ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 120: | บรรทัด 120: | ||
* [[ศิริ พุทธศุกร์]] |
* [[ศิริ พุทธศุกร์]] |
||
* [[แสง จันทร์งาม|ศ.เกียรติคุณ ดร. แสง จันทร์งาม]] |
* [[แสง จันทร์งาม|ศ.เกียรติคุณ ดร. แสง จันทร์งาม]] |
||
* [[เสถียร โพธินันทะ|อาจารย์เสถียร โพธินันทะ]] |
* [[เสถียร โพธินันทะ|อาจารย์ เสถียร โพธินันทะ]] |
||
* [[สมัคร บุราวาส]] |
* [[สมัคร บุราวาส]] |
||
* [[กีรติ บุญจือ]] |
* [[กีรติ บุญจือ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:44, 17 กรกฎาคม 2556
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ |
---|---|
สถาปนา | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2436 |
อธิการบดี | พระราชบัณฑิต (ธรณิศ ชาคโร) |
อธิการบดี | พระราชบัณฑิต (ธรณิศ ชาคโร) |
ที่ตั้ง | |
เว็บไซต์ | www.mbu.ac.th |
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาของสงฆ์แห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกที่เริ่มประยุกต์หลักพระพุทธศาสนาให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ หนึ่งในสองแห่งของประเทศไทย[1] (ฝ่ายธรรมยุตินิกาย)
ประวัติ
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งเป็นพระน้องยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระดำริจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นภายใน วัดบวรนิเวศวิหาร โดยวิธีจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ มีลักษณะแตกต่างจากการเล่าเรียนภาษาบาลีตามประเพณีแบบเดิม ในขณะเดียวกัน ก็นำเอาวิธีวัดผลแบบข้อเขียนมาใช้เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย
หลังจากที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้ทรงก่อตั้งสถาบันการศึกษานี้ขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำรัสให้พระองค์ทรงช่วยปรับปรุงโรงเรียนสอนภาษาบาลี ชื่อ "มหาธาตุวิทยาลัย" ภายในวัดมหาธาตุ ขึ้นเป็น "มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย" เพื่อจัดการให้คณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกายได้มีสถาบันการศึกษาชั้นสูงในลักษณะเดียวกัน ควบคู่ไปกับมหามกุฏราชวิทยาลัย ซึ่งสมัยนั้นเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูง และส่วนมากยังจำกัดอยู่แต่คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ต่อมา ทั้ง มหามกุฏราชวิทยาลัยและมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปิดตายลงเพราะประสบปัญหาหลายประการด้วยกัน นับเป็นเวลาหลายสิบปี
จนกระทั่ง ท่านอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพได้พยายามรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ จนประสบผลสำเร็จ เมื่อ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์และคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ให้การอุปถัมภ์ โดยได้ทำการประกาศรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ. 2488 ตามมาด้วย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งประกาศรื้อฟื้นกิจการในปี พ.ศ. 2490 อาจารย์สุชีพ ได้แถลงว่า สาเหตุที่ต้องมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพราะคณะสงฆ์จำเป็นต้องผลิตบุคลากรที่รู้ทันวิชาการสมัยใหม่ มิฉะนั้น คณะสงฆ์จะไม่สามารถสั่งสอนแนะนำชาวบ้านได้ และการสื่อสารกันก็จะเกิดความไม่เข้าใจ เพราะชาวบ้านศึกษาด้านคดีโลก ส่วนพระสงฆ์ศึกษาด้านคดีธรรม ท่านจึงต่อสู้เพื่อให้ได้มหาวิทยาลัยสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด มหามกุฏราชวิทยาลัย และ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ได้รับการรื้อฟื้นมาอีกครั้งหนึ่ง อันเป็นผลพวงมาจากการทุ่มเทและความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของท่านฯ อย่างแท้จริง เหตุผลนี้ ทำให้คนรุ่นหลังกล่าวยกย่อง "อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ" ว่าเป็น บิดาแห่งมหาวิทยาลัยสงฆ์ไทย
เพื่อรำลึกถึงคุณูปการของท่านและสืบสานเจตนารมณ์ของท่าน คณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิปุญญานุภาพ ขึ้นโดยความเห็นชอบของท่านเพื่อให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาหรือครูอาจารย์ผู้ค้นคว้าวิจัยทางพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และดำเนินกิจการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
โครงการย้ายมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มีโครงการย้ายที่ตั้งของมหาวิทยาลัยไปยังตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ[2]
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
- ตรามหามกุฏราชวิทยาลัย
- พระมหามงกุฎ หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นที่มาแห่งนามมหามกุฏราชวิทยาลัย
