน์ : อ.สุโต (ภาค 5)
- สมรัชนี เกษร : อุ๊ (ภาค 5)
- อัญชลี ชัยศิริ : แม่ของอุ๊ (ภาค 5)
- รัญญา ศิยานนท์ : ลลิตา (ภาค 6)
- จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ : ทองดี (ภาค 6,7)
- โมนิก้า แม็คคลอรี่ย์ (ภาค 7)
- สจ๊วต แม็คเฟอร์สัน : สตีฟ (ภาค 7)
- ภาณุ น้อยอารีย์ : สายัณห์(ภาค 5), นารายณ์บรรทม-หัวหน้าโจรปล้นพระพุทธรูป (ภาค 8)
- ไกรวิทย์ พุ่มสุโข : หมอ (ภาค 8)
- สุเทพ สีใส : ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (ภาค 8)
- ตูมตาม เชิญยิ้ม : ตำรวจ (ภาค 8)
- นลินธารา โฮเลอร์ : แอ่น (ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
- นิมิตร ลักษมีพงษ์ : พี่เหน่ง (ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
- กิตติ์ลภัส กรสุทธิ์ไรวรรณ : พิม (ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
- ณัฐฐาวีรนุช ทองมี : จันทร์ผา (จะอยู่ในใจเสมอ)
- เกล้าแก้ว สินเทพดล : จันทร์หอม (จะอยู่ในใจเสมอ)
- นะโม ทองกำเหนิด : พี่หมอ (จะอยู่ในใจเสมอ)
- สมจิตร จงจอหอ : ปิงวัง (จะอยู่ในใจเสมอ)
- ธีรวัฒน์ ทองจิตติ : ยมน่าน (จะอยู่ในใจเสมอ)
- สุธีรัชย์ ชาญนุกูล : อบต (จะอยู่ในใจเสมอ)
- วิทยา เจตะภัย : มะขิ่น กฤษดา (จะอยู่ในใจเสมอ)
ผู้แสดงรุ่นลูก
- ธนฉัตร ตุลยฉัตร : บุญโชค : ลูกชายของบุญชู (ไอ-เลิฟ-สระ-อู, จะอยู่ในใจเสมอ)
- อภิญญา สกุลเจริญสุข : นิ้ง : ลูกสาวของนรา (ไอ-เลิฟ-สระ-อู, รับเชิญใน จะอยู่ในใจเสมอ)
- รัชชุ สุระจรัส : หยอน : ลูกชายของหยอย (ไอ-เลิฟ-สระ-อู, รับเชิญใน จะอยู่ในใจเสมอ)
- วรฤทธิ์ นิลกลม : ประพาฬ : ลูกชายของประพันธ์ (ไอ-เลิฟ-สระ-อู, รับเชิญใน จะอยู่ในใจเสมอ)
เพลงประกอบภาพยนตร์
- ฉันคือบุญชู - ขับร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร (ภาค 1 , จะอยู่ในใจเสมอ)
- ความหวังยังไม่สาย - ขับร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร (ภาค 1)
- รักหรือเรียนดี - ขับร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร (ภาค 1)
- เพื่อน - ขับร้องโดย จรัล มโนเพ็ชร (ตั้งแต่ภาค 2)
- เขิน - ขับร้องโดย ธนฉัตร ตุลยฉัตร (บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
- รางวัลแด่คนช่างฝัน - ขับร้องโดย กลุ่มนักแสดง (บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
- จะอยู่ในใจเสมอ - ขับร้องโดย ยืนยง โอภากุล (จะอยู่ในใจเสมอ)
- แค่บอกว่ารักเธอ - ขับร้องโดย หมีพูห์ (จะอยู่ในใจเสมอ)
- 1 2 3 4 5 I Love You - ขับร้องโดย เดอะบ๊อทท๊อม บลูส์ (จะอยู่ในใจเสมอ)
ผู้ทำเพลงและดนตรีประกอบภาพยนตร์
- จรัล มโนเพ็ชร และ ดำรงค์ ธรรมพิทักษ์ (ภาค 1 - 8)
- ยืนยง โอภากุล (บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู, จะอยู่ในใจเสมอ)
- ไจแอนท์ เวฟ (บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู, จะอยู่ในใจเสมอ)
- ชันษา เมตตพันธ์ (เรียบเรียงดนตรีใหม่ เพลง เขิน ใน บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู)
รางวัล
- ปี พ.ศ. 2531 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 12 ประจำปี พ.ศ. 2531 ภาพยนตร์ยอดนิยม [9]
- ปี พ.ศ. 2532 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 13 ประจำปี พ.ศ. 2532 เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (จรัล มโนเพ็ชร และ ดำรงค์ ธรรมพิทักษ์)
- ปี พ.ศ. 2532 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 13 ประจำปี พ.ศ. 2532 ภาพยนตร์ยอดนิยม
- ปี พ.ศ. 2533 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 14 ประจำปี พ.ศ. 2533 ผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (สุเทพ ประยูรพิทักษ์)
- ปี พ.ศ. 2533 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 14 ประจำปี พ.ศ. 2533 ภาพยนตร์ยอดนิยม
- ปี พ.ศ. 2536 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 17 ประจำปี พ.ศ. 2536 ตุ๊กตาเงิน ภาพยนตร์ยอดนิยม
- ปี พ.ศ. 2538 - รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 19 ประจำปี พ.ศ. 2538 ผู้แสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (จารุณี สุขสวัสดิ์)
อ้างอิง
- ↑ http://www.thaicinema.org/kits122boonchoole.asp
- ↑ ย้อนรำลึก ถึง บุญชู กัน
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 ภาพยนตร์ บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ (2551) .
- ↑ ไฟว์สตาร์ หวนรำลึกบุญชู ออกฉายทีวีก่อนสร้างภาค 9
- ↑ 100 อันดับหนังไทยทำเงินสูงสุดตลอดกาล
- ↑ มยุรี อำนวยพร, ที่สุดของหนังเด่น-หนังโดนแห่งปี
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 7.6 7.7 ภาพยนตร์ บุญชู 2 น้องใหม่ (2532) .
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 ภาพยนตร์ บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู (2553) .
- ↑ http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=50
- ↑ http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=49
- ↑ http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=48
- ↑ http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=45
- ↑ http://www.thaifilm.com/awardsDetail.asp?id=43