- พระเกี้ยวประดิษฐสถานบนหมอนรอง หมายถึง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
- หนังสือ หมายถึง คัมภีร์และตำราทางพระพุทธศาสนา
- ปากกาปากไก่ ดินสอและม้วนกระดาษ หมายถึง อุปกรณ์ในการศึกษาเล่าเรียนทางพระพุทธศาสนา
- ช่อดอกไม้แย้มกลีบ หมายถึง ความเบ่งบานแห่งสติปัญญาและวิทยาการในทางพระพุทธศาสนา
- พานรองรับหนังสือหรือคัมภีร์ หมายถึง มหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นทั้งสถานจัดการศึกษาและเผยแผ่
- วงรัศมี หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นเป้าหมายของการจัดการศึกษา
- มหามกุฏราชวิทยาลัย หมายถึง มหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
- สุภาษิตประจำมหาวิทยาลัย
"วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุเส = ผู้สมบูรณ์ด้วยความรู้และความประพฤติที่ดีประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดาและหมู่มนุษย์" หมายความว่าเป้าหมายในการสร้างคนจะต้องให้สมบูรณ์ครบทั้งความรู้และความประพฤติที่ดี (ความรู้คู่คุณธรรม) ในเวลาเดียวกัน
- สีประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ สีส้ม
- ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ได้แก่ ต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าใช้ประทับอาศัยเป็นร่มเงาเมื่อตรัสรู้ ต้นโพธิ์จึงเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้น้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า
คณะ
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยแบ่งออกเป็น 5 คณะ
- คณะศาสนาและปรัชญา
- คณะมนุษยศาสตร์ (เดิมชื่อ คณะศิลปศาสตร์)
- คณะสังคมศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะบัณฑิตวิทยาลัย
วิทยาเขต
- มหามกุฏราชวิทยาลัย ส่วนกลาง วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร
- วิทยาเขตมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย วัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- วิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ์ จังหวัดนครปฐม
- วิทยาเขตอีสาน จังหวัดขอนแก่น
- วิทยาเขตล้านนา จังหวัดเชียงใหม่
- วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
- วิทยาเขตร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
- วิทยาเขตศรีล้านช้าง จังหวัดเลย
- วิทยาเขตศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม (กำลังดำเนินการก่อสร้าง)
- วิทยาเขตแม่สาย จังหวัดเชียงราย (กำลังดำเนินโครงการอยู่)
วิทยาลัย
- มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา สำหรับการศึกษาของสตรีและแม่ชีโดยเฉพาะ
- วิทยาลัยศาสนศาสตร์ยโสธร จังหวัดยโสธร
- วิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
ศูนย์การศึกษา
- ศูนย์การศึกษาวัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์การศึกษาวัดอาวุธวิกสิดาราม กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์การศึกษากำแพงเพชร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
- ศูนย์การศึกษาโคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
- ศูนย์การศึกษาอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
- ศูนย์การศึกษาด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
- ศูนย์การศึกษาชุมแพ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
- ศูนย์การศึกษาหนองบัวลำภู อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
- ศูนย์การศึกษาศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ
- ศูนย์การศึกษาชลบุรี อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
- ศูนย์การศึกษาปราจีนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
- ศูนย์การศึกษาเพชรบุรี อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
- ศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ศูนย์การศึกษาสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
โรงเรียนในสังกัดมหามกุฏราชวิทยาลัย
ความร่วมมือกับนานาชาติ
ปัจจุบัน มหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ตกลงในความร่วมมือเพื่อพัฒนา ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษา มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ใน อังกฤษ เพื่อเผยแผ่หลักพุทธธรรมให้กว้างขวางไปสู่นานาประเทศ นอกจากนั้น ยังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาการศึกษาพุทธศาสน์ศึกษาด้วย
เกียรติภูมิของชาวมหามกุฏราชวิทยาลัย
สิ่งที่ชาวมหามกุฏราชวิทยาลัยภาคภูมิใจที่สุดก็คือการเป็นมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาหรือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของประเทศ หลังจากที่มีการเปิดการเรียนการสอนระดับมหาวิทยาลัย นักศึกษาและครูอาจารย์มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้มีเป้าประสงค์ยิ่งใหญ่ตามเจตนารมณ์ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ คือพยายามขยายการอบรมจริยธรรมหรือศีลธรรมทางพระพุทธศาสนาไปทั่วประเทศในรูปแบบต่างๆ กล่าวได้ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ประเทศได้รับอิทธิพลวัตถุนิยมจากตะวันตก นักศึกษาและครูอาจารย์มหามกุฏราชวิทยาลัยได้มีบทบาทสำคัญในการชี้นำให้เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติที่เป็นรากฐานของสังคมไทยมาช้านาน พระสงฆ์สามเณรที่เป็นพระนักศึกษาหลายรูปได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาเหล่านี้จนกระทั่งสำเร็จการศึกษา
กิจกรรมที่คณาจารย์และนักศึกษาได้กระทำกันมาเพื่อปลูกฝังศีลธรรมในประเทศไทยมีจำนวนมาก อาทิ
- บรรยายธรรมทางสถานีวิทยุหลายสถานี
- ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนนักโทษเรือนจำในที่ต่างๆ ของประเทศ
- ส่งพระนักศึกษาและครูอาจารย์ไปสอนศีลธรรมตามโรงเรียนต่างๆ ที่ขาดแคลน
- เปิดสอนศีลธรรมแก่ประชาชนและนิสิตนักศึกษาทั่วไปเป็นกรณีพิเศษในวันอาทิตย์
- จัดอภิปราย บรรยายหรือเสวนาธรรมเป็นประจำเพื่อกระตุ้นหรือเร่งเร้าให้ประชาชนเห็นคุณค่าของธรรมะ
- ส่งพระนักศึกษาไปอบรมกรรมฐานเป็นเวลา 1 เดือนในสำนักพระกัมมัฏฐานก่อนจะรับปริญญา
- จัดส่งนักศึกษาที่เรียนครบตามหลักสูตรไปปฏิบัติหน้าที่สอนศีลธรรมในท้องถิ่นต่างๆ ของประเทศเป็นระยะเวลา 1 ปีก่อนจะมีพิธีประสาธน์ปริญญา
- คณาจารย์ได้เข้าไปมีบทบาทในการแสดงความเห็นเพื่อแก้ปัญหาการขาดศีลธรรมของชนในชาติระดับต่างๆ
- เป็นผู้นำในการตอบโต้ภัยคุกคามจากลัทธิศาสนาอื่นที่มีพฤติกรรมบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา
- ชี้นำสังคมให้พัฒนาบัณฑิตเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม หรือมีความรู้คู่คุณธรรม
ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของมหาวิทยาลัยสงฆ์มหามกุฏราชวิทยาลัยหลักๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ประชาชนทั่วไปที่ติดตามผลงานของมหามกุฏราชวิทยาลัยมาโดยตลอดจึงอยู่ที่ความสามารถในการผลิตบุคลากรทางพระพุทธศาสนาเพื่อพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาและเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เข้าถึงประชาชนทุกระดับชั้น
บุคคลที่มีชื่อเสียง
คณาจารย์
- ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
- อาจารย์ สุชีพ ปุญญานุภาพ (สุชีโว ภิกฺขุ)
- หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย
- หม่อมหลวงตุ้ย ชุมสาย
- ศิริ พุทธศุกร์
- ศ.เกียรติคุณ ดร. แสง จันทร์งาม
- อาจารย์ เสถียร โพธินันทะ
- สมัคร บุราวาส
- กีรติ บุญจือ
ศิษย์เก่า
- สมเด็จพระพุทธชินวงศ์(ประจวบ กนฺตจาโร) ( ป.ธ.๕,ศน.บ, M.A., Ph.D.) อดีตเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัติยาราม อดีตกรรรมการมหาเถรสามคม อดีตรักษาการเจ้าคณะใหญ่ธรรมยุติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- พระเทพดิลก (ระแบบ ฐิตญาโณ) วัดบวรนิเวศวิหาร
- พระศรีญาณโสภณ (ปิยโสภณ) M.A. London
- พระดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย M.A. (Cantab) , Ph.D. (Brunel)
- ศ.เกียรติคุณ แสง จันทร์งาม (ธรรมโฆษ)
- ศ.พิเศษ ดร.สุนทร ณ รังษี ราชบัณฑิต
- ศ.ดร.สิทธิ์ บุตรอินทร์
- รศ.สุเชาวน์ พลอยชุม
- ไว ตาทิพย์ (อดีตนักหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
- วศิน อินทสระ นักเขียน
- เสกสรร สิทธาคม (นักเขียนในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ)
- สร้อยรวงข้าว (อ.อุทัย บุญเย็น นักเขียนในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ)
- บานเย็น ลิ้มสวัสดิ์ นักเขียนบทกวี
- ไพวรินทร์ ขาวงาม กวีซีไรต์
- พินโย พรมเมือง B.A., M.A. Ph.D candidate
อ้างอิง
- ↑ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของคณะสงฆ์มหานิกาย
- ↑ โครงการย้ายมหาวิทยาลัย
แหล่งข้อมูลอื่น
- มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยสงฆ์
- การศึกษาของคณะสงฆ์ไทย
- สถาบันอุดมศึกษาในกรุงเทพมหานคร
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครปฐม
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครศรีธรรมราช
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ด
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดเลย
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดกาฬสินธุ์
- สถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดยโสธร
- สถานที่ที่ตั้งชื่อตามพระนามของพระบรมวงศานุวงศ์ไทย
- สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